ผมคบกับแฟนมา 7 ปีลูก 1 คน คือผมไม่ใช่คนดีหรอกผมอ่ะเลวคนนึงเลยอ่ะแต่ผมมันมีจุดเปลี่ยนที่ทำให้คิดได้ตรงที่ว่าผมติดคุกแล้วไม่มีใครไปเยี่ยมผมก็เลยพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเป็นคนโกหกก็ไม่โกหกจับเป็นคนไม่ยอมรับความจริงก็จะเผชิญหน้าความจริง
คือแฟนผมครับแรกๆเขาก็ดีนะ แต่พอเราย้ายไปอยู่จังหวัดผ่านทางภาคใต้ แรกๆมันก็ยังตั้งหลักกไม่ได้ยังไม่ได้ก็ยังมีทะเลาะ ยังจับจุดไม่ได้ จะเชื่อไหมครับว่าทุกๆหอที่เราอยู่ภูเก็ตมา 5 หอ ไม่เคยได้ออกแบบดีๆเลยเพราะทุกๆเดือนจะมีคนมาทวงโดนล็อคห้องทวงค่าเช่าหนักสุดคือหนีจะหอโดยที่ผมก็ไม่รู้เพราะว่าเขาบอกผมว่าจ่ายหมดแล้ว ผมมารู้วิธีตอนผมย้ายขึ้นมาที่กทมแล้ว ทุกๆเดือนผมให้เขาหมด บางเดือนมากบางเดือนน้อย แต่ทุกๆเดือนที่ผมให้ มันพอจ่ายทั้งค่าหอค่ารถค่ามอเตอร์ไซค์
และในระหว่างอยู่ภูเก็ตมันจะมีเรื่องเช่นโกหกผมว่าจะกลับไปเซ็นเอกสารที่กรุงเทพฯแต่จริงๆแล้วแอบกลับบ้านคนเดียวเพื่อไปหาลูกเรา และได้เงินมาโควิดก่อนได้ระวังไว้แล้วว่า 1 2 3 4 แต่พอเขาได้มาเขาหายไป 2-3 วันด้วยติดต่อไม่ได้ กลับมาเงินเหลือ 20,000 บาทเขามีข้ออ้างทุกอย่างรวมถึงการโกหก ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือนผมอ่ะได้ค่าคอมมา 70,000-8 ผมแบ่ง 1 2 3 4 ที่ผมคิดไว้เลยจากเราไม่ได้กลับบ้าน 5 ปีพอได้เงิน 80,000 บาทมาผมพาเขากลับบ้านได้ซื้อโทรศัพท์ใหม่ได้ แถมยังมีเงินเก็บซื้อทอง แถมยังมีเงินเหลือไปไว้ใช้ยันเมษายน ผมไม่ปิดสักบาท แล้วมันจะมีเรื่องย่อยๆคือเขาเหมือนเป็นคนที่ชอบโกหกอยู่กับโลกหรืออยู่กับคำว่าโกหกเป็นนิสัยไม่ว่าจะเรื่องเล็กแค่ไหนจนกระทั่งเรื่องใหญ่แค่ไหนขอให้ได้โกหกเพื่อให้ตรงนั้นผ่านๆไปก่อน ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ไม่รอดมาให้ผมแก้เช่น แอบไปกู้ตังเขาตอนไปกู้เราไม่รู้นะ แต่ตอนใช้ผมใช้ เป็นอย่างนี้มา 2-3 รอบ แต่พอผมถามก็มาใช้ด้วยกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใช่หรอผมมองว่าช่วงนั้นน่ะผมก็ทำงานรายได้เยอะมากเลยนะไม่ได้อดมีทุกอย่าง ซึ่งเขาเป็นคนโกหกได้แทบทุกเรื่อง สุดท้ายแล้วเพราะผมรู้ทุกอย่างผมก็อยากให้อภัยเขาครับเพราะว่าเขาวารักแล้วเพราะว่าลูก ผมโดนกระทำมาตลอดเขาจะเห็นแก่ตัวก็ต่อเมื่อเขามีเงินแต่ผมเวลามีเงินผมจะเห็นแต่ครอบครัวผมจะเห็นแต่อนาคต ต้นเราย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ อย่างที่บอกครับผมมารู้เรื่องหอสุดท้ายตอนมาถึงกรุงเทพฯเพราะเขาโทรมาหาผมแล้วเขาโพสประจานแฟนผม วันนั้นที่ผมรู้ผมอยากจะเลิกมากเลยเพราะเราอยู่กรุงเทพฯแล้ว แต่ผมก็ยังเคคคติประมาณว่ากูจะกลับบ้านหรือสภาพนี้หรอ และแล้วผมก็ยังให้โอกาสเขา
