ตอนนี้เราอายุ 30 ค่ะ
มีลูก 2 คน กับคนนี้ 1 คน
เราแต่งงานกับมันมา 3 ปี
จุดเริ่มต้นความหายนะ เกิดจากเราเอง
ตอนนั้น เราเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ
ท้องตอนเรียน แถมมีปัญหากับครอบครัวพ่อเด็ก
ถึงขั้นฟ้องร้อง ขึ้นศาล แย่งลูกกัน
แต่เราชนะนะคะ (ไม่ได้จด ทบ.สมรส)
แล้วเราก็เลี้ยงลูกเอง ทำงาน รพ. เอกชนในตัวจังหวัด
ถามว่าลำบากไหม ลำบากนะ เพราะความดิ้นรนของเราเองด้วย
เราผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ในยุคโควิดพอดี
แถมยังเป็นหนี้จากการฟ้องร้องอีก
ทำงานปีนั้น ไม่มีโอทีอีกต่างหาก
แต่คนเป็นแม่แพ้บ่อได้ เพื่อลูกทำได้ทุกอย่าง
เราเป็นหนี้ค่ะ เป็นจนท้อเหนื่อยมาก
เพราะฝั่งพ่อเด็ก ไม่ช่วยแม้แต่บาทเดียว ส่วนเรา ไม่ให้ก็ไม่ขอ
ไงล่ะ รักศักดิ์ศรีเกิน
เราทำงานส่งลูกเรียน แต่ก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆนะคะ
แต่เหมือนมาเป็นภาระมากกว่ามาเติมเต็มในส่วนที่เราขาด
จนมาเจอผู้ชายคนนี้ (พ่อของลูกคนที่ 2)
แรกๆ ย้ำ !!! แรกๆๆๆๆๆๆๆๆ ช่วงโปร
เขาเป็นคนดีนะ ในสายตาเรา
เขาคอยซัพพอร์ต เราในทุกเรื่อง ความคิด จิตใจ เงิน
แต่ไม่ได้มากนะคะ หมายถึงก็ 20% ของ คชจ. ในบ้าน
แต่เงินส่วนนี้ มาจากพ่อเขาอีกที
ตอนนั้นมันขอหมั้น เลยไม่ได้ปฏิเสธมันไปตรงๆ
คบกันได้ 2 เดือนมันพาพ่อมาขอหมั้นเลย
เราก็ถามมันนะ คิดดีๆนะ คิดดีแล้วหรอ เราภาระเยอะ มีหนี้นะ
ในตอนนั้น เราคิดว่า ประโยคนี้ มันทำให้มันชะงักความคิดละนะ
แต่ไม่เลย มันยืนยันคำเดิม
เราก็เลย เออออไป ช่างมันแค่หมั้นละว้า คิดในใจ
แต่พอได้เจอคนรอบตัวมัน
มีแต่คนถามเรา “คิดยังไงเอาคนนี้เป็นสามี”
เราก็เริ่ม เอ้ะ ละ ทำไมมีแต่คนเตือนเรานะ
แต่ด้วยความมั่น คบต่อจ้า
ตอนนั้นนางเรียนต่อ ส่วนเราทำงาน เลยต้องอยู่กันคนละที่
พอทีนี้รู้เลย ความหายนะที่เกิดขึ้นแล้ว
มันเป็นคนติดเหล้าจ้า ติดเพื่อน ยสต. อีกต่างหาก
พอมันระแวงเราก็หาเรื่องทะเลาะเราไม่เว้นแต่ละวัน
ไม่ให้เราไปไหนเลย กับเพื่อนกับที่บ้าน
ระแวงหาเรื่องทะเลาะตลอด ต้องตอบแชท ต้องคุยตลอดเวลา
เราก็งงนะ แต่ด้วยความใจดีของเราเอง ก็เข้าข้างเขาไปหมด
แต่ก็ขอถอนหมั้น บ่อยมากกกกกกกกกกกกก
จนมันเรียนจบ ต้องมาแต่งงานกันนี่แหละ
เราก็ถามมันอีก แน่ใจหรอ คิดดีแล้วหรอ เราไม่อยากแต่งนะ
