รอชนเป็นฝ่ายถูก ประกันคืน ทุน แต่ใด้ค่าชดใช้แค่ 15,000 บาท

ขออนุญาติ ตั้งคำถามอีกรอบครับผม
โพสเก่าน่าจะ ไม่เด้ง ขึ้นมา ให้คนได้เห็นแล้ว



สวัสดีครับ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567
ผมได้เกิดรถชน ที่ ซอยรัชดา 36  ทาง สน แจ้งว่าผมเป็นฝ่าย ถูก

ผมบาดเจ็บเล็กน้อยรักษาตามปกติ
วันที่ 9 กันยายน 2567
ก็ไปเบิกค่ารักษากับทางประกันคู่กรณีตามปกติ  7500 บาท
แฟน อีก ประมาณ 5,000 บาท  

วันที่10 กันยายน ทางประกันโทรมาหาผมว่า
รถผมได้เกิดความเสียหายต้องคืนทุนประกัน   370,000 บาท
ซึ่งผมได้ เหลือค่างวดที่ต้องจ่าย อีก 360,000 บาท เงินจะเหลือถึงผม ประมาณ
10,000  บาท  



เมื่อทำเรื่องคืนทุนประกันเสร็จ ในวันที่ 8 ตุลาคม2567 ผมได้เข้าไป หาทางประกัน
คู่กรณี ในวันนั้นเลย  เค้าแจ้งว่า จะชดใช้แค่ 15,000 บาท เป็นค่า ขาดประโยชน์การใช้รถ
ผมเลยเกริ่นกับทางประกันคู่กรณีไปว่า จะลองไปปรึกษา คปภ ก่อน เค้าก็เลยบอกผมว่า
อาจจะเพิ่มให้ จาก วันละ 500 เป็น 600-700 บาท ส่วนค่าส่วนต่าง ขอคุยกับหัวหน้าก่อน
15 วัน  ระหว่างรอเค้าคุยกับ 15 วัน วันนี้ 10 ตุลาคม 2567 เลยได้เข้าไปคุยปรึกษา กับทาง
คปภ ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้  เค้าฟังแล้ว บอกว่า เรื่องจบยากแน่ๆ เพราะยอดที่ ผมเรียกไปมัน
สูง  ผมเรียกไป 380,000 บาท  เพราะคิดว่า เราไม่ใช่คนผิด แล้วทำไม เรามีแต่เสีย กับ เสีย
คนที่ชนเรา ก็ไม่ได้ เดือดร้อนเท่าเรา เลย ปีหน้า เบี้ยประกันเค้า ก็ขึ้น ราคานิดหน่อย
แต่ผมเสียเป็น แสน     ทาง คปภ เลยแนะนำผมให้ ทำเรื่องกับ อนุญาโตตุลาการ น่าจะจบ
ง่ายกว่า จะมีค่า วางเรื่อง 10,000 บาท คือตอนนี้ เงินผม หมดแล้ว  ต้องไป ยืมคนอื่นมา
ดาวน์รถคันใหม่ก่อน ไม่ได้กะแดะ นั่งรถเมล์ไม่ได้นะครับ  แต่ช่วงทำเรื่องพวกนี้ มันเดินทาง
เยอะจริงๆ ทั้งต้อง โดนฝน  รอรถนาน จนผมหมดแรง และผมใช้รถไปซื้อของมาขายด้วย

รถผม เสียหาย ทั้งคัน  ผ่อนไป 34 งวด 7769 * 34 = 264,146
ดาวน์ ไป 124,837 บาท
รวมแล้วผมเสียหาย 388,983 บาท

มีใครเคยเจอเคสแบบนี้บ้างครับ แล้วจบกันได้ยังไง
ช่วยแนะนำด้วยครับ เพราะคิดว่า ทางนั้น คงไม่จ่าย อย่างน้อย ได้สัก แสน สอง แสน ก็ยังดี

ผมไม่ได้อยากได้อะไรเลย แค่อยากให้ผมกลับมา
สภาพเดิม เท่านั้นเองครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
กระทู้นี้ (ถ้าหากเป็นเรื่องจริง) ปกติแล้วค่าเสียหายเขาว่ากันเป็นหลายแสน เลยนะ..
ลำพังแค่การโพสต์ขอความเห็นกันในที่นี้.., เชื่อว่า เรื่องของท่าน น่าจะมิได้เร่งรัดชำระสะสางตามกระบวนการ, ในทางที่เป็นสาระประโยชน์ได้มากนัก..
ที่สำคัญ.. ท่านควรที่จะไปปรึกษากับ,  ผู้รู้จริงที่มีศักยภาพจัดการได้, หรือผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงเสียเลยจะดีกว่า, และควรปรึกษากับทนายความอาวุโส.ด้านคดีประกันภัย,  คดีอุบัติเหตุรถชน, คดีจราจรทางบก, หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ.ที่ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน, อย่างนี้น่าจะเป็นการที่ดีกว่า..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่