คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 32
- รักตัวเองให้มากพอ มองสุขภาพระยะยาว
กินแค่ไข่กับไส้กรอก มะเร็งลำไส้ ไต การถ่ายยากจะถามหา
อันนี้อาจจะเกิดจากความไม่รู้ในเรื่องสุขภาพด้วย
- หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะไม่มีใครเหมือนเรา
คนมี เค้าอาจรวยอยู่แล้ว มีแฟนให้ พ่อแม่ให้ หรืออะไรก็ได้
วิ่งตามจังหวะชีวิตตัวเอง วิ่งตามคนอื่นมันจะเหนื่อยตลอดชีวิต
- เงินคือสิ่งสมมุติที่ใช้ในแลกเปลี่ยน เพื่อดำรงชีวิต
อยากมีที่พัก ก็ต้องจ่ายเงินแลก อยากไปข้างนอก ก็ต้องจ่าย
อยากไปกินข้าวกับเพื่อน มันก็ต้องจ่าย มันก็เรื่องปกติ
ถ้าเราอยากได้แต่จะหวังไม่จ่ายเลย อันนั้นแปลก
บางคนไม่มีเงิน อยากกินข้าว ก็เอาแรงงานมาจ่ายแทนก็มี
ทุกอย่างต้องมีการจ่าย ทางใดทางหนึ่ง “ปกติ”
- ตายไป เอาไปไม่ได้ บาล๊านซ์การเก็บเงินกับการใช้ชีวิตดีๆ
จ่ายเพื่อตัวเองบ้าง ให้คนอื่นบ้าง ไม่เสียหายหรอก
แต่แค่ไม่จ่ายจนเราลำบาก ลองเริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ไปเที่ยวบ้าง ซื้อประสบการณ์ พักผ่อน ให้รางวัลตัวเอง
แบ่งปันสิ่งของ ขนม ซื้อของฝากคนอื่นบ้าง แบบไม่เดือดร้อน
การให้มันคือการละวางการยึดมั่นถือมั่นในอีกรูปแบบนึง
คนที่ยึดติดกับเงินทองจนสุดโต่ง ต่อให้มีมากมายก็ยังทุกข์
เพราะกลัวมันลด กลัวคนมาเอาไป ใครเข้ามาก็กลัวไปหมด
กลัวคนมาหลอกเอาผลประโยชน์ จิตระแวงขั้นสุด บลาๆๆ
เคยเห็นคนแก่ที่เป็นแบบนี้ ลูกหลาน เพื่อนฝูงหนีหมดเลย
เพราะพอระแวงแล้วด่าเค้าไปทั่ว (แก่แล้วเริ่มคุมตัวเองไม่ได้)
ถ้าเราไม่อยากเป็นแบบนี้ เราต้องฝึกปล่อยวางบ้าง
ไม่ใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง ประหยัดได้ แต่ไม่ใช่กลัวการใช้เงิน
กินแค่ไข่กับไส้กรอก มะเร็งลำไส้ ไต การถ่ายยากจะถามหา
อันนี้อาจจะเกิดจากความไม่รู้ในเรื่องสุขภาพด้วย
- หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะไม่มีใครเหมือนเรา
คนมี เค้าอาจรวยอยู่แล้ว มีแฟนให้ พ่อแม่ให้ หรืออะไรก็ได้
วิ่งตามจังหวะชีวิตตัวเอง วิ่งตามคนอื่นมันจะเหนื่อยตลอดชีวิต
- เงินคือสิ่งสมมุติที่ใช้ในแลกเปลี่ยน เพื่อดำรงชีวิต
อยากมีที่พัก ก็ต้องจ่ายเงินแลก อยากไปข้างนอก ก็ต้องจ่าย
อยากไปกินข้าวกับเพื่อน มันก็ต้องจ่าย มันก็เรื่องปกติ
ถ้าเราอยากได้แต่จะหวังไม่จ่ายเลย อันนั้นแปลก
บางคนไม่มีเงิน อยากกินข้าว ก็เอาแรงงานมาจ่ายแทนก็มี
ทุกอย่างต้องมีการจ่าย ทางใดทางหนึ่ง “ปกติ”
- ตายไป เอาไปไม่ได้ บาล๊านซ์การเก็บเงินกับการใช้ชีวิตดีๆ
จ่ายเพื่อตัวเองบ้าง ให้คนอื่นบ้าง ไม่เสียหายหรอก
แต่แค่ไม่จ่ายจนเราลำบาก ลองเริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ไปเที่ยวบ้าง ซื้อประสบการณ์ พักผ่อน ให้รางวัลตัวเอง
แบ่งปันสิ่งของ ขนม ซื้อของฝากคนอื่นบ้าง แบบไม่เดือดร้อน
การให้มันคือการละวางการยึดมั่นถือมั่นในอีกรูปแบบนึง