ก็เหมือนเดิมมาอยู่นี่ก็ยังตั้งหลักไม่ได้แรกๆจนวันนึงผมต้องไปส่งรถที่ต่างจังหวัดซึ่งห่างจากกรุงเทพฯประมาณเกือบ 800 กิโลเมตร ซึ่งผมไม่มีเงินไป แล้วผมต้องเติมน้ำมันไป ซึ่งก่อนหน้าจะไปประมาณ 3 วันผมได้ให้เงินเขาไปประมาณ 40,000 บาทซึ่งมันเป็นค่าคอมของเขาแหละ แต่ผมไปส่งรถ 800 กิโลเมตรอ่ะผมไม่มีเงินติดตัวหนึ่งแล้วเขาก็ไม่โอนเงินมาแล้วเขาก็โอนน้ำมันมาทีละ 500 500 ซึ่งผมก็ทะเลาะกับเขาทั้งทางเลยแต่ไม่ได้ไปด้วยกันนะ ทะเลาะกันทั้งทางเลยจนผมถึงที่หมาย ผมต้องหาทางกลับเองอ่ะ ซึ่งไม่มีตังค์ไม่กินข้าวเลย กลับมาถึงผมได้รู้ว่าแฟนผมอ่ะของกลับไปบ้านแล้ว ช่วงนั้นเครียดมากเหมือนกูโดนทิ้งอีกแล้วหรอ แล้วมาอยู่นี่ก็ยังไม่คุ้นอะไรต้องทำยังไง จนมีวันหนึ่งผมแขวนคอตัวเองแต่เชือกที่มัดหลุด ผมได้สติผมก็โทรหาแม่แม่ก็บ่น บวกกับมีปัญหากับพี่ที่มาด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นผมอ่ะก็เลยไปทำงานที่มันแบบได้เงินประจำก่อน เงินเดือนมันก็เยอะ แล้วช่วงที่ผมทำงานเขาก็เริ่มแบบกลับมาคุยแต่เขาอ่ะย้ายอยู่อีกที่นึงนะอยู่คนละที่ผมเขาไปทำงานกลางคืน แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอเพราะว่าผมก็ยังโมโหเขาแต่ช่วงนั้นน่ะเราต้องไปเอารถมอเตอร์ไซค์จากใต้ขึ้นมา ซึ่งผมก็ได้รู้ความจริงเพิ่มคือเขาไม่ให้เพราะมันไปกู้เงินมา 10,000 บาท และไม่ยอมส่งเขาเขาเลยยึดรถมอเตอร์ไซค์ค้ำไว้ อย่างที่คิดครับมันโทรมาร้องไห้เชื่อไหมว่าวันนั้นน่ะผมจำได้ผมไลฟ์สดอยู่ มันโทรเป็นร้อยสายจนกว่าผมจะรับอ่ะมันไม่สนอะไรทั้งนั้นพอมันรับสายปุ๊บมันก็เล่าให้ผมฟังผมก็ด่าสุดท้ายแล้วผมก็ต้องช่วยมันอยู่ดี ผมก็เลยไปขอเบิกเงินเจ้านายก่อนจำได้เลยเบิกมา 4,800 บาท แต่ก่อนให้ผมบอกมาแล้วนะว่าออกแค่ครึ่งเดียวกูช่วยได้แค่นี้ แล้วพี่เชื่อป่ะพอสิ้นเดือนมันมาเอาอีกคืออ้างทุกอย่างอ่ะเอาแต่ใจเห็นแก่ตัว สรุปค่ารถคันนี้ผมเสียไปเกือบหมื่นแทนที่ผมมาจะได้เอาไปให้แม่เพราะผมยืมแม่มาเปิดค่าหอผมคนเดียว ตลาดนัดผมก็เริ่มห่างมันแล้วผมก็เริ่มไปทำงานขับรถรับพสุด แล้วคือที่ทำงานเก่าผมอ่ะเขาไล่ผมออกผมก็เลยไปร้องกรมแรงงานแล้วทีนี้ผมจะมีเงินก้อนนึงถูกไหมครับซึ่งผมไปบอกใครทั้งนั้นแหละไม่ให้ใครรู้เลยพอผมออกมาผมเอาให้แม่เพราะตอนนั้นผมทำงานส่งพัสดุรับพัสดุเนี่ยมารายเดือนและเงินมันก็อยู่ใช่ไหมผมทำงานรับพัสดุมาปีกว่า แล้วผมอยู่คนเดียวมีความสุขมากงานเหนื่อยจริงมีเงินจริงแล้วเราก็ จัดสรร เงินตัวเองได้ ผมมีแฟนใหม่มันก็ระรานคือจากที่ไม่เคยเจอกันปี โดยที่มันคุยกับแม่ตลอดแล้วแม่ผมรักมันแม่ก็ ชอบโทรมาคุยแล้วก็พูดเรื่องมันว่าให้โอกาสนู่นนี่นั่น ตอนแรกๆก็โอเคแม่ตามใจแต่เรายังแยกกันอยู่นะพี่ จนกระทั่งผมออกจากขนส่ง ด้วยความที่แบบว่าเขาอยากอยู่ใกล้ๆอะไรเงี้ยก็เลยเอาเราไปทำงานที่โน่นด้วยก็ไปเป็นการ์ดก็ยุทั้งแม่ทั้งเขาเลยว่าดีนู่นนี่นี่นั่น ผมก็ยังไปๆมาๆแต่ระหว่างนั้นก็คย ว่าก่อนที่คบกันน่ะขอได้ไหมอย่าโกหกขอแค่เรื่องเดียวเนี่ย ก็เห็นอยู่ว่าการโกหกอ่ะมันไม่รอดหรอกยังไงกูก็รู้ทำไมไม่พูดไปเลยมันก็สัญญานู่นนั่นนี่ สุดท้ายแล้วหนักกว่าเดิม หลังจากที่ตกลงกันสักพักนึงก็ย้ายไปอยู่หอเดียวกันซึ่งเป็นของที่ผมเปิดเนี่ย ที่นี่ก็เริ่มสร้างวีรกรรมใหญ่เลย อยากรู้เรื่องเล็กๆก็จะเอาเงินเลยแต่อ้างคนอื่นว่าเออเนี่ยพี่คนนึงเขายืมเงินจะคืนวันพฤหัสบดีนะพอถึงพฤหัสบดีก็ไม่คืนสรุปมันเอาไปเขาก็จะโกหกเดิมเลยแต่เรื่องที่หนักสุดคือไม่ให้เขาป่วยเราเข้าใจแต่พี่ใช่ป่ะเขาบอกผมวันนี้เขาไปพรุ่งนี้เลย ไม่ทันได้เตรียมตัวทั้งๆที่เขารู้มาแล้วตั้งนานนะ เราไม่เป็นไรแต่เราคุยกันก่อนนะว่าแล้วค่าห้องอ่ะจะช่วยไหม เขาบอกผมว่าอ๋อคุยกับแม่กับป้าแล้วเออเดี๋ยวโอนเงินมาให้เดือนละ 3,000 บาทมาช่วย แล้วเขาก็เอารถยนต์ไปด้วยซึ่งมันตัดแขนตัดขาผมเลยในการทำงานเพราะผมต้องใช้รถมันก็ไปไหนลำบากทำงานลำบากขึ้น
หลังเข้าไปเขาไม่เคยติดต่อผมเลยถึงเวลาที่เขาต้องโอนเงินมาให้ผมเขาไม่โอนเขาบอกว่าไม่มี คือง่ายๆเลยพี่ภาระทุกอย่างอ่ะอยู่กับผมหมดเลยภาคมาหาผมหมดเลยโดยที่ก่อนไปพูดอย่างนึงแต่พอไปแล้วพูดอย่างนึงโทรไปไม่รับแต่ก่อนหน้านั้นน่ะคือแม่เขาไม่รู้นะว่าเราอยู่ด้วยกันผมก็เลยถามเขาว่าอ่ะแล้วบอกแม่ยังไงว่าค่าหออ่ะเรื่องค่าหออ่ะมันบอกแม่ว่าอ๋อค่าหออ่ะเจ้าของหอเห็นว่าไม่อยู่ก็เลยไม่เก็บ คือแบบตลก แล้วพี่เชื่อไหมว่าผมอยู่อย่างนั้นน่ะตั้งแต่มกราคมปีนี้ เดือนเมษายนพฤษภาคม แล้วมันก็แบบกลับมาแบบทำเป็นไม่มีอะไร แต่พี่เชื่อไหมตอนที่มันไม่อยู่อ่ะผมก็เศร้าแค่เดือนสองเดือนผมก็เลยต้องสู้จากไม่มีเลยอ่ะพี่ผมทำลำโพงขายผมมีโทรศัพท์ผมทำงานประจำผมมีเงินให้แม่ผมมีเงินเหลือเก็บผมมีเงินเหลือใช้ซึ่ง 4-5 เดือนนี้มันไม่เคยออกสักบาทเลย แถมกลับมาเอาปัญหามาอีกมีปัญหาเรื่องรถคนที่บ้านช่วยไม่ได้สุดท้ายก็ต้องเป็นผมที่ต้องออกไปหาขายให้เขาอ่ะ แต่พอเขากลับมาพี่จากของที่เรามีเช่นโทรศัพท์มือถือหรือลำโพงโน่นนี่นั่นเราก็เริ่มไม่พอแล้วเพราะเขาอ่ะกลับมาเดือนเดียวแล้วเขาก็ออกแล้วเขาหางานทำครึ่งเดือนเงินเดือนเขาก็ได้ไม่ครบนู่นนี่นั่นเราก็ต้องเอาไปขายจนขายจนไม่มีอะไรขายพี่ ตั้งแต่เมษายนพฤษภาคมจนถึงเดือนนี้ปัจจุบันแต่เขามีงานทำนะเขาทำงาน 3-4 เดือนน่ะเงินเดือน 14,000 บาทได้ 11,000 บาทมีเดือนนึงได้ 20,000 กว่าคือไม่เคยได้ 14,000 บาทอ่ะเพราะว่าเขาทำงานสาย โดนหัก 3,000 บาท ซึ่งที่ทำงานใช้เงินวนละ 200 บาท ไม่รวมกินเย็นที่ผมต้องให้
