จิมมี่อดีตนักร้องเพลงชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นที่เพิ่งเสียคุณแม่ไป เขาได้ตัดสินใจกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อปรับปรุงโรงแรมเก่าของเขา..
ณ ที่นั้นจิมมี่พบกับผู้คนที่น่าสนใจ ทั้งแขกต่างชาติที่น่าจะเหลืออยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้นในโรงแรม ..
สาวไนต์คลับ .. รีเซพชั่นสุดติสต์ รวมถึงพนักงานโรงแรมผู้เงียบขรึม ทุกคนใช้ชีวิตวนเวียนภายในโรงแรมที่ชื่อว่าพาราไดซ์...
มอร์ริสัน (Morrison) ผลงานล่าสุดของ พุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง รับหน้าที่กำกับและเขียนบทเช่นเดิม
หลังจากเมื่อ 6 ปีที่แล้วเขาสร้างชื่อจากงานหนังที่ชื่อว่ากระเบนราหู
ว่าด้วยเรื่องของผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายชาวประมง..
มาในครั้งนี้จากภาคใต้สู่ภาคอีสาน มอร์ริสันจะนำเราย้อนเวลาในห้วงความทรงจำเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
ในยุคที่ดิสโก้กำลังเฟื่องฟูและประเทศไทยในเวลานั้นเต็มไปด้วยทหารอเมริกัน...
ผมเชื่อว่าพอได้ยินคำว่า มอร์ริสัน เราต้องคิดถึงน้าแหลม มอร์ริสันเจ้าของฉายา กีต้าร์คิง ของเมืองไทย
ชีวิตของน้าแก เชื่อมโยงกับบรรดาทหารอเมริกันที่มาประจำการในไทยช่วงสงครามเวียดนามด้วยนะครับ
คือน้าเค้าเคยเล่นในผับที่อุดรธานีในชื่อวง V.I.P. ให้พวกทหารมะกันได้ฟังช่วงนั้นนั่นเอง
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ต้องมีน้าแหลมร่วมด้วย แต่มายังไงไม่บอก ไปหาดูเอาเอง
ถ้าคุณเคยผ่านตามาแล้วกับกระเบนราหู ผมมั่นใจคุณต้องประทับใจอย่างมากกับองค์ประกอบภาพที่สวย
แสงของไฟสีที่วิบวับระยับตาประหนึ่งเหมือนมองดาวบนท้องฟ้าในคืนมืดมิด หากแต่ดาวนั้นมีหลากสีซะเหลือเกิน..
แสงสีดังกล่าวมันกลับมาอีกครั้งในหนังเรื่องนี้และก็เป็นสิ่งที่ผมชอบมากๆเลยทีเดียว
สถานที่ถ่ายทำเช่นกัน โรงแรมนี่สุดยอดมากถ้าดูแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อนต้องคิดว่าหนังผีแน่ๆ บรรยากาศมันให้จริงๆ
ผมดูแล้วคลับคล้ายคลับคลามันเหมือนสักที่ของจังหวัดนึงในภาคตะวันออก ไม่รู้ใช่หรือป่าวนะครับ 555
ถ้าเป็นคนทั่วๆไปไม่น่าหลงไปพักแน่ๆ เพราะงี้ล่ะพระเอกของเราจึงคิดที่จะปรับปรุงใหม่
เพลงประกอบคืออีกจุดเด่นที่ต้องเอ่ยถึงเลยครับ เมื่อผู้กำกับเลือกเอาวงดนตรีจากเชียงใหม่
ที่มีดีกรีคว้ารางัลศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม จากงาน คม ชัด ลึก อวอร์ด ครั้งที่ 16 เมื่อปี 2563 การันตีมาแล้ว
ในเพลงที่แทนใจของกลุ่มทหารอเมริกันที่ประจำการในไทยยุคนั้นที่ชื่อว่า สวัสดีผมรักคุณ
(ซีนนี้ผมดูแล้วคิดถึงหนังของอากิ เคาริสมากิ ผู้กำกับชาวฟินแลนด์มากๆ)
เหมือนหนังได้เชื่อมโยงยุคสมัยจากอดีตสู่ปัจจุบันความรุ่งเรืองของกิจการบันเทิง
ในยุคที่ทหารอเมริกันตบเท้าเข้ามาตั้งฐานทัพในไทย จะด้วยความรักความผูกพันหรือความใคร่อย่างไรก็แล้วแต่
คู่รักต่างภาษาเกิดขึ้นมากมายในช่วงนั้น ลูกผสมระหว่างเชื้อชาติก็เช่นกัน
และแน่นอนว่าหลังจากที่สงครามสิ้นสุดฝรั่งตาน้ำข้าวก็กลับบ้านเกิดไป.. ทิ้งให้สาวไทยต้องรอคอยกับรักที่ไม่มีอยู่จริง...
