[CR] Jinshanling กำแพงเมืองจีนด่านจินชานหลิ่ง กำแพงเมืองจีนที่คนน้อยจนร้านค้ายังต้องเหงา


เดือนที่เดินทาง - กันยายน 2024

ไม่ได้โพสบนพันทิปมานานแล้วครับวันนี้อยากเอาที่เที่ยวที่ประทับใจมาแชร์ พึ่งไปเที่ยวปักกิ่งมาครับแล้วได้ไปกำแพงเมืองจีนมาด้วย ฝากติดตามอ่านโพสอื่นๆของทริปเดียวกันด้วยนะครับ
Beijing - ปักกิ่ง
Datong - ต้าถง
Tianjin - เทียนจิน

คำถามที่ผมมีตอนที่วางแผนอยากไปดูกำแพงเมืองจีนก็มีอยู่ประมาณนึง
ตรงไหนถ่ายรูปสวยที่สุด - ตรงนี้ผมก็จะคิดถึงว่ากำแพงเมืองจีนด่านไหนที่มีกำแพงคดเคี้ยงซับซ้อนที่สุดเพื่อให้ได้ภาพที่ดูมีดราม่าเห็นกำแพงยาวเฟื้อย
ตรงไหนคนน้อยที่สุด - เห็นจากโลกออนไลน์มาเยอะว่ากำแพงเมืองจีนคนล้นหลามมากจนบางทีมองไม่เห็นพื้นด้วยซ้ำ เรื่องนี้สำคัญมาก สถานที่จะสวยแค่ไหนถ้าคนเยอะมากมันก็กลายเป็นไม่สวยได้
เดินทางไม่ลำบาก - อันนี้ก็สำคัญแต่ว่าไม่สำคัญเท่าสองข้อแรกเพราะแก้ปัญหาได้ด้วยการจ้างคนขับรถ

พอพิจารณาจากการค้นคว้าออนไลน์แล้วก็เห็นว่า Jinshanling หรือ จินชานหลิ่งนี่แหละที่ตอบโจทย์ได้เกือบทั้ง 3 ข้อเลย ข้อดีข้อเสียของเค้า
ข้อดี - ดูรูปคนอื่นเห็นแล้วว่าด่านจินชานหลิ่งเรียงสวยมีซิ๊กแซ๊กสลับซับซ้อน สวยทุกฤดู และจากการอ่านข้อมูลรีวิวของฝรั่งและคนจีนทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าที่นี่คนน้อยสุดแล้วในบรรดาด่านใกล้ปักกิ่ง
ข้อเสีย - ไม่มีรถไฟความเร็วสูงหรือรถไฟฟ้าธรรมดาไปถึง ถ้าอยากนั่งรถสาธารณะจะมีแต่รถบัสเท่านั้นแล้วยังต้องต่อแท๊กซี่ไปที่ทางเข้ากำแพงเมืองจีน แก้ปัญหาด้วยการจ้างคนขับรถไปเลยจ้า

คนขับที่จ้างมาจากบริษัททัวร์ บริการดีมากครับ มารับส่งที่โรงแรม พูดอังกฤษไม่ได้แต่ก็ไม่ย่อท้อ ใช้สื่อสารผ่านแอ๊ปแปลภาษา ให้ข้อมูลดี ที่สำคัญเราให้เค้ารอนานมากเพราะเดินช้าแต่เค้าก็ไม่บ่นเลย แต่ก็เป็นห่วงว่าเราจะลงมาได้มั้ย แต่ตอนจบมีขอให้ทิปหน่อยเพราะเค้าเลิกช้ากว่าเวลาเพราะเราเดินช้า ระยะเวลาการเดินทางจากปักกิ่งก็ประมาณ 3 ชั่วโมง กลับก็อีก 3 ชั่วโมง ใครอยากไปเที่ยวตามแนะนำจองจากที่นี่เลย LINK

นอกจากนี้แล้วก็หารองเท้าดีๆเดินสบายๆหรืออยากพกอาหารไปกินเองก็ได้ แต่ถ้าไม่อยากแบกไปแต่ละหอสังเกตการณ์ก็จะมีป้าคนจีนมารอขายน้ำขายขนมมาม่าอยู่พร้อมครับ