คนที่ยึดติดกับเงินทองจนสุดโต่ง ต่อให้มีมากมายก็ยังทุกข์
เพราะกลัวมันลด กลัวคนมาเอาไป ใครเข้ามาก็กลัวไปหมด
กลัวคนมาหลอกเอาผลประโยชน์ จิตระแวงขั้นสุด บลาๆๆ
เคยเห็นคนแก่ที่เป็นแบบนี้ ลูกหลาน เพื่อนฝูงหนีหมดเลย
เพราะพอระแวงแล้วด่าเค้าไปทั่ว (แก่แล้วเริ่มคุมตัวเองไม่ได้)
ถ้าเราไม่อยากเป็นแบบนี้ เราต้องฝึกปล่อยวางบ้าง
ไม่ใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง ประหยัดได้ แต่ไม่ใช่กลัวการใช้เงิน
แสดงความคิดเห็น
อยากเลิกเป็นคนขี้เหนียว (ช่วยด้วย)
พื้นฐานครอบครัวที่เกิดมา ไม่ได้มีความรู้ด้านการเงิน และไม่ได้มีฐานะมาก เรียนจบมามีเงินเก็บแค่ 1-2 หมื่นบาท พอเราหันไปมองเพื่อนรอบตัว เค้ามีเงินเก็บหลักแสน เลยเกิดเป็นปมบางอย่างขึ้นค่ะ
งานแรกที่ได้ทำเป็นอาชีพที่ไม่มีเงินเดือน กินค่าคอมอย่างเดียว (ได้เงินตามยอดที่ปิดได้) ปรากฏว่าเก็บเงินได้ 2 แสนภายใน 1 ปี
ถ้าดูจากแค่ผลลัพธ์ก็เหมือนจะดีใช่ไหมคะ แต่จินตนาการดูว่าแต่ละเดือนเราไม่รู้เลยว่าจะมีเงินจ่ายค่าเช่า จ่ายค่ากิน หรือเปล่า เลยกลายเป็นคนประหยัดแบบสุดขั้ว
นี่เป็นสิ่งที่ทำมาตลอด 1 ปีค่ะ
1. ไม่กินเนื้อสัตว์ กินแค่ไข่กับไส้กรอกที่แม่ส่งให้ = นิ้วเท้าชาเพราะขาดสารอาหารไปหลายเดือนเลยค่ะ แต่ตอนนั้นไม่รู้ตัว
2. ไม่ออกไปหาเพื่อนเลยถ้าต้องเสียเงิน
3. หลีกเลี่ยงการกินข้าวนอกบ้าน แม้แต่ข้าวแกง 50 บาทก็ไม่กินค่ะ ถือว่าแพงกว่าทำกินเอง
4. อะไรก็ตามถ้าประหยัดได้ก็จะประหยัดค่ะ เอาถูกไว้ก่อน
จนมาปัจจุบัน ตอนนี้มีแฟนค่ะ สมัยยังคุยๆกันอยู่เค้าช่วยซัพพอร์ตเรื่องอาหาร พาไปกินนอกบ้าน… ก็เป็นตอนนั้นแหละค่ะที่ปลายเท้าเริ่มหายชา (เริ่มตระหนักว่าไม่ควรประหยัดกับการกินมากเกินไป)
ปัจจุบันย้ายเข้ามาอยู่กับแฟน ก็ช่วยค่าใช้จ่ายค่าเช่าบ้านกับค่าอาหารค่ะ แต่สิ่งที่หนักใจมีอยู่อย่างคือเราไม่กล้าใช้เงินเลยค่ะ ทุกครั้งที่จ่ายเงินจะรู้สึกว่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่จ่ายไปคือค่าเช่าในที่พักอาศัยปลอดภัย สะอาด หรือถ้าเป็นอาหารก็ล้วนดีต่อสุขภาพ (ล่าสุดเพิ่งซื้อ membership ยิมไป ตอนนั้นรู้ดีว่าเป็นการลงทุนกับสุขภาพ แต่ความรู้สึกตอนโอนเงินคือกลั้นใจจ่ายค่ะ)
ช่วยเตือนสติ แนะนำ หรือเล่าเรื่อง ให้ความรู้สึกชนิด “กลั้นใจจ่าย” หรือ “เสียดายเงิน” หายไปทีได้ไหมคะ รู้ตัวดีว่าไม่ได้เป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไร้สาระ แต่เป็นคนขี้เหนียวชนิดที่แม้แต่สิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ยังไม่กล้าจ่ายเลยค่ะ อีกอย่างคือกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบตัวด้วย
ขอบคุณค่ะ (ที่มาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะซื้อนมสองแกลลอนแล้วรู้สึกหนักใจอีกแล้ว 5555555 คิดว่าตัวเองเริ่มขี้เหนียวจะกู่ไม่กลับเลยต้องมาขอความช่วยเหลือค่ะ)