เวลาผ่านแต่เรื่องราวยังไม่ต่างไปจากเดิม แค่ไม่มีทหารมาประจำการ
มีเพียงนักเดินทางจากต่างแดนที่มาพบรักกับสาวไทย หลายคู่มีชีวิตที่มีความสุขมีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่อีกหลายคนก็ได้แค่เงินที่ถูกส่งมาพร้อมกับคำสัญญาที่ดูเลื่อนลอยว่าสักวันคงได้อยู่ด้วยกัน
ต่างจากไปเรื่องเดิมคือดาราดังทั้งนั้นที่มารับบทในเรื่องนี้ทั้งฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ในบทของจิมมี่
ชายหนุ่มที่ทิ้งความเป็นนักร้องกลับมายังโรงแรมเพื่อหวังปรับปรุงใหม่
พร้อมกับตามหาความทรงจำที่เหมือนขาดหายไปในวัยเยาว์ เขามีความผูกพันกับสถานที่แห่งนี้
บางสิ่งบางอย่างกำลังรอคอยการกลับมาของเขาอยู่...
หนังนำเสนอหลายรูปแบบความสัมพันธ์ผ่านหลายตัวละครในเรื่อง ในส่วนของ คิตตี้-ชิชา อมาตยกุล
เธอทำให้เราได้เห็นถึงการแสดงออกทางอารมณ์ที่พัฒนาเหนือไปอีกระดับ
ความสับสนของรักที่มีอยู่ตรงหน้ากับอนาคตที่เธอจำเป็นต้องเลือกเพื่อให้ได้มาเพื่อสิ่งที่ดีกว่า..
ไหนจะความกล้ำกลืนของดอน (วัลลภ รุ่งกำจัด นักแสดงนำจากกระเบนราหู)
พนักงานโรงแรมที่ต้องทำในสิ่งที่ฝืนความรู้สึกภายใต้ใบหน้ายักษ์ที่แสนเรียบเฉย
พร้อมด้วยนักแสดงสมทบระดับกิตติมศักดิ์อย่างแม่เม้าสุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2563 ...
เปิ้ล-ไอริณ ศรีแกล้ว ...ต๊อบ-สหัสชัย ชุมรุม ท่ามกลางมวลความเหงาแห่งอดีตที่ล่องลอยตลอดของการชมภาพยนตร์เรื่องนี้
ผมว่าหนังเรื่องนี้ดูแล้วเข้าใจง่ายกว่ากระเบนราหูนะครับ คือเหมือนมันจะมีจุดเชื่อมโยงบางอย่าง
ที่ทำให้เราไหลไปตามเส้นเรื่องที่ร้อยเรียงไม่ยาก มีซีนที่ทำให้ผมน้ำตาซึมได้เหมือนกันด้วยนะ
เป็นความดราม่าที่หนักอึ้งพอสมควรเลย สรุปในบรรยากาศ ฉาก แสงสี ซาวน์ประกอบดีงามมากเต็ม 10 ...
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่หนังที่คนส่วนใหญ่ในบ้านเราจะชื่นชอบ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบงานศิลป์ ลองเปิดใจดูนะครับ ไปตามหาร่องรอยความทรงจำกันกับ.. Morrison
ตอนนี้ผมมีเพจหนังล่ะน๊าาา เข้าไปตามกันได้นะครับ
ชื่อว่าาาาาาาาาา เพราะหนังมันฝังใจ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61565624000043
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Morrison (2023) ตามหาความทรงจำผ่านร่องรอยแห่งกาลเวลา.. ==
จิมมี่อดีตนักร้องเพลงชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นที่เพิ่งเสียคุณแม่ไป เขาได้ตัดสินใจกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อปรับปรุงโรงแรมเก่าของเขา..
