กดติดตามข่าวสารแบรนด์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นร้านโปรดอย่าง "Red Panda Yakiniku" เขาประกาศเพิ่มคอร์สบุฟเฟ่ต์ใหม่ล่าสุดชื่อว่า Obon Course Menu ซึ่งคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพชั้นดีระดับซูเปอร์พรีเมียมอัปเกรดยิ่งกว่าเดิมอีกหนึ่งขั้นรวมกว่า 160 รายการ พร้อมสปาร์กลิงแช่เย็นซ่าสดชื่นถึงใจตอบโจทย์สายดื่มตัวจริงนั่งฟินไม่อั้นตลอด 90 นาที ราคาเพียงท่านละ 1,699 บาท++ (ยังไม่รวม Vat.7% / Service Charge 10% / น้ำรีฟิล 39 บาท) เด็กส่วนสูงน้อยกว่า 100 ชม. ฟรี 101-130 ซม. ชำระเงินแค่ 50% โดยเริ่มต้นแห่งแรก ณ ห้างสรรพสินค้า Design Village ถนนเกษตร-นวมินทร์ มีกำหนดขยายไปยังสาขาพญาไท/แจ้งวัฒนะ/บางแคตามลำดับในอนาคตอันใกล้นี้ วิธีการเดินทางถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวกดค้นหาปักหมุดขับตามระบบแผนที่บนมือถือสามารถจอดบริเวณลานกว้างด้านหน้าโครงการฟรีตลอดทั้งวัน สำหรับผู้โดยสารบริการขนส่งสาธารณะแนะนำขึ้น BTS สายสีเขียวลงสถานีเสนานิคมบันไดออก 3 ฝั่งเดียวกับกรมพัฒนาที่ดินค่อยโบกมือเรียกแท็กซี่,ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกประมาณ 7 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมายมองหาสัญลักษณ์รูปน้องแพนด้าแดงแสนน่ารักด้านซ้ายอาคารหลักชั้น 1 พบเจอไม่ยากนักเพราะทำป้ายโฆษณาสีสันสดใสมองเห็นโดดเด่นชัดเจนตั้งแต่ระยะไกลๆแบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้วแน่นอนครับผม

บรรยากาศภายในร้าน "Red Panda Yakiniku" สาขาห้างสรรพสินค้าดีไซน์วิลเลจถนนเกษตร-นวมินทร์แห่งนี้เน้นการตกแต่งสไตล์โรงแรมเรียวกังฉบับดินแดนอาทิตย์อุทัยโบราณดั้งเดิมเริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าจำลองเป็นสวนหินขนาดย่อมเดินผ่านม่านมู่ลี่ไม้ไผ่จักสานเพื่อเข้าสู่พื้นที่บริการลูกค้าเปิดแสงไฟสว่างไสวโทนสีเหลืองแลดูอบอุ่นติดตั้งเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำสบายตัวแบ่งออกได้ 3 โซนหลักนั่นก็คือ 1. ม้านั่งชนิดสั่งทำไซส์ยาวพิเศษวางตรงกลางเสริมเก้าอี้ดีไซน์โมเดิร์นทันสมัยเรียงให้ตามจุดต่างๆสามารถรองรับลูกค้าตำแหน่งละ 4-5 คนจึงเหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนฝูงหรือครอบครัวขนาดย่อม 2. โต๊ะโซฟาแนวฮันนีมูนติดริมหน้าต่างมองชมวิวด้านนอกพร้อมฉากกั้นแยกส่วนตัวช่วยบังสายตาตอบโจทย์เหล่าคู่รักได้ใช้เวลาใกล้ชิดร่วมกัน 3. ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่สร้างไว้จัดปาร์ตี้บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเนื้อวัววากิวนั่งห้อยขาพูดคุยเล่นชิลๆประมาณ 8-10 ท่านโดยน้องพนักงานจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกเอาไว้ครบถ้วนทั้งจานแบ่งอาหาร,ถ้วยใส่น้ำจิ้ม,ตะเกียบญี่ปุ่นแบบฉีก,ที่คีบสแตนเลส,กระดาษทิชชู่,เกลือหิมาลายันเกล็ดสีชมพู,เมล็ดพริกไทยดำกระปุกบิดด้วยมือ,ขวดบรรจุซอสบาร์บีคิวยากินิกุสูตรต้นตำรับ,เตาปิ้งย่างข้างล่างมีระบบท่อดูดควันป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดเสื้อผ้า-เส้นผม จัดการเลือกมุมที่ชื่นชอบตามใจคุณเลยครับผม

สำหรับวิธีการออเดอร์ของทางร้าน "Red Panda Yakiniku" ปรับเปลี่ยนใหม่ให้เป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกๆสาขานั่นก็คือสแกนผ่านระบบ QR Code เพื่อป้องกันออเดอร์ไม่ครบถ้วน โดยปัจจุบันบุฟเฟ่ต์มีเพียง 3 ระดับราคาเริ่มต้นกันด้วย Umeno Course 488 บาท++ (573 Net.) Takeyama Course 699 บาท++ (868 Net.) และสูงสุด Obon Course 1699 บาท++ (1,999 Net.) เอา Mutsuri Course ออกแล้วเพิ่มวัตถุดิบดีเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมยิ่งขึ้น จากนั้นน้องพนักงานก็เสิร์ฟน้ำจิ้มมีเลือกฟินถึง 5 สูตรได้แก่ 1. ยากินิคุบาร์บีคิว 2. เกลือหิมาลายัน-พริกไทยดำ 3. โชยุกับวาซาบิ 4. ซีฟู้ดฉบับไทยแท้ 5. ไข่สดชนิดกินดิบปลอดภัยแบรนด์โมริทามะ สามารถเดินมาตักพริกขี้หนูสด/กระเทียมสับ/เครื่องเคียงต่างๆทั้งแมงกะพรุนซอสกิมจิ,ครีบหอยเชลล์น้ำมันงา,กิมจิผักกาดขาว,ยำสาหร่าย,ถั่วแระญี่ปุ่น,ผักรวมปิ้งย่าง (เห็ดออเร็นจิ,ฟักทองสไลซ์,หัวหอมใหญ่,กระเทียมกลีบ),ใบผักคอสห่อสไตล์เกาหลี,สลัดโชยุน้ำมันงา เครื่องดื่มรีฟิล 39 บาท++ กดเองได้เลยตามใจคุณเช่นโค้กออริจินัล,โค้กซีโร่ไร้น้ำตาล,ชามะนาว Fuze Tea,สไปรท์เลมอนไลม์,แฟนต้าส้ม,ชาเขียวมัทฉะเตรียมเอาไว้ให้ทุกคนยกเว้นคอร์สใหญ่สุดเพราะรวมสปาร์กลิงแช่เย็นฟรีเรียบร้อย ชมเมนูฉบับออนไลน์ที่ลิงก์นี้ > https://citly.me/PZuM4 < ครับผม

รายการแรกถูกยกมาเสิร์ฟก่อนเพราะเป็น Signature อันดับ 1 เพื่อตอบโจทย์สายเนื้อวัวตัวจริงโดยจัดเตรียมเอาไว้เฉพาะ Obon Course เท่านั้นได้แก่ "Exclusive Wagyu Moriawase" อัปเกรดจากทาจิมะวากิวสายพันธุ์ลูกครึ่งญี่ปุ่นออสเตรเลียสู่เลือดบริสุทธิ์ 100% อย่างคาโกชิมะวากิวคุโรเกะขนสีดำสนิทถูกเลี้ยงบริเวณเกาะคิวชูอันล้อมรอบด้วยธรรมชาติสุดอุดมสมบูรณ์ทั้งมหาสมุทรและเทือกเขาอากาศเย็นสบายตลอดปีจึงเหมาะแก่การทำฟาร์มปศุสัตว์ให้อาหารออร์แกนิกชั้นดีขุนใช้ระยะเวลายาวนานหลายเดือนก่อนถึงโต๊ะซึ่งลูกค้าสามารถลิ้มลองได้ถึง 