สองเดือนก่อน ผมได้กลับมาคุยกับเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่เคยอยู่ด้วยกันตอนอนุบาล หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเพราะเธอย้ายโรงเรียนไป แต่เราก็ได้กลับมาเจอกันตอนม.6 (จริงๆ เธอย้ายกลับมาตั้งแต่ม.ปลายแล้ว แต่พึ่งจะได้เจอกันเพราะเป็นเพื่อนของเพื่อน) ซึ่งเพื่อนช่วยให้เราเริ่มคุยกัน เพราะรู้ว่าผมแอบชอบเธอ
ช่วงแรกเราก็คุยกันเล่นๆ ทางแชท แก้เหงา เธอเป็นคนที่ตอบแชทช้าหน่อย เราก็เลยไม่ได้คุยกันบ่อยมากนัก แต่เวลาที่คุยกันจริงๆ มักจะเป็นช่วงวันหยุดหรือกลางคืน เธอบอกว่าเวลาที่เจอหน้ากันที่โรงเรียนเธอจะอายมากจนไม่กล้าทัก เลยทำตัวเลี่ยงๆ หรือละสายตาไป ผมเองก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ เพราะเธอมีความเป็นห่วงเป็นใย อย่างตอนที่ผมป่วยเธอก็ทักมาแสดงความห่วงใย
เพื่อนๆ มักจะบอกว่าเธอเป็นคนแมน แต่ผมกลับมองว่าเธอน่ารักมาก โดยเฉพาะเวลาที่เธอพูดว่าเธอเหมือนผู้ชาย ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักขึ้นไปอีก จนช่วงหลังเราคุยกันเยอะขึ้น เธอเริ่มถามว่าผมชมเธอบ่อยๆ แบบนี้เพราะผมปกติชมคนอื่นไปทั่วหรือเปล่า ตอนนั้นผมกลัวว่าเธอจะรู้สึกอึดอัด เลยตอบไปว่าปกติคุยแบบนี้ แต่เธอกลับบอกว่า “งั้นเธอจะได้ทำตัวถูก” ผมจึงจำเป็นต้องบอกเธอว่า ผมคุยกับเธอแบบที่ไม่เคยคุยกับคนอื่น ซึ่งไม่แน่ใจว่าเธอเข้าใจไหม แต่ผมเองก็ยังสับสนมาก เพราะทุกการกระทำของเธอมันทำให้ผมไม่มั่นใจว่าควรตอบหรือแสดงความรู้สึกยังไง
ที่ผมไม่กล้าบอกชอบเธอ เพราะผมกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วจะเสียเธอไป ก่อนหน้านี้เธอเคยถามคำถามผมหลายครั้ง เช่นว่า “เคยชอบใครง่ายๆ ไหม?” หรือ “ช่วยหยุดชมได้ไหม มันทำให้เขิน” ซึ่งพอผมได้ยินคำถามเหล่านี้ ผมก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าบอกไปตรงๆ ว่าชอบเธอ ถึงเธอจะพูดแบบนั้น แต่การกระทำของเธอหลายอย่างก็ดูไม่เหมือนคนที่ชอบผม เช่น เธอตอบแชทช้า เวลาเจอกันก็หลบหน้า หรือเล่นมุกว่ามีแฟนแล้วบ่อยๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมไม่มั่นใจเลยไม่กล้าบอกชอบเธอ
ไม่นานมานี้เราโทรคุยกันมากขึ้น เธอเล่าเรื่องส่วนตัวให้ผมฟังเยอะ ผมรู้สึกว่าเธอเปิดใจกับผมมาก จนถึงคืนหนึ่ง ผมถามเธอว่าอยากมีแฟนไหม เพราะตอนแรกๆ ที่คุยกันเธอเคยบอกว่าอยากมี เธอตอบว่าตอนนี้ไม่ได้อยากมีขนาดนั้น แค่อยากมีเพื่อนที่เข้าใจกันมากกว่า ซึ่งผมก็เห็นด้วย เพราะผมเองก็ไม่ได้อยากมีแฟน แค่อยากมีคนที่ไม่ทำให้เหงา
แล้วก็มีครั้งหนึ่งที่ผมทักไปบอกฝันดีเธอรอบหนึ่ง แล้วเราคุยกันต่อจนผมลืมบอกฝันดีอีกรอบ เธอเลยถามว่าทำไมไม่บอกฝันดี ผมเลยบอกไปอีกครั้ง แต่พอบอกไปแล้วเธอกลับบอกว่าไม่ต้องบอก เพราะเธอชอบคำนี้มากเลยไม่อยากได้ยินบ่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
