ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 15
ไม่มีหลักฐานชัดเจนครับ อาศัยการตีความสันนิษฐานเป็นหลัก
การตีความแรกสุดคือเรื่องแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์เป็นญาติกับขุนวรวงศาธิราช เรื่องนี้มีการวิเคราะห์มาตั้งแต่ยุคสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพแล้ว โดยพิจารณาจากข้อมูลในพระราชพงศาวดารคือราชทินนาม "วรวงศาธิราช" ซึ่งมีความหมายสื่อถึงความเป็นราชนิกุลหรือพระญาติ และพิจารณาจากที่พระราชพงศาวดารระบุว่าขุนวรวงศาธิราชเป็น "้ข้าหลวงเดิม" จึงแสดงว่าน่าจะเคยรู้จักถวายงานแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์อยู่แล้ว จึงสันนิษฐานน่าจะจึงเป็นญาติกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
ตามหลักฐานดัตช์ พระเจ้าปราสาททองซึ่งเป็นราชินิกุลเคยรับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็น "ออกญาศรีวรวงศ์" ชื่อใกล้เคียงกันครับ
การตีความต่อมาคือการวิเคราะห์ว่าตำแหน่งท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นสนมเอกจากละโว้-อโยธยา ซึ่งไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน ก็เป็นเพียงการสันนิษฐานโดยตัดชื่อสนมทิศอื่นๆ ที่สันนิษฐานว่ามาจากสุโขทัย สุพรรณภูมิ นครศรีธรรมราช ซึ่งนอกจากตำแหน่งศรีจุฬาลักษณ์ที่พบในจารึกสุโขทัยก็เป็นการสันนิษฐานจากชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนว่าตำแหน่งใดมาจากไหน
การตีความชั้นต่อมาคือเรื่องขุนวรวงศาธิราชเป็นพราหมณ์ เรื่องนี้พิจารณาจากพงศาวดารกรุงศรีอยุทธยาของเยเรเมียส ฟาน ฟลีต (Jeremias Van Vliet) สมัยพระเจ้าปราสาททอง ระบุว่าขุนชินราช (ขุนวรวงศาธิราช) มีตำแหน่งเป็นหมอผีหรือผู้มีเวทมนตร์ (ฉบับภาษาอังกฤษใช้คำว่า sorcerer) และมีหน้าที่แปลนิทานเก่าแก่และประวัติศาสตร์ต่างประเทศเป็นภาษาราชสำนัก จึงสะท้อนให้เห็นว่าขุนชินราชไม่น่าเป็นคนสกุลต่ำ แต่เป็นผู้มีความรู้ทางภาษาศาสตร์และอักษรศาสตร์ การที่บอกว่ามีเวทมนตร์ก็สอดคล้องกับหน้าที่ของพราหมณ์ราชสำนักที่กฎมณเฑียรบาลระบุว่าเป็นผู้ "ชุบโหมเวทมนตร์" จึงนำมาสู่สมมติฐานว่าขุนชินราชน่าจะมีสถานะเป็นพวกพราหมณ์ปุโรหิตที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีในราชสำนัก
การตีความถัดมาคือข้อมูลในพงศาวดารที่ระบุว่า นายจันน้องขุนวรวงศาธิราชอยู่บ้านมหาโลกซึ่งอยู่ในบริเวณแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นพื้นที่ของรัฐละโว้ในสมัยโบราณ ประกอบกับข้อมูลในหลักฐานโปรตุเกสของ ฟือร์เนา เม็งดึช ปิงตู (Fernão Mendes Pinto) ที่ระบุว่าน้องขุนวรวงศาธิราชเป็นช่างตีเหล็ก พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ จึงวิเคราะห์ว่าเทคโนโลยีการผลิตเครื่องมือเหล็กในสมัยนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำได้ง่ายๆ ต้องอาศัยผู้ชำนาญการถ่ายทอดสั่งสมต่อกันมานาน ตระกูลของนายจันจึงไม่น่าเป็นสามัญชนต่ำต้อย