ณ ที่นั้นจิมมี่พบกับผู้คนที่น่าสนใจ ทั้งแขกต่างชาติที่น่าจะเหลืออยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้นในโรงแรม ..
สาวไนต์คลับ .. รีเซพชั่นสุดติสต์ รวมถึงพนักงานโรงแรมผู้เงียบขรึม ทุกคนใช้ชีวิตวนเวียนภายในโรงแรมที่ชื่อว่าพาราไดซ์...
มอร์ริสัน (Morrison) ผลงานล่าสุดของ พุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง รับหน้าที่กำกับและเขียนบทเช่นเดิม
หลังจากเมื่อ 6 ปีที่แล้วเขาสร้างชื่อจากงานหนังที่ชื่อว่ากระเบนราหู
ว่าด้วยเรื่องของผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายชาวประมง..
มาในครั้งนี้จากภาคใต้สู่ภาคอีสาน มอร์ริสันจะนำเราย้อนเวลาในห้วงความทรงจำเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
ในยุคที่ดิสโก้กำลังเฟื่องฟูและประเทศไทยในเวลานั้นเต็มไปด้วยทหารอเมริกัน...
ผมเชื่อว่าพอได้ยินคำว่า มอร์ริสัน เราต้องคิดถึงน้าแหลม มอร์ริสันเจ้าของฉายา กีต้าร์คิง ของเมืองไทย
ชีวิตของน้าแก เชื่อมโยงกับบรรดาทหารอเมริกันที่มาประจำการในไทยช่วงสงครามเวียดนามด้วยนะครับ
คือน้าเค้าเคยเล่นในผับที่อุดรธานีในชื่อวง V.I.P. ให้พวกทหารมะกันได้ฟังช่วงนั้นนั่นเอง
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ต้องมีน้าแหลมร่วมด้วย แต่มายังไงไม่บอก ไปหาดูเอาเอง
ถ้าคุณเคยผ่านตามาแล้วกับกระเบนราหู ผมมั่นใจคุณต้องประทับใจอย่างมากกับองค์ประกอบภาพที่สวย
แสงของไฟสีที่วิบวับระยับตาประหนึ่งเหมือนมองดาวบนท้องฟ้าในคืนมืดมิด หากแต่ดาวนั้นมีหลากสีซะเหลือเกิน..
แสงสีดังกล่าวมันกลับมาอีกครั้งในหนังเรื่องนี้และก็เป็นสิ่งที่ผมชอบมากๆเลยทีเดียว
สถานที่ถ่ายทำเช่นกัน โรงแรมนี่สุดยอดมากถ้าดูแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อนต้องคิดว่าหนังผีแน่ๆ บรรยากาศมันให้จริงๆ
ผมดูแล้วคลับคล้ายคลับคลามันเหมือนสักที่ของจังหวัดนึงในภาคตะวันออก ไม่รู้ใช่หรือป่าวนะครับ 555
ถ้าเป็นคนทั่วๆไปไม่น่าหลงไปพักแน่ๆ เพราะงี้ล่ะพระเอกของเราจึงคิดที่จะปรับปรุงใหม่
เพลงประกอบคืออีกจุดเด่นที่ต้องเอ่ยถึงเลยครับ เมื่อผู้กำกับเลือกเอาวงดนตรีจากเชียงใหม่
ที่มีดีกรีคว้ารางัลศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม จากงาน คม ชัด ลึก อวอร์ด ครั้งที่ 16 เมื่อปี 2563 การันตีมาแล้ว
ในเพลงที่แทนใจของกลุ่มทหารอเมริกันที่ประจำการในไทยยุคนั้นที่ชื่อว่า สวัสดีผมรักคุณ
(ซีนนี้ผมดูแล้วคิดถึงหนังของอากิ เคาริสมากิ ผู้กำกับชาวฟินแลนด์มากๆ)
เหมือนหนังได้เชื่อมโยงยุคสมัยจากอดีตสู่ปัจจุบันความรุ่งเรืองของกิจการบันเทิง
ในยุคที่ทหารอเมริกันตบเท้าเข้ามาตั้งฐานทัพในไทย จะด้วยความรักความผูกพันหรือความใคร่อย่างไรก็แล้วแต่
คู่รักต่างภาษาเกิดขึ้นมากมายในช่วงนั้น ลูกผสมระหว่างเชื้อชาติก็เช่นกัน
และแน่นอนว่าหลังจากที่สงครามสิ้นสุดฝรั่งตาน้ำข้าวก็กลับบ้านเกิดไป.. ทิ้งให้สาวไทยต้องรอคอยกับรักที่ไม่มีอยู่จริง...
