ยาวหน่อยนะคะ ถือซะว่าอ่านนิยายเรื่องหนึ่ง
สามี,ภรรยาคู่หนึ่งใช้ชีวิตร่วมกันมา 20 กว่าปี
มีลูกด้วยกัน 3 คน
ภรรยาทำงานบริษัททั่วไปแต่ก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยเพื่อให้มีรายได้มากพอมาจุลเจือครอบครัว ในยุคแบบนี้ สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ การเลี้ยงลูก3คนในวัยไล่เรื่ยกันมันไม่ง่ายเลยจริงๆ
ช่วง 2 ปีหลังมานี้การงานของสามีแย่ แย่ลงมาถึงขั้นที่ว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า การงานแย่ การเงินติดลบ ทรัพย์สินของมีค่าในบ้านถูกขายหมดเพื่อเอามาต่อยอดในเรื่องงานของเขา และมันก็ยังไม่พอ และมันก็ไม่ช่วยให้สถานะทางการงานหรือการเงินดีขึ้น
รามไปจนถึงหยิบยืมคนรอบข้างและการเอาทรัพย์สินของผู้อื่นไปโดยมิชอบ
สถานการณ์บานปลายจนยากจะกู้คืน เขายิ่งถลำลึก ยิ่งจมดิ่งและยิ่งอยากเอาชนะในทางของตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าทางที่เขาเลือกมันถูกต้องที่สุดแล้ว มันเคยทำให้ครอบครัวสุขสบายและให้อะไรหลายๆ อย่างที่อาชีพทั่วไปทำไม่ได้ เขาอยากกลับมายืนหยัดในทางที่ตัวเองเลือกอีกครั้งแม้ต้องแลกกับการสูญเสียสมบัติ เพื่อนและมิตรภาพต่างๆ นานา
และจนวันหนึ่ง วันที่เขาไม่เหลือใครอีก เขาถูกมองข้าม ถูกหมางเมิน กลายเป็นอากาศธาตุสำหรับคนในครอบครัว เขารู้สึกโดดเดี่ยวที่ไม่มีใครเห็นหัวทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาเป็นพ่อและสามีคนหนึ่งที่ทุ่มเทให้ครอบครัวอย่างสุดหัวใจ
ลูกคนโตที่เขาผ่านอะไรมาด้วยกันจนลูกสามารถเข้าโรงเรียนดังๆ ได้เข้ามหา'ลัยในฐานะเด็กทุน ทั้งหมดนั่นคือผลจากอาชีพที่เขาทำมันทำให้เขามีเงินและเวลาในการเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง3คนได้เป็นอย่างดี
แต่ในวันนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นอีกแล้ว ลูกคนโตเห็นพ่อแม่เถียงกันไม่ไหว เขาจึงสาดคำรุนแรงคำหนึ่งที่คยเป็นลูกไม่ควรจะพูดกับพ่อ(ไม่ใช่คำหยาบ) แต่มันก็แรงจนคนเป็นพ่อนั่นก็เจ็บปวดและเสียใจมาก
ทั้ง 5 