5 ชิ้นส่วนในถาดเดียวกันได้แก่ "Tokujou Rosu" (สันคอ) / "Tokujou Karubi" (ซี่โครง) / "Tokujou Momo" (พื้นท้อง) / "Daimond Gyu-Tan" (ลิ้นวัวหนาบั้งแนวทแยง) / "Hanasaki Gyu-Tan" (ลิ้นวัวหนาบั้งแนวขวาง) ถ้าติดใจหรือชื่นชอบส่วนไหนพิเศษสามารถออเดอร์แยกจานขนาดเล็กไม่อั้น ทุกเมนูแทรกไขมันละเอียดสวยงามเหมือนลายหินอ่อนกลิ่นละมุนเบาบางอุดมด้วยกรดอะมิโนตามธรรมชาติจึงอูมามิไม่ค่อยรู้สึกเลี่ยนนัก น้องพนักงานแนะนำว่าลองเคลือบซอส "โมมิดาเระ" (ถ้วยไร้เมล็ดงา) ก่อนปิ้งบนเตาถ่านพอสุกตามระดับที่ต้องการแล้วค่อยจิ้มน้ำซอส "No. 4" รสชาติอ่อนกว่ายากินิคุต้นตำรับธรรมดาๆจึงไม่รบกวนความหอมของวัวชั้นดีอร่อยเพิ่มอีกหนึ่งขั้นครับผม

ความพรีเมียมของเนื้อวัววากิวสายพันธุ์คาโกชิมะขนสีดำสนิทนำเข้าจากฟาร์มมาตรฐานประเทศญี่ปุ่นยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะทางร้าน "Red Panda Yakiniku" ได้คิดค้นเมนูปิ้งย่างยากินิคุและของกินเล่นอื่นเพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่ม Obon Course อีกเพียบเช่น "Tokujou Karubi Yaki Shabu" คารูบิหรือร่องซี่โครงยอดฮิตสไลซ์แผ่นบางสไตล์ภัตตาคารชาบูราดซอสสุกี้ยากี้หวานเค็มกลมกล่อมชนิดเข้มข้นพิเศษท็อปปิ้งต้นหอมซอยเส้นยาวกับอูนิหรือไข่หอยเม่นราคาแสนแพง วิธีรับประทานต้องวางบนเตาถ่านพอสุกสีอมชมพูจุ่มลงไข่ไก่ดิบก่อนเข้าปากอร่อยละมุนไหลลื่นลงคอชวนฝันจนต้องขอสั่งอีกหลายจาน / "Wagyu Sashimi" สเต๊กสันนอกลนไฟรุนแรงด้านนอกสุกข้างในยังดิบแล่ใส่จานลักษณะประดุจซาชิมิเทน้ำยำทาทากิเปรี้ยวอมหวานหอมน้ำมันงาสดชื่นกลมกล่อมกินคู่หอมหัวใหญ่ผัดสีน้ำตาลคาราเมลเข้ากันได้อย่างแปลกประหลาด / "Wagyu Yukke" เนื้อสับหยาบคลุกเคล้าต้นหอม,น้ำมันงาราดซีอิ๊วโชยุท็อปปิ้งไข่แดงไก่สดใหม่ชนิดกินดิบปลอดภัยต่อร่างกายยี่ห้อโมริทามะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลต้องผสมให้เข้ากันดีก่อนรับประทานได้อารมณ์เหมือนกำลังเปิบก้อยดิบแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย / "Wagyu Yukke Temaki" อัปเกรดจากเมนูก่อนหน้านี้โดยห่อแผ่นสาหร่ายกรุบกรอบม้วนรูปทรงกระบอกแล้วกัดเคี้ยวแตกระเบิดเต็มปากครับผม

