
ช่วงซากุระได้ผ่านไปแล้ว วันนี้เราจะมาเก็บตกซากุระในโอซาก้ากัน พร้อมแจกพิกัดร้านเนื้อย่างร้านดังโอซาก้า ชื่อร้านริกิมารุ หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันบ้างแล้ว ร้านนี้เป็นที่นิยมมากๆ จริงๆ ยิ่งถ้าสาขาในย่านดังอย่างนัมบะ หรือชินไซบาชิ ยิ่งไม่ได้พูดถึงเลย ถ้าไม่จองล่วงหน้าก่อน โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ต้องรอคิวค่อนข้างนานเลย เพราะคนแน่นมากๆ เพราะเนื้อดี แล้วก็ราคาถูกมากสำหรับบุฟเฟต์เนื้อย่าง
ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปลองสาขาอื่น นั่นก็คือ ริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ ที่ก็อยู่ไม่ไกลจากนัมบะ โดทงโบริเลย
ไฮไลท์
- ซากุระที่ปราสาทโอซาก้า
- เนื้อย่างริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ (*ห้องส่วนตัวทุกห้อง)
วันธรรมดา 17:00〜22:30 (L.O.22:00)วันเสาร์อาทิตย์(วันหยุด) 16:00〜22:30 (L.O.22:00)
พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/GmRSDzLDnXVKtrKj8
เว็บไซต์
http://handafood.jp/access/

ก่อนอื่นมาเริ่มกันที่ปราสาทโอซาก้า แลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้จริงๆ สำหรับใครที่มาโอซาก้า บางคนอาจจะเคยมาแล้วในทริปอื่นๆ หรือบางคนอาจจะคิดว่าคนไปเยอะแล้ว ไม่ต้องไปก็ได้
แต่ไปเถอะค่ะ ไหนๆ ก็มาโอซาก้าไปถ่ายรูปกับหอคอยซักหน่อย ยิ่งถ้าช่วงฤดูพิเศษ อย่างฤดูใบไม้ผลิ ช่วงซากุระ หรือช่วงใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

นอกจากหอคอยปราสาทโอซาก้าที่เป็นไฮไลท์แล้ว บริเวณรอบๆ ปราสาทที่เรียกว่า Osaka-jo Koen สวนปราสาทโอซาก้า หรือ Osaka Castle Park ที่แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ โดยเฉพาะช่วงซากุระที่มีเส้นทางสายซากระที่โรแทนติกมากๆ อยู่

สำหรับการเดินทางมายังปราสาทโอซาก้า
สถานีที่ใกล้ที่สุดมีอยู่หลายสถานี
- สถานีรถไฟ JR Osakajokoen Station ของรถไฟ JR
- สถานีรถไฟใต้ดิน Morinomiya Station สาย Nagahoritsurumiryokuchi Line หรือ Chuo Line
- สถานีรถไฟใต้ดิน Tammabashi Station สาย Tanimachi Line
โดยสถานีที่ใกล้เส้นทางสายซากุระมากที่สุดคือสถานี Morinomiya และเดินออกจากประตูทางออก 3-B
*เส้นสีแดงคือทางเดินอุโมงค์ซากุระริมคลองรอบหอคอยปราสาทโอซาก้า

ที่ระหว่างทางของสวนมีลานหญ้า และที่นั่ง เป็นลานวิ่งเล่นหน่อยๆ แล้วก็มีสตาร์บัค กับร้านสะดวกซื้อด้วย ซื้อเครื่องดื่ม ซื้อกาแฟ หรือขนมก่อนไปเดินเล่น หรือหาที่นั่งที่นั่งทานชมวิวซากุระกัน

ตามจุดต่างๆ ของสวนจะมีที่ให้นั่งปิกนิกกัน บรรยากาศดีมากๆ คนญี่ปุ่นเองก็มานั่งกันเยอะมากๆ ยิ่งอากาศช่วงซากุระในวันที่อากาศดี ไม่หนาวจนเกินไป ก็เหมาะกับการมานั่งปิกนิกในสวนมากๆ