เวลาผ่านแต่เรื่องราวยังไม่ต่างไปจากเดิม แค่ไม่มีทหารมาประจำการ
มีเพียงนักเดินทางจากต่างแดนที่มาพบรักกับสาวไทย หลายคู่มีชีวิตที่มีความสุขมีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่อีกหลายคนก็ได้แค่เงินที่ถูกส่งมาพร้อมกับคำสัญญาที่ดูเลื่อนลอยว่าสักวันคงได้อยู่ด้วยกัน
ต่างจากไปเรื่องเดิมคือดาราดังทั้งนั้นที่มารับบทในเรื่องนี้ทั้งฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ในบทของจิมมี่
ชายหนุ่มที่ทิ้งความเป็นนักร้องกลับมายังโรงแรมเพื่อหวังปรับปรุงใหม่
พร้อมกับตามหาความทรงจำที่เหมือนขาดหายไปในวัยเยาว์ เขามีความผูกพันกับสถานที่แห่งนี้
บางสิ่งบางอย่างกำลังรอคอยการกลับมาของเขาอยู่...
หนังนำเสนอหลายรูปแบบความสัมพันธ์ผ่านหลายตัวละครในเรื่อง ในส่วนของ คิตตี้-ชิชา อมาตยกุล
เธอทำให้เราได้เห็นถึงการแสดงออกทางอารมณ์ที่พัฒนาเหนือไปอีกระดับ
ความสับสนของรักที่มีอยู่ตรงหน้ากับอนาคตที่เธอจำเป็นต้องเลือกเพื่อให้ได้มาเพื่อสิ่งที่ดีกว่า..
ไหนจะความกล้ำกลืนของดอน (วัลลภ รุ่งกำจัด นักแสดงนำจากกระเบนราหู)
พนักงานโรงแรมที่ต้องทำในสิ่งที่ฝืนความรู้สึกภายใต้ใบหน้ายักษ์ที่แสนเรียบเฉย
พร้อมด้วยนักแสดงสมทบระดับกิตติมศักดิ์อย่างแม่เม้าสุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2563 ...
เปิ้ล-ไอริณ ศรีแกล้ว ...ต๊อบ-สหัสชัย ชุมรุม ท่ามกลางมวลความเหงาแห่งอดีตที่ล่องลอยตลอดของการชมภาพยนตร์เรื่องนี้
ผมว่าหนังเรื่องนี้ดูแล้วเข้าใจง่ายกว่ากระเบนราหูนะครับ คือเหมือนมันจะมีจุดเชื่อมโยงบางอย่าง
ที่ทำให้เราไหลไปตามเส้นเรื่องที่ร้อยเรียงไม่ยาก มีซีนที่ทำให้ผมน้ำตาซึมได้เหมือนกันด้วยนะ
เป็นความดราม่าที่หนักอึ้งพอสมควรเลย สรุปในบรรยากาศ ฉาก แสงสี ซาวน์ประกอบดีงามมากเต็ม 10 ...
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่หนังที่คนส่วนใหญ่ในบ้านเราจะชื่นชอบ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบงานศิลป์ ลองเปิดใจดูนะครับ ไปตามหาร่องรอยความทรงจำกันกับ.. Morrison
ตอนนี้ผมมีเพจหนังล่ะน๊าาา เข้าไปตามกันได้นะครับ
ชื่อว่าาาาาาาาาา เพราะหนังมันฝังใจ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61565624000043
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===