มันก็บอก คิดดีแล้ว จะเป็นคนดี จะดูแลเอง
เราก็เอาวะ มันคงไม่แย่ขนาดนั้น ก็แต่งงานกับมัน
พอวันแต่งงานวันแรก เอาเลยจ้า
โดนจับคดี ยสต. (พ่อมันเครีย) จ่ายเงินจบ
มันก็สัญญาอีกจะไม่ทำอีก ถ้าทำอีกจะเลิกกับเรานั่นนี่
ไอ้เราก็ยอม ยอมแบบทำสัญญากับมัน
จนมันทำงาน เราทำงาน เราไม่มีเวลาเลยอันนี้ยอมรับ
เราทำงาน รพ. เข้างานเป็นกะ คชจ. ในบ้านเราแทบจะเป็นคนหาเอง
ต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงสามี เลี้ยงพ่อแม่เราอีก
จนวันนึงเราท้องจ้า
พอท้อง เราก็ทำงานเหมือนเดิมนะ จนใกล้คลอด
พ่อสามีเลยขอให้เราไปคลอดบ้านเขา
ลา 3 เดือน คชจ.ทั้งหมด เขาออกเอง ช่วยเองหมด
ค่าบ้าน หนี้สินต่างๆ
พอเราคลอดได้แค่วันเดียว พี่ชายมัน ก็มาเสีย
เลยทำให้แผนกลับไปทำงานของเราพังหมด
พ่อเขาขอให้เราลาออกค่ะ เพื่อที่ลูกเขาจะมาช่วยงานที่บ้าน
โดยเขาจะใช้ทุนกับ รพ.ให้ (ประมาณ800K)
และจ่ายค่าบ้าน ให้เรา และให้เงินเราเป็นรายเดือน
เราไม่อยากออกค่ะ เราไม่อยากออกเลย
เรารัก รพ.รักงาน รักเพื่อนร่วมงานนะ เสียดายอยู่เลยทุกวันนี้
แต่ทำไงได้ เราน่ะ ก็ต้องคอยช่วยสามีเหมือนกัน
เลยยอมลาออก เป็นแม่ฟลูทาม เลี้ยงลูกเองอยู่บ้าน
ทีนี้ เราเลย มีเวลาเยอะเลย
ถึงได้รู้สันดานของสามีตัวเอง
จากคนที่คอยซัพพอร์ตเรา กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวสุดๆ
กินเหล้าทุกวัน สูบบุหรี่ เที่ยวเล่น ติดเพื่อน ติดพนัน สารพัด
เรามารู้ทีหลัง ว่ามีเรื่องผู้หญิงอีก
รู้โดยการวันนึง มันโดนจับ เราได้มือถือมันมา
มันไปนอนกับใคร ถ่ายรูปเขาไว้หมด
มารู้ได้ตอนนี้คือมันทำแบบนี้ ตั้งแต่ก่อนแต่งด้วยซ้ำ
ที่เราไม่รู้เพราะเราไม่เคยเช็คมือถือมันเลย
แล้วมันก็แอบถ่ายรูปเราตอนแก้ผ้าไว้ตลอด
พอมันติด ย มันก็ต้องมีเรื่องผู้หญิงตามมา
มันใก้เหตุผลว่า ก็แค่ซื้อกิน
แต่ที่เราเห็นคือ ที่มันถ่ายไว้ ประมาณ 60 คนได้
ทีนี้ก็มีเรื่องลักขโมยอีก
ทองเราทองลูก คอมเรา มือถือลูกเรา ไปหมดไม่เหลือ
อะไรที่ขายได้นางเอาไปทุกอย่าง ไม่เหลือ
โกหก ตห. ทุกอย่าง ไม่มีเรื่องจริงเลย
ตอคนอื่นเพื่อยืมเงิน เอาเราไปอ้าง เอาครอบครัวแม่เราไปอ้าง
เพื่อจะได้ยืมเงินได้ เงินไปลงกับอะไรคะ!!?? ใช่ค่ะ ถูกค่ะ
สุดท้ายเจ้าหนี้มาทวงที่ใครคะ เราค่ะ!!!!