สายซีฟู้ดตัวจริงบอกเลยว่าต้องประทับใจเพราะวัตถุดิบซึ่งร้าน "Red Panda Yakiniku" คัดสรรเอามาเสิร์ฟบนคอร์สใหม่ล่าสุดมีแต่ของระดับซูเปอร์พรีเมียมไม่ธรรมดาทั้งนั้นเช่น "Ibaragani Shoulder" ไหล่ปูยักษ์อิบาระคานิของดีแห่งจังหวัดฮอกไกโดจุดเด่นอยู่ตรงเปลือกสีส้มอ่อนเนื้อสัมผัสเป็นเส้นสีขาวรัดตัวกันแน่นกว่าสายพันธุ์ทาระบะย่างอย่าให้เนื้อโดนไฟโดยตรงเพื่อสัมผัสรสชาติอันหวานฉ่ำ / "Tiger Prawn" กุ้งลายเสือไซส์จัมโบ้คัดพิเศษฝั่งทะเลอันดามันคลื่นลมรุนแรงกว่าอ่าวไทยจึงต้องออกแรงว่ายน้ำสู้เด้งกรุบกรอบตรงหัวไขมันเยอะ พ่อครัวทำการผ่ากลางหลังดึงเส้นสกปรกสีดำล้างน้ำจนสะอาดพร้อมลงเตาถ่านเมื่อสุกดีแล้วจิ้มซีฟู้ดเปรี้ยวเผ็ดแซ่บบีบเลมอนสดนิดหน่อยอร่อยเคี้ยวแน่นเต็มปากสะใจ / "Hokkaido Shoyu Scallop" หอยเชลล์ขนาดเกือบเท่าฝ่ามือโดยอาศัยอยู่แถบกระแสน้ำอุ่นสลับเย็นธรรมชาติอุดมสมบูรณ์สีขาวแลดูอวบอิ่มคุณภาพสูงเทราดซีอิ๊วโชยุ,เนยก้อน,กระเทียมสับละเอียดละลายเคลือบทุกสิ่งส่งกลิ่นหอมชวนฟินง่ายๆฉบับชาวประมงพื้นบ้านดินแดนอาทิตย์อุทัย / "Gindara Horuyaki" ปลาหิมะกินดาระราคาต่อกิโลกรัมแสนแพงแล่ติดหนังแทรกไขมันยัดใส่แผ่นกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์รองด้วยเห็ดชิเมจิ,เนย,กระเทียม,โชยุพับมุมสี่ด้านปล่อยให้สุกต่อบนเตาเปิดออกมานุ่มฟูเหมือนปลานึ่งไอน้ำครับผม

ใครที่ชื่นชอบเหล่าปลาดิบเฉพาะบุฟเฟ่ต์ระดับสูงสุด Obon Course เท่านั้นทางร้านอัปเกรดเพิ่มคุณภาพความสดใหม่เทียบชั้นเกรดภัตตาคารโอมากาเสะทั้งหมดเลยต้องออเดอร์แบบเซตเสิร์ฟให้ปริมาณเยอะยิ่งใหญ่อลังการนั่นก็คือ "Exclusive Sashimi Moriawase" ประกอบไปด้วยวัตถุดิบจากทะเล 10 ชนิดเช่น "Salmon Sashimi" แซลมอนสายพันธุ์แอตแลนติกสีส้ม / "Otoro Sashimi" โอโทโร่ทูน่ายักษ์ส่วนพุงไขมันแทรกเยอะ / "Kanpachi Sashimi" คัมปาจิหางเหลืองไซส์เล็กมีอายุน้อยกว่า 3 ปี / "Hotate Sashimi" หอยเชลล์ฮอกไกโดอีกชื่อเรียกว่าโฮตาเตะหวานนวลเนียน / "Tairagai Sashimi" เอ็นหอยกาบลักษณะภายนอกดูเหมือนรายการก่อนหน้านี้สัมผัสเด้งกรุบกรอบสู้ฟัน / "Akagai Sashimi" หอยแครงญี่ปุ่นขนาดจัมโบ้คัดพิเศษไร้กลิ่นคาว / "Awabi Sashimi" หอยเป๋าฮื้อสุดแพงหารับประทานยาก / "Aka Ebi Sashimi" กุ้งแดงหวานแกะเปลือกเสร็จเรียบร้อยพร้อมฟินทันที / "Tako Sashimi" หมึกยักษ์ล้างเมือกทำความสะอาดลวกพอสุกน็อกน้ำแข็งก่อนแล่ชิ้นบางๆ / "Ikura Shot With Uni" ไข่แซลมอนดองซีอิ๊วโชยุไม่นานจึงเค็มน้อยบรรจุลงถ้วยเพิ่มความพรีเมียมอีกขั้นด้วยไข่หอยเม่นท็อปปิ้งด้านบน / "Chutoro Sashimi" สั่งแยกมาเพิ่มอีกจานเทียบกันส่วนท้องแล้วได้เคี้ยวไขมันน้อยจึงไม่เลี่ยนดีครับผม