JJNY : 5in1 มูลนิธิ ‘18 พฤษภา’แถลง│เตรียมเข้าฤดูหนาว│สงครามเดือดทุบหุ้น│เอกชนห่วงสงครามตอ.กลาง│เปิดแผนนานาชาติต่อเลบานอน

มูลนิธิ ‘18 พฤษภา’ เกาหลีใต้ แถลง สนับสนุน ‘Freedom Bridge’ สะพานเชื่อมนักโทษการเมืองในไทย
https://prachatai.com/journal/2024/10/110911
 
 
มูลนิธิ “18 พฤษภา” ควังจู เกาหลีใต้ สนับสนุนโครงการ “Freedom Bridge” สะพานเชื่อมนักโทษการเมืองในไทยกับโลกภายนอก และยืนหยัดต่อสู้เพื่อความยุติธรรม โดยอานนท์ นำภา เป็นหนึ่งในคนเคยได้รับรางวัลควังจูเพื่อสิทธิมนุษยชน
 
2 ต.ค. 2567 มูลนิธิ ‘May 18’ ควังจู เกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นเอกภาพและสนับสนุนโครงการ Freedom Bridgeที่ให้ความช่วยเหลือและรณรงค์ในประเด็นนักโทษการเมืองในไทย ในแถลงการณ์ระบุว่ามูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก ขอแสดงความเป็นเอกภาพและความสนับสนุนต่อโครงการ  Freedom Bridge ที่มีเป้าหมายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของนักโทษการเมืองในประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะกรณีของทนายอานนท์ นำภา ทนายความและนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน ผู้เคยได้รับรางวัลควังจูเพื่อสิทธิมนุษยชน
 
ทนายอานนท์ นำภา ได้ถูกคุมขัง และถูกปฏิเสธการประกันตัวถึงกว่า 10 ครั้ง เพียงเพราะการใช้สิทธิในการแสดงออกอย่างเสรี
 
นอกจากทนายอานนท์ ยังมีนักโทษการเมืองอีกกว่า 50 คนที่ถูกคุมขัง เพราะการแสดงออกในหลายรูปแบบ
 
โครงการ Freedom Bridge มุ่งทำงานเพื่อให้สังคมตระหนักถึงสถานการณ์นี้ และจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุนสนับสนุนผู้ต้องขังและครอบครัวของพวกเขา ซึ่งมักต้องประสบความยากลำบาก เนื่องจากผู้ต้องขังหลายคนเป็นเสาหลักของครอบครัว
 
มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก ขอแสดงความยินดีและความยกย่องต่อโครงการ Freedom Bridge ในการดำเนินงานเพื่อบอกเล่าเรื่องราวและการรณรงค์ การทำงานของท่านนอกจากจะช่วยให้สังคมตระหนักถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงในประเทศไทย ยังหนุนเสริมให้เกิดเครือข่ายผู้สนับสนุนและนักกิจกรรมระดับโลกที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเสรีภาพ
 
มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก ขอแสดงความเป็นเอกภาพ และขอให้โครงการ Freedom Bridge จงประสบความสำเร็จดังสิ่งที่มุ่งหมายทุกประการ
 
ทั้งนี้ มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก ก่อตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงจิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนในเมืองควังจูที่ลุกขึ้นต่อต้านการปกครองของระบอบเผด็จการทหารภายใต้ประธานาธิบดี ‘ชอน ดู-ฮวาน’ และนำมาสู่เหตุการณ์สังหารหมู่โดยกองทัพเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2523 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวที่เมืองควังจูถือเป็นหมุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของเกาหลีใต้
 
นับตั้งแต่ปี 2543 มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก ได้มอบรางวัลรางวัลควังจูเพื่อสิทธิมนุษยชน (The Gwangju Prize for Human Rights) ให้กับบุคคลและองค์กรทั้งในเกาหลีใต้และต่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยและสันติภาพ โดยมีคนไทย 3 คน ที่เคยได้รับรางวัลนี้ ได้แก่ อานนท์ นำภา ทนายความและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ได้รับรางวัลควังจูเพื่อสิทธิมนุษยชนปี 2564 จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ‘ไผ่-ดาวดิน’ ที่ได้รับรางวัลนี้เมื่อปี 2560 และอังคณา นีละไพจิตร ได้รับรางวัลเมื่อปี 2549



กรมอุตุฯ คาด ไทยเตรียมเข้าฤดูหนาว สัปดาห์ที่ 3 เดือนตุลาคม กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศา
https://www.matichon.co.th/local/news_4823713

กรมอุตุฯ เผย ไทยเตรียมเข้าฤดูหนาว สัปดาห์ที่ 3 เดือนตุลาคม กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศา

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่การคาดหมายฤดูหนาว ปี 2567 โดย ฤดูหนาวไทยปีนี้ จะเริ่มต้น ปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม (ช้ากว่าค่าเฉลี่ยปกติเล็กน้อย) สิ้นสุดประมาณกลางเดือน ก.พ.2568

ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20-21 องศา สูงกว่าปกติประมาณ 1.0 องศา