ซึ่งผมหาหมุนหาขายทำทุกอย่างผมทำอาชีพหลักด้วยแล้วก็รับจองเลข ทำลำโพงบลูทูธด้วย อ๋อได้โทรศัพท์ดีซื้อโทรศัพท์เครื่องนึงจนวันนี้ผิวขายเพราะว่าเงินไม่พอเขาให้เงินมาจริงพี่แต่เหมือนเงินที่เขาให้มาผมก็ให้เขาไปคืนอ่ะแต่มาอยู่กรุงเทพฯอ่ะผมบริหารเรื่องเงินค่าหอค่ารถค่าอะไรไม่มีปัญหาเลยไม่เคยมีทวง ตอนแรกเดือนแรกเงินไม่พอผมก็หมุนเขาก็บอกผมว่าผมบริหารไม่ดี ผมไม่ได้ตัดสินใจเดือนที่ 2 แยกกันแยกเงินในกระเป๋าเลยแต่ใครใจมันแต่ว่าค่าของค่าหออะไรเงี้ยทุกอย่างจ่ายคนละครึ่ง พี่เชื่อไหมเงินเขาหมดตั้งแต่ 16 อ่ะ ก็ต้องอยู่ไปถึงสิ้นเดือนพี่ว่าเขาเอาเงินจากใครอ่ะ ก็ผมอีกผมก็ต้องหมุนอย่างเงี้ยซึ่งผมเป็นอย่างเงี้ยอึดอัดมานาน จนทุกๆวันนี้มันก็ยังทำงานที่เดิมยังไม่หาอาชีพเสริมวันนึงกลับมาฟังแต่สตรีมเกมไม่ช่วยหา แต่จะเอา พูดเข้าข้างตัวเองแต่ไม่พูดความจริง เรื่องทั้งหมดเลยที่ผมเจอมาผมอึดอัดแต่ถามว่าที่ผมพูดวันนี้เพราะอะไรเพราะว่าการที่เขาหนีไปครั้งล่าสุดไปเฝ้าแม่อ่ะ มันทำให้ผมรู้ว่าเฮ้ยชีวิตกูอยู่คนเดียวกูก็อยู่ได้นี่หว่า เพราะตอนที่เราอยู่คนเดียวเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องอะไรเลยพี่ happy อาจจะมีปัญหาที่ทิ้งกูแรกๆเพราะไม่ช่วยกูจ่ายอย่างที่พูดแต่กูอยู่ได้อ่ะ แต่พวกกลับมามาเผาผลาญกูอีกแล้วรวมถึงเอาการโกหกเอานิสัยเดิมๆมาใช้การเห็นแก่ตัว
ที่ผมเล่าทั้งหมดอยากถามพี่ๆว่าผมควรทำยังไง ผมควรเลิกหรือควรให้โอกาส ถ้าผมควรเลิกผมควรพูดกับเขายังไง เพราะคนอย่างเขาเอาแต่ตัวเอง มองตัวเองถูกคนอื่นผิดทั้งๆที่มาหาอยู่คนเดียว ผมอยากเลิกเขานะเขาไม่ไปเขาไม่มีที่ไป
ผมควรทำยังไงดีครับกับคนแบบนี้ตอนนี้มันสุดแล้วจริงๆเพราะอายุ 2 คนตอนนี้ก็ 32 33 แล้ว
ถ้าเขาเห็นกระทู้นี้ ผมพูดอะไรผิดพลาดไม่จริงผมอยากให้เขามาแย้งได้เลย ถ้าเรื่องไหนไม่จริงแย่งมาได้เลย
จนตอนนี้ที่ผมพิมพ์อยู่ก่อนไปหรือทั้งคืนมันฟัง มันฟังแต่ steam เกม ไม่ได้ช่วยคิดหรือช่วยหารอแต่เงินไปทำงาน ซึ่งตอนนี้ผมมีเงินอยู่ 1,500 บาทผมก็แบ่งครึ่งแล้วนะให้เขาไปให้เขาไปบริหารจัดการเอง เพิ่งยืนยันคำเดิมทีว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ผมไม่รู้จะพูดกับเขายังไงเพราะเขาไม่ยอมรับความจริงเขาเอาตัวเองมาศูนย์กลางพี่ๆเพื่อนๆผมคทำยังไงดีครับพูดยังไงดีผมอยากให้เขาลองย้ายไปอยู่คนเดียวดูว่าถ้าเขาเก่งเขาพูดจริงๆทั้งหมดอ่ะเขาต้องอยู่คนเดียวแล้วบริหารเงินได้ เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้ครับ