พิจารณาข้อมูลทั้งหมดประกอบกัน พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ จึงมองว่ากลุ่มขุนวรวงศาธิราชที่ขึ้นมามีอำนาจจัดว่าเป็นผู้รู้พิธีกรรมราชสำนัก การบริหาร เทคโนโลยี และจากแนวคิดที่ว่าขุนนางข้าราชการระดับสูงในเวลานั้นมักเป็นเชื้อพระวงศ์ จึงน่าจะเป็นเชื้อสายของราชวงศ์ละโว้-อโยธยาที่เคยเสียอำนาจไปในอดีต
การวิเคราะห์อีกอย่างของ อ.พิเศษ คือกษัตริย์สายราชวงศ์ละโว้-อโยธยาแม้จะถูกชิงราชสมบัติแต่ไม่เคยถูกฆ่า ต่างกับราชวงศ์อื่นที่แม้เป็นเด็กเล็กก็ฆ่า จึงเป็นไปได้ว่าราชวงศ์นี้ถูกยกฐานะเป็นตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับพราหมณ์ที่กฎมณเฑียรบาลกำหนดว่าไม่ให้มีโทษประหาร โดยราชวงศ์ละโว้-อโยธยาอาจได้รับการเลี้ยงดต่อมาโดยให้ทำหน้าที่เกี่ยวกับพิธีกรรมในราชสำนักโดยไม่ให้มีอำนาจ
ทั้งนี้ อ.พิเศษ เป็นที่ปรึกษาภาพยนตร์สุริโยไท การนำเสนอภาพขุนวรวงศาธิราชเป็นพราหมณ์จึงเข้าใจได้ว่ามาจากการตีความของ อ.พิเศษ ครับ
แต่การตีความนี้ก็จะนำมาสู่คำถามได้ว่า ถ้าขุนวรวงศาธิราชเป็นพราหมณ์จริงทำไมถึงถูกฆ่า ต่างจากกษัตริย์สายละโว้-อโยธยาในอดีต แต่ทั้งนี้เอกสารบางชิ้นอย่างสังคีติยวงศ์หรือฟานฟลีตก็ระบุว่าสมเด็จเจ้าพญารามถูกเจ้านครอินทร์สำเร็จโทษ และขัดแย้งกับเอกสารคำให้การชาวกรุงเก่าที่อ้างอิงคำบอกเล่าสมัยอยุทธยาที่ว่าขุนชินราชเป็น "ตระกูลอำมาตย์" เรื่องนี้จึงอาจต้องพิจารณาต่อไปครับ
ความคิดเห็นที่ 4 ผมไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวตอบโต้กับคุณมานานหลายปีแล้ว แต่ในเมื่อคุณพาดพิงผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ผมคงไม่สามารถวางเฉยให้ถูกใส่ร้ายป้ายสีได้
การที่คุณถูกแบนไปจากพันทิปจนต้องสมัครสมาชิกซ้ำๆ มาหลายสิบครั้งในช่วงเวลาหลายปีมานี้ คุณควรเป็นฝ่ายพิจารณาพฤติกรรมของตนเองว่าได้รักษากฎ กติกา มารยาท ในการตอบกระทู้ตามที่พันทิปกำหนดไว้หรือไม่ ได้ตอบกระทู้ใช้มารยาท เหตุผล อย่างที่สุภาพชนพึงกระทำหรือไม่ มากกว่าจะทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ กล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นด้วยความเท็จว่าผู้อื่นรวมหัวกันรังแกกลั่นแกล้งคุณ เพราะการที่คุณจะถูกแบนหรือไม่เป็นการพิจารณาของเจ้าหน้าที่พันทิป ซึ่งผมไม่มีอำนาจบังคับให้ทำตามได้
ส่วนเรื่องที่กล่าวหาผมว่า "ลอกมาจากพงศาวดาร" ผมคิดว่าสมาชิกหลายท่านที่ติดตามการตอบกระทู้ของผมคงจะสามารถพิจารณาได้เองว่าการนำเสนอข้อมูลของผม "ลอกมาจากพงศาวดาร" อย่างเดียวโดยไม่เคยสงสัยหรือตั้งคำถามตามที่คุณกล่าวหาหรือไม่ เช่นเดียวกับเรื่องตราพระราชลัญจกรที่ผมเคยตอบในกระทู้เก่าโดยละเอียดไปแล้วในขณะที่คุณยังอ้างอิงหลักฐานโต้แย้งโดยไม่สอดคล้องกับเหตุผลจำนวนมาก ผมคิดว่าผู้อ่านที่มีวุฒิภาวะย่อมสามารถพิจารณาได้ว่าความคิดเห็นของคุณสมเหตุสมผลหรือไม่ พฤติกรรมในการตอบโต้คนอื่นของคุณเป็นสุภาพชนหรือไม่
