
มารีวิวย่านโอซาก้า อุเมดะ เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน พิกัดห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินแค่ 250 เมตร
ก่อนอื่นจะพาไปเที่ยวศาลเจ้าค่ะ แล้วก็จะไปทางเนื้อย่างบุฟเฟต์ที่ร้านริกิมารุกัน เป็นร้านเนื้อย่างร้านดังที่มีหลายสาขาทั้งโดทงโบริ นัมบะ ชินไซบาชิ แต่สาขาที่แหล่งท่องเที่ยวคนเยอะ ถ้าไม่ได้จองคิวก่อนก็ต้องรอหน่อย ก็เลยไปทานที่สาขาอุเมดะ ที่

การเดินทางก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายสีม่วง สาย Tanimachi Line มาลงที่ สถานีฮิงาชิ อุเมดะ (Higashi Umeda Station) จากนั้นก็เดินออกจากประตูทางออกหมายเลข 7
(เราเดินทางจากสถานีเท็นโนจิ Tennoji นั่งมาประมาณ 7 สถานี)

ก่อนอื่นจะพาไปศาลเจ้าที่อยู่ตรงข้ามร้านเนื้อย่างริกิมารุ ชื่อว่าศาลเจ้า Tsuyunoten หรือเรียกอีกชื่นหนึ่งว่า ศาลเจ้าโอฮัตสึเท็นจิน

เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปี ซึ่งนอกจากจะมีประวัติที่ยาวนานแล้ว
ที่นี่ยังเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเจริญที่มีทั้งตึกสูง แต่ร้านอาหารที่คึกคัก

วิธีการล้างมือเพื่อชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์
1.ถือกระบวยล้างมือซ้ายก่อน
2.จากนั้นก็สลับล้างมือขวา
3.จากนั้นใช้มือซ้ายกวักน้ำเพื่อบ้วนปาก
4.ตั้งกระบวยขึ้นให้น้ำที่เหลืออยู่ในกระบวยไหลลงล้างที่จับกระบวย
เป็นอันเสร็จสิ้น

เข้าไปในบริเวณศาลเจ้ากันเลย

ส่วนนี้เรียกว่า Kaiun Inari Shrine เกี่ยวกับ กิจการเจริญรุ่งเรือง เก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ รักษาโรคผิวหนัง

ป้ายที่นี้เป็นรูปหัวใจด้วย น่ารักมากๆ

วิธีกราบไหว้ศาลเจ้า
1.ใส่เหรียญลงกล่องหน้าศาลเจ้า
2.ปรบมือ 2 ครั้ง
3.โค้งคำนับ 2 รอบ
4.ปรบมืออีก 1 ครั้ง พร้อมขอพร

นี่คือรูปปั้นที่มีเรื่องราว และทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นจริง
ในปี 1703 โอฮัตสึ โสเภณีที่เท็นมายะในโดจิมะ ชินจิ และโทคุเบ พนักงานฝึกงานในร้านโชยุ ที่ฮิราโนยะในอุจิฮงมาชิ ได้ฆ่าตัวตายในป่าเท็นจิน (หลังศาลเจ้าปัจจุบัน) หนึ่งเดือนต่อมา Chikamatsu Monzaemon ได้ประกาศเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าระหว่างทั้งสองในรูปแบบละครหุ่นชื่อ Sonezaki Shinju ซึ่งโด่งดังเป็นอย่างมากในสมัยนั้น ทำให้ศาลเจ้ามีชื่อเสียงอย่างกระทันหันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังถูกเรียกว่า ``โอฮัทสึ เท็นจิน'' ตามชื่อของนางเอก ``โอฮัทสึ''
The Love Suicides at Sonezaki เป็นหนึ่งในบทละครบุนรากุที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งของ “มอนซาเอมอน ชิกะมัตสึ” ปรมาจารย์ด้านละครหุ่นกระบอก เรื่องราวที่ว่าด้วยโศกนาฏกรรมรักที่เกิดขึ้นจริง ระหว่างหญิงโสเภณีกับชายหนุ่มผู้ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงอื่นโดยที่เขาไม่ได้ยินยอมนี้
https://www.facebook.com/share/p/8QZKJyrkfq37RdkN/


ที่ป้ายนี้ก็เขียนอธิบายที่เราพิมพ์เรื่องราวไว้ด้านบนเลย

ส่วนนี้คือ Suitengu - Kotohiragu
เกี่ยวกับการคลอดบุตรอย่างปลอดภัย
การคุ้มครองเด็ก
ความปลอดภัยในการจราจร
การคุ้มครองอาชีพที่เกี่ยวข้องกับน้ำ

