Grant Cardone, เจ้าของหนังสือขายดีอันดับหนึ่งของ New York Times, เจ้าของธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ และผู้ก่อตั้งเครือข่าย "Whatever It Takes" เขียนบทความ 10 ขั้นตอนที่ตัวเขาใช้ในการเป็นมหาเศรษฐีก่อนอายุ 30 ปี
เห็นว่ามีประโยชน์มากสำหรับว่าที่วัยรุ่นพันล้านทุกท่าน จึงหยิบมาแปลให้อ่าน
สมัยนี้คำว่า "รวย", "คุณรวยได้", "เส้นทางเศรษฐี" หรือ "หนทางสู่ความรวย" กลายเป็นคำที่ผู้อ่านหรือผู้ฟังต้องหยุดและพิจารณาคนพูดเสียก่อนว่า "คุณ... ทำได้อย่างที่พูดหรือยัง?" ยิ่งมาพูดเรื่องรวยได้ก่อนอายุ 30 ยิ่งนิยายเข้าไปใหญ่ แต่ผมมาบอกคุณว่า มันเป็นไปได้
ตอนที่ผมอายุ 21 ผมลาออกจากมหาวิทยาลัยแบบถังแตกและเป็นหนี้
ตอนผมอายุ 30 ผมเป็นเศรษฐีเรียบร้อยแล้ว
นี่คือ 10 ขั้นตอนที่การันตีว่าคุณจะเป็นเศรษฐีตอนอายุ 30 ครับ
1. ตามกลิ่นเงินไป
ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ทั่วโลก คุณไม่สามารถออมเงินเพื่อหวังรวยได้อย่างแน่นอน ขั้นตอนแรกคือ โฟกัสไปที่การเพิ่มรายได้ให้ได้ก่อน
ผมเคยรับเงินเดือนอยู่ที่ $3,000 ต่อเดือน (90,000 บาท) และ 9 ปีให้หลังก็เพิ่มเป็น $20,000 ต่อเดือน (600,000 บาท)
เริ่มตามกลิ่นเงินได้แล้วครับ มันจะบังคับให้คุณควบคุมเงินได้ และเห็นโอกาสมากขึ้น
2. อย่า Show Off แต่จง Show Up.
ผมไม่ได้ซื้อรถหรูคันแรก หรือนาฬิกาหรูๆ หรือกล้าเปิดคอร์สสอนใคร จนกระทั่งธุรกิจและการลงทุนต่างๆเริ่มสร้างเม็ดเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง
ตอนผมเป็นเศรษฐี ผมยังขับ Toyota Camry อยู่เลยครับ
จงให้โลกจดจำคุณในคุณค่าที่คุณสร้าง ไม่ใช่ของเล่นที่คุณซื้อ
"จงให้โลกจดจำคุณในคุณค่าที่คุณสร้าง ไม่ใช่ของเล่นที่คุณซื้อ"
3. ออมเพื่อลงทุน ไม่ใช่ออมเพื่อออม
เหตุผลเดียวในการออมเงินของคุณ ควรจะเป็นออมเงินเพื่อการลงทุน
จงเก็บเงินที่คุณจะใช้ในการลงทุนไว้ในบัญชีต้องห้าม (ห้ามใช้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม)
วิธีนี้จะบังคับให้คุณทำตามขั้นที่ 1 (เพิ่มรายได้)
ทุกวันนี้ผมยอมรับ ผมถังแตกอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพราะผมลงทุนกับส่วนต่างที่ได้ทั้งหมดเช่นกัน
4. หลีกเลี่ยงภาระหนี้ที่ไม่จ่ายผลตอบแทน
ตั้งกฏเอาไว้เลยว่าคุณจะไม่สร้างหนี้ที่ไม่ทำเงิน
ผมเคยยืมเงินเพื่อซื้อรถ เพราะรู้ว่ารถจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ผม
คนรวยเป็นหนี้เพื่อ Leverage การลงทุน และเพิ่มเงินสดหมุนเวียน
คนจนเป็นหนี้จากการซื้อของหรูหรา ที่ช่วยให้คนรวยยิ่งรวย
5. หึงเงินให้โหดๆ
เงินก็เหมือนคู่รักที่ขี้หึงแบบสุดๆ ลองไม่ใส่ใจดูสิ มีงอนแน่นอน หรือถ้าแย่กว่านั้น เงินจะทิ้งคุณเพื่อไปหาคนที่ให้ความสำคัญกับมัน
