คงเห็นผ่านตากันกับกระแส ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ ช็อกโกแลตที่ด้านในมีไส้สีเขียวๆ แปลกตาไม่เคยเห็นที่ไหน ร้านขนมในไทยต่างก็ทำออกมาขาย ตอบรับดีมานด์คนอยากชิม แถมยังไปพ่วงผสมกับเมนูเบเกอรี่ และเครื่องดื่มอื่นๆ เข้าไปอีก จนน่าสงสัยว่า เจ้าช็อกโกแลตดูไบมันมีความพิเศษยังไง
แล้วจุดเริ่มต้นของ ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ มาจากอะไร? ไส้ด้านในคืออะไร
‘ช็อกโกแลตดูไบ’ เริ่มต้นจากไวรัลอาหารบน TikTok ทั่วไป กระจายไปทั่วโลก ทำให้หลายคนต่างอยากลองชิม
ช็อกโกแลตดูไบ มีชื่อจริงๆ คือ “Can’t Get Knafeh of It” จากร้าน Fix Dessert Chocolatier ในดูไบ (Fix ย่อมาจาก “freakin’ incredible ’xperience”) แต่จากไวรัลผู้คนก็เอามาเรียกกันติดปากว่าช็อกโกแลตดูไบแทน
แรงบันดาลใจในการคิดค้นช็อกโกแลตดูไบนี้ก็มาจาก “กนาฝะ” (knafeh) ขนมหวานของตะวันออกกลางที่ทำจากคาตาอิฟี (phyllo pastry ขูดฝอย), อัตตาร์ (น้ำเชื่อมหวาน), และชั้นของชีส, พิสตาชิโอ, ครีม หรือไส้อื่นๆ
โดยช็อกโกแลตนี้ประกอบด้วยแป้งกรอบคาตาอิฟี พิสตาชิโอ และทาฮินี ทั้งหมดห่อด้วยช็อกโกแลตนม
ส่วน เอกลักษณ์ที่เป็น ไส้สีเขียวๆ ดูเหนียวๆ น่ารับประทานก็มาจากชิ้นกรอบของกนาฝะ, พิสตาชิโอ, และทาฮินี ทำให้ลักษณะออกมาคล้ายๆ กับ Reptar Bar จากการ์ตูน “Rugrats” นั่นเอง
ในส่วนของรสชาติ ก็ถือเป็นความชอบส่วนตัว ถ้าใครเคยชิมของหวานจากประเทศทางตะวันออกกลางก็จะรู้ว่ามีความหวานที่ไม่เหมือนทางบ้านเรา เอาเป็นว่าสายหวานจัดๆ ก็อาจจะอยากลองชิมกันดู ส่วนรสสัมผัสหลายคนบอกว่าตอนกัดชิมแล้วให้ความรู้สึกดี อันนี้ใครสนใจไปลองหาชิมกันได้
มาทำความรู้จักกัน "ช็อกโกแลตดูไบ" ฮอตขึ้นมาได้ยังไง?
แล้วจุดเริ่มต้นของ ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ มาจากอะไร? ไส้ด้านในคืออะไร
‘ช็อกโกแลตดูไบ’ เริ่มต้นจากไวรัลอาหารบน TikTok ทั่วไป กระจายไปทั่วโลก ทำให้หลายคนต่างอยากลองชิม
ช็อกโกแลตดูไบ มีชื่อจริงๆ คือ “Can’t Get Knafeh of It” จากร้าน Fix Dessert Chocolatier ในดูไบ (Fix ย่อมาจาก “freakin’ incredible ’xperience”) แต่จากไวรัลผู้คนก็เอามาเรียกกันติดปากว่าช็อกโกแลตดูไบแทน
แรงบันดาลใจในการคิดค้นช็อกโกแลตดูไบนี้ก็มาจาก “กนาฝะ” (knafeh) ขนมหวานของตะวันออกกลางที่ทำจากคาตาอิฟี (phyllo pastry ขูดฝอย), อัตตาร์ (น้ำเชื่อมหวาน), และชั้นของชีส, พิสตาชิโอ, ครีม หรือไส้อื่นๆ
โดยช็อกโกแลตนี้ประกอบด้วยแป้งกรอบคาตาอิฟี พิสตาชิโอ และทาฮินี ทั้งหมดห่อด้วยช็อกโกแลตนม
ส่วน เอกลักษณ์ที่เป็น ไส้สีเขียวๆ ดูเหนียวๆ น่ารับประทานก็มาจากชิ้นกรอบของกนาฝะ, พิสตาชิโอ, และทาฮินี ทำให้ลักษณะออกมาคล้ายๆ กับ Reptar Bar จากการ์ตูน “Rugrats” นั่นเอง
ในส่วนของรสชาติ ก็ถือเป็นความชอบส่วนตัว ถ้าใครเคยชิมของหวานจากประเทศทางตะวันออกกลางก็จะรู้ว่ามีความหวานที่ไม่เหมือนทางบ้านเรา เอาเป็นว่าสายหวานจัดๆ ก็อาจจะอยากลองชิมกันดู ส่วนรสสัมผัสหลายคนบอกว่าตอนกัดชิมแล้วให้ความรู้สึกดี อันนี้ใครสนใจไปลองหาชิมกันได้