ยิ่งเข้าใจเงิน ก็จะหาเงินง่ายขึ้น จาก Grant Cardone นักเขียนหนังสือ Best seller และเศรษฐีชาวอเมริกัน
กอร์ดอนกล่าวในบทความของเขาว่า "ความร่ำรวย และการเป็นเศรษฐีดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใคร อยากพูดถึง ยิ่งถ้าบอกว่าคุณจะมีสองสิ่งนี้ภายในอายุ ประมาน 30 ปี ยิ่งนับว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่ผมทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ ผมลาออกจากโรงเรียน ตอนอายุ 21 กับมีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่อายุ 30 ปี ผม ก็ได้กลายเป็นเศรษฐี”
นี่คือ 10 สิ่งที่กอร์ดอนทำ และรับรองได้ว่า หากคนอื่น นำไปใช้ก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน
1. เรียนรู้การหมุนเงินให้เป็น
เพราะยิ่งสภาพเศรษฐตอนนี้ยากที่จะทำให้เราร่ำรวย ได้ กอร์ดอนกล่าวว่า อย่างแรกที่ต้องทำคือ ตระหนัก เรื่องรายรับและรายจ่ายให้ดี ทำยังไงก็ได้ ให้มันเพิ่ม มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนผมมีรายได้ 3,000 ดอลลาร์ ต่อเดือน พอ 9 ปีผ่านไป รายรับผมเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ดอลลาร์ต่อเดือน การหมุนเงินจะช่วยให้เรามี วินัย ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้และ เห็นโอกาสลู่ทาง ทำงานอื่นๆ
2.อย่าเป็นหนี้ที่ไม่ก่อประโยชน์ นี่คือกฎเหล็ก
ให้กู้เฉพาะหนี้ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ เช่น ผมกู้เงินมา เพื่อซื้อรถยนต์แพราะเป็นเครื่องมือหาเงิน สำหรับ คนรวยจะมีแค่หนี้ดีเท่านั้น เพราะเพิ่มอำนาจในการ ลงทุนแก่เขา
3. ตามกลิ่นเงินไปเท่าที่จะทำได้ แล้วลงมือทำมันทุก โอกาสที่มี
กอร์ดอนกล่าวว่า ตอนอายุ 26 ปี ปกติเขาจะทำงานใน ร้านสะดวกซื้อจนถึง 1 ทุ่ม แต่ เขาจะอยู่ต่อจนถึง5 ทุ่ม เพื่อทำงานพิเศษ การทำงานหนัก หรือขยัน จะ ทำให้เรามีทักษะอดทนได้เก่งกว่าคนอื่น กลายเป็นจุด เด่นชัดที่สุดหากคุณไม่เก่ง
4. ทำตัวเองให้เป็น 'คนเก่ง' แต่ 'อย่าอวดเก่ง'
กอร์ดอนกล่าวว่า “แม้ว่าผมกลายเป็นเศรษฐีแล้ว ผมก็ ยังคงขับโตโยต้า แคมรี่อยู่ จงให้ผู้อื่นรู้จักคุณเพราะ คุณมีวินัยและเก่งในการทำงาน ไม่ใช่เพราะหรือ สิ่งของที่คุณใส่” สิ่งนี้จะทำให้คุณพบเจอกับคนที่เก่ง และดีจริง ๆ อยู่รอบตัว
5.ศึกษาเรื่องเงินและใส่ใจเงินให้มาก ๆ
ทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน แต่มีเพียงไม่กี่ ที่ให้ความสำคัญกับมันอย่างจริงจังเท่านั้น ถึงจะ ร่ำรวยได้ ถ้าไม่สนใจ ปล่อยผ่าน สิ่งที่ได้ ก็คือความ เพ้อฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงได้ ฉะนั้นปรับ Mindset เรื่อง เงินใหม่ มันไม่ยากเกินเอื้อม