เส้นทางของเราวันนี้ก็ตามด้านล่างเลยและกะว่าจะเดินไปทั้งทิศตะวันตกและตะวันออก ความยาวของด่านนี้แค่ 10.5 กิโลเมตรเท่านั้นแต่นี่ยังไม่นับต้องเดินขึ้นเดินลงนะ
1. ออกจากปักกิ่ง 8 โมงเช้า
2. มาถึงหน้าทางเข้า Main Entrance (เลข 1) ตอน 11 โมง
3. ซื้อตั๋วค่าเข้าอุทยานก่อนแล้วพอซื้อเสร็จเราก็แลก WeChat หรือ Alipay กับคนขับรถไว้ติดต่อกัน
4. นั่งรถแทรมของอุทยานจากจุดซื้อตั๋วไปถึงทางเข้าที่ยังลึกเข้าไปอีก
5. ต้องซื้อตั๋วอีกรอบเพื่อขึ้นกระเช้า cable car ตรงนี้ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อขาขึ้นอย่างเดียวหรือไปกลับ แล้วแต่ว่าอยากเดินไปถึงไหนกันบ้าง
6. ขึ้นกระเช้าไปและเดินอีกหน่อยก็จะถึงหอสังเกตการณ์หรือ watchtower Xiaojinshan (เลข 2) ตรงนี้วิวก็สวยมากแล้ว
7. เดินไปทางทิศตะวันตกจนถึง General Tower (เลข 3) จริงๆตั้งใจจะไปจนถึง Brick Crenel แต่ว่าดูทางแล้วเปลี่ยนใจหันกลับไปทางทิศตะวันตก
8. เดินไปจนถึง East Five-Window Tower (เลข 4) และจากตรงนี้เดินลงเขาไปที่ทางออกตรง East Gate (เลข 5)

เอาล่ะๆ เตรียมตัววางแผนเสร็จแล้วไปเที่ยวกันเลย โชว์ให้ดูความคนน้อยครับ รูปนี้คือที่ซื้อตั๋วที่มีแต่เรากับพี่คนขับ รถแทรมที่นั่งไปทางเข้าที่มีแต่เรา และต่อมาก็คือที่ซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าที่มีให้ขึ้นแต่จุดเดียว กระเช้าก็จะเก่าๆหน่อยแต่ว่าก็ทำงานได้ตามจุดประสงค์

พอลงกระเช้าแล้วก็เริ่มเห็น watchtower แล้ว นี่หรือกำแพงเมืองจีนในที่สุดเราก็ได้เจอกัน พึ่งขึ้นมาถึงก็ตื่นเต้นแล้วมองไปเห็นเขาลูกไกลๆก็ยังมีหอสังเกตการณ์อยู่ คือมันทอดไปยาวแค่ไหนกัน กำแพงเมืองจีนด่านจินชานหลิ่งนี่เค้าอยู่ในเขตหลวนผิง จังหวัดเหอเป่ย คือไม่ได้อยู่ในปักกิ่งแล้วล่ะแต่ก็คุ้มที่จะมาจริงๆ

บนกำแพงยังมีน้องแมวนอนเฝ้ากำแพงอีกแน่ะ

ยืนมองอยู่นานก็ยังคิดไม่ออกว่าเราจะถ่ายรูปยังไงให้มันเห็นถึงความยาวความบ้าคลั่งของกำแพงนี่ จากตรงนี้มองตรงไปก็จะเห็น Xiaojinshan Tower มันใหญ่มาก สมัยนั้นที่สร้างจะต้องลำบากขนาดไหนคนตายขนาดไหนถึงมีสิ่งนี้เกิดขึ้นมา

หอสังเกตการณ์นี้ชื่อตั้งตามยอดเขาที่ตั้งอยู่ มีสองชั้นและนักท่องเที่ยวสามารถปีนบันไดแคบๆเพื่อไปดาดฟ้าถ่ายรูปได้ จากจุดนี้จะเห็นหอแบบเดียวกันหนาแน่นเหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ

บันไดลงจาก Xiaojinshan Tower ทำให้ใจสั่นได้นิดหน่อยจากความสูงชัน แต่ยืนบนยอดบันไดแล้ววิวมันสวยจริงๆ

เริ่มออกเดินทางสู่ทิศตะวันตกกันเลย จะเห็นนะครับว่าริมกำแพงสองฝั่งรั้วกั่นจะไม่เหมือนกันโดยฝั่งเดียวที่จะมีซี่ๆที่กำแพง อันนี้แสดงให้เห็นว่าฝั่งนั้นคือฝั่งมองโกลในอดีตและช่องตรงกำแพงก็ไว้สำหรับให้ทหารเล็งธนูออกไปหาข้าศึก

โชว์กับข้าวเที่ยวนี้หน่อย เอาของจากบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่โรงแรมมาประกอบเป็นแซนวิช บรรยากาศดีมากเวลานั่งกลางแจ้งกินข้าว ขยะต่างๆเค้าก็มีถังให้นะครับ อย่าไปทิ้งที่อื่นกัน

เดินมาแป๊บเดียวก็เห็น Xiaojinshan Tower ไกลๆ เห็นกำแพงซิ๊กแซ๊กไปมาแบบที่อยากเจอก็ดีใจแล้ว และมาเที่ยวฤดูร้อนก็จะได้ภาพภูเขาเขียวขจีแบบนี้

