สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เบื่อพวกเหน็บข้าราชการ
1.สิทธิ์บัตรทอง ***ขอพูดเฉพาะในวัยทำงานที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง (ไม่เอาเด็ก คนแก่และผู้พิการ)*** กลุ่มนี้ไม่เคยต้องแจ้งรายได้หรือ จ่ายภาษีบุคคลธรรมดา
2.สิทธิ์การรักษาบัตรทองในปัจจุบันเกือบเท่าข้าราชการ และไม่จำกัดเขตพื้นที่
3.ข้าราชการจ่ายภาษีนะจ้ะ ไม่เคยได้รับสิทธิพิเศษอะไร และเบื่อการเป็นเดอะแบกมาก…เข้าใจไหม?
4.ทุกที่มีทั้งดีไม่ดี อย่าเหมารวม
1.สิทธิ์บัตรทอง ***ขอพูดเฉพาะในวัยทำงานที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง (ไม่เอาเด็ก คนแก่และผู้พิการ)*** กลุ่มนี้ไม่เคยต้องแจ้งรายได้หรือ จ่ายภาษีบุคคลธรรมดา
2.สิทธิ์การรักษาบัตรทองในปัจจุบันเกือบเท่าข้าราชการ และไม่จำกัดเขตพื้นที่
3.ข้าราชการจ่ายภาษีนะจ้ะ ไม่เคยได้รับสิทธิพิเศษอะไร และเบื่อการเป็นเดอะแบกมาก…เข้าใจไหม?
4.ทุกที่มีทั้งดีไม่ดี อย่าเหมารวม
ความคิดเห็นที่ 24
ข้าราชการ =สวัสดิการของอาชีพราชการ และกับเงินเดือนที่น้อยกว่าเอกชน
ประกันสังคม =จ่าย 750 ได้มา + จ่ายภาษีรายได้ทุกปีต่างหาก เป็นสวัสดิการของสังคม เบิกได้ครึ่งๆกลางๆ
บัตรทอง = ไม่ต้องจ่าย สำหรับคนไม่มีอาชีพ ภาษีก็ไม่ได้จ่าย สิทธิประโยชน์เลิศสุด
เราว่าความไม่ยุติธรรม คุณควรถามหาจากบัตรทอง
ประกันสังคม =จ่าย 750 ได้มา + จ่ายภาษีรายได้ทุกปีต่างหาก เป็นสวัสดิการของสังคม เบิกได้ครึ่งๆกลางๆ
บัตรทอง = ไม่ต้องจ่าย สำหรับคนไม่มีอาชีพ ภาษีก็ไม่ได้จ่าย สิทธิประโยชน์เลิศสุด
เราว่าความไม่ยุติธรรม คุณควรถามหาจากบัตรทอง
ความคิดเห็นที่ 6
ต้องบอกว่าโดยทั่วไปเอกชนทำงานด้วยเงินเดือนที่สูงกว่าภาครัฐ ที่อายุพอๆกัน
รัฐจึงต้องมีสวัสดิการเพื่อดึงให้คนอยุ๋ภาครัฐ ไม่งั้นคนเก่งๆไหลไปเอกชนหมด
ผมมองว่ารัฐใช้สวัสดิการรักษาเป็นตัวดึงให้คนอยุ๋ในระบบ ซึ่งรัฐอาจจะคิดมาเผื่อแล้วถูกกว่าการขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ
แต่ปัจจุบันอัตรากำลังข้าราชการก็ทยอยลดละจ้างเป้นพนักงานราชการที่ใช้ ประกันสังคมเหมือนกันนะครับ
ถ้าอิจฉามากก็ลองสอบเข้ามาเป้นข้าราชการมั้ยครับ ในกรณีที่มองว่าอายุเท่ากันแล้วราชการยังเงินเดือนเยอะกว่าเอกชน แปลว่าเอกชนตรงนั้นอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
รัฐจึงต้องมีสวัสดิการเพื่อดึงให้คนอยุ๋ภาครัฐ ไม่งั้นคนเก่งๆไหลไปเอกชนหมด
ผมมองว่ารัฐใช้สวัสดิการรักษาเป็นตัวดึงให้คนอยุ๋ในระบบ ซึ่งรัฐอาจจะคิดมาเผื่อแล้วถูกกว่าการขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ
แต่ปัจจุบันอัตรากำลังข้าราชการก็ทยอยลดละจ้างเป้นพนักงานราชการที่ใช้ ประกันสังคมเหมือนกันนะครับ
ถ้าอิจฉามากก็ลองสอบเข้ามาเป้นข้าราชการมั้ยครับ ในกรณีที่มองว่าอายุเท่ากันแล้วราชการยังเงินเดือนเยอะกว่าเอกชน แปลว่าเอกชนตรงนั้นอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ความคิดเห็นที่ 5
จริงๆถ้ามองข้าราชการเป็นแบบลูกจ้างนายจ้างเหมือนเอกชน
การได้สิทธิโน่นนี่ ก็เหมือนกับสวัสดิการเพื่อดึงดูดคนเข้ามาทำงานให้น่ะแหละ
มันก็ดีไปคนละแบบ สมัยผมจบ ป.ตรีใหม่ๆ ราชการน่ะสอบเข้าได้ง่ายมาก แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจไปทำ
มุ่งเอกชนกันหมด เพราะเงินเดือนเยอะกว่า มีโบนัสด้วย ยิ่งทำงานนานไป ความแตกต่างเรื่องเงินเดือนยิ่งชัด
ข้าราชการมามีดีเอาตอนเกษียณแล้วนี่เองที่ยังมีเงินบำนาญให้ใช้
ก็แล้วแต่แนวทางที่คนจะเลือก จะมาเปรียบเทียบกันไม่ได้
เอกชนด้วยกัน ต่างบริษัทยังแตกต่างกันเลย
การได้สิทธิโน่นนี่ ก็เหมือนกับสวัสดิการเพื่อดึงดูดคนเข้ามาทำงานให้น่ะแหละ
มันก็ดีไปคนละแบบ สมัยผมจบ ป.ตรีใหม่ๆ ราชการน่ะสอบเข้าได้ง่ายมาก แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจไปทำ
มุ่งเอกชนกันหมด เพราะเงินเดือนเยอะกว่า มีโบนัสด้วย ยิ่งทำงานนานไป ความแตกต่างเรื่องเงินเดือนยิ่งชัด
ข้าราชการมามีดีเอาตอนเกษียณแล้วนี่เองที่ยังมีเงินบำนาญให้ใช้
ก็แล้วแต่แนวทางที่คนจะเลือก จะมาเปรียบเทียบกันไม่ได้
เอกชนด้วยกัน ต่างบริษัทยังแตกต่างกันเลย
ความคิดเห็นที่ 30
เงินเดือนราชการ ก็ไม่ได้ใกล้เคียงเอกชนขนาดนั้นนะ
เอาแค่ระบบสาธารณสุข ถ้าไม่มีสวัสดิการพวกนี้ ไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนดีกว่า รายได้เริ่มต้นก็ครึ่งแสนต่อเดือนแล้วไหมน่ะ ยิ่งบางวิชาชีพ เปิดเคสทีนึงก็เคสละ 2-5 พันแล้วน่ะ
ถ้าตัดสวัสดิการ ขรก. ในระบบสาธารณสุขไป ก็ต้องมีคิดล่ะว่า ทำไมต้องทำราชการเงินเริ่มต้น 15,000 ด้วยล่ะ กว่าจะได้ขึ้นต่อปีไม่ถึง 1,000 บาท ต้องทำไป 30 ปี ถึงจะฐานเงินเดือนเท่าเด็กจบใหม่ที่ทำเอกชนในสายนี้น่ะ
ที่ในระบบสาธารณสุข ยังมีคนทำงานอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะสวัสดิการนี่ล่ะ ลองลดลงหรือตัดไป หายกันเกินครึ่งน่ะ เอาแค่สวัสดิการที่มีกันทุกวันนี้ ยังไม่จูงใจพอให้คนมาทำกันเลย หลายแห่งก็ยังขาดแคลนคนทำงานอยู่น่ะ