ถามว่าทำไม เราถึงทนอยู่กับมัน
เราน่ะ มีบ้านนะ มีที่ให้ไป เราก็มีที่ซุกหัวนอน
เราจะไป มันก็ไม่ยอมให้ไป
ไม่ใช่แค่มันด้วยนี่สิ
พ่อเขาด้วย พ่อเขาขอร้องเราทุกอย่าง
จัดการลูกเขา จัดการหนี้สินทุกอย่าง
เขาไม่อยากให้หลานไปลำบาก
แต่เราเองนะ เราไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วันเดียว
อยากไปจากมัน อยากไปจากความเฮงซวยนี่สักที
ความรู้สึกเหมือนตกนรก ชดใช้เวรกรรม ทุกวัน
อยากหลุดพ้น อยากไป
แต่ถ้าไป ก็สงสารพ่อเขา แถมยังมีเรื่องค้างคาอีก
แล้วเราจะทำยังไง ต้องอยู่ยังไง
ช่วยทีค่ะ
ช่วยหน่อยค่ะ อยากหลุดพ้นจากผู้ชายคนนี้
มีลูก 2 คน กับคนนี้ 1 คน
เราแต่งงานกับมันมา 3 ปี
จุดเริ่มต้นความหายนะ เกิดจากเราเอง
ตอนนั้น เราเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ
ท้องตอนเรียน แถมมีปัญหากับครอบครัวพ่อเด็ก
ถึงขั้นฟ้องร้อง ขึ้นศาล แย่งลูกกัน
แต่เราชนะนะคะ (ไม่ได้จด ทบ.สมรส)
แล้วเราก็เลี้ยงลูกเอง ทำงาน รพ. เอกชนในตัวจังหวัด
ถามว่าลำบากไหม ลำบากนะ เพราะความดิ้นรนของเราเองด้วย
เราผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ในยุคโควิดพอดี
แถมยังเป็นหนี้จากการฟ้องร้องอีก
ทำงานปีนั้น ไม่มีโอทีอีกต่างหาก
แต่คนเป็นแม่แพ้บ่อได้ เพื่อลูกทำได้ทุกอย่าง
เราเป็นหนี้ค่ะ เป็นจนท้อเหนื่อยมาก
เพราะฝั่งพ่อเด็ก ไม่ช่วยแม้แต่บาทเดียว ส่วนเรา ไม่ให้ก็ไม่ขอ
ไงล่ะ รักศักดิ์ศรีเกิน
เราทำงานส่งลูกเรียน แต่ก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆนะคะ
แต่เหมือนมาเป็นภาระมากกว่ามาเติมเต็มในส่วนที่เราขาด
จนมาเจอผู้ชายคนนี้ (พ่อของลูกคนที่ 2)
แรกๆ ย้ำ !!! แรกๆๆๆๆๆๆๆๆ ช่วงโปร
เขาเป็นคนดีนะ ในสายตาเรา
เขาคอยซัพพอร์ต เราในทุกเรื่อง ความคิด จิตใจ เงิน
แต่ไม่ได้มากนะคะ หมายถึงก็ 20% ของ คชจ. ในบ้าน
แต่เงินส่วนนี้ มาจากพ่อเขาอีกที
ตอนนั้นมันขอหมั้น เลยไม่ได้ปฏิเสธมันไปตรงๆ
คบกันได้ 2 เดือนมันพาพ่อมาขอหมั้นเลย
เราก็ถามมันนะ คิดดีๆนะ คิดดีแล้วหรอ เราภาระเยอะ มีหนี้นะ
ในตอนนั้น เราคิดว่า ประโยคนี้ มันทำให้มันชะงักความคิดละนะ
แต่ไม่เลย มันยืนยันคำเดิม
เราก็เลย เออออไป ช่างมันแค่หมั้นละว้า คิดในใจ
แต่พอได้เจอคนรอบตัวมัน
มีแต่คนถามเรา “คิดยังไงเอาคนนี้เป็นสามี”
เราก็เริ่ม เอ้ะ ละ ทำไมมีแต่คนเตือนเรานะ
แต่ด้วยความมั่น คบต่อจ้า
ตอนนั้นนางเรียนต่อ ส่วนเราทำงาน เลยต้องอยู่กันคนละที่
พอทีนี้รู้เลย ความหายนะที่เกิดขึ้นแล้ว
มันเป็นคนติดเหล้าจ้า ติดเพื่อน ยสต. อีกต่างหาก
พอมันระแวงเราก็หาเรื่องทะเลาะเราไม่เว้นแต่ละวัน
ไม่ให้เราไปไหนเลย กับเพื่อนกับที่บ้าน
ระแวงหาเรื่องทะเลาะตลอด ต้องตอบแชท ต้องคุยตลอดเวลา
เราก็งงนะ แต่ด้วยความใจดีของเราเอง ก็เข้าข้างเขาไปหมด
แต่ก็ขอถอนหมั้น บ่อยมากกกกกกกกกกกกก
จนมันเรียนจบ ต้องมาแต่งงานกันนี่แหละ