และนี่ก็คือโซนที่อยากแนะนำมากๆ กับเส้นทางสายซากุระที่ติดริมคลองรอบหอคอยปราสาทโอซาก้า จะได้เห็นวิวโอซาก้า ไปพร้อมๆ กับวิวริมน้ำ

หากเดินใต้ซากุระ ก็จะเป็นเส้นทางซากุระทอดเป็นทางยาวเป็นอุโมงค์ซากุระ สวยมากๆ เลย บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ

และถ้าหากเดินไปใกล้ๆ หอคอยปราสาทโอซาก้า ก็ลองหามุมถ่ายซากุระ กับหอคอยปราสาทโอซาก้ากันดูนะคะ
และหากปีหน้ามีโอกาสลองมาแวะดูซากุระที่นี่ดูนะคะ
ต่อไปจะพาเพื่อนๆ ไปทานเนื้อย่างกันเลย
สำหรับร้านที่เราจะไปทานเนื้อย่างก็คือร้านเนื้อย่าง ริกิมารุ ร้านดังของโอซาก้า ซึ่งที่ร้านมีไปออกบูธที่ไทยตลอดเลย เพราะฉะนั้นร้านเวลคัมคนไทย หรือชาวต่างชาติมากๆ

แต่ด้วยความที่ร้านค่อนข้างเป็นที่รู้จัก ในช่องคุณพีชชี่ สตีเฟ่นอปป้า ก็เห็นว่ามาทานที่ร้านนี้ด้วย เฉพาะฉะนั้นพวกสาขาที่อยู่ศูนย์กลางอย่างนัมบะ หรือชินไซบาชิ คือคิวแน่นมาก ยิ่งสาขาใหม่ที่ตึกเยื้องร้านปูตรงป้ายกูลิโกะ ถ้าใครไม่ได้วางแผนมาก่อน หรือจองมาก่อน อาจจะต้องรอคิวค่อนข้างนานเลย
เพราะฉะนั้นวันนี้เลยมาแนะนำอีก 1 สาขาที่จองง่ายกว่า และคิวไม่แน่นเท่า แล้วยังอยู่ไม่ไกลนัมบะ ป้ายกูลิโกะที่เป็นศูนย์กลางด้วย นั่งรถไฟไปแค่ 2 สถานีเท่านั้น นั่นก็คือ ริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ

Yakiniku Rikimaru Uehonmachi (焼肉力丸上本町店:ริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ) ชั้น 3
สำหรับการเดินทางถ้าเดินทางด้วยรถไฟ แล้วไปปราสาทโอซาก้ามาแบบเรา
นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีเท็มมะบาชิ (Temmabashi Station) สาย Tanimachi (สีม่วง) มา 3 สถานีมาลงที่สถานีทานิมาจิคิวโจเมะ (Tachimach 9-chome Station)
(หรือถ้าเพื่อนๆ คนไหนไม่อยากเดินทางด้วยรถไฟ ก็นั่งแท็กซี่มาไม่ไกลเลย ตาม Map ห่างประมาณ 3 กิโล เป็นทางตรงจากปราสาทโอซาก้ามาเลย ก็ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ค่าแท็กซี่น่าจะประมาณช่วง 1,000 เยนต้นๆ เท่านั้น ลองหาจาก Google map เรียกจากแอป GO ขึ้นว่า 910-1,000 เยน(ขึ้นจากใกล้ๆ ทางออก Otemon Gate) ถ้าไปหลายคนก็สะดวกแล้วก็ถูกมาก ส่วนจุดหมายปลายทางถ้าโบกเรียกเอง บอกแท็กซี่ว่าไป สถานีอุเอะฮนมาจิ รถไฟคินเท็ตสึก็ได้ค่ะ แล้วก็ใกล้ถึงก็บอกเขาเลยไปนิดนึง คอยดูแมพเอาไว้)