อันนี้เป็นจุดบูชาเครื่องราง ของขลัง

ที่นี่มีเยอะมากกกก

โอฮัตสึ และ โทคุเบ

ส่วนนี้เป็นย่านร้านอาหาร และอิซากายะ

และถ้าออกจากศาลเจ้าจากทางเดิม ออกไปขวามือ

และเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกันร้านเนื้อย่างริกิมารุ สาขา อุเมดะ โอฮัตสึเท็นจิน เลย
เดินไม่ถึง 1 นาที

ร้านตกแต่งดูดี สะอาด

ที่นั่งเป็นแบบ Box ที่ค่อนข้างมีความส่วนตัว

ส่วนใหญ่เป็นที่นั่งแบบ 4 คน กับที่นั่งแบบ 6 คน วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาไม่ได้จองก็ทานได้เลยแบบไม่ต้องรอคิว
มีทั้งคนญี่ปุ่น แล้วก็ชาวต่างชาติ วันที่เราไปเจอคนไทยด้วย

สั่งอาหารได้จากแท็บเล็ตเลย แค่แจ้งพนักงานก่อนว่าจะทานคอร์สไหน จากนั้นพนักงานก็จะให้เราสั่งอาหารต่อได้จากแท็บเล็ต
สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้ มีรูปด้วยเพราะฉะนั้นไม่ยากเลย

คอร์สที่เราสั่งคือ คอร์สที่ดีที่สุดคือ คอร์ส Ohatsu Tenjin (คอร์สเนื้อวากิว) แบบ 90 นาที ราคาคนละ 5,478 เยนแบบรวมภาษีแล้ว
ตกคนละประมาณ 1,242 บาท แต่รับประกันความคุ้มค่าค่ะ

ส่วนนี้ก็คือเมนูที่จะได้ทานเมื่อเลือกทานคอร์สเนื้อวากิว (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)

เนื้อวัวคารุบิ ส่วนนี้ต้องสั่งนะคะ ดีมากๆๆ นุ่มมากๆๆๆ (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)

ลิ้ววัวแล่หนา เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถ้ามาทานเนื้อย่างที่ญี่ปุ่นแล้วต้องสั่ง ยิ่งเป็นลิ้นวัวแบบแล่หนาแล้ว หอมมันเต็มคำ (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)

และความพิเศษของการสั่งคอร์สที่ดีที่สุดก็คือ มีกุ้งขนาดใหญ่ เนื้อแน่นเต็มคำ ปลาหมึก แล้วก็หอยโฮตาเตะแบบชิ้นใหญ่มาก ทานได้ไม่อั้นเลย (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)

วากิวยุดเกะ (เนื้อวัวดิบปรุงสุก) โปะด้วยไข่ดิบ วิธีทานก็คือคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน อร่อยหอมมันน้ำมันงา รสชาติที่ปรุงก็กำลังพิดี เนื้อหวานนุ่มไม่คาวเลย ด้านล่างมีหอมใหญ่สดตัดเลี่ยนได้ดี หอมใหญ่ดิบแต่ไม่ขมไม่เผ็ดลิ้นเลย เมนูนี้ห้ามพลาด (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)

อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องสั่งเลย เป็นซุชิเนื้อวากิว รนไฟ อันนี้หน้าตาที่เสริฟ์ยังไม่ไฟนอลนะคะ เพราะต้องรนไฟให้เนื้อสุกอว่านี้

รับประกันความพรีเมี่ยม เพราะที่นี่พิถีพิถันมากเลย วัตถุดิบดีจนไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นแบบบุฟเฟต์ที่ทานได้ไม่อั้น

เนื้อนุ่มมากกกกก

อันนี้เป็นลิ้นวัวแล่หนา วิถีทานก็โรยเกลื และบีบเลม่อนตามความชอบ แล้วรับประทานได้เลย