คบกับแฟนมา 7 ปี แรกๆก็ดี 3-4 ปีหลังความเห็นแก่ตัวคำวสอบถามครับถ้าแฟนเพื่อนๆพี่ๆเป็นแบบนี้ทำยังไงดีครับ
คือแฟนผมครับแรกๆเขาก็ดีนะ แต่พอเราย้ายไปอยู่จังหวัดผ่านทางภาคใต้ แรกๆมันก็ยังตั้งหลักกไม่ได้ยังไม่ได้ก็ยังมีทะเลาะ ยังจับจุดไม่ได้ จะเชื่อไหมครับว่าทุกๆหอที่เราอยู่ภูเก็ตมา 5 หอ ไม่เคยได้ออกแบบดีๆเลยเพราะทุกๆเดือนจะมีคนมาทวงโดนล็อคห้องทวงค่าเช่าหนักสุดคือหนีจะหอโดยที่ผมก็ไม่รู้เพราะว่าเขาบอกผมว่าจ่ายหมดแล้ว ผมมารู้วิธีตอนผมย้ายขึ้นมาที่กทมแล้ว ทุกๆเดือนผมให้เขาหมด บางเดือนมากบางเดือนน้อย แต่ทุกๆเดือนที่ผมให้ มันพอจ่ายทั้งค่าหอค่ารถค่ามอเตอร์ไซค์
และในระหว่างอยู่ภูเก็ตมันจะมีเรื่องเช่นโกหกผมว่าจะกลับไปเซ็นเอกสารที่กรุงเทพฯแต่จริงๆแล้วแอบกลับบ้านคนเดียวเพื่อไปหาลูกเรา และได้เงินมาโควิดก่อนได้ระวังไว้แล้วว่า 1 2 3 4 แต่พอเขาได้มาเขาหายไป 2-3 วันด้วยติดต่อไม่ได้ กลับมาเงินเหลือ 20,000 บาทเขามีข้ออ้างทุกอย่างรวมถึงการโกหก ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือนผมอ่ะได้ค่าคอมมา 70,000-8 ผมแบ่ง 1 2 3 4 ที่ผมคิดไว้เลยจากเราไม่ได้กลับบ้าน 5 ปีพอได้เงิน 80,000 บาทมาผมพาเขากลับบ้านได้ซื้อโทรศัพท์ใหม่ได้ แถมยังมีเงินเก็บซื้อทอง แถมยังมีเงินเหลือไปไว้ใช้ยันเมษายน ผมไม่ปิดสักบาท แล้วมันจะมีเรื่องย่อยๆคือเขาเหมือนเป็นคนที่ชอบโกหกอยู่กับโลกหรืออยู่กับคำว่าโกหกเป็นนิสัยไม่ว่าจะเรื่องเล็กแค่ไหนจนกระทั่งเรื่องใหญ่แค่ไหนขอให้ได้โกหกเพื่อให้ตรงนั้นผ่านๆไปก่อน ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ไม่รอดมาให้ผมแก้เช่น แอบไปกู้ตังเขาตอนไปกู้เราไม่รู้นะ แต่ตอนใช้ผมใช้ เป็นอย่างนี้มา 2-3 รอบ แต่พอผมถามก็มาใช้ด้วยกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใช่หรอผมมองว่าช่วงนั้นน่ะผมก็ทำงานรายได้เยอะมากเลยนะไม่ได้อดมีทุกอย่าง ซึ่งเขาเป็นคนโกหกได้แทบทุกเรื่อง สุดท้ายแล้วเพราะผมรู้ทุกอย่างผมก็อยากให้อภัยเขาครับเพราะว่าเขาวารักแล้วเพราะว่าลูก ผมโดนกระทำมาตลอดเขาจะเห็นแก่ตัวก็ต่อเมื่อเขามีเงินแต่ผมเวลามีเงินผมจะเห็นแต่ครอบครัวผมจะเห็นแต่อนาคต ต้นเราย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ อย่างที่บอกครับผมมารู้เรื่องหอสุดท้ายตอนมาถึงกรุงเทพฯเพราะเขาโทรมาหาผมแล้วเขาโพสประจานแฟนผม วันนั้นที่ผมรู้ผมอยากจะเลิกมากเลยเพราะเราอยู่กรุงเทพฯแล้ว แต่ผมก็ยังเคคคติประมาณว่ากูจะกลับบ้านหรือสภาพนี้หรอ และแล้วผมก็ยังให้โอกาสเขา