สำหรับเดินทางด้วยรถไฟแบบเรา เมื่อเดินทางมากถึง สถานีทานิมาจิคิวโจเมะ (Tachimach 9-chome Station) ลงจากรถไฟแล้วก็เดินทางไปตามป้ายบอกทางไปทางออกหมายเลข 5 เลยค่ะ
เมื่อเจอทางออกหมายเลข 5 แล้วก็เดินขึ้นบันไดมาชั้นบนดิน จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเลียบถนนใหญ่ไปเรื่อยๆ

(รูปบนซ้าย) เดินข้ามทางม้าลาย 1 ครั้ง แล้วก็เดินตรงไปตามทาง
(รูปบนขวา) พอเจอทางม้าลายที่ 2 เลี้ยวเข้าซอยไปทางซ้ายมือ
(รูปล่างขวา) จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ
(รูปล่างซ้าย) จนถึงแยกถนนใหญ่อีกเส้นที่แยกนี้ ตึกของร้านจะอยู่หัวมุมสี่แยกทางขวามือเลย

หน้าตาของตึกเป็นแบบนี้ค่ะ ร้านจะอยู่ชั้น 3 ของตึกนี้

ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 3 กันเลย

เดินเข้าไปในร้านได้เลย ออกจากลิฟต์ไปทางซ้ายมือสุดทาง

ถ้าจองมาก็แจ้งพนักงานได้เลย หรือถ้าไม่ได้จองก็บอกจำนวนคนปกติเลยค่ะ

สำหรับที่นั่งที่ร้าน ที่นี่จะเป็นที่นั่งแบบห้องส่วนตัวทั้งหมด มีประตูปิดแต่ละห้อง ส่วนตัวมากๆ
รองรับที่นั่งเล็กสุดก็ 2 คน แล้วก็มีแบบนั่งได้ 4 คน

แล้วก็แบบใหญ่เลยประมาณ 6-10 คนค่ะ รวมที่นั่งทั้งร้านมี 140 ที่นั่ง เพราะฉะนั้นถ้ากรณีอยากไปแบบกลุ่มใหญ่ ซัก 20-30 คนก็สามารถกั้นโซนเป็นโซนส่วนตัวของเราได้ค่ะ แต่ถ้าไปกลุ่มใหญ่มากๆ แนะนำว่าให้จองไปก่อนเลยนะคะ

แปะเว็บไซต์ให้นะคะเผื่อลองเข้าไปดูรายละเอียดพวกเบอร์โทรต่างๆ
http://handafood.jp/access/
หรือจองผ่านหน้า Google map ของร้านตรงช่อง Reserve a table ค่ะ
https://maps.app.goo.gl/GmRSDzLDnXVKtrKj8

ที่ร้านจะมีคอร์สให้เลือก 2 คอร์ส คือ Standard กับ Premium และมีแบบ 90 นาที กับ 120 นาที
ราคาคอร์สของทางร้านจากเพจ

อันนี้เป็นโซนเครื่องดื่มและของหวานที่ร้าน
ของหวานก็ตักได้ตลอดเลย มีไอศกรีมแบบตัก กับตู้กดซอฟต์ครีม มีท้อปปิ้งด้วย
เครื่องดื่มถ้าจองซอฟต์ดริ้งค์ก็เติมเองได้จากโซนนี้เลย มีทั้งเครื่องดื่มอัดลม ชาอู่หลงเย็น หรือน้ำส้ม
อีกเครื่องเป็นเครื่องชงร้านชา กาแฟ

วิธีสั่งอาหารที่ร้านคือสั่งจากแท็บเล็ตสั่งอาหาร มีภาษาอังกฤษด้วย เฉพาะฉะนั้นสะดวกมากๆ มีรูปให้ดูอีก