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เร่าชอบมากก็คือ ของหวานอันนี้ ประกอบไปด้วย ไอศกรีมวนิลา โมจิสามสี วิปครีม ขนมปลาไทยากิไส้ถั่วแดง แล้วด้านใต้มีขนมวาราบิโมจิด้วย แล้วเมนูนี้ก็สั่งได้ไม่อั้น ไม่จำกัดจำนวนในการสั่งต่อคนด้วย
ไม่แปลกในเลยที่ร้านคนเยอะมากๆ เพราะมันอร่อย พรีเมี่ยมจริงๆ ค่ะ ทานของพรีเมี่ยมได้ไม่อั้น แบบไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะบานปลายเลยเพราะจ่ายเป็นคอร์ส ยังไงถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวโอซาก้า หรือคันไซแล้วได้แวะมาก็มาลองทานดูนะคะ
[CR] เที่ยวย่านโอซาก้าอุเมดะ! แจกพิกัด กินบุฟเฟต์เนื้อย่างริกิมารุ เที่ยวศาลเจ้า
มารีวิวย่านโอซาก้า อุเมดะ เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน พิกัดห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินแค่ 250 เมตร
ก่อนอื่นจะพาไปเที่ยวศาลเจ้าค่ะ แล้วก็จะไปทางเนื้อย่างบุฟเฟต์ที่ร้านริกิมารุกัน เป็นร้านเนื้อย่างร้านดังที่มีหลายสาขาทั้งโดทงโบริ นัมบะ ชินไซบาชิ แต่สาขาที่แหล่งท่องเที่ยวคนเยอะ ถ้าไม่ได้จองคิวก่อนก็ต้องรอหน่อย ก็เลยไปทานที่สาขาอุเมดะ ที่
การเดินทางก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายสีม่วง สาย Tanimachi Line มาลงที่ สถานีฮิงาชิ อุเมดะ (Higashi Umeda Station) จากนั้นก็เดินออกจากประตูทางออกหมายเลข 7
(เราเดินทางจากสถานีเท็นโนจิ Tennoji นั่งมาประมาณ 7 สถานี)
ก่อนอื่นจะพาไปศาลเจ้าที่อยู่ตรงข้ามร้านเนื้อย่างริกิมารุ ชื่อว่าศาลเจ้า Tsuyunoten หรือเรียกอีกชื่นหนึ่งว่า ศาลเจ้าโอฮัตสึเท็นจิน
เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปี ซึ่งนอกจากจะมีประวัติที่ยาวนานแล้ว
ที่นี่ยังเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเจริญที่มีทั้งตึกสูง แต่ร้านอาหารที่คึกคัก
วิธีการล้างมือเพื่อชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์
1.ถือกระบวยล้างมือซ้ายก่อน
2.จากนั้นก็สลับล้างมือขวา
3.จากนั้นใช้มือซ้ายกวักน้ำเพื่อบ้วนปาก
4.ตั้งกระบวยขึ้นให้น้ำที่เหลืออยู่ในกระบวยไหลลงล้างที่จับกระบวย
เป็นอันเสร็จสิ้น
เข้าไปในบริเวณศาลเจ้ากันเลย
ส่วนนี้เรียกว่า Kaiun Inari Shrine เกี่ยวกับ กิจการเจริญรุ่งเรือง เก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ รักษาโรคผิวหนัง
ป้ายที่นี้เป็นรูปหัวใจด้วย น่ารักมากๆ
วิธีกราบไหว้ศาลเจ้า
1.ใส่เหรียญลงกล่องหน้าศาลเจ้า
2.ปรบมือ 2 ครั้ง
3.โค้งคำนับ 2 รอบ
4.ปรบมืออีก 1 ครั้ง พร้อมขอพร
นี่คือรูปปั้นที่มีเรื่องราว และทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นจริง
ในปี 1703 โอฮัตสึ โสเภณีที่เท็นมายะในโดจิมะ ชินจิ และโทคุเบ พนักงานฝึกงานในร้านโชยุ ที่ฮิราโนยะในอุจิฮงมาชิ ได้ฆ่าตัวตายในป่าเท็นจิน (หลังศาลเจ้าปัจจุบัน) หนึ่งเดือนต่อมา Chikamatsu Monzaemon ได้ประกาศเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าระหว่างทั้งสองในรูปแบบละครหุ่นชื่อ Sonezaki Shinju ซึ่งโด่งดังเป็นอย่างมากในสมัยนั้น ทำให้ศาลเจ้ามีชื่อเสียงอย่างกระทันหันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังถูกเรียกว่า ``โอฮัทสึ เท็นจิน'' ตามชื่อของนางเอก ``โอฮัทสึ''
The Love Suicides at Sonezaki เป็นหนึ่งในบทละครบุนรากุที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งของ “มอนซาเอมอน ชิกะมัตสึ” ปรมาจารย์ด้านละครหุ่นกระบอก เรื่องราวที่ว่าด้วยโศกนาฏกรรมรักที่เกิดขึ้นจริง ระหว่างหญิงโสเภณีกับชายหนุ่มผู้ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงอื่นโดยที่เขาไม่ได้ยินยอมนี้