6. ออมเงินไว้เพื่อเก็บจะหมดเร็ว แต่ออมเงินไว้เพื่อ ลงทุนเงินจะไม่มีวันหมด
นอกจากจะแบ่งเก็บเงินฉุกเฉิน ควรเก็บเงินไว้ลงทุน หุ้น หรือสร้างธุรกิจเพื่อทำเงินให้มันงอกเงย แยกเป็น สัดส่วน อย่านำเงินเก็บมาใช้ยามฉุกเฉิน เด็ดขาด วิธีนี้ เป็นการบังคับให้คุณทำตามขั้นตอนแรกที่ว่าทำ อย่างไรก็ได้ให้รายรับเพิ่มมากขึ้น
7.ใช้เงินทำงาน เพื่อผ่อนแรง
ยิ่งศึกษามากก็ยิ่งเรียนรู้วิธีหาเงินที่เร็วขึ้น คุณควรมี รายได้จากการลงทุนมากกว่ารายได้จากงานประจำ แต่ถ้าคุณไม่มีเงินเก็บเลย คุณก็จะไม่สามารถลงทุน ได้ ผมลงทุนในบริษัทที่สองต้องใช้เงินถึง 50,000 ดอลลาร์ พอผ่านไป 10 ปี มันสามารถจ่ายเงินคืนให้ ผม 50,000 ดอลลาร์ทุกเดือน ส่วนการลงทุนครั้งที่ 3 ของผมคือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเงิน 350,000 ดอลลาร์ มันก็สามารถสร้างรายได้ให้ผมได้ เรื่อยๆ ดังนั้น การลงทุน ถือเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ช่วยให้เงินทำงานแทนคุณ
8.หมกมุ่นกับวิธีคิดของเหล่าคนสำเร็จ
ส่วนมากแล้วพวกเราเติบโตมาจากชนชั้นกลางหรือ คนที่ยากจน และดำเนินชีวิตอย่างมีข้อจำกัด แต่เรา สามารถเรียนรู้ชีวิตคนเก่งได้ไม่จำกัด กอดอนกล่าว ว่า แต่สำหรับผมแล้ว ผมมักจะศึกษาชีวิตของเศรษฐี หลายๆคน และลองดำเนินชีวิตตามแบบพวกเขาดูบ้าง ลองหาเศรษฐีต้นแบบสำหรับคุณ ถ้าเราขอคำแนะนำ คนเหล่านี้มักะแบ่งปันความรู้ให้
9. ไม่มีเงินจะอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ไม่เป็นไร
กอร์ดอนเล่าว่า ตัวเองเคยจนมาก่อน มันแย่มาก พอมี เงินอยู่บ้าง แต่ชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะ ฉะนั้นแล้ว เลิกคิดไปได้เลยว่าไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร บิล เกตเคยพูดไว้ว่า “การที่คุณเกิดมายากจนนั่น ไม่ใช่ ความผิดของคุณ แต่การที่คุณต้องยากจนไปจนวัน ตายต่างหาก คือความผิดของคุณ”
10. คิดให้ใหญ่ เพื่อให้ไปได้ไกล
ถ้าตั้งเป้า 1 แสน อาจไม่เท่าตั้งไปที่ 1 ล้าน พยายาม ขยายกรอบความคิดไปให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ใช่ คนคิดการใหญ่ เรากลัวความเสี่ยง กลัวความล้มเหลว และอาจล้มได้ง่าย ๆ
ทั้งหมดนี้คือปรัชญาการเงิน 10 ข้อของ Grant Cardone ที่พยายามกัดฟัน มุมานะ จนกลายเป็น เศรษฐีในวัย 30 ปี ถ้าเขาคล้อยตามคนอื่นที่บอกว่า เป็นเรื่องเพ้อฝัน ชีวิตเขาตอนนี้ก็คงเป็นคนทั่วไปที่คิด ว่าความร่ำรวยไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในชีวิตเขาเลย
ซึ่งไม่จริง และทุกคนก็ทำได้เช่นกัน
ยิ่งเข้าใจเงิน ก็จะหาเงินง่ายขึ้น
กอร์ดอนกล่าวในบทความของเขาว่า "ความร่ำรวย และการเป็นเศรษฐีดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใคร อยากพูดถึง ยิ่งถ้าบอกว่าคุณจะมีสองสิ่งนี้ภายในอายุ ประมาน 30 ปี ยิ่งนับว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่ผมทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ ผมลาออกจากโรงเรียน ตอนอายุ 21 กับมีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่อายุ 30 ปี ผม ก็ได้กลายเป็นเศรษฐี”
นี่คือ 10 สิ่งที่กอร์ดอนทำ และรับรองได้ว่า หากคนอื่น นำไปใช้ก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน
1. เรียนรู้การหมุนเงินให้เป็น
เพราะยิ่งสภาพเศรษฐตอนนี้ยากที่จะทำให้เราร่ำรวย ได้ กอร์ดอนกล่าวว่า อย่างแรกที่ต้องทำคือ ตระหนัก เรื่องรายรับและรายจ่ายให้ดี ทำยังไงก็ได้ ให้มันเพิ่ม มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนผมมีรายได้ 3,000 ดอลลาร์ ต่อเดือน พอ 9 ปีผ่านไป รายรับผมเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ดอลลาร์ต่อเดือน การหมุนเงินจะช่วยให้เรามี วินัย ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้และ เห็นโอกาสลู่ทาง ทำงานอื่นๆ
2.อย่าเป็นหนี้ที่ไม่ก่อประโยชน์ นี่คือกฎเหล็ก
ให้กู้เฉพาะหนี้ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ เช่น ผมกู้เงินมา เพื่อซื้อรถยนต์แพราะเป็นเครื่องมือหาเงิน สำหรับ คนรวยจะมีแค่หนี้ดีเท่านั้น เพราะเพิ่มอำนาจในการ ลงทุนแก่เขา
3. ตามกลิ่นเงินไปเท่าที่จะทำได้ แล้วลงมือทำมันทุก โอกาสที่มี
กอร์ดอนกล่าวว่า ตอนอายุ 26 ปี ปกติเขาจะทำงานใน ร้านสะดวกซื้อจนถึง 1 ทุ่ม แต่ เขาจะอยู่ต่อจนถึง5 ทุ่ม เพื่อทำงานพิเศษ การทำงานหนัก หรือขยัน จะ ทำให้เรามีทักษะอดทนได้เก่งกว่าคนอื่น กลายเป็นจุด เด่นชัดที่สุดหากคุณไม่เก่ง
4. ทำตัวเองให้เป็น 'คนเก่ง' แต่ 'อย่าอวดเก่ง'
กอร์ดอนกล่าวว่า “แม้ว่าผมกลายเป็นเศรษฐีแล้ว ผมก็ ยังคงขับโตโยต้า แคมรี่อยู่ จงให้ผู้อื่นรู้จักคุณเพราะ คุณมีวินัยและเก่งในการทำงาน ไม่ใช่เพราะหรือ สิ่งของที่คุณใส่” สิ่งนี้จะทำให้คุณพบเจอกับคนที่เก่ง และดีจริง ๆ อยู่รอบตัว
5.ศึกษาเรื่องเงินและใส่ใจเงินให้มาก ๆ
ทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน แต่มีเพียงไม่กี่ ที่ให้ความสำคัญกับมันอย่างจริงจังเท่านั้น ถึงจะ ร่ำรวยได้ ถ้าไม่สนใจ ปล่อยผ่าน สิ่งที่ได้ ก็คือความ เพ้อฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงได้ ฉะนั้นปรับ Mindset เรื่อง เงินใหม่ มันไม่ยากเกินเอื้อม
