นารา เมืองแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และกวางป่าที่เป็นมิตรที่สุดในโลก ใครมาเที่ยวคันไซก็ต้องแวะมาให้ได้สักครั้ง แต่ความสวยงามก็ต้องแลกมาด้วยการเดินเป็นระยะทางไกลๆเพื่อไปเที่ยวในจุดท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ครั้งนี้เราเลยจะมารีวิวทริปแบบ 1 Day ที่จะทำให้การเที่ยวนารากลายเป็นเรื่องชิลๆไปเลย กับ Perfect Nara Park Tour ที่เราไปมาเองจ้า  เป็นไอเดียเนอะ


 
 
Perfect Nara Park Tour โดย Nara Kotsu Bus
ทริปของเราวันนี้เราจะเดินทางไปกับ Perfect Nara Park Tour โดยรถของบริษัท Nara Kotsu Bus เป็นทัวร์สุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะพาเราไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญๆของจังหวัดนารา โดยทัวร์จะเริ่มจากจุดขึ้นรถหน้าสถานีรถไฟ JR Nara และ สถานี Kintetsu Nara สะดวกมากๆ และคนต่างชาติอย่างเราก็จัดการเองได้สบายมากๆค่า
 
 
ภายในรถเป็นที่นั่งแบบ 3 แถวแยกกันแต่ละที่นั่ง ทำให้เรานั่งได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด และไม่ต้องกังวลว่าจะต้องนั่งเบียดกับคนข้างๆ ระยะห่างของที่นั่งก็ค่อนข้างกว้าง เหมาะทั้งสำหรับคนที่มาเที่ยวเป็นกลุ่มหรือมาคนเดียวก็นั่งสบาย
 
 
ก่อนขึ้นรถเราจะได้บัตรแบบนี้ของ Perfect Nara Park Tour ไว้สำหรับติดหน้าอกระหว่างทัวร์เพื่อให้ไกด์ได้รู้ว่าเราเป็นหนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วม ด้านหลังบัตรก็จะเขียนระบุเลขที่นั่งบนบัสของเราไว้ด้วย
 
 
ระหว่างการเดินทางของเราจะมีไกด์ชาวญี่ปุ่นคอยบรรยายให้คำแนะนำข้อควรปฏิบัติต่างๆระหว่างทัวร์ และให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ที่เราไปเป็นภาษาอังกฤษ ไกด์ของเราใจดีคุยสนุกและบรรยายได้เข้าใจง่ายมากๆ
 
 
การเดินทาง
คนที่ไม่ได้พักอยู่ที่นาราก็สามารถเดินทางมาร่วมทัวร์ได้ง่ายๆ ในครั้งนี้เราเดินทางมาจากโอซาก้าโดยใช้รถไฟของ Kintetsu Nara Line ขึ้นจากสถานี Osaka Namba มาลงที่สถานี Kintetsu Nara ใช้เวลาเดินทางแค่ 36 นาทีเท่านั้น
 
 
สำหรับคนที่มีกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ก็สามารถเอามาฝากได้ที่ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญตั้งอยู่ทางซ้ายหลังจากออกจากประตูตรวจตั๋วทางออกทิศตะวันตกทันที เค้ามีตู้ขนาดใหญ่ไว้ให้บริการเยอะมากแถมยังจ่ายได้ทั้งเครดิต บัตร IC card และเงินสดที่มีตู้แลกเหรียญอยู่ใกล้ๆด้วย
 
 
จากนั้นให้เราใช้ทางออกหมายเลข 5 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20 เมตร เพื่อไปที่จุดบริการซื้อตั๋วสำหรับทัวร์ที่เคาน์เตอร์ Nara Kotsu Bus Information Center และเป็นจุดเดียวกับการขึ้นรถของเราในวันนี้
 
 
วิธีการจอง
การเที่ยวจ.นารานี้ เพื่อนๆสามารถจองทัวร์ออนไลน์ได้จากเว็บไซต์ Nara Kotsu Bus ทัวร์นี้จะมีให้บริการทุกวันจันทร์และวันพุธ 


พอใกล้เวลาเราก็มารอขึ้นรถที่ป้ายสีฟ้าหน้า Bus Information Center ได้เลย โดยรถจะออกจากจุดรับที่ 1 สถานี JR Nara เวลา 9:30 และจะมารับเราตรงจุดรับที่ 2 สถานี Kintetsu Nara ที่เราอยู่เวลา 9:35 
(ตรวจสอบวันเปิดทำการล่าสุดได้จากเว็บไซต์)


ที่อยู่ 6-1 Nakasujicho, Nara, 630-8237
การเดินทาง เดิน 20 เมตรจากสถานี Kintetsu Nara ทางออกที่ 5
ราคา ผู้ใหญ่ ( อายุ 12 ปีขึ้นไป )11,000 เยน
         เด็ก ( อายุ 6 ~ 11 ปี ) 8,000 เยน
เวลาทำการ ทุกวันจันทร์ และ วันพุธ
                 ( 1 กรกฏาคม ถึง 11 กันยายน 2024 )
                  ตรวจสอบวันเปิดทำการล่าสุดได้จากเว็บไซต์
Website https://www.narakotsu.co.jp/language/en/sightseeing_bus/
จอง https://ars-narakotsu.triplabo.jp/home?lang=en
พิกัด https://maps.app.goo.gl/J2VpuPCmNPy9uYsDA?g_st=com.google.maps.preview.copy

สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรม
วัดโทไดจิ ( Todaiji Temple )



ที่แรกในทัวร์ของเราวันนี้คือ จุดท่องเที่ยวที่ใครมานาราแล้วไม่แวะถือว่ามาไม่ถึง เป็นที่ประดิษฐานของไดบุตสึ หรือหลวงพ่อโตนารา พระพุทธรูปปางสมาธิความสูง 15 เมตร ในวิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ 70 นาที

ปกติถ้าเรามาเที่ยวเองจะต้องเดินจากสถานีรถไฟไกลมากๆ แต่รถทัวร์ของ Nara Kotsu Bus มาจอดให้เราลงข้างๆวัดเลย ทำให้เราไม่ต้องเดินไกล แถมยังมีไกด์คอยนำทางเราไปตลอด สะดวกมากๆสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา

ถ้าใครเป็นสายชอบประวัติศาสตร์แนะนำให้อยู่ใกล้ๆกับไกด์ไว้ เพราะไกด์จะคอยหยุด ณ จุดสำคัญต่างๆภายในวัด เพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาเป็นภาษาอังกฤษที่ฟังเข้าใจง่ายๆ บางเรื่องเราก็แทบไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย สนุกมากๆ 

ศาลเจ้าคาซุงะ ( Kasuga Taisha )

หลังจากที่เราไปวัดมาแล้วเราก็มาต่อกันที่ศาลเจ้ากันบ้าง ศาลเจ้าคาซุงะ อีกหนึ่งสถานที่ที่ขึ้นทะเบียนมรดกโดยยูเนสโก้ ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมการสถาปนา นารา ขึ้นเป็นเมืองหลวงในสมัยนั้น
ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และความสวยงามของโคมไฟหิน และโคมไฟสำริด เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 60 นาที


คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าที่นี่คือ “Power Spot” ที่จะส่งเสริมพลังบวกให้กับผู้มาเยือน ในแบบของศาสนาชินโต ที่เชื่อว่ามีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่ในทุกๆสิ่ง ไกด์จะพาเราเดินมาด้านในสุดที่มีโทริอิสีแดงตั้งอยู่เชิงเขา เพื่อมาขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ของที่นี่

นอกจากความสวยงามแล้ว วัดนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องโคมไฟด้วย ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหินกว่า 400 อันรอบๆศาลเจ้า และโคมไฟสำริดที่แขวนอยู่รอบอาคารของศาลเจ้า ครั้งนี้ไกด์ได้พาเรามาที่ห้องลับๆปิดไฟมืด ประดับไปด้วยโคมไฟสวยงามมาก ถ้ามาเองคิดว่าคงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีห้องนี้อยู่ด้วย

เซียมซีน้องกวาง ( Omikuji )

หลังจากที่ไกด์พาเราขอพรและเที่ยวชมรอบๆศาลเจ้าแล้ว ก็มาถึงกิจกรรมการเสี่ยงทายดวง “Omikuji” ซึ่งจะคล้ายๆกับการเสี่ยงเซียมซีเสี่ยงทายโชคชะตาของบ้านเรา ไกด์จะยกมาให้เราในถาด 1 คนหยิบได้ 1 ชิ้น

แม้แต่ “Omikuji” ของศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงคอนเซ็ปเมืองแห่งกวางได้เป็นอย่างดี โดยการนำไม้มาแกะเป็นรูปกวางคาบใบเสี่ยงทายโชคไว้ในปาก มีความน่ารักตะมุตะมิ และยังสามารถเก็บไว้เป็นของที่ระลึกกลับบ้านได้ด้วย


สำหรับคนที่กลัวว่าได้ใบเสี่ยงทายมาแล้วจะอ่านไม่ออก ไม่ต้องกังวลไป ที่นี่เค้ามีแบบเป็นภาษาอังกฤษให้เราด้วย และที่นี่ก็ไม่เหมือนศาลเจ้าทั่วไปที่ต้องผูกไว้ที่ศาลเจ้าหลังจากอ่านเสร็จ แต่เค้าจะให้ซองมาใส่แล้วเอากลับบ้านไปด้วยได้เลย 


ภูเขาวาคาคุซายามะ ( Wakakusayama Third Summit )

สวนบนยอดเขาความสูง 350 เมตรของภูเขาวาคาคุซายามะ สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมฝูงกวาง
ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวและวิวมุมสูงของนาราแบบเต็มอื่ม เป็นจุดท่องเที่ยวที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติอันสวยงามของที่นี่ ที่สำคัญนักท่องเที่ยวไม่เยอะเหมือนจุดท่องเที่ยวอื่นๆด้วย