ตรงนี้คือ General Tower ซึ่งตรงนี้ก็จะเห็นว่ามีทั้งหอสังเกตการณ์และหลังคาบ้านพักของท่านนายพลที่ประจำการอยู่ เห็นแบบนี้แล้วสงสัยว่าทหารนายกองที่ต้องมาประจำที่นี่มันเหมือนกับ Night's Watch ใน Game of Thrones ที่เค้าส่งนักโทษหรือคนที่นายไม่รักมาอยู่มั้ยนะ

พอมายืนดูวิวออกไปทางทิศตะวันตกมันเห็นความไกลความไม่จบไม่สิ้นของกำแพงเมืองจีนมากๆ ยืนตรงนี้แล้วเห็นได้ชัดเลยว่าจาก General Tower ต่อไปต้องเดินลงและขึ้นแบบจุกๆ เลยตัดสินใจหันหลังกลับตรงนี้แหละจ้า ไปทางทิศตะวันออกที่เรานัดคนขับรถเอาไว้กันเถอะ

พอกลับมาถึง Xiaojinshan Tower แล้วเราก็จะเดินต่อไปทางทิศตะวันออกเลย มองออกไปก็จะเห็น Dajinshan Tower ที่เป็นเหมือนหอฝาแฝดกันอีกด้วย คือแปลเป็นไทยก็คือภูเขาทองเล็ก ภูเขาทองใหญ่ที่เองแหละจ้า (小 เสี่ยว = เล็ก, 大 ต้า = ใหญ่, 金 จิน = ทอง, 山 ชาน = ภูเขา)

ยิ่งเดินออกห่างจากจุดขึ้นลงกระเช้าคนก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆจากมีน้อยแล้วตอนนี้เหงามากเลย กลัวลื่นตกบันไดแล้วไม่มีคนมาเจอเราจะตายคากำแพงมั้ยนะ ยีนของมนุษย์นี่มันชอบสร้างความกลัวที่ไร้เหตุผลจริงๆ มองย้อนกลับก็สวยมองไปข้างหน้าก็ขนลุกกับความชันของบันได ที่เห็นบนยอดเขาแล้วมีหน้าต่าง 5 บานคือจุดหมายของเราเอง


คือตอนพึ่งเริ่มเดินก็จะมีคุณน้าผู้หญิงคนนึงดูเป็นมิตรมากพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง เค้าก็พยายามมาเล่าให้ฟังว่าอันนี้นะสร้างมาแล้ว 500 ปีนะน้องชาย พอเราดูหลงๆเค้าก็มาคอยบอกทางว่าไปทางนี้สิลูก เราก็ขอบคุณๆ แต่น้าเค้าแบกเป้เดินตามมาตลอดเลยทีนี้รู้ละ 555 เค้าบอกว่าซื้อหนังสือภาพกำแพงเมืองจีนสิ เป็นภาพของที่นี่เอง ตากล้องชื่อดังมากเป็นผัวน้าเอง เปิดรูปให้ดูด้วยว่าน้าก็อยู่ในภาพครอบครัว ไม่รู้ใช่มั้ยภาพมันไม่ชัด 555 ตอนแรกก็บอกไม่ซื้อล่ะครับ แต่น้าเค้ายังรออยู่ที่เดิมจนเราเดินกลับมา เลยดูรูปหน่อยแล้วรูปสวยดีมีหลายฤดูกาลที่เราคงไม่ได้มาเห็นเองก็เลยซื้อไว้ก็ได้เป็นที่ระลึก แล้วเดินมาซักพักเห็นลุงคนนี้ยืนถ่ายรูปอย่างขมักเขม้นเลยสงสัยว่าใช่ผัวน้าคนตะกี้มั้ยนะ

คือยิ่งเราเดินไปไกลร้านขนมป้าๆตามหอต่างๆเค้าไม่มีคนผ่านเลยแล้วเค้าก็พยายามขายมากแต่ของเค้ามันก็ไม่ค่อยทันสมัยแม่เหล็กเสื้อยืดหน้าตาแบบ 20 ปีที่แล้วอาจจะดูสวย ลำบากใจเล็กน้อย บ้างก็ใจอ่อนยอมซื้อ บางทีก็ต้องตัดใจ ป้าๆยายๆดูแก่ๆแล้วแต่ต้องเดินขึ้นเขามาขายของแบบนี้ตลอดเลย บางคนถึงขั้นออกตัวขอช่วยถ่ายรูปมาคุยด้วยถามไถ่อะไรๆ เศร้านิดหน่อยแต่ก็ต้องทำใจ

บ่ายๆแดดเริ่มแรงเริ่มร้อน หันไปเห็นป้ายอธิบายว่ารูๆที่กำแพงเป็นที่ระบายอากาศนะเออ สมัยก่อนเค้าก็คิดกันอย่างถี่ถ้วนจริงๆ เอามือไปจ่อแล้วเย็นจริงๆด้วย นั่งพักกินแซนวิชที่เหลือแป๊บนึง เหนื่อยแล้วอ่ะ
ชื่อสินค้า:   กำแพงเมืองจีน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่