สำหรับผักย่าง แค่บอกพนักงานก็จะเอาถาดผักมาให้เลือกค่ะ

น้ำจิ้มมี 2 แบบสีน้ำตาลรสชาติหวานเค็ม ส่วนสีขาวจะเป็นซอสกระเทียม หวานเค็ม
นอกจากนี้ก็สั่งอื่นๆ เพิ่มได้เช่น วาซาบิสด กระเทียม โคจูงจัง หรือเกลือ แล้วก็มะนาว

เซ็ตที่ควรสั่งเลยก็คือเมนูแนะนำของที่ร้านเป็นเซต เนื้อ 4 ส่วน
ประกอบไปด้วย loin steak/สเต็กหั่นชิ้นหนา/สเต็กเนื้อหนาท้อง ฮารามิ/เนื้อส่วนคาลบี้

ความพรีเมี่ยมของเนื้อไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นบุฟเฟต์ ที่ร้านพิถีพิถันเลือกวัตถุดิบ แล่เนื้อสดใหม่ทุกวันด้วย นุ่มหนา ไม่แข็ง ตั้งแต่เริ่มจนจบเลย

แล้วก็ลิ้นวัว วิธีทานลิ้นวัวที่คนญี่ปุ่นนิยมก็คือ จิ้มเกลือ หรือสั่งแบบเกลือ บีบมะนาวแล้วก็ทาน
อร่อยมากๆ จริงๆ ค่ะต้องลองเลย

นอกจากเนื้อวัวแล้ว ที่นี่มีเนื้ออื่นๆ ด้วยนะคะ ทั้งไก่ หรือหมู นอกจากนี้มีเครื่องในด้วย
แล้วนอกจากเมนูเนื้อแล้ว ก็มีเป็นเมนูอาหารด้วย ทั้งทานเล่นแล้วก็เมนูจริงจัง
เช่นพวกราเม็ง ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวบิบิมบับ ฯลฯ อีกเยอะมาก

รับประกันความพรีเมี่ยมนี้ ดูลายเนื้อ และความหนาของชิ้นเนื้อแต่ละชิ้น หอมอร่อยเต็มคำ

ปิดจบด้วยของหวาน ตักซอฟต์ครีม ไอศกรีมมัจฉะ แล้วก็ชาร้อนมา อิ่มมากๆๆ

ครั้งนี่เราเลือกเป็นคอร์สพรีเมี่ยม 120 นาที 3,780 เยน (ประมาณ 903 บาท) + ซอฟต์ดริ้งค์ 580 เยน (ประมาณ 139 บาท) รวมมื้อนี้ตกคนละ ประมาณ 1,042 บาทเท่านั้น
ได้ทานเนื้อเน้นๆ ไหนจะเมนูอาหาร ราเม็ง หรือข้าวอีก ของหวานกับเครื่องดื่มก็ตักได้ไม่อั้นในราคาพันนิดๆ คุ้มมากกกกกกก ยิ่งที่นี่เป็นห้องส่วนตัวอีก Private สุดๆ ในราคาย่อมเยา ไม่ควรพลาดเลยนะคะ

บริเวณรอบๆ แถวร้านมี Drug store ที่ทำ Taxfree ได้ติดกันตั้ง 2 ร้าน แล้วถ้าเดินไปอีกหน่อย ตรงสถานีอุเอะฮนมาจิ ของรถไฟคินเท็ตสึก็มีห้าง Kintetsu ที่รวมร้านเยอะมากๆ ทั้งร้าน Uniqlo หรือร้านเสื้อผ้า แล้วก็มี ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ED ON ด้วย
ว่าจะไม่ช้อปแต่ก็เสียตังค์อีกจนได้ค่ะ
[CR] ทริปสั้นโอซาก้า! ดูซากุระปราสาทโอซาก้า + รีวิวร้านเนื้อย่างริกิมารุร้านดังที่โอซาก้า (แนะนำสาขาอุเอะฮนมาจิที่เป็นห้องส่ว
ช่วงซากุระได้ผ่านไปแล้ว วันนี้เราจะมาเก็บตกซากุระในโอซาก้ากัน พร้อมแจกพิกัดร้านเนื้อย่างร้านดังโอซาก้า ชื่อร้านริกิมารุ หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันบ้างแล้ว ร้านนี้เป็นที่นิยมมากๆ จริงๆ ยิ่งถ้าสาขาในย่านดังอย่างนัมบะ หรือชินไซบาชิ ยิ่งไม่ได้พูดถึงเลย ถ้าไม่จองล่วงหน้าก่อน โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ต้องรอคิวค่อนข้างนานเลย เพราะคนแน่นมากๆ เพราะเนื้อดี แล้วก็ราคาถูกมากสำหรับบุฟเฟต์เนื้อย่าง
ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปลองสาขาอื่น นั่นก็คือ ริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ ที่ก็อยู่ไม่ไกลจากนัมบะ โดทงโบริเลย
- ซากุระที่ปราสาทโอซาก้า
- เนื้อย่างริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ (*ห้องส่วนตัวทุกห้อง)
วันธรรมดา 17:00〜22:30 (L.O.22:00)วันเสาร์อาทิตย์(วันหยุด) 16:00〜22:30 (L.O.22:00)
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/GmRSDzLDnXVKtrKj8
เว็บไซต์ http://handafood.jp/access/
ก่อนอื่นมาเริ่มกันที่ปราสาทโอซาก้า แลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้จริงๆ สำหรับใครที่มาโอซาก้า บางคนอาจจะเคยมาแล้วในทริปอื่นๆ หรือบางคนอาจจะคิดว่าคนไปเยอะแล้ว ไม่ต้องไปก็ได้
แต่ไปเถอะค่ะ ไหนๆ ก็มาโอซาก้าไปถ่ายรูปกับหอคอยซักหน่อย ยิ่งถ้าช่วงฤดูพิเศษ อย่างฤดูใบไม้ผลิ ช่วงซากุระ หรือช่วงใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ
นอกจากหอคอยปราสาทโอซาก้าที่เป็นไฮไลท์แล้ว บริเวณรอบๆ ปราสาทที่เรียกว่า Osaka-jo Koen สวนปราสาทโอซาก้า หรือ Osaka Castle Park ที่แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ โดยเฉพาะช่วงซากุระที่มีเส้นทางสายซากระที่โรแทนติกมากๆ อยู่
สำหรับการเดินทางมายังปราสาทโอซาก้า
สถานีที่ใกล้ที่สุดมีอยู่หลายสถานี
- สถานีรถไฟ JR Osakajokoen Station ของรถไฟ JR