ก็เหมือนเดิมมาอยู่นี่ก็ยังตั้งหลักไม่ได้แรกๆจนวันนึงผมต้องไปส่งรถที่ต่างจังหวัดซึ่งห่างจากกรุงเทพฯประมาณเกือบ 800 กิโลเมตร ซึ่งผมไม่มีเงินไป แล้วผมต้องเติมน้ำมันไป ซึ่งก่อนหน้าจะไปประมาณ 3 วันผมได้ให้เงินเขาไปประมาณ 40,000 บาทซึ่งมันเป็นค่าคอมของเขาแหละ แต่ผมไปส่งรถ 800 กิโลเมตรอ่ะผมไม่มีเงินติดตัวหนึ่งแล้วเขาก็ไม่โอนเงินมาแล้วเขาก็โอนน้ำมันมาทีละ 500 500 ซึ่งผมก็ทะเลาะกับเขาทั้งทางเลยแต่ไม่ได้ไปด้วยกันนะ ทะเลาะกันทั้งทางเลยจนผมถึงที่หมาย ผมต้องหาทางกลับเองอ่ะ ซึ่งไม่มีตังค์ไม่กินข้าวเลย กลับมาถึงผมได้รู้ว่าแฟนผมอ่ะของกลับไปบ้านแล้ว ช่วงนั้นเครียดมากเหมือนกูโดนทิ้งอีกแล้วหรอ แล้วมาอยู่นี่ก็ยังไม่คุ้นอะไรต้องทำยังไง จนมีวันหนึ่งผมแขวนคอตัวเองแต่เชือกที่มัดหลุด ผมได้สติผมก็โทรหาแม่แม่ก็บ่น บวกกับมีปัญหากับพี่ที่มาด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นผมอ่ะก็เลยไปทำงานที่มันแบบได้เงินประจำก่อน เงินเดือนมันก็เยอะ แล้วช่วงที่ผมทำงานเขาก็เริ่มแบบกลับมาคุยแต่เขาอ่ะย้ายอยู่อีกที่นึงนะอยู่คนละที่ผมเขาไปทำงานกลางคืน แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอเพราะว่าผมก็ยังโมโหเขาแต่ช่วงนั้นน่ะเราต้องไปเอารถมอเตอร์ไซค์จากใต้ขึ้นมา ซึ่งผมก็ได้รู้ความจริงเพิ่มคือเขาไม่ให้เพราะมันไปกู้เงินมา 10,000 บาท และไม่ยอมส่งเขาเขาเลยยึดรถมอเตอร์ไซค์ค้ำไว้ อย่างที่คิดครับมันโทรมาร้องไห้เชื่อไหมว่าวันนั้นน่ะผมจำได้ผมไลฟ์สดอยู่ มันโทรเป็นร้อยสายจนกว่าผมจะรับอ่ะมันไม่สนอะไรทั้งนั้นพอมันรับสายปุ๊บมันก็เล่าให้ผมฟังผมก็ด่าสุดท้ายแล้วผมก็ต้องช่วยมันอยู่ดี ผมก็เลยไปขอเบิกเงินเจ้านายก่อนจำได้เลยเบิกมา 4,800 บาท แต่ก่อนให้ผมบอกมาแล้วนะว่าออกแค่ครึ่งเดียวกูช่วยได้แค่นี้ แล้วพี่เชื่อป่ะพอสิ้นเดือนมันมาเอาอีกคืออ้างทุกอย่างอ่ะเอาแต่ใจเห็นแก่ตัว สรุปค่ารถคันนี้ผมเสียไปเกือบหมื่นแทนที่ผมมาจะได้เอาไปให้แม่เพราะผมยืมแม่มาเปิดค่าหอผมคนเดียว ตลาดนัดผมก็เริ่มห่างมันแล้วผมก็เริ่มไปทำงานขับรถรับพสุด แล้วคือที่ทำงานเก่าผมอ่ะเขาไล่ผมออกผมก็เลยไปร้องกรมแรงงานแล้วทีนี้ผมจะมีเงินก้อนนึงถูกไหมครับซึ่งผมไปบอกใครทั้งนั้นแหละไม่ให้ใครรู้เลยพอผมออกมาผมเอาให้แม่เพราะตอนนั้นผมทำงานส่งพัสดุรับพัสดุเนี่ยมารายเดือนและเงินมันก็อยู่ใช่ไหมผมทำงานรับพัสดุมาปีกว่า แล้วผมอยู่คนเดียวมีความสุขมากงานเหนื่อยจริงมีเงินจริงแล้วเราก็ จัดสรร เงินตัวเองได้ ผมมีแฟนใหม่มันก็ระรานคือจากที่ไม่เคยเจอกันปี โดยที่มันคุยกับแม่ตลอดแล้วแม่ผมรักมันแม่ก็ ชอบโทรมาคุยแล้วก็พูดเรื่องมันว่าให้โอกาสนู่นนี่นั่น