บริเวณที่มีโอกาสเกิดอากาศหนาวถึงหนาวจัด ธ.ค. 2567 – ม.ค. 2568 กรุงเทพมหานคร อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 16-17 องศา

อากาศหนาว 8.0 – 15.9 องศา อากาศหนาวจัด ต่ำกว่า 8.0 องศา ไม่รวมบริเวณเทือกเขา ยอดดอย และ ยอดภู

มีฝนตกชุกหนาแน่นทางฝั่งตะวันออกของภาค ตั้งแต่ชุมพรลงไป โดยเฉพาะในช่วงเดือน พ.ย. และ ธ.ค. จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และหนักมากบางแห่ง

ระวังพายุหมุนเขตร้อน ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง
 


สงครามเดือดทุบหุ้นไทยร่วง 13 จุด หลังขึ้นตามแรงซื้อวายุภักษ์-สถาบันซื้อสูงสุดรอบ 1 ปี 4 เดือน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4824089

สงครามเดือดทุบหุ้นไทยร่วง 13 จุด หลังขึ้นตามแรงซื้อวายุภักษ์-สถาบันซื้อสูงสุดรอบ 1 ปี 4 เดือน

วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,464.66 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,451.40 จุด ปรับลดลง 13.26 จุด หรือลบ 0.91% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,464.27 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,447.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 57,926.56 ล้านบาท

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นปรับฐานลงจากจิตวิทยาของตลาดในภาพรวม ที่ถูกกดดันจากความเสี่ยงในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล เพื่อตอบโต้กรณีอิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่ม Hezbollah ซึ่งหากไปกระทบแหล่งผลิตน้ำมัน อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งต่อในช่วงสั้น ฝั่งปัจจัยภายในประเทศ กระทรวงการคลังได้แถลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับปี 2568 โดยงบประมาณที่จะใช้กระตุ้นมีทั้งหมด 1.87 แสนล้านบาท น่าจะเป็นการใช้กับดิจิตอลวอลเล็ตเฟส 2 เป็นหลัก ผนวกกับมาตรการอื่นๆ ในแผนการ อาทิ ของขวัญปีใหม่ 2568 รวมทั้งมาตรการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน ที่มีแนวโน้มจะออกมาในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป

ดัชนีลดความร้อนแรงขาบวกลง โดยมีแรงซื้อจากฝั่งนักลงทุนสถาบันในประเทศที่แข็งแกร่งกว่าช่วงที่ผ่านมา มูลค่าซื้อสูงสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน โดยส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเม็ดเงินลงทุน (โฟลว์) ซื้อจากกองทุนวายุภักษ์ 1 ซึ่งเริ่มลงทุนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันแรก ทำให้นักลงทุนสถาบันมีความสนใจหุ้นไทยมากขึ้น โดยหุ้นธนาคารและค้าปลีกค่อนข้างเด่น สอดคล้องกับที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้” นายรักพงศ์ กล่าว.



เอกชน ห่วงสงครามตะวันออกกลางขยายวงกระทบราคาน้ำมัน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_783854/

เอกชน ห่วง สงครามตะวันออกกลาง ขยายวง กระทบราคาน้ำมัน-ค่าเรือขนส่งสินค้าพุ่ง
 
หลังจากมีรายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีไปที่เป้าหมายทางทหารและความมั่นคงที่สำคัญในอิสราเอลด้วยขีปนาวุธโดยอ้างว่า เป็นการตอบโต้การสังหารผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และผู้บัญชาการอิหร่านในเลบานอนเมื่อเร็วๆ นี้ และล่าสุดอิสราเอลกับสหรัฐอเมริกาเตือนอิหร่าน เตรียมเจอผลลัพธ์ที่รุนแรง หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธกว่า 180 ลูกพุ่งเป้าสถานที่ทางทหารในอิสราเอล โดยกองทัพเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดไว้แล้วในการตอบโต้
 
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท. กล่าวว่าทางภาคเอกชนมีการจับตาการโจมตีดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพราะมีความเป็นห่วงว่าเมื่อสงครามขยายวงไปยังตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่อ ราคาน้ำมันที่อาจปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้อีก ถึงแม้ว่าเวลานี้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวลมากนัก โดยยังอยู่ที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่หากสงครามมีการขยายวงและส่งผลกระทบต่อการผลิตก็จะทำให้สถานการณ์ราคาน้ำมัน พุ่งสูงขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลเป็นปัญหากระทบในวงกว้าง
  
นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงค่าระวางเรือที่อาจมีการปรับตัวสูงขึ้นได้ จากระดับปัจจุบันที่ค่าระวางเรือมีการปรับลดลงมาเล็กน้อยจากช่วงสถานการณ์สงครามก่อนหน้านี้แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงไม่ได้เข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเช่นในช่วงก่อนโควิด 19 หากเจอสถานการณ์สงครามซ้ำเติมมีความกังวลว่าค่าระวางเรือในการขนส่งสินค้าจะกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะซ้ำเติมผู้ประกอบการได้ เพราะอาจต้องมีการหลีกเลี่ยงเส้นทางการขนส่งในเส้นทางเดิมซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการขนส่งสินค้าสูงขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่