- สถานีรถไฟใต้ดิน Morinomiya Station สาย Nagahoritsurumiryokuchi Line หรือ Chuo Line
- สถานีรถไฟใต้ดิน Tammabashi Station สาย Tanimachi Line
โดยสถานีที่ใกล้เส้นทางสายซากุระมากที่สุดคือสถานี Morinomiya และเดินออกจากประตูทางออก 3-B
*เส้นสีแดงคือทางเดินอุโมงค์ซากุระริมคลองรอบหอคอยปราสาทโอซาก้า
ที่ระหว่างทางของสวนมีลานหญ้า และที่นั่ง เป็นลานวิ่งเล่นหน่อยๆ แล้วก็มีสตาร์บัค กับร้านสะดวกซื้อด้วย ซื้อเครื่องดื่ม ซื้อกาแฟ หรือขนมก่อนไปเดินเล่น หรือหาที่นั่งที่นั่งทานชมวิวซากุระกัน
ตามจุดต่างๆ ของสวนจะมีที่ให้นั่งปิกนิกกัน บรรยากาศดีมากๆ คนญี่ปุ่นเองก็มานั่งกันเยอะมากๆ ยิ่งอากาศช่วงซากุระในวันที่อากาศดี ไม่หนาวจนเกินไป ก็เหมาะกับการมานั่งปิกนิกในสวนมากๆ
และนี่ก็คือโซนที่อยากแนะนำมากๆ กับเส้นทางสายซากุระที่ติดริมคลองรอบหอคอยปราสาทโอซาก้า จะได้เห็นวิวโอซาก้า ไปพร้อมๆ กับวิวริมน้ำ
หากเดินใต้ซากุระ ก็จะเป็นเส้นทางซากุระทอดเป็นทางยาวเป็นอุโมงค์ซากุระ สวยมากๆ เลย บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
และถ้าหากเดินไปใกล้ๆ หอคอยปราสาทโอซาก้า ก็ลองหามุมถ่ายซากุระ กับหอคอยปราสาทโอซาก้ากันดูนะคะ
และหากปีหน้ามีโอกาสลองมาแวะดูซากุระที่นี่ดูนะคะ
ต่อไปจะพาเพื่อนๆ ไปทานเนื้อย่างกันเลย
สำหรับร้านที่เราจะไปทานเนื้อย่างก็คือร้านเนื้อย่าง ริกิมารุ ร้านดังของโอซาก้า ซึ่งที่ร้านมีไปออกบูธที่ไทยตลอดเลย เพราะฉะนั้นร้านเวลคัมคนไทย หรือชาวต่างชาติมากๆ
แต่ด้วยความที่ร้านค่อนข้างเป็นที่รู้จัก ในช่องคุณพีชชี่ สตีเฟ่นอปป้า ก็เห็นว่ามาทานที่ร้านนี้ด้วย เฉพาะฉะนั้นพวกสาขาที่อยู่ศูนย์กลางอย่างนัมบะ หรือชินไซบาชิ คือคิวแน่นมาก ยิ่งสาขาใหม่ที่ตึกเยื้องร้านปูตรงป้ายกูลิโกะ ถ้าใครไม่ได้วางแผนมาก่อน หรือจองมาก่อน อาจจะต้องรอคิวค่อนข้างนานเลย
เพราะฉะนั้นวันนี้เลยมาแนะนำอีก 1 สาขาที่จองง่ายกว่า และคิวไม่แน่นเท่า แล้วยังอยู่ไม่ไกลนัมบะ ป้ายกูลิโกะที่เป็นศูนย์กลางด้วย นั่งรถไฟไปแค่ 2 สถานีเท่านั้น นั่นก็คือ ริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ
Yakiniku Rikimaru Uehonmachi (焼肉力丸上本町店:ริกิมารุ สาขาอุเอะฮนมาจิ) ชั้น 3
สำหรับการเดินทางถ้าเดินทางด้วยรถไฟ แล้วไปปราสาทโอซาก้ามาแบบเรา
นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีเท็มมะบาชิ (Temmabashi Station) สาย Tanimachi (สีม่วง) มา 3 สถานีมาลงที่สถานีทานิมาจิคิวโจเมะ (Tachimach 9-chome Station)
(หรือถ้าเพื่อนๆ คนไหนไม่อยากเดินทางด้วยรถไฟ ก็นั่งแท็กซี่มาไม่ไกลเลย ตาม Map ห่างประมาณ 3 กิโล เป็นทางตรงจากปราสาทโอซาก้ามาเลย ก็ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ค่าแท็กซี่น่าจะประมาณช่วง 1,000 เยนต้นๆ เท่านั้น ลองหาจาก Google map เรียกจากแอป GO ขึ้นว่า 910-1,000 เยน(ขึ้นจากใกล้ๆ ทางออก Otemon Gate) ถ้าไปหลายคนก็สะดวกแล้วก็ถูกมาก ส่วนจุดหมายปลายทางถ้าโบกเรียกเอง บอกแท็กซี่ว่าไป สถานีอุเอะฮนมาจิ รถไฟคินเท็ตสึก็ได้ค่ะ แล้วก็ใกล้ถึงก็บอกเขาเลยไปนิดนึง คอยดูแมพเอาไว้)
สำหรับเดินทางด้วยรถไฟแบบเรา เมื่อเดินทางมากถึง สถานีทานิมาจิคิวโจเมะ (Tachimach 9-chome Station) ลงจากรถไฟแล้วก็เดินทางไปตามป้ายบอกทางไปทางออกหมายเลข 5 เลยค่ะ
เมื่อเจอทางออกหมายเลข 5 แล้วก็เดินขึ้นบันไดมาชั้นบนดิน จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเลียบถนนใหญ่ไปเรื่อยๆ
(รูปบนซ้าย) เดินข้ามทางม้าลาย 1 ครั้ง แล้วก็เดินตรงไปตามทาง
(รูปบนขวา) พอเจอทางม้าลายที่ 2 เลี้ยวเข้าซอยไปทางซ้ายมือ
(รูปล่างขวา) จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ
(รูปล่างซ้าย) จนถึงแยกถนนใหญ่อีกเส้นที่แยกนี้ ตึกของร้านจะอยู่หัวมุมสี่แยกทางขวามือเลย
หน้าตาของตึกเป็นแบบนี้ค่ะ ร้านจะอยู่ชั้น 3 ของตึกนี้
ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 3 กันเลย
เดินเข้าไปในร้านได้เลย ออกจากลิฟต์ไปทางซ้ายมือสุดทาง
ถ้าจองมาก็แจ้งพนักงานได้เลย หรือถ้าไม่ได้จองก็บอกจำนวนคนปกติเลยค่ะ
สำหรับที่นั่งที่ร้าน ที่นี่จะเป็นที่นั่งแบบห้องส่วนตัวทั้งหมด มีประตูปิดแต่ละห้อง ส่วนตัวมากๆ
รองรับที่นั่งเล็กสุดก็ 2 คน แล้วก็มีแบบนั่งได้ 4 คน
แล้วก็แบบใหญ่เลยประมาณ 6-10 คนค่ะ รวมที่นั่งทั้งร้านมี 140 ที่นั่ง เพราะฉะนั้นถ้ากรณีอยากไปแบบกลุ่มใหญ่ ซัก 20-30 คนก็สามารถกั้นโซนเป็นโซนส่วนตัวของเราได้ค่ะ แต่ถ้าไปกลุ่มใหญ่มากๆ แนะนำว่าให้จองไปก่อนเลยนะคะ
แปะเว็บไซต์ให้นะคะเผื่อลองเข้าไปดูรายละเอียดพวกเบอร์โทรต่างๆ http://handafood.jp/access/
หรือจองผ่านหน้า Google map ของร้านตรงช่อง Reserve a table ค่ะ
https://maps.app.goo.gl/GmRSDzLDnXVKtrKj8
ที่ร้านจะมีคอร์สให้เลือก 2 คอร์ส คือ Standard กับ Premium และมีแบบ 90 นาที กับ 120 นาที
ราคาคอร์สของทางร้านจากเพจ
อันนี้เป็นโซนเครื่องดื่มและของหวานที่ร้าน