คนเป็นล้านอยากมี "อิสรภาพทางการเงิน"
แต่มีเพียงคนที่ "ให้ความสำคัญ" กับเงินเท่านั้น ถึงจะมีเงินเป็นล้าน
6. เงินไม่เคยหลับ
เงินไม่รู้เวลา ไม่รู้วันหยุด ไม่รู้ปฏิทิน และคุณก็ไม่ควรรู้เช่นกัน
เงินรักคนที่มีทัศนคติในการทำงานที่ยอดเยี่ยม
ตอนที่ผมอายุ 26 ปี ผมทำงานในร้านขายของ ทำงานจนถึง 5 ทุ่ม พยายามทำยอด
อย่าพยายามเป็นคนที่ฉลาดที่สุด หรือโชคดีที่สุด
แค่ทำงานให้หนักกว่าทุกคนก็พอ
7. ความยากจนมันไร้สาระสิ้นดี
ผมเคยจนและมันอุบาทว์มาก
ผมเคยมีแบบพอมีพอกิน และมันก็ไม่ได้ดีกว่าจนเท่าไหร่
กำจัดความคิดทุกประการที่ว่า "ความจนมันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่" ออกไปให้หมด
Bill Gates เคยพูดกับกลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆว่า
"ไม่ใช่ความผิดของคุณ ถ้าคุณจะเกิดมาจน
แต่ถ้าคุณยังจนอยู่ นั่นแหละความผิดของคุณ"
8. หาพี่เลี้ยงที่เป็นเศรษฐี
พวกเราส่วนใหญ่เติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน จากนั้นก็ตีกรอบตัวเองไว้แค่นั้น
ผมศึกษาบรรดาเศรษฐีเพื่อที่จะได้เลียนแบบในสิ่งที่เขาทำ (แต่ไม่ใช่เลียนแบบทุกอย่างจนไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง)
หาพี่เลี้ยงของคุณให้เจอ และเรียนรู้จากพวกเขา
คนรวยส่วนใหญ่ใจกว้างเป็นแม่น้ำ และพร้อมแบ่งปันความรู้ให้แก่คุณ
9. ใช้เงินของคุณในการทำงานหนัก
การลงทุนเป็นดั่งจอกศักดิสิทธิ์ของการเป็นเศรษฐี และคุณควรทำเงินจากการลงทุนให้ได้มากกว่าการทำงานประจำ
ถ้าคุณลงทุนแล้วไม่ได้กำไร นั่นไม่เรียกว่าการลงทุน
บริษัทที่สองที่ผมตั้งขึ้นใช้เงิน $50,000 (ประมาณ 1,500,000 บาท) บริษัทนั้นทำเงินให้ผมทุกเดือนๆละ $50,000 เป็นเวลา 10 ปีแล้ว
การลงทุนครั้งที่ 3 ของผมเป็นการลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ผมเริ่มลงทุนด้วยเงิน $350,000 เรียกว่าเกือบหมดตัว
ทุกวันนี้ผมยังเป็นเจ้าของทรัพย์ผืนนั้น และทำรายได้จากมันอย่างต่อเนื่อง
การลงทุนเป็นเหตุผลเดียวที่คุณคุณควรทำทุกขั้นตอนที่ผ่านมา
เงินของคุณต้องทำงานให้คุณ และทำงานอย่างหนักแทนคุณ
10. เล็งไปที่ 100 ล้าน ไม่ใช่ 1 ล้าน
ความผิดพลาดทางการเงินอย่างเดียวที่ผมทำนั้นคือ คิดเล็กเกินไปครับ
ผมแนะนำให้คุณเล็งเป้าไปให้เกินล้าน
โลกนี้ไม่ขาดแคลนเงิน แต่ขาดแคลนคนคิดใหญ่
ทำตามทั้ง 10 ขั้นตอนนี้ และมันจะส่งคุณไปยังเส้นทางของความร่ำรวย
ออกห่างจากพวกที่บอกคุณว่า เป้าหมายของคุณมันเต็มไปด้วยความโลภ
ออกห่างจากธุรกิจเงินด่วน, คอร์สสัมมนาที่จะสอนให้คุณรวย (ในขณะที่คนสอนจน)
จงมีคุณธรรม และศีลธรรมในการทำงานเพื่อสร้างคุณค่า ที่สำคัญ ห้ามยอมแพ้
ท้ายที่สุด เมื่อคุณถึงฝั่งฝันแล้ว อย่าไปคนเดียวครับ พาคนอื่นไปด้วย