6. ออมเงินไว้เพื่อเก็บจะหมดเร็ว แต่ออมเงินไว้เพื่อ ลงทุนเงินจะไม่มีวันหมด
นอกจากจะแบ่งเก็บเงินฉุกเฉิน ควรเก็บเงินไว้ลงทุน หุ้น หรือสร้างธุรกิจเพื่อทำเงินให้มันงอกเงย แยกเป็น สัดส่วน อย่านำเงินเก็บมาใช้ยามฉุกเฉิน เด็ดขาด วิธีนี้ เป็นการบังคับให้คุณทำตามขั้นตอนแรกที่ว่าทำ อย่างไรก็ได้ให้รายรับเพิ่มมากขึ้น
7.ใช้เงินทำงาน เพื่อผ่อนแรง
ยิ่งศึกษามากก็ยิ่งเรียนรู้วิธีหาเงินที่เร็วขึ้น คุณควรมี รายได้จากการลงทุนมากกว่ารายได้จากงานประจำ แต่ถ้าคุณไม่มีเงินเก็บเลย คุณก็จะไม่สามารถลงทุน ได้ ผมลงทุนในบริษัทที่สองต้องใช้เงินถึง 50,000 ดอลลาร์ พอผ่านไป 10 ปี มันสามารถจ่ายเงินคืนให้ ผม 50,000 ดอลลาร์ทุกเดือน ส่วนการลงทุนครั้งที่ 3 ของผมคือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเงิน 350,000 ดอลลาร์ มันก็สามารถสร้างรายได้ให้ผมได้ เรื่อยๆ ดังนั้น การลงทุน ถือเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ช่วยให้เงินทำงานแทนคุณ
8.หมกมุ่นกับวิธีคิดของเหล่าคนสำเร็จ
ส่วนมากแล้วพวกเราเติบโตมาจากชนชั้นกลางหรือ คนที่ยากจน และดำเนินชีวิตอย่างมีข้อจำกัด แต่เรา สามารถเรียนรู้ชีวิตคนเก่งได้ไม่จำกัด กอดอนกล่าว ว่า แต่สำหรับผมแล้ว ผมมักจะศึกษาชีวิตของเศรษฐี หลายๆคน และลองดำเนินชีวิตตามแบบพวกเขาดูบ้าง ลองหาเศรษฐีต้นแบบสำหรับคุณ ถ้าเราขอคำแนะนำ คนเหล่านี้มักะแบ่งปันความรู้ให้
9. ไม่มีเงินจะอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ไม่เป็นไร
กอร์ดอนเล่าว่า ตัวเองเคยจนมาก่อน มันแย่มาก พอมี เงินอยู่บ้าง แต่ชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะ ฉะนั้นแล้ว เลิกคิดไปได้เลยว่าไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร บิล เกตเคยพูดไว้ว่า “การที่คุณเกิดมายากจนนั่น ไม่ใช่ ความผิดของคุณ แต่การที่คุณต้องยากจนไปจนวัน ตายต่างหาก คือความผิดของคุณ”
10. คิดให้ใหญ่ เพื่อให้ไปได้ไกล
ถ้าตั้งเป้า 1 แสน อาจไม่เท่าตั้งไปที่ 1 ล้าน พยายาม ขยายกรอบความคิดไปให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ใช่ คนคิดการใหญ่ เรากลัวความเสี่ยง กลัวความล้มเหลว และอาจล้มได้ง่าย ๆ
ทั้งหมดนี้คือปรัชญาการเงิน 10 ข้อของ Grant Cardone ที่พยายามกัดฟัน มุมานะ จนกลายเป็น เศรษฐีในวัย 30 ปี ถ้าเขาคล้อยตามคนอื่นที่บอกว่า เป็นเรื่องเพ้อฝัน ชีวิตเขาตอนนี้ก็คงเป็นคนทั่วไปที่คิด ว่าความร่ำรวยไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในชีวิตเขาเลย
ซึ่งไม่จริง และทุกคนก็ทำได้เช่นกัน