ทุกวันนี้เวลาผมเจอเธอที่โรงเรียน เธอก็ยังคงเลี่ยงหน้าผม ผมเข้าใจที่เธอบอกว่าอาย แต่บางทีก็คิดว่าแค่หันมายิ้มให้กันซักนิดก็พอแล้ว เพราะตอนนี้ในหัวผมก็มีแต่เรื่องของเธอวนเวียนอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกันแน่
งงมากครับว่าควรบอกเธอไหมหรือเธอคิดยังไง
ช่วงแรกเราก็คุยกันเล่นๆ ทางแชท แก้เหงา เธอเป็นคนที่ตอบแชทช้าหน่อย เราก็เลยไม่ได้คุยกันบ่อยมากนัก แต่เวลาที่คุยกันจริงๆ มักจะเป็นช่วงวันหยุดหรือกลางคืน เธอบอกว่าเวลาที่เจอหน้ากันที่โรงเรียนเธอจะอายมากจนไม่กล้าทัก เลยทำตัวเลี่ยงๆ หรือละสายตาไป ผมเองก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ เพราะเธอมีความเป็นห่วงเป็นใย อย่างตอนที่ผมป่วยเธอก็ทักมาแสดงความห่วงใย
เพื่อนๆ มักจะบอกว่าเธอเป็นคนแมน แต่ผมกลับมองว่าเธอน่ารักมาก โดยเฉพาะเวลาที่เธอพูดว่าเธอเหมือนผู้ชาย ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักขึ้นไปอีก จนช่วงหลังเราคุยกันเยอะขึ้น เธอเริ่มถามว่าผมชมเธอบ่อยๆ แบบนี้เพราะผมปกติชมคนอื่นไปทั่วหรือเปล่า ตอนนั้นผมกลัวว่าเธอจะรู้สึกอึดอัด เลยตอบไปว่าปกติคุยแบบนี้ แต่เธอกลับบอกว่า “งั้นเธอจะได้ทำตัวถูก” ผมจึงจำเป็นต้องบอกเธอว่า ผมคุยกับเธอแบบที่ไม่เคยคุยกับคนอื่น ซึ่งไม่แน่ใจว่าเธอเข้าใจไหม แต่ผมเองก็ยังสับสนมาก เพราะทุกการกระทำของเธอมันทำให้ผมไม่มั่นใจว่าควรตอบหรือแสดงความรู้สึกยังไง
ที่ผมไม่กล้าบอกชอบเธอ เพราะผมกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วจะเสียเธอไป ก่อนหน้านี้เธอเคยถามคำถามผมหลายครั้ง เช่นว่า “เคยชอบใครง่ายๆ ไหม?” หรือ “ช่วยหยุดชมได้ไหม มันทำให้เขิน” ซึ่งพอผมได้ยินคำถามเหล่านี้ ผมก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าบอกไปตรงๆ ว่าชอบเธอ ถึงเธอจะพูดแบบนั้น แต่การกระทำของเธอหลายอย่างก็ดูไม่เหมือนคนที่ชอบผม เช่น เธอตอบแชทช้า เวลาเจอกันก็หลบหน้า หรือเล่นมุกว่ามีแฟนแล้วบ่อยๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมไม่มั่นใจเลยไม่กล้าบอกชอบเธอ
ไม่นานมานี้เราโทรคุยกันมากขึ้น เธอเล่าเรื่องส่วนตัวให้ผมฟังเยอะ ผมรู้สึกว่าเธอเปิดใจกับผมมาก จนถึงคืนหนึ่ง ผมถามเธอว่าอยากมีแฟนไหม เพราะตอนแรกๆ ที่คุยกันเธอเคยบอกว่าอยากมี เธอตอบว่าตอนนี้ไม่ได้อยากมีขนาดนั้น แค่อยากมีเพื่อนที่เข้าใจกันมากกว่า ซึ่งผมก็เห็นด้วย เพราะผมเองก็ไม่ได้อยากมีแฟน แค่อยากมีคนที่ไม่ทำให้เหงา
แล้วก็มีครั้งหนึ่งที่ผมทักไปบอกฝันดีเธอรอบหนึ่ง แล้วเราคุยกันต่อจนผมลืมบอกฝันดีอีกรอบ เธอเลยถามว่าทำไมไม่บอกฝันดี ผมเลยบอกไปอีกครั้ง แต่พอบอกไปแล้วเธอกลับบอกว่าไม่ต้องบอก เพราะเธอชอบคำนี้มากเลยไม่อยากได้ยินบ่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
ทุกวันนี้เวลาผมเจอเธอที่โรงเรียน เธอก็ยังคงเลี่ยงหน้าผม ผมเข้าใจที่เธอบอกว่าอาย แต่บางทีก็คิดว่าแค่หันมายิ้มให้กันซักนิดก็พอแล้ว เพราะตอนนี้ในหัวผมก็มีแต่เรื่องของเธอวนเวียนอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกันแน่