หากคุณต้องเจอคนที่มีดีกว่าคุณในทุกด้าน เช่น รวยกว่า หน้าตาดีกว่า คุณจะทำอย่างไรกับความอิจฉา ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

สวัสดีครับ ปัจจุบันนี้ ผมเรียนป.ตรี ใกล้จบแล้ว

ในตอนเด็ก ถ้าคุณเรียนได้เกรดสูงๆติดอันดับของห้อง ของระดับชั้น ไปสอบแข่งขันได้รางวัลระดับจังหวัด พวกคุณคงจะดีใจใช่ไหม ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น 
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ผมเริ่มตั้งคำถามว่า ถ้าเอาชนะระดับโรงเรียนได้ ก็ต้องมีระดับจังหวัด ถ้าเอาชนะระดับจังหวัดได้ ก็ต้องมีระดับประเทศ ยังไม่นับคนต่างชาติ คนจีน ยุโรป ฝรั่ง ผิวดำ แล้วก็การแข่งขันไม่ได้มีแค่วิชาเดียว หรือด้านการเรียนเท่านั้น ในอนาคตเมื่อโตขึ้น แม้จะเอาชนะทางด้านวิชาการได้ ก็ยังต้องเจอคนที่หล่อกว่า สูงกว่า บ้านรวยกว่า หน้าที่การงานดีกว่า ทำธุรกิจได้ร่ำรวยกว่า ฯลฯ และยังมีปัญหาส่วนตัว เช่น ป่วย ทะเลาะกับสามีภรรยา ลูก หน้าที่การงานสะดุดอีก ปัญหาสังคม เช่น ภาวะเศรษฐกิจ สงคราม ภัยธรรมชาติ 

ผมได้แต่ครุ่นคิดในใจมาตลอดว่า ถ้าวันหนึ่งผมจะต้องไปเจอคนที่มีดีกว่าตัวเองทุกอย่าง บ้านรวย พ่อแม่ให้เงินใช้เดือนละ 100000 บาทขึ้นไป เรียนเก่ง หล่อ หน้าตาดี มีแต่ผู้หญิงสวยๆตามจีบ ถ้าต้องไปทำงาน แล้วเจอคนที่ไต่เต้าในหน้าที่การงานได้อย่างรวดเร็ว  เงินเดือนสูงกว่า ถ้าไปเจอคนที่ทำธุรกิจ กำไรหลักล้าน มีบ้านหลังใหญ่โต มีเงินจ้างคนสวน แม่บ้าน ผมควรจะต้องทำอย่างไร

ผมไม่มีวันที่จะทำใจได้

นึกย้อนกลับไป ผมเริ่มคิดฆ่าตัวตายครั้งแรกตอน ป.4 เพราะผมมองไม่เห็นทางออกของชีวิตเลย และในตอนนั้น ผมเริ่มจะสอบได้ที่ 2 3 เป็นครั้งแรก แต่ช่วงชีวิตที่ผมคิดจะฆ่าตัวตายจริงจังครั้งแรก ก็คงจะช่วง ม.2 ม.3 ตอนนั้นมีอะไรหลายอย่างเข้ามา เพื่อนบางคนหล่อ มีแต่ผู้หญิงมาชอบ เรียนเก่ง หน้าตาดีกว่า สูงกว่า บางคนก็สอบได้โอลิมปิกวิชาการ บางคนก็สอบได้เรียนต่อโรงเรียนที่มีชื่อเสียง เช่น เตรียมอุดม มหิดลวิทยานุสรณ์ กำเนิดวิทย์ 

คำถามเหล่านี้ค้างคาในใจมาตลอด จนกระทั่ง ตอนที่ผมอยู่ม.6 ผมตัดสินใจว่า ครั้งนี้ผมจะขอฆ่าตัวตายจริงๆ แต่ก็มีคนมาพบเจอก่อน ผมจึงตัดสินใจที่จะหาวิธีมีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้

คำถามที่ผมสงสัยและอยากให้ทุกคนมาแลกเปลี่ยน ก็คือ
1. ขอถามมนุษย์เงินเดือน ถ้าที่ทำงานของคุณมีคนที่เลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า เงินเดือนสูงกว่า คุณจะอิจฉาหรือไม่ จะจัดการอย่างไรกับความอิจฉา 
2. ถ้าสมมติคุณได้รู้ว่า คนนี้จบมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากกว่าที่คุณจบมา คุณจะรู้สึกอย่างไร ขอยกตัวอย่าง เช่น จบมาจากจุฬาฯ มหิดลฯ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ถ้าเป็นสายวิศวกรรมก็อาจจะมีบางมด ลาดกระบัง ไปจนถึงคนที่มีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศอื่น เช่น ในอเมริกาก็จะมีมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Ivy League เช่น Harvard Yale สถาบันอื่นๆในอเมริกาเช่น MIT Stanford มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอังกฤษ เช่น Oxford Cambridge  คุณจะรู้สึกอิจฉาพวกเขาหรือไม่ และรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองหรือไม่ จัดการกับความรู้สึกแบบนั้นอย่างไร และคุณเคยเห็นคนที่จบมหาวิทยาลัยดัง เจอปัญหาชีวิตหรือไม่
จากคำถาม 2 ข้อนี้ ผมขอแท็ก "มนุษย์เงินเดือน" ด้วย
3. ถ้าคุณต้องไปเจอคนที่มีหน้าตาในสังคมมากกว่า รวยกว่า ทำธุรกิจได้กำไรมากมาย มีสามีภรรยาที่ดูดี มีลูกที่เชิดหน้าชูตา มีบ้านหลังใหญ่โต มีเงินจ้างคนสวน แม่บ้าน คุณจะต่อสู้กับความอิจฉาอย่างไร
4. เรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้

ถ้าจะถามว่า สิ่งที่ค้างคาในใจ ผมพอจะมีคำถามให้กับตัวเองหรือยัง ก็ขอตอบว่า มีแล้ว ทุกวันนี้ ผมมีคำตอบส่วนตัวแล้วว่า ถ้าผมจะต้องเจอคนที่มีดีกว่าตัวเองในทุกด้าน ผมจะต้องทำอย่างไร และท้ายที่สุด แม้ผมจะเอาชนะพวกเขาไม่ได้ ผมควรจะทำอย่างไร ผมจะขอไม่ตอบคำถามเหล่านี้ ผมไม่กลัวว่าใครจะเก่งกว่าผมหรอกถ้าได้รู้คำตอบนี้ แต่ผมกลัวไม่เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการบอกมากกว่า

ป.ล.1 บางคนอาจจะบอกว่า นักเรียนที่เขาสอบได้ เป็นตัวแทนโอลิมปิกวิชาการ สอบได้ทุนเล่าเรียนหลวงเรียนต่อต่างประเทศ เขาก็ต้องพยายามอ่านหนังสืออย่างหนัก เตรียมตัวอย่างหนัก ผมไม่เถียงในข้อนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมสงสัยและอิจฉามาตลอดคือ ทำไมคนนั้นบ้านรวย อยากซื้อหนังสืออันนั้นก็ได้อันนี้ก็ได้ อยากเรียนพิเศษที่นั่นที่นี่ก็ได้เรียน(ผมไม่ชอบการเรียนพิเศษนะครับ แค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ) วันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ต้องทำอะไร ไม่มีญาติพี่น้องมากวนใจ ไม่ต้องช่วยพ่อแม่ขายของ ทำให้มีเวลาอ่านหนังสือ เตรียมตัวทั้งวัน มีครูพาไปแข่งขันโครงการนั้นโครงการนี้ตลอด (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเรียนจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ กำเนิดวิทย์) ซึ่งจะมีผลต่อการยื่น Portfolio เข้ามหาวิทยาลัย ถ้าอยากเรียนในประเทศไทยก็ดี โดยเฉพาะถ้าอยากเรียนในต่างประเทศ Portfolio นี้จำเป็นมากเพราะมหาวิทยาลัยในอเมริกาเกือบทั้งหมดมักจะไม่ดูแค่คะเเนนสอบ ในขณะที่คนเรียนที่ต่างจังหวัดไม่มีโอกาสตรงนี้ หรือมีน้อย และถึงแม้จะสอบไปเรียนต่างประเทศได้ มันก็วนมาคำถามเดิมแบบข้างต้นอยู่ดี ว่าถ้าเจอคนต่างชาติที่เก่งกว่า จะต่อสู้กับพวกเขาอย่างไร 
ส่วนตัวของผม แม้วันเสาร์อาทิตย์ จะไม่ต้องไปช่วยที่บ้านขายของ ไม่ได้มีปัญหาทางการเงิน แต่ทางบ้านก็ไม่ได้รวยถึงขั้นมีเชฟ มีแม่บ้าน ยังต้องทำความสะอาดบ้านเอง ทำอาหารเอง ซึ่งหลายครั้งมันก็ทำให้ผมสงสัยว่า เราจะเอาชนะคนที่เขามีทุกอย่างได้อย่างไร และคนที่เขาด้อยโอกาส ยากจนมาก ไม่มีเงินซื้อหนังสือ เขาจะเป็นอย่างไร เขาจะรู้สึกอิจฉาผมหรือไม่ และผมควรจะทำตัวอย่างไร ไปจนถึงเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากการเรียนอย่างที่พิมพ์ไปข้างบน ปัจจุบันนี้ผมมีคำตอบให้ตัวเองแล้ว ผมไม่ต้องการคำตอบจากคนอื่นในส่วนนี้เพิ่มเติมแล้ว
ป.ล.2 เดี๋ยวจะต้องมีคำตอบประมาณว่า “เราไม่ต้องมีบ้านใหญ่โต รวยล้นฟ้า หน้าที่การงานดี ไม่ต้องประสบความสำเร็จมากมาย ก็มีความสุขได้” มีหลายคนที่มักจะบอกกับผมในลักษณะนี้ แต่ผมยอมรับว่า นี่เป็นคำกล่าวที่ผมไม่ชอบเลย ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิ่งที่ให้ความสำคัญที่แตกต่างกัน และแน่นอนว่าผมก็มีสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ ผมยอมรับว่าผมไม่มีความรู้สึกร่วมกับคำกล่าวนี้เลย เพราะมันคือความสุขของผู้พูด ไม่ใช่ของผม
ป.ล.3 ไม่ต้องแนะนำให้ผมไปหาจิตแพทย์นะครับ ผมได้รับคำแนะนำแบบนี้มาบ่อยแล้ว และก็เคยไปหามาแล้วหลายครั้ง