เมื่อถึงวันนั้นผมอยากได้ยินเรื่องราวของคุณ
ความสำเร็จนั้นหอมหวานเหนือสิ่งอื่นใด
Grant Cardone
แปลโดย OHMPIANG
10 ขั้นตอนสู่การเป็นเศรษฐีตอนอายุ 30 จาก Grant Cardone
เห็นว่ามีประโยชน์มากสำหรับว่าที่วัยรุ่นพันล้านทุกท่าน จึงหยิบมาแปลให้อ่าน
สมัยนี้คำว่า "รวย", "คุณรวยได้", "เส้นทางเศรษฐี" หรือ "หนทางสู่ความรวย" กลายเป็นคำที่ผู้อ่านหรือผู้ฟังต้องหยุดและพิจารณาคนพูดเสียก่อนว่า "คุณ... ทำได้อย่างที่พูดหรือยัง?" ยิ่งมาพูดเรื่องรวยได้ก่อนอายุ 30 ยิ่งนิยายเข้าไปใหญ่ แต่ผมมาบอกคุณว่า มันเป็นไปได้
ตอนที่ผมอายุ 21 ผมลาออกจากมหาวิทยาลัยแบบถังแตกและเป็นหนี้
ตอนผมอายุ 30 ผมเป็นเศรษฐีเรียบร้อยแล้ว
นี่คือ 10 ขั้นตอนที่การันตีว่าคุณจะเป็นเศรษฐีตอนอายุ 30 ครับ
1. ตามกลิ่นเงินไป
ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ทั่วโลก คุณไม่สามารถออมเงินเพื่อหวังรวยได้อย่างแน่นอน ขั้นตอนแรกคือ โฟกัสไปที่การเพิ่มรายได้ให้ได้ก่อน
ผมเคยรับเงินเดือนอยู่ที่ $3,000 ต่อเดือน (90,000 บาท) และ 9 ปีให้หลังก็เพิ่มเป็น $20,000 ต่อเดือน (600,000 บาท)
เริ่มตามกลิ่นเงินได้แล้วครับ มันจะบังคับให้คุณควบคุมเงินได้ และเห็นโอกาสมากขึ้น
2. อย่า Show Off แต่จง Show Up.
ผมไม่ได้ซื้อรถหรูคันแรก หรือนาฬิกาหรูๆ หรือกล้าเปิดคอร์สสอนใคร จนกระทั่งธุรกิจและการลงทุนต่างๆเริ่มสร้างเม็ดเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง
ตอนผมเป็นเศรษฐี ผมยังขับ Toyota Camry อยู่เลยครับ
จงให้โลกจดจำคุณในคุณค่าที่คุณสร้าง ไม่ใช่ของเล่นที่คุณซื้อ
3. ออมเพื่อลงทุน ไม่ใช่ออมเพื่อออม
เหตุผลเดียวในการออมเงินของคุณ ควรจะเป็นออมเงินเพื่อการลงทุน
จงเก็บเงินที่คุณจะใช้ในการลงทุนไว้ในบัญชีต้องห้าม (ห้ามใช้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม)
วิธีนี้จะบังคับให้คุณทำตามขั้นที่ 1 (เพิ่มรายได้)
ทุกวันนี้ผมยอมรับ ผมถังแตกอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพราะผมลงทุนกับส่วนต่างที่ได้ทั้งหมดเช่นกัน
4. หลีกเลี่ยงภาระหนี้ที่ไม่จ่ายผลตอบแทน
ตั้งกฏเอาไว้เลยว่าคุณจะไม่สร้างหนี้ที่ไม่ทำเงิน
ผมเคยยืมเงินเพื่อซื้อรถ เพราะรู้ว่ารถจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ผม
คนรวยเป็นหนี้เพื่อ Leverage การลงทุน และเพิ่มเงินสดหมุนเวียน
คนจนเป็นหนี้จากการซื้อของหรูหรา ที่ช่วยให้คนรวยยิ่งรวย
5. หึงเงินให้โหดๆ
เงินก็เหมือนคู่รักที่ขี้หึงแบบสุดๆ ลองไม่ใส่ใจดูสิ มีงอนแน่นอน หรือถ้าแย่กว่านั้น เงินจะทิ้งคุณเพื่อไปหาคนที่ให้ความสำคัญกับมัน
คนเป็นล้านอยากมี "อิสรภาพทางการเงิน"
แต่มีเพียงคนที่ "ให้ความสำคัญ" กับเงินเท่านั้น ถึงจะมีเงินเป็นล้าน