อีกอย่างคำว่า บำนาญ อันดับแรกคือ ต้องใช้ชีวิตให้แก่ให้ได้ก่อน ซึ่งเป็นการลงทุนความเสี่ยงหนึ่งนะ ถ้าทำเอกชน ปีนึงได้เลยชัวร์ๆ ขั้นต่ำ 6 แสนล่ะ 10 ปี 6 ล้าน แต่ทำราชการ ปีนึง 2 แสน 10 ปี 2 ล้าน แต่ก็ยอมหวังครบ 25 ปี เกษียณได้บำนาญ แต่ถ้าตายก่อนล่ะ ขาดทุนเลยนะที่ลงแรงไปน่ะ เกิดตายปีทำงานที่ 20 ล่ะ อยู่เอกชนเก็บไปแล้วต่ำๆ 12 ล้าน ราชการพึ่งได้ 4-5 ล้านเองน่ะ คำว่า บำนาญ มันก็เหมือนเงินอนาคต เงินเหยื่อล่อที่ว่า จะเดิมพันด้วยไหมน่ะแหล่ะ จ่ายจริงก็ใช่ว่าทุกคนจะได้ มีแต่คนชนะเดิมพันนี้เท่านั้นล่ะที่จะได้ บางคนได้แปบเดียว ปีนึงตุยก็มี บางคนได้นานหน่อยก็คุ้มค่าแรงไป
เอาแค่ระบบสาธารณสุข ถ้าไม่มีสวัสดิการพวกนี้ ไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนดีกว่า รายได้เริ่มต้นก็ครึ่งแสนต่อเดือนแล้วไหมน่ะ ยิ่งบางวิชาชีพ เปิดเคสทีนึงก็เคสละ 2-5 พันแล้วน่ะ
ถ้าตัดสวัสดิการ ขรก. ในระบบสาธารณสุขไป ก็ต้องมีคิดล่ะว่า ทำไมต้องทำราชการเงินเริ่มต้น 15,000 ด้วยล่ะ กว่าจะได้ขึ้นต่อปีไม่ถึง 1,000 บาท ต้องทำไป 30 ปี ถึงจะฐานเงินเดือนเท่าเด็กจบใหม่ที่ทำเอกชนในสายนี้น่ะ
ที่ในระบบสาธารณสุข ยังมีคนทำงานอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะสวัสดิการนี่ล่ะ ลองลดลงหรือตัดไป หายกันเกินครึ่งน่ะ เอาแค่สวัสดิการที่มีกันทุกวันนี้ ยังไม่จูงใจพอให้คนมาทำกันเลย หลายแห่งก็ยังขาดแคลนคนทำงานอยู่น่ะ
อีกอย่างคำว่า บำนาญ อันดับแรกคือ ต้องใช้ชีวิตให้แก่ให้ได้ก่อน ซึ่งเป็นการลงทุนความเสี่ยงหนึ่งนะ ถ้าทำเอกชน ปีนึงได้เลยชัวร์ๆ ขั้นต่ำ 6 แสนล่ะ 10 ปี 6 ล้าน แต่ทำราชการ ปีนึง 2 แสน 10 ปี 2 ล้าน แต่ก็ยอมหวังครบ 25 ปี เกษียณได้บำนาญ แต่ถ้าตายก่อนล่ะ ขาดทุนเลยนะที่ลงแรงไปน่ะ เกิดตายปีทำงานที่ 20 ล่ะ อยู่เอกชนเก็บไปแล้วต่ำๆ 12 ล้าน ราชการพึ่งได้ 4-5 ล้านเองน่ะ คำว่า บำนาญ มันก็เหมือนเงินอนาคต เงินเหยื่อล่อที่ว่า จะเดิมพันด้วยไหมน่ะแหล่ะ จ่ายจริงก็ใช่ว่าทุกคนจะได้ มีแต่คนชนะเดิมพันนี้เท่านั้นล่ะที่จะได้ บางคนได้แปบเดียว ปีนึงตุยก็มี บางคนได้นานหน่อยก็คุ้มค่าแรงไป
แสดงความคิดเห็น
ประกันสังคมจะเจ๊ง แต่ราชการเบิกตรงอู้ฟู่ บำนาญจัดเต็ม มันดูแปลกๆไหมครับ
ในอายุเท่ากัน เบิกตรง จาก รพ ได้ยามาเพียบ แถม ยังมีบำนาญหลังเกษียณ อีกเป็นหมื่น คือ จะว่าผมอิจฉา ก็ได้ ก็อิจฉา จริงๆแหล่ะ ยอมรับครับ แต่แบบ
อย่างน้อยควรให้ประกันสังคม มีสวัสดิการที่ดีกว่านี้อีกหน่อย ตอนนี้ กลายเป็นเหมือน พลเมืองชั้นสอง ยังไงก็ไม่รู้ แถมยังเจอข่าวเรื่อง ประกันสังคมจะเจ๊งอีก
ผมจ่ายตรงทุกงวด 750 บาท เศร้าใจ T^T