ตอนแรกๆก็โอเคแม่ตามใจแต่เรายังแยกกันอยู่นะพี่ จนกระทั่งผมออกจากขนส่ง ด้วยความที่แบบว่าเขาอยากอยู่ใกล้ๆอะไรเงี้ยก็เลยเอาเราไปทำงานที่โน่นด้วยก็ไปเป็นการ์ดก็ยุทั้งแม่ทั้งเขาเลยว่าดีนู่นนี่นี่นั่น ผมก็ยังไปๆมาๆแต่ระหว่างนั้นก็คย ว่าก่อนที่คบกันน่ะขอได้ไหมอย่าโกหกขอแค่เรื่องเดียวเนี่ย ก็เห็นอยู่ว่าการโกหกอ่ะมันไม่รอดหรอกยังไงกูก็รู้ทำไมไม่พูดไปเลยมันก็สัญญานู่นนั่นนี่ สุดท้ายแล้วหนักกว่าเดิม หลังจากที่ตกลงกันสักพักนึงก็ย้ายไปอยู่หอเดียวกันซึ่งเป็นของที่ผมเปิดเนี่ย ที่นี่ก็เริ่มสร้างวีรกรรมใหญ่เลย อยากรู้เรื่องเล็กๆก็จะเอาเงินเลยแต่อ้างคนอื่นว่าเออเนี่ยพี่คนนึงเขายืมเงินจะคืนวันพฤหัสบดีนะพอถึงพฤหัสบดีก็ไม่คืนสรุปมันเอาไปเขาก็จะโกหกเดิมเลยแต่เรื่องที่หนักสุดคือไม่ให้เขาป่วยเราเข้าใจแต่พี่ใช่ป่ะเขาบอกผมวันนี้เขาไปพรุ่งนี้เลย ไม่ทันได้เตรียมตัวทั้งๆที่เขารู้มาแล้วตั้งนานนะ เราไม่เป็นไรแต่เราคุยกันก่อนนะว่าแล้วค่าห้องอ่ะจะช่วยไหม เขาบอกผมว่าอ๋อคุยกับแม่กับป้าแล้วเออเดี๋ยวโอนเงินมาให้เดือนละ 3,000 บาทมาช่วย แล้วเขาก็เอารถยนต์ไปด้วยซึ่งมันตัดแขนตัดขาผมเลยในการทำงานเพราะผมต้องใช้รถมันก็ไปไหนลำบากทำงานลำบากขึ้น
หลังเข้าไปเขาไม่เคยติดต่อผมเลยถึงเวลาที่เขาต้องโอนเงินมาให้ผมเขาไม่โอนเขาบอกว่าไม่มี คือง่ายๆเลยพี่ภาระทุกอย่างอ่ะอยู่กับผมหมดเลยภาคมาหาผมหมดเลยโดยที่ก่อนไปพูดอย่างนึงแต่พอไปแล้วพูดอย่างนึงโทรไปไม่รับแต่ก่อนหน้านั้นน่ะคือแม่เขาไม่รู้นะว่าเราอยู่ด้วยกันผมก็เลยถามเขาว่าอ่ะแล้วบอกแม่ยังไงว่าค่าหออ่ะเรื่องค่าหออ่ะมันบอกแม่ว่าอ๋อค่าหออ่ะเจ้าของหอเห็นว่าไม่อยู่ก็เลยไม่เก็บ คือแบบตลก แล้วพี่เชื่อไหมว่าผมอยู่อย่างนั้นน่ะตั้งแต่มกราคมปีนี้ เดือนเมษายนพฤษภาคม แล้วมันก็แบบกลับมาแบบทำเป็นไม่มีอะไร แต่พี่เชื่อไหมตอนที่มันไม่อยู่อ่ะผมก็เศร้าแค่เดือนสองเดือนผมก็เลยต้องสู้จากไม่มีเลยอ่ะพี่ผมทำลำโพงขายผมมีโทรศัพท์ผมทำงานประจำผมมีเงินให้แม่ผมมีเงินเหลือเก็บผมมีเงินเหลือใช้ซึ่ง 4-5 เดือนนี้มันไม่เคยออกสักบาทเลย แถมกลับมาเอาปัญหามาอีกมีปัญหาเรื่องรถคนที่บ้านช่วยไม่ได้สุดท้ายก็ต้องเป็นผมที่ต้องออกไปหาขายให้เขาอ่ะ แต่พอเขากลับมาพี่จากของที่เรามีเช่นโทรศัพท์มือถือหรือลำโพงโน่นนี่นั่นเราก็เริ่มไม่พอแล้วเพราะเขาอ่ะกลับมาเดือนเดียวแล้วเขาก็ออกแล้วเขาหางานทำครึ่งเดือนเงินเดือนเขาก็ได้ไม่ครบนู่นนี่นั่นเราก็ต้องเอาไปขายจนขายจนไม่มีอะไรขายพี่ ตั้งแต่เมษายนพฤษภาคมจนถึงเดือนนี้ปัจจุบันแต่เขามีงานทำนะเขาทำงาน 3-4 เดือนน่ะเงินเดือน 14,000 บาทได้ 11,000 บาทมีเดือนนึงได้ 20,000 กว่าคือไม่เคยได้ 14,000 บาทอ่ะเพราะว่าเขาทำงานสาย โดนหัก 3,000 บาท ซึ่งที่ทำงานใช้เงินวนละ 200 บาท ไม่รวมกินเย็นที่ผมต้องให้