6. เงินไม่เคยหลับ
เงินไม่รู้เวลา ไม่รู้วันหยุด ไม่รู้ปฏิทิน และคุณก็ไม่ควรรู้เช่นกัน
เงินรักคนที่มีทัศนคติในการทำงานที่ยอดเยี่ยม
ตอนที่ผมอายุ 26 ปี ผมทำงานในร้านขายของ ทำงานจนถึง 5 ทุ่ม พยายามทำยอด
อย่าพยายามเป็นคนที่ฉลาดที่สุด หรือโชคดีที่สุด
แค่ทำงานให้หนักกว่าทุกคนก็พอ
7. ความยากจนมันไร้สาระสิ้นดี
ผมเคยจนและมันอุบาทว์มาก
ผมเคยมีแบบพอมีพอกิน และมันก็ไม่ได้ดีกว่าจนเท่าไหร่
กำจัดความคิดทุกประการที่ว่า "ความจนมันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่" ออกไปให้หมด
Bill Gates เคยพูดกับกลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆว่า
แต่ถ้าคุณยังจนอยู่ นั่นแหละความผิดของคุณ"
8. หาพี่เลี้ยงที่เป็นเศรษฐี
พวกเราส่วนใหญ่เติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน จากนั้นก็ตีกรอบตัวเองไว้แค่นั้น
ผมศึกษาบรรดาเศรษฐีเพื่อที่จะได้เลียนแบบในสิ่งที่เขาทำ (แต่ไม่ใช่เลียนแบบทุกอย่างจนไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง)
หาพี่เลี้ยงของคุณให้เจอ และเรียนรู้จากพวกเขา
คนรวยส่วนใหญ่ใจกว้างเป็นแม่น้ำ และพร้อมแบ่งปันความรู้ให้แก่คุณ
9. ใช้เงินของคุณในการทำงานหนัก
การลงทุนเป็นดั่งจอกศักดิสิทธิ์ของการเป็นเศรษฐี และคุณควรทำเงินจากการลงทุนให้ได้มากกว่าการทำงานประจำ
ถ้าคุณลงทุนแล้วไม่ได้กำไร นั่นไม่เรียกว่าการลงทุน
บริษัทที่สองที่ผมตั้งขึ้นใช้เงิน $50,000 (ประมาณ 1,500,000 บาท) บริษัทนั้นทำเงินให้ผมทุกเดือนๆละ $50,000 เป็นเวลา 10 ปีแล้ว
การลงทุนครั้งที่ 3 ของผมเป็นการลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ผมเริ่มลงทุนด้วยเงิน $350,000 เรียกว่าเกือบหมดตัว
ทุกวันนี้ผมยังเป็นเจ้าของทรัพย์ผืนนั้น และทำรายได้จากมันอย่างต่อเนื่อง
การลงทุนเป็นเหตุผลเดียวที่คุณคุณควรทำทุกขั้นตอนที่ผ่านมา
เงินของคุณต้องทำงานให้คุณ และทำงานอย่างหนักแทนคุณ
10. เล็งไปที่ 100 ล้าน ไม่ใช่ 1 ล้าน
ความผิดพลาดทางการเงินอย่างเดียวที่ผมทำนั้นคือ คิดเล็กเกินไปครับ
ผมแนะนำให้คุณเล็งเป้าไปให้เกินล้าน
โลกนี้ไม่ขาดแคลนเงิน แต่ขาดแคลนคนคิดใหญ่
ทำตามทั้ง 10 ขั้นตอนนี้ และมันจะส่งคุณไปยังเส้นทางของความร่ำรวย
ออกห่างจากพวกที่บอกคุณว่า เป้าหมายของคุณมันเต็มไปด้วยความโลภ
ออกห่างจากธุรกิจเงินด่วน, คอร์สสัมมนาที่จะสอนให้คุณรวย (ในขณะที่คนสอนจน)
จงมีคุณธรรม และศีลธรรมในการทำงานเพื่อสร้างคุณค่า ที่สำคัญ ห้ามยอมแพ้
ท้ายที่สุด เมื่อคุณถึงฝั่งฝันแล้ว อย่าไปคนเดียวครับ พาคนอื่นไปด้วย
เมื่อถึงวันนั้นผมอยากได้ยินเรื่องราวของคุณ
ความสำเร็จนั้นหอมหวานเหนือสิ่งอื่นใด
Grant Cardone
แปลโดย OHMPIANG