แก้ไข 1
 มีคนถามว่า ไปหาจิตแพทย์แล้วได้อะไรมาบ้าง
ผมเคยไปหาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา หลักๆจะเป็นช่วงม.ปลาย และช่วงมหาวิทยาลัยอีกนิดหน่อย และไม่ได้ไปหาอีกเลย
ต้องแยกกันก่อนว่า นักจิตวิทยา กับจิตแพทย์ไม่เหมือนกัน นักจิตวิทยาจะเน้นคุยปรับความเข้าใจมากกว่า ถ้าต้องสั่งยาจะส่งไปหาจิตแพทย์
ในตอนนั้นผมได้ยา ลดเครียด ยานอนหลับ แต่สำหรับผมแล้วกินไปก็เท่านั้น เพราะไม่สามารถรักษาจิตใจที่หมกมุ่นเรื่องเหล่านี้ได้
ตอนที่คุยกับนักจิตวิทยา ก็ต้องยอมรับว่าเขามีวิธีพูดของเขาที่ทำให้เรารู้สึกไม่อึดอัด แต่พอคุยเสร็จก็เท่านั้น ไม่สามารถรักษาจิตใจที่หมกมุ่นในเรื่องเหล่านี้ได้ คำถามมากมายที่อยู่ในใจและไม่เคยมีใครที่ตอบได้ถูกใจผม สุดท้ายพอยารอบสุดท้ายหมด ผมจึงเลิกไป
แก้ไข 2 (มี 106 ความคิดเห็น)
มีคนถามว่า ทำไมผมคิดแบบนี้ เท่าที่นึกออกก็คือ ในวัยเด็กที่บ้านมักจะดีใจที่ผมได้ที่หนึ่ง ได้รางวัล 
และผมก็ชอบดูการ์ตูน หลายเรื่อง Ben10 Justice League Dragon Ball 
ผมมักจะถามตัวเองเสมอว่า ทำไมตัวเอกต้องชนะตัวร้ายตลอด ผมอยากจะเป็นแบบตัวเอกเหล่านั้นบ้าง ที่ในท้ายที่สุดก็เอาชนะตัวร้ายได้ ได้รับการชื่นชม
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
มีคนรวยกว่าผม เก่งกว่าผม หน้าตาดีกว่าผมตั้งเยอะแยะ แต่ผมไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไร

คู่แข่งของผม มีคนเดียว คือ “ตัวเอง” ถ้าตัวเราดีขึ้น เก่งขึ้น รวยขึ้นกว่าตัวเองของเมื่อวาน ผมพอใจละ

ชีวิตคนอื่นมันไม่ได้สำคัญมากมายจนต้องเป็นสาระ ต้องมาใส่ใจให้ค่าขนาดนั้น
ความคิดเห็นที่ 1
เปลี่ยนมุมมองชีวิตมั่ง หมกมุ่นแต่กับ กิเลส ต้องมีโน่นนี่ เจ๋ง ไปกวาดลานวัด เก็บขยะ ทำเพื่อสังคม ขัดเกลาจิตใจ ลดกิเลส แล้วใจจะสงบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่