https://www.facebook.com/share/p/8QZKJyrkfq37RdkN/
ที่ป้ายนี้ก็เขียนอธิบายที่เราพิมพ์เรื่องราวไว้ด้านบนเลย
ส่วนนี้คือ Suitengu - Kotohiragu
เกี่ยวกับการคลอดบุตรอย่างปลอดภัย
การคุ้มครองเด็ก
ความปลอดภัยในการจราจร
การคุ้มครองอาชีพที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
อันนี้เป็นจุดบูชาเครื่องราง ของขลัง
ที่นี่มีเยอะมากกกก
โอฮัตสึ และ โทคุเบ
ส่วนนี้เป็นย่านร้านอาหาร และอิซากายะ
และถ้าออกจากศาลเจ้าจากทางเดิม ออกไปขวามือ
และเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกันร้านเนื้อย่างริกิมารุ สาขา อุเมดะ โอฮัตสึเท็นจิน เลย
เดินไม่ถึง 1 นาที
ร้านตกแต่งดูดี สะอาด
ที่นั่งเป็นแบบ Box ที่ค่อนข้างมีความส่วนตัว
ส่วนใหญ่เป็นที่นั่งแบบ 4 คน กับที่นั่งแบบ 6 คน วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาไม่ได้จองก็ทานได้เลยแบบไม่ต้องรอคิว
มีทั้งคนญี่ปุ่น แล้วก็ชาวต่างชาติ วันที่เราไปเจอคนไทยด้วย
สั่งอาหารได้จากแท็บเล็ตเลย แค่แจ้งพนักงานก่อนว่าจะทานคอร์สไหน จากนั้นพนักงานก็จะให้เราสั่งอาหารต่อได้จากแท็บเล็ต
สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้ มีรูปด้วยเพราะฉะนั้นไม่ยากเลย
คอร์สที่เราสั่งคือ คอร์สที่ดีที่สุดคือ คอร์ส Ohatsu Tenjin (คอร์สเนื้อวากิว) แบบ 90 นาที ราคาคนละ 5,478 เยนแบบรวมภาษีแล้ว
ตกคนละประมาณ 1,242 บาท แต่รับประกันความคุ้มค่าค่ะ
ส่วนนี้ก็คือเมนูที่จะได้ทานเมื่อเลือกทานคอร์สเนื้อวากิว (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)
เนื้อวัวคารุบิ ส่วนนี้ต้องสั่งนะคะ ดีมากๆๆ นุ่มมากๆๆๆ (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)
ลิ้ววัวแล่หนา เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถ้ามาทานเนื้อย่างที่ญี่ปุ่นแล้วต้องสั่ง ยิ่งเป็นลิ้นวัวแบบแล่หนาแล้ว หอมมันเต็มคำ (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)
และความพิเศษของการสั่งคอร์สที่ดีที่สุดก็คือ มีกุ้งขนาดใหญ่ เนื้อแน่นเต็มคำ ปลาหมึก แล้วก็หอยโฮตาเตะแบบชิ้นใหญ่มาก ทานได้ไม่อั้นเลย (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)
วากิวยุดเกะ (เนื้อวัวดิบปรุงสุก) โปะด้วยไข่ดิบ วิธีทานก็คือคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน อร่อยหอมมันน้ำมันงา รสชาติที่ปรุงก็กำลังพิดี เนื้อหวานนุ่มไม่คาวเลย ด้านล่างมีหอมใหญ่สดตัดเลี่ยนได้ดี หอมใหญ่ดิบแต่ไม่ขมไม่เผ็ดลิ้นเลย เมนูนี้ห้ามพลาด (เฉพาะคอร์สเนื้อวากิว)
อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องสั่งเลย เป็นซุชิเนื้อวากิว รนไฟ อันนี้หน้าตาที่เสริฟ์ยังไม่ไฟนอลนะคะ เพราะต้องรนไฟให้เนื้อสุกอว่านี้
รับประกันความพรีเมี่ยม เพราะที่นี่พิถีพิถันมากเลย วัตถุดิบดีจนไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นแบบบุฟเฟต์ที่ทานได้ไม่อั้น
เนื้อนุ่มมากกกกก
อันนี้เป็นลิ้นวัวแล่หนา วิถีทานก็โรยเกลื และบีบเลม่อนตามความชอบ แล้วรับประทานได้เลย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เร่าชอบมากก็คือ ของหวานอันนี้ ประกอบไปด้วย ไอศกรีมวนิลา โมจิสามสี วิปครีม ขนมปลาไทยากิไส้ถั่วแดง แล้วด้านใต้มีขนมวาราบิโมจิด้วย แล้วเมนูนี้ก็สั่งได้ไม่อั้น ไม่จำกัดจำนวนในการสั่งต่อคนด้วย
ไม่แปลกในเลยที่ร้านคนเยอะมากๆ เพราะมันอร่อย พรีเมี่ยมจริงๆ ค่ะ ทานของพรีเมี่ยมได้ไม่อั้น แบบไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะบานปลายเลยเพราะจ่ายเป็นคอร์ส ยังไงถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวโอซาก้า หรือคันไซแล้วได้แวะมาก็มาลองทานดูนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้