ของหวานก็ตักได้ตลอดเลย มีไอศกรีมแบบตัก กับตู้กดซอฟต์ครีม มีท้อปปิ้งด้วย
เครื่องดื่มถ้าจองซอฟต์ดริ้งค์ก็เติมเองได้จากโซนนี้เลย มีทั้งเครื่องดื่มอัดลม ชาอู่หลงเย็น หรือน้ำส้ม
อีกเครื่องเป็นเครื่องชงร้านชา กาแฟ
วิธีสั่งอาหารที่ร้านคือสั่งจากแท็บเล็ตสั่งอาหาร มีภาษาอังกฤษด้วย เฉพาะฉะนั้นสะดวกมากๆ มีรูปให้ดูอีก
สำหรับผักย่าง แค่บอกพนักงานก็จะเอาถาดผักมาให้เลือกค่ะ
น้ำจิ้มมี 2 แบบสีน้ำตาลรสชาติหวานเค็ม ส่วนสีขาวจะเป็นซอสกระเทียม หวานเค็ม
นอกจากนี้ก็สั่งอื่นๆ เพิ่มได้เช่น วาซาบิสด กระเทียม โคจูงจัง หรือเกลือ แล้วก็มะนาว
เซ็ตที่ควรสั่งเลยก็คือเมนูแนะนำของที่ร้านเป็นเซต เนื้อ 4 ส่วน
ประกอบไปด้วย loin steak/สเต็กหั่นชิ้นหนา/สเต็กเนื้อหนาท้อง ฮารามิ/เนื้อส่วนคาลบี้
ความพรีเมี่ยมของเนื้อไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นบุฟเฟต์ ที่ร้านพิถีพิถันเลือกวัตถุดิบ แล่เนื้อสดใหม่ทุกวันด้วย นุ่มหนา ไม่แข็ง ตั้งแต่เริ่มจนจบเลย
แล้วก็ลิ้นวัว วิธีทานลิ้นวัวที่คนญี่ปุ่นนิยมก็คือ จิ้มเกลือ หรือสั่งแบบเกลือ บีบมะนาวแล้วก็ทาน
อร่อยมากๆ จริงๆ ค่ะต้องลองเลย
นอกจากเนื้อวัวแล้ว ที่นี่มีเนื้ออื่นๆ ด้วยนะคะ ทั้งไก่ หรือหมู นอกจากนี้มีเครื่องในด้วย
แล้วนอกจากเมนูเนื้อแล้ว ก็มีเป็นเมนูอาหารด้วย ทั้งทานเล่นแล้วก็เมนูจริงจัง
เช่นพวกราเม็ง ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวบิบิมบับ ฯลฯ อีกเยอะมาก
รับประกันความพรีเมี่ยมนี้ ดูลายเนื้อ และความหนาของชิ้นเนื้อแต่ละชิ้น หอมอร่อยเต็มคำ
ปิดจบด้วยของหวาน ตักซอฟต์ครีม ไอศกรีมมัจฉะ แล้วก็ชาร้อนมา อิ่มมากๆๆ
ครั้งนี่เราเลือกเป็นคอร์สพรีเมี่ยม 120 นาที 3,780 เยน (ประมาณ 903 บาท) + ซอฟต์ดริ้งค์ 580 เยน (ประมาณ 139 บาท) รวมมื้อนี้ตกคนละ ประมาณ 1,042 บาทเท่านั้น
ได้ทานเนื้อเน้นๆ ไหนจะเมนูอาหาร ราเม็ง หรือข้าวอีก ของหวานกับเครื่องดื่มก็ตักได้ไม่อั้นในราคาพันนิดๆ คุ้มมากกกกกกก ยิ่งที่นี่เป็นห้องส่วนตัวอีก Private สุดๆ ในราคาย่อมเยา ไม่ควรพลาดเลยนะคะ
บริเวณรอบๆ แถวร้านมี Drug store ที่ทำ Taxfree ได้ติดกันตั้ง 2 ร้าน แล้วถ้าเดินไปอีกหน่อย ตรงสถานีอุเอะฮนมาจิ ของรถไฟคินเท็ตสึก็มีห้าง Kintetsu ที่รวมร้านเยอะมากๆ ทั้งร้าน Uniqlo หรือร้านเสื้อผ้า แล้วก็มี ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ED ON ด้วย
ว่าจะไม่ช้อปแต่ก็เสียตังค์อีกจนได้ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้