ซึ่งผมหาหมุนหาขายทำทุกอย่างผมทำอาชีพหลักด้วยแล้วก็รับจองเลข ทำลำโพงบลูทูธด้วย อ๋อได้โทรศัพท์ดีซื้อโทรศัพท์เครื่องนึงจนวันนี้ผิวขายเพราะว่าเงินไม่พอเขาให้เงินมาจริงพี่แต่เหมือนเงินที่เขาให้มาผมก็ให้เขาไปคืนอ่ะแต่มาอยู่กรุงเทพฯอ่ะผมบริหารเรื่องเงินค่าหอค่ารถค่าอะไรไม่มีปัญหาเลยไม่เคยมีทวง ตอนแรกเดือนแรกเงินไม่พอผมก็หมุนเขาก็บอกผมว่าผมบริหารไม่ดี ผมไม่ได้ตัดสินใจเดือนที่ 2 แยกกันแยกเงินในกระเป๋าเลยแต่ใครใจมันแต่ว่าค่าของค่าหออะไรเงี้ยทุกอย่างจ่ายคนละครึ่ง พี่เชื่อไหมเงินเขาหมดตั้งแต่ 16 อ่ะ ก็ต้องอยู่ไปถึงสิ้นเดือนพี่ว่าเขาเอาเงินจากใครอ่ะ ก็ผมอีกผมก็ต้องหมุนอย่างเงี้ยซึ่งผมเป็นอย่างเงี้ยอึดอัดมานาน จนทุกๆวันนี้มันก็ยังทำงานที่เดิมยังไม่หาอาชีพเสริมวันนึงกลับมาฟังแต่สตรีมเกมไม่ช่วยหา แต่จะเอา พูดเข้าข้างตัวเองแต่ไม่พูดความจริง เรื่องทั้งหมดเลยที่ผมเจอมาผมอึดอัดแต่ถามว่าที่ผมพูดวันนี้เพราะอะไรเพราะว่าการที่เขาหนีไปครั้งล่าสุดไปเฝ้าแม่อ่ะ มันทำให้ผมรู้ว่าเฮ้ยชีวิตกูอยู่คนเดียวกูก็อยู่ได้นี่หว่า เพราะตอนที่เราอยู่คนเดียวเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องอะไรเลยพี่ happy อาจจะมีปัญหาที่ทิ้งกูแรกๆเพราะไม่ช่วยกูจ่ายอย่างที่พูดแต่กูอยู่ได้อ่ะ แต่พวกกลับมามาเผาผลาญกูอีกแล้วรวมถึงเอาการโกหกเอานิสัยเดิมๆมาใช้การเห็นแก่ตัว
ที่ผมเล่าทั้งหมดอยากถามพี่ๆว่าผมควรทำยังไง ผมควรเลิกหรือควรให้โอกาส ถ้าผมควรเลิกผมควรพูดกับเขายังไง เพราะคนอย่างเขาเอาแต่ตัวเอง มองตัวเองถูกคนอื่นผิดทั้งๆที่มาหาอยู่คนเดียว ผมอยากเลิกเขานะเขาไม่ไปเขาไม่มีที่ไป
ผมควรทำยังไงดีครับกับคนแบบนี้ตอนนี้มันสุดแล้วจริงๆเพราะอายุ 2 คนตอนนี้ก็ 32 33 แล้ว
ถ้าเขาเห็นกระทู้นี้ ผมพูดอะไรผิดพลาดไม่จริงผมอยากให้เขามาแย้งได้เลย ถ้าเรื่องไหนไม่จริงแย่งมาได้เลย
จนตอนนี้ที่ผมพิมพ์อยู่ก่อนไปหรือทั้งคืนมันฟัง มันฟังแต่ steam เกม ไม่ได้ช่วยคิดหรือช่วยหารอแต่เงินไปทำงาน ซึ่งตอนนี้ผมมีเงินอยู่ 1,500 บาทผมก็แบ่งครึ่งแล้วนะให้เขาไปให้เขาไปบริหารจัดการเอง เพิ่งยืนยันคำเดิมทีว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ผมไม่รู้จะพูดกับเขายังไงเพราะเขาไม่ยอมรับความจริงเขาเอาตัวเองมาศูนย์กลางพี่ๆเพื่อนๆผมคทำยังไงดีครับพูดยังไงดีผมอยากให้เขาลองย้ายไปอยู่คนเดียวดูว่าถ้าเขาเก่งเขาพูดจริงๆทั้งหมดอ่ะเขาต้องอยู่คนเดียวแล้วบริหารเงินได้ เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้ครับ