อะดิและชามาน เด็กชายตัวป่วน 2 คนแห่งหมู่บ้านเล็กๆอย่างจาติจาจาร์ในอินโดนีเซีย
ทั้ง 2 ชอบมาโรงเรียนสายเป็นประจำ ไม่ค่อยรับผิดชอบสักเท่าไหร่
โดยเฉพาะซามานที่ต้องคอยดูแลยายที่ป่วยติดเตียงแทนพี่ของตนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน แต่ก็หวังพึ่งอะไรไม่ค่อยได้.....
วันนึงเด็กทั้ง 2 เลือกทางกลับบ้านโดยใช้เส้นทางผ่านป่าที่คนในหมู่บ้านไม่ค่อยไปกัน
เนื่องทางสถานที่แห่งนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้วเคยเกิดเหตุร้ายมาก่อน และหลังจากวันนั้นความชั่วร้ายบางอย่างก็ได้ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
Waktu Maghrib เป็นหนังสยองขวัญของอินโดนีเซียเพื่อนบ้านเราครับ
ซึ่งต้องบอกว่าอุตสาหกรรมหนังสยองขวัญที่นั่นบูมสุดๆ เป็นที่นิยมอย่างมาก มีการสร้างหนังแนวนี้มากมาย
และแน่นอนว่าเค้าก็นำเข้าหนังแนวนี้เข้าบ้านเค้าเยอะเช่นกัน จากประเทศไทยของเราก็ไปฉายที่นั่นด้วยครับ
ล่าสุดก็หนังพี่มาก เค้าก็ซื้อลิขสิทธิ์เราไปรีเมคแบบถูกต้อง เรียกได้ว่าคนอินโดฯ ชอบหนังผีกันจริงจังเหลือเกิน
ที่ผมเรียกว่าหนังสยองขวัญไม่เรียกว่าหนังผี เพราะว่าความเชื่อของศาสนาอิสลามเค้าไม่มีผีนะครับ
คนที่ตายไปแล้วนั้นถือว่าเขาได้จบกับทุกอย่างบนโลกมนุษย์ไปแล้วไม่มีทางกลับมาได้อีก
โดยผู้ที่จากไปจะไปรวมกันอยู่ในโลกที่เรียกว่าอะลัมบัรซัร โลกที่ 2 ต่อจากดุนยา (โลกที่ใช้ชีวิตกันอยู่)
อะลัมบัรซัรจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนเฝ้ารอวันพิพากษาเพื่อที่จะตัดสินว่าเราได้ไปต่อยังสวรรค์ (ญันนะฮ์) หรือนรก (ญะฮันนัม) ต่อไป
ดังนั้นหากเราเห็นคนที่จากไปในโลกที่เรากำลังอยู่เวลานี้ล่ะ สิ่งนั้นคืออะไร... ในที่นี้มันคือ ญิน ครับ
ญิน มีทั้งดีและไม่ดี แต่ถ้าเห็นแสดงเป็นเหมือนคนที่ตายไปแล้วและกลับมา
พวกนั้นมักจะมาปั่นป่วนและก่อกวนมนุษย์ให้หลงผิด นำพาไปสู่ความชั่วร้ายต่อไป
ญินในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกันครับ คอยล่อลวงเด็ก โดยประเด็นหลักของหนังก็คืออย่ากลับบ้านค่ำมืดเพราะสิ่งชั่วร้ายจะมาหาเรา
นั่นล่ะครับคือญินที่ว่า.. หนังเล่าเรื่องย้อนอดีตกลับไปยังจุดเริ่มต้นเมื่อ 30 ปีก่อนว่ามีอะไรเกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้
ก่อนที่จะโยงทุกอย่างมาถึงช่วงเวลาปัจจุบันผ่านชีวิตของเด็กชายสองคนอย่างอะดิและซามาน
ซึ่งถือว่าทำได้ดีครับ นำเสนอได้น่าสนใจ งานโปรดัคชั่นก็ดีภาพสวย บรรยากาศในหมู่บ้านทำให้คนดูรู้สึกหวาดระแวงตามได้ง่ายๆ
แต่ว่าหนังมีภาพสยดสยองหลายซีนที่แบบว่าเห้ย เด็กเล่นนะนั่นแต่ภาพออกมารุนแรงมาก ไม่มีปราณีกับผู้ชมเลยครับ
ดังนั้นถ้าจัดเรตความรุนแรงก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมทั่วไป
ผมดูหนังเรื่องนี้ก็ได้แต่ลุ้นตามไป คือก็ลุ้นตามหนังไปด้วยนะครับ แต่ที่ลุ้นสุดๆคือเรื่องของบท ว่าจะปิดฉากได้ว้าวอย่างที่ตั้งใจไว้มั้ย
หรือจะมีอะไรที่หลุด QC หรือป่าว... จนกระทั่งสุดท้ายก็จริงอย่างที่คิด ทุกอย่างปูทางมาดีมาก แต่มาตกม้าไม้ในช่วงท้ายจริงๆ..