เหตุผลหลักๆที่นักท่องเที่ยวที่นี่ไม่แออัดก็เพราะว่า หากใครจะมาเที่ยวเองแล้วไม่ได้ขับรถมา ทางเดียวที่จะมาที่นี่ได้ก็คือการเดิน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากสวนกวาง Nara Park ผ่านถนนคดเคี้ยวขึ้นเขาไปด้านบน


Perfect Nara Park Tour เป็นเพียงบริษัทเดียวเท่านั้น ที่มีบริการขับรถพาเราขึ้นมาถึงสวนบนยอดเขาแบบไม่ต้องเดินเองให้เหนื่อย ลงรถปุ๊บถึงทางเข้าสวนเลย เราจะได้ใช้เวลาอิสระที่นี่ประมาณ 40 นาที


ให้อาหารกวาง
กิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยวนารา นั่นก็คือการให้อาหารกวาง ทาง Perfect Nara Park Tour ก็ได้ทำการจัดเตรียมกิจกรรมนี้ไว้ให้เราได้ทำบนเขาวาคาคุซายามะด้วย โดยเราจะได้รับเซมเบ้กวางแบบนี้มาแจกน้องๆกวางทาน


พื้นที่ในสวนกว้างมาก ถ้าใครอยากถ่ายรูปตอนให้อาหารน้องกวางแบบไม่ติดคนอื่น รับรองว่าจะต้องได้มุมถ่ายรูปแน่นอน ถ้าเราถือขนมเซมเบ้กวางไว้ในมือน้องกวางก็จะไม่ยอมไปไหนจนกว่าขนมจะหมด ไกด์แนะนำว่าถ้าหมดแล้วให้แบมือให้น้องกวางเห็นไปเลยว่า หมดแล้วจริงๆนะ

หลังจากจบทัวร์ในช่วงครึ่งวันเช้าแล้ว รถบัสจะไปส่งเราในเขตท่องเที่ยวหลักของนารา โดยมีจุดลงรถให้เราได้เลือกทั้งหมด 3 จุด คือ วัดโคฟุคุจิ ( Kofukuji Temple ) ในเวลา 13:20, สถานี Kintetsu Nara เวลา 13:25 และ สถานี JR Nara เวลา 13:30 เป็นที่สุดท้าย


บริการอื่นๆ
ตั๋วรถบัสเที่ยวนาราแบบ 1 Day

ยังไม่จบแค่นั้น เพราะหลังจากจบทัวร์แล้ว เราจะได้รับบัตร 1 Day Pass Wide สำหรับการนั่งรถบัสในเมืองแบบ Unlimited เที่ยวต่อภายในวันนั้นเองได้ด้วย ถือว่าเป็นบริการเสริมที่สุดคุ้มมากๆ


เราสามารถนั่งบัสไปเที่ยวเองตามจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆเช่น วัดโฮริวจิ ( Horyuji Temple ), พระราชวังนารา ( Nara Palace Site Historical Park ) และอื่นๆอีกมากมาย เส้นทางการเดินรถและวิธีการใช้ตั๋ว 1 Day Pass Wide สามารถดูเพิ่มเติมในเว็ปไซต์ของ Nara Kotsu Bus ได้เลยค่ะ
Website https://www.narakotsu.co.jp/language/en/pass.html

ร้านอาหารแนะนำ
ซึคิฮิ เต ( Tsukihi Tei )
บทัวร์แล้วก็ถึงเวลาอาหารกลางวันพอดี เราเลยอยากมาแนะนำร้านอร่อยๆ ใกล้กับจุดลงรถบัสที่หน้าสถานี Kintetsu Nara ร้านนี้อยุ่ในถนนช็อปปิ้ง Higashimugi Shopping Street ห่างจากจุดลงรถบัสแค่ 1 นาที ร้านนี้มีชื่อว่า ซึคิฮิเต ( Tsukihi Tei ) สาขา Kintetsu Nara Eki Mae


ร้านนี้จะอยู่บริเวณชั้น 2 เป็นร้านที่ค่อนข้างกว้าง มีที่นั่งหลายโต๊ะเลย
อาหารแนะนำคืออาหารประเภทเนื้อวัวคุณภาพดี เช่น เนื้อโกเบ นอกจากนี้ยังมีอาหารญี่ปุ่นแนะนำที่ทำจากเนื้อสัตว์ในท้องถิ่น เช่น "เนื้อยามาโตะ" (เนื้อวากิว), "ไก่ยามาโตะ" (ไก่) และ "หมูยามาโตะ" (หมู) ที่ผลิตในจังหวัดนารา

นี่คือชุดสุกี้ยากี้เนื้อโกเบที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ เหมาะสำหรับคนรักเนื้อที่ชอบรสชาติที่เข้มข้นถึงใจ เนื้อนุ่มละลายในปาก กินคู่กับไข่ดิบ Asuka ของจังหวัดนาราแล้วยิ่งอร่อยแบบเคยกินแล้วก็อยากกลับมากินอีกแน่นอน เซ็ทนี้ราคา 8,000 เยน


ชุดนี้เป็นชุดชาบูชาบูที่คุณสามารถอร่อยกับเนื้อยามาโตะที่หลากหลาย เช่น หมู เนื้อวัว และ