เราก็ถามมันอีก แน่ใจหรอ คิดดีแล้วหรอ เราไม่อยากแต่งนะ
มันก็บอก คิดดีแล้ว จะเป็นคนดี จะดูแลเอง
เราก็เอาวะ มันคงไม่แย่ขนาดนั้น ก็แต่งงานกับมัน
พอวันแต่งงานวันแรก เอาเลยจ้า
โดนจับคดี ยสต. (พ่อมันเครีย) จ่ายเงินจบ
มันก็สัญญาอีกจะไม่ทำอีก ถ้าทำอีกจะเลิกกับเรานั่นนี่
ไอ้เราก็ยอม ยอมแบบทำสัญญากับมัน
จนมันทำงาน เราทำงาน เราไม่มีเวลาเลยอันนี้ยอมรับ
เราทำงาน รพ. เข้างานเป็นกะ คชจ. ในบ้านเราแทบจะเป็นคนหาเอง
ต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงสามี เลี้ยงพ่อแม่เราอีก
จนวันนึงเราท้องจ้า
พอท้อง เราก็ทำงานเหมือนเดิมนะ จนใกล้คลอด
พ่อสามีเลยขอให้เราไปคลอดบ้านเขา
ลา 3 เดือน คชจ.ทั้งหมด เขาออกเอง ช่วยเองหมด
ค่าบ้าน หนี้สินต่างๆ
พอเราคลอดได้แค่วันเดียว พี่ชายมัน ก็มาเสีย
เลยทำให้แผนกลับไปทำงานของเราพังหมด
พ่อเขาขอให้เราลาออกค่ะ เพื่อที่ลูกเขาจะมาช่วยงานที่บ้าน
โดยเขาจะใช้ทุนกับ รพ.ให้ (ประมาณ800K)
และจ่ายค่าบ้าน ให้เรา และให้เงินเราเป็นรายเดือน
เราไม่อยากออกค่ะ เราไม่อยากออกเลย
เรารัก รพ.รักงาน รักเพื่อนร่วมงานนะ เสียดายอยู่เลยทุกวันนี้
แต่ทำไงได้ เราน่ะ ก็ต้องคอยช่วยสามีเหมือนกัน
เลยยอมลาออก เป็นแม่ฟลูทาม เลี้ยงลูกเองอยู่บ้าน
ทีนี้ เราเลย มีเวลาเยอะเลย
ถึงได้รู้สันดานของสามีตัวเอง
จากคนที่คอยซัพพอร์ตเรา กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวสุดๆ
กินเหล้าทุกวัน สูบบุหรี่ เที่ยวเล่น ติดเพื่อน ติดพนัน สารพัด
เรามารู้ทีหลัง ว่ามีเรื่องผู้หญิงอีก
รู้โดยการวันนึง มันโดนจับ เราได้มือถือมันมา
มันไปนอนกับใคร ถ่ายรูปเขาไว้หมด
มารู้ได้ตอนนี้คือมันทำแบบนี้ ตั้งแต่ก่อนแต่งด้วยซ้ำ
ที่เราไม่รู้เพราะเราไม่เคยเช็คมือถือมันเลย
แล้วมันก็แอบถ่ายรูปเราตอนแก้ผ้าไว้ตลอด
พอมันติด ย มันก็ต้องมีเรื่องผู้หญิงตามมา
มันใก้เหตุผลว่า ก็แค่ซื้อกิน
แต่ที่เราเห็นคือ ที่มันถ่ายไว้ ประมาณ 60 คนได้
ทีนี้ก็มีเรื่องลักขโมยอีก
ทองเราทองลูก คอมเรา มือถือลูกเรา ไปหมดไม่เหลือ
อะไรที่ขายได้นางเอาไปทุกอย่าง ไม่เหลือ
โกหก ตห. ทุกอย่าง ไม่มีเรื่องจริงเลย
ตอคนอื่นเพื่อยืมเงิน เอาเราไปอ้าง เอาครอบครัวแม่เราไปอ้าง
เพื่อจะได้ยืมเงินได้ เงินไปลงกับอะไรคะ!!?? ใช่ค่ะ ถูกค่ะ
สุดท้ายเจ้าหนี้มาทวงที่ใครคะ เราค่ะ!!!!
ถามว่าทำไม เราถึงทนอยู่กับมัน
เราน่ะ มีบ้านนะ มีที่ให้ไป เราก็มีที่ซุกหัวนอน
เราจะไป มันก็ไม่ยอมให้ไป
ไม่ใช่แค่มันด้วยนี่สิ
พ่อเขาด้วย พ่อเขาขอร้องเราทุกอย่าง
จัดการลูกเขา จัดการหนี้สินทุกอย่าง
เขาไม่อยากให้หลานไปลำบาก
แต่เราเองนะ เราไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วันเดียว
อยากไปจากมัน อยากไปจากความเฮงซวยนี่สักที
ความรู้สึกเหมือนตกนรก ชดใช้เวรกรรม ทุกวัน
อยากหลุดพ้น อยากไป
แต่ถ้าไป ก็สงสารพ่อเขา แถมยังมีเรื่องค้างคาอีก
แล้วเราจะทำยังไง ต้องอยู่ยังไง
ช่วยทีค่ะ