หลายปีมานี้คุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคุณ คือเมื่อไม่สามารถอ้างอิงหลักฐานข้อมูลถกเถียงผู้อื่นอย่างเป็นเหตุเป็นผล ก็ใช้วิธีกล่าวหาโจมตีตัวบุคคลด้วยความเท็จ หรือพยายามอ้างตรรกะข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกับหลักความเป็นเหตุเป็นผลจำนวนมากเพียงเพื่อจะเอาชนะผู้อื่นเท่านั้น หรือโต้ตอบคู่สนทนาอย่างขาดมารยาทและวุฒิภาวะดังที่ปรากฏในประวัติการตอบกระทู้ของคุณเองจำนวนมาก เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนต่อผู้ใช้งานพันทิปโดยทั่วไป
คุณไม่ใช่เหยื่อที่ถูกผู้อื่นกระทำ แต่คุณได้รับผลจากการกระทำของตัวคุณเอง เพราะไม่มีใครทำให้คุณเสื่อมเสียได้มากเท่ากับพฤติกรรมของตัวคุณเองครับ
การตีความแรกสุดคือเรื่องแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์เป็นญาติกับขุนวรวงศาธิราช เรื่องนี้มีการวิเคราะห์มาตั้งแต่ยุคสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพแล้ว โดยพิจารณาจากข้อมูลในพระราชพงศาวดารคือราชทินนาม "วรวงศาธิราช" ซึ่งมีความหมายสื่อถึงความเป็นราชนิกุลหรือพระญาติ และพิจารณาจากที่พระราชพงศาวดารระบุว่าขุนวรวงศาธิราชเป็น "้ข้าหลวงเดิม" จึงแสดงว่าน่าจะเคยรู้จักถวายงานแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์อยู่แล้ว จึงสันนิษฐานน่าจะจึงเป็นญาติกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
ตามหลักฐานดัตช์ พระเจ้าปราสาททองซึ่งเป็นราชินิกุลเคยรับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็น "ออกญาศรีวรวงศ์" ชื่อใกล้เคียงกันครับ
การตีความต่อมาคือการวิเคราะห์ว่าตำแหน่งท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นสนมเอกจากละโว้-อโยธยา ซึ่งไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน ก็เป็นเพียงการสันนิษฐานโดยตัดชื่อสนมทิศอื่นๆ ที่สันนิษฐานว่ามาจากสุโขทัย สุพรรณภูมิ นครศรีธรรมราช ซึ่งนอกจากตำแหน่งศรีจุฬาลักษณ์ที่พบในจารึกสุโขทัยก็เป็นการสันนิษฐานจากชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนว่าตำแหน่งใดมาจากไหน
การตีความชั้นต่อมาคือเรื่องขุนวรวงศาธิราชเป็นพราหมณ์ เรื่องนี้พิจารณาจากพงศาวดารกรุงศรีอยุทธยาของเยเรเมียส ฟาน ฟลีต (Jeremias Van Vliet) สมัยพระเจ้าปราสาททอง ระบุว่าขุนชินราช (ขุนวรวงศาธิราช) มีตำแหน่งเป็นหมอผีหรือผู้มีเวทมนตร์ (ฉบับภาษาอังกฤษใช้คำว่า sorcerer) และมีหน้าที่แปลนิทานเก่าแก่และประวัติศาสตร์ต่างประเทศเป็นภาษาราชสำนัก จึงสะท้อนให้เห็นว่าขุนชินราชไม่น่าเป็นคนสกุลต่ำ แต่เป็นผู้มีความรู้ทางภาษาศาสตร์และอักษรศาสตร์ การที่บอกว่ามีเวทมนตร์ก็สอดคล้องกับหน้าที่ของพราหมณ์ราชสำนักที่กฎมณเฑียรบาลระบุว่าเป็นผู้ "ชุบโหมเวทมนตร์" จึงนำมาสู่สมมติฐานว่าขุนชินราชน่าจะมีสถานะเป็นพวกพราหมณ์ปุโรหิตที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีในราชสำนัก
การตีความถัดมาคือข้อมูลในพงศาวดารที่ระบุว่า นายจันน้องขุนวรวงศาธิราชอยู่บ้านมหาโลกซึ่งอยู่ในบริเวณแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นพื้นที่ของรัฐละโว้ในสมัยโบราณ ประกอบกับข้อมูลในหลักฐานโปรตุเกสของ ฟือร์เนา เม็งดึช ปิงตู (Fernão Mendes Pinto) ที่ระบุว่าน้องขุนวรวงศาธิราชเป็นช่างตีเหล็ก พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ จึงวิเคราะห์ว่าเทคโนโลยีการผลิตเครื่องมือเหล็กในสมัยนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำได้ง่ายๆ ต้องอาศัยผู้ชำนาญการถ่ายทอดสั่งสมต่อกันมานาน ตระกูลของนายจันจึงไม่น่าเป็นสามัญชนต่ำต้อย
พิจารณาข้อมูลทั้งหมดประกอบกัน พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ จึงมองว่ากลุ่มขุนวรวงศาธิราชที่ขึ้นมามีอำนาจจัดว่าเป็นผู้รู้พิธีกรรมราชสำนัก การบริหาร เทคโนโลยี และจากแนวคิดที่ว่าขุนนางข้าราชการระดับสูงในเวลานั้นมักเป็นเชื้อพระวงศ์ จึงน่าจะเป็นเชื้อสายของราชวงศ์ละโว้-อโยธยาที่เคยเสียอำนาจไปในอดีต
การวิเคราะห์อีกอย่างของ อ.พิเศษ คือกษัตริย์สายราชวงศ์ละโว้-อโยธยาแม้จะถูกชิงราชสมบัติแต่ไม่เคยถูกฆ่า ต่างกับราชวงศ์อื่นที่แม้เป็นเด็กเล็กก็ฆ่า จึงเป็นไปได้ว่าราชวงศ์นี้ถูกยกฐานะเป็นตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับพราหมณ์ที่กฎมณเฑียรบาลกำหนดว่าไม่ให้มีโทษประหาร โดยราชวงศ์ละโว้-อโยธยาอาจได้รับการเลี้ยงดต่อมาโดยให้ทำหน้าที่เกี่ยวกับพิธีกรรมในราชสำนักโดยไม่ให้มีอำนาจ
ทั้งนี้ อ.พิเศษ เป็นที่ปรึกษาภาพยนตร์สุริโยไท การนำเสนอภาพขุนวรวงศาธิราชเป็นพราหมณ์จึงเข้าใจได้ว่ามาจากการตีความของ อ.พิเศษ ครับ
แต่การตีความนี้ก็จะนำมาสู่คำถามได้ว่า ถ้าขุนวรวงศาธิราชเป็นพราหมณ์จริงทำไมถึงถูกฆ่า ต่างจากกษัตริย์สายละโว้-อโยธยาในอดีต แต่ทั้งนี้เอกสารบางชิ้นอย่างสังคีติยวงศ์หรือฟานฟลีตก็ระบุว่าสมเด็จเจ้าพญารามถูกเจ้านครอินทร์สำเร็จโทษ และขัดแย้งกับเอกสารคำให้การชาวกรุงเก่าที่อ้างอิงคำบอกเล่าสมัยอยุทธยาที่ว่าขุนชินราชเป็น "ตระกูลอำมาตย์" เรื่องนี้จึงอาจต้องพิจารณาต่อไปครับ
ความคิดเห็นที่ 4 ผมไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวตอบโต้กับคุณมานานหลายปีแล้ว แต่ในเมื่อคุณพาดพิงผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ผมคงไม่สามารถวางเฉยให้ถูกใส่ร้ายป้ายสีได้
การที่คุณถูกแบนไปจากพันทิปจนต้องสมัครสมาชิกซ้ำๆ มาหลายสิบครั้งในช่วงเวลาหลายปีมานี้ คุณควรเป็นฝ่ายพิจารณาพฤติกรรมของตนเองว่าได้รักษากฎ กติกา มารยาท ในการตอบกระทู้ตามที่พันทิปกำหนดไว้หรือไม่ ได้ตอบกระทู้ใช้มารยาท เหตุผล อย่างที่สุภาพชนพึงกระทำหรือไม่ มากกว่าจะทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ กล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นด้วยความเท็จว่าผู้อื่นรวมหัวกันรังแกกลั่นแกล้งคุณ เพราะการที่คุณจะถูกแบนหรือไม่เป็นการพิจารณาของเจ้าหน้าที่พันทิป ซึ่งผมไม่มีอำนาจบังคับให้ทำตามได้