ปมหลายอย่างไม่เคลียร์ แม้ว่าจะไม่ได้คาดหวังแต่แรกกะดูเอาเพลินๆ แต่ก็แอบเอาใจเชียร์อยู่บ้างว่าน่าจะจบได้ดีกว่านี้
แต่โดยรวมถือว่าใช้ได้ครับ น้องๆนักแสดงเด็กเล่นดีมาก ยิ้มแต่ละทีมีหลอน มีหักมุมหลอกคนดูให้หัวทิ่มอีกต่างหาก..
ส่วนซีนให้คนดูต้องตกใจสะดุ้งโหยงบ้างครับแต่ไม่มาก ดูเอาสนุกถือว่าเปิดโลกหนังสยองขวัญเพื่อนบ้านของเราซึ่งมีเยอะแบบสุดๆ
(ย้ำอีกครั้งว่าตลาดหนังของเค้ามีความต้องการบริโภคหนังแนวนี้มากจริงๆ).. ถ้ามีโอกาสผมจะนำมาฝากกันอีกครับ ^^
ตอนนี้ผมมีเพจหนังล่ะน๊าาา เข้าไปตามกันได้นะครับ
ชื่อว่าาาาาาาาาา เพราะหนังมันฝังใจ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61565624000043
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Waktu Maghrib (2023) มา..เล่น..กันเถอะ... มา.. เล่น .. กัน.. เถอะ ==
อะดิและชามาน เด็กชายตัวป่วน 2 คนแห่งหมู่บ้านเล็กๆอย่างจาติจาจาร์ในอินโดนีเซีย
ทั้ง 2 ชอบมาโรงเรียนสายเป็นประจำ ไม่ค่อยรับผิดชอบสักเท่าไหร่
โดยเฉพาะซามานที่ต้องคอยดูแลยายที่ป่วยติดเตียงแทนพี่ของตนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน แต่ก็หวังพึ่งอะไรไม่ค่อยได้.....
วันนึงเด็กทั้ง 2 เลือกทางกลับบ้านโดยใช้เส้นทางผ่านป่าที่คนในหมู่บ้านไม่ค่อยไปกัน
เนื่องทางสถานที่แห่งนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้วเคยเกิดเหตุร้ายมาก่อน และหลังจากวันนั้นความชั่วร้ายบางอย่างก็ได้ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
Waktu Maghrib เป็นหนังสยองขวัญของอินโดนีเซียเพื่อนบ้านเราครับ
ซึ่งต้องบอกว่าอุตสาหกรรมหนังสยองขวัญที่นั่นบูมสุดๆ เป็นที่นิยมอย่างมาก มีการสร้างหนังแนวนี้มากมาย
และแน่นอนว่าเค้าก็นำเข้าหนังแนวนี้เข้าบ้านเค้าเยอะเช่นกัน จากประเทศไทยของเราก็ไปฉายที่นั่นด้วยครับ
ล่าสุดก็หนังพี่มาก เค้าก็ซื้อลิขสิทธิ์เราไปรีเมคแบบถูกต้อง เรียกได้ว่าคนอินโดฯ ชอบหนังผีกันจริงจังเหลือเกิน
ที่ผมเรียกว่าหนังสยองขวัญไม่เรียกว่าหนังผี เพราะว่าความเชื่อของศาสนาอิสลามเค้าไม่มีผีนะครับ
คนที่ตายไปแล้วนั้นถือว่าเขาได้จบกับทุกอย่างบนโลกมนุษย์ไปแล้วไม่มีทางกลับมาได้อีก
โดยผู้ที่จากไปจะไปรวมกันอยู่ในโลกที่เรียกว่าอะลัมบัรซัร โลกที่ 2 ต่อจากดุนยา (โลกที่ใช้ชีวิตกันอยู่)
อะลัมบัรซัรจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนเฝ้ารอวันพิพากษาเพื่อที่จะตัดสินว่าเราได้ไปต่อยังสวรรค์ (ญันนะฮ์) หรือนรก (ญะฮันนัม) ต่อไป
ดังนั้นหากเราเห็นคนที่จากไปในโลกที่เรากำลังอยู่เวลานี้ล่ะ สิ่งนั้นคืออะไร... ในที่นี้มันคือ ญิน ครับ
ญิน มีทั้งดีและไม่ดี แต่ถ้าเห็นแสดงเป็นเหมือนคนที่ตายไปแล้วและกลับมา
พวกนั้นมักจะมาปั่นป่วนและก่อกวนมนุษย์ให้หลงผิด นำพาไปสู่ความชั่วร้ายต่อไป
ญินในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกันครับ คอยล่อลวงเด็ก โดยประเด็นหลักของหนังก็คืออย่ากลับบ้านค่ำมืดเพราะสิ่งชั่วร้ายจะมาหาเรา
นั่นล่ะครับคือญินที่ว่า.. หนังเล่าเรื่องย้อนอดีตกลับไปยังจุดเริ่มต้นเมื่อ 30 ปีก่อนว่ามีอะไรเกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้
ก่อนที่จะโยงทุกอย่างมาถึงช่วงเวลาปัจจุบันผ่านชีวิตของเด็กชายสองคนอย่างอะดิและซามาน
ซึ่งถือว่าทำได้ดีครับ นำเสนอได้น่าสนใจ งานโปรดัคชั่นก็ดีภาพสวย บรรยากาศในหมู่บ้านทำให้คนดูรู้สึกหวาดระแวงตามได้ง่ายๆ
แต่ว่าหนังมีภาพสยดสยองหลายซีนที่แบบว่าเห้ย เด็กเล่นนะนั่นแต่ภาพออกมารุนแรงมาก ไม่มีปราณีกับผู้ชมเลยครับ
ดังนั้นถ้าจัดเรตความรุนแรงก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมทั่วไป
ผมดูหนังเรื่องนี้ก็ได้แต่ลุ้นตามไป คือก็ลุ้นตามหนังไปด้วยนะครับ แต่ที่ลุ้นสุดๆคือเรื่องของบท ว่าจะปิดฉากได้ว้าวอย่างที่ตั้งใจไว้มั้ย
หรือจะมีอะไรที่หลุด QC หรือป่าว... จนกระทั่งสุดท้ายก็จริงอย่างที่คิด ทุกอย่างปูทางมาดีมาก แต่มาตกม้าไม้ในช่วงท้ายจริงๆ..
ปมหลายอย่างไม่เคลียร์ แม้ว่าจะไม่ได้คาดหวังแต่แรกกะดูเอาเพลินๆ แต่ก็แอบเอาใจเชียร์อยู่บ้างว่าน่าจะจบได้ดีกว่านี้
แต่โดยรวมถือว่าใช้ได้ครับ น้องๆนักแสดงเด็กเล่นดีมาก ยิ้มแต่ละทีมีหลอน มีหักมุมหลอกคนดูให้หัวทิ่มอีกต่างหาก..
ส่วนซีนให้คนดูต้องตกใจสะดุ้งโหยงบ้างครับแต่ไม่มาก ดูเอาสนุกถือว่าเปิดโลกหนังสยองขวัญเพื่อนบ้านของเราซึ่งมีเยอะแบบสุดๆ
(ย้ำอีกครั้งว่าตลาดหนังของเค้ามีความต้องการบริโภคหนังแนวนี้มากจริงๆ).. ถ้ามีโอกาสผมจะนำมาฝากกันอีกครับ ^^
ตอนนี้ผมมีเพจหนังล่ะน๊าาา เข้าไปตามกันได้นะครับ
ชื่อว่าาาาาาาาาา เพราะหนังมันฝังใจ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61565624000043
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===