ส่วนเรื่องที่กล่าวหาผมว่า "ลอกมาจากพงศาวดาร" ผมคิดว่าสมาชิกหลายท่านที่ติดตามการตอบกระทู้ของผมคงจะสามารถพิจารณาได้เองว่าการนำเสนอข้อมูลของผม "ลอกมาจากพงศาวดาร" อย่างเดียวโดยไม่เคยสงสัยหรือตั้งคำถามตามที่คุณกล่าวหาหรือไม่ เช่นเดียวกับเรื่องตราพระราชลัญจกรที่ผมเคยตอบในกระทู้เก่าโดยละเอียดไปแล้วในขณะที่คุณยังอ้างอิงหลักฐานโต้แย้งโดยไม่สอดคล้องกับเหตุผลจำนวนมาก ผมคิดว่าผู้อ่านที่มีวุฒิภาวะย่อมสามารถพิจารณาได้ว่าความคิดเห็นของคุณสมเหตุสมผลหรือไม่ พฤติกรรมในการตอบโต้คนอื่นของคุณเป็นสุภาพชนหรือไม่
หลายปีมานี้คุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคุณ คือเมื่อไม่สามารถอ้างอิงหลักฐานข้อมูลถกเถียงผู้อื่นอย่างเป็นเหตุเป็นผล ก็ใช้วิธีกล่าวหาโจมตีตัวบุคคลด้วยความเท็จ หรือพยายามอ้างตรรกะข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกับหลักความเป็นเหตุเป็นผลจำนวนมากเพียงเพื่อจะเอาชนะผู้อื่นเท่านั้น หรือโต้ตอบคู่สนทนาอย่างขาดมารยาทและวุฒิภาวะดังที่ปรากฏในประวัติการตอบกระทู้ของคุณเองจำนวนมาก เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนต่อผู้ใช้งานพันทิปโดยทั่วไป
คุณไม่ใช่เหยื่อที่ถูกผู้อื่นกระทำ แต่คุณได้รับผลจากการกระทำของตัวคุณเอง เพราะไม่มีใครทำให้คุณเสื่อมเสียได้มากเท่ากับพฤติกรรมของตัวคุณเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอหลักฐานที่ว่า ท้าวศรีสุดาจันทร์ มาจากราชวงศ์อู่ทองครับ
จะมีแต่แค่บอกว่า คนๆนี้ สืบเชื้อสายมาจากใครเท่านั้น อย่างเช่น พระมหาธรรมราชา ที่ฝั่งพ่อสืบเชื้อสายมาจากทางพระร่วง
เลยอยากรู้ว่าแล้วนักประวัติศาสตร์ใช้อะไรมาเป็นเกณฑ์หรือตัวตัดสินใจว่าท้าวศรีสุดาจันทร์มาจากสายวงศ์อู่ทองครับ
ที่พอหาเจอมา คือ
1. นางมีความรู้ในการเล่นการเมือง ระดับหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น จากวินิจฉัยของกรมพระยาดำรงราชานุภาพที่กล่าวว่า
พระนางให้อำนาจกับ ขุนชินราช ในการเกณฑ์ไพร่พล ชำระเลกสังกัดพรรค์ คือเป็นการให้อำนาจเชิงรูปธรรม จับต้องได้ 1
และยังให้เอาพระราชอาสน์ของพระไชยราชา ไปให้ขุนชินราชว่าราชการ เป็นการให้อำนาจเชิงสัญลักษณ์อีก 1
เลยกล่าวได้ว่า ความคิดของพระนางชี้ให้เห็นว่าได้รับการอบรมมาอย่างดี จากตระกูลสูง มีความเข้าใจในเกมการเมืองระดับนึง
2. การเป็นญาติกับ ขุนวรวงศา ซึ่งแต่เดิมขุนวรวงศา เป็นพันบุตรศรีเทพคือเป็นพราหมณ์มาก่อน มีความรู้ วิชา อ่านออกเขียนได้
ถึงยศและศักดินาไม่สูง แต่ก็เป็นผู้มีวิชาความรู้ ทำให้อนุมานได้ว่า มาจากสายอู่ทอง
3. จัน บ้านมหาโลก คือ ชื่อหมู่บ้านเขมร (น้องชายขุนวรวงศา)
คำถามเพิ่มเติม :
3.1แล้วตรงจุดไหน หรือพงศาวดารชิ้นไหน ที่ระบุว่าท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นญาติกับขุนวรวงศา?
3.2 แล้วอะไรที่ชี้ให้เห็นว่า อู่ทองต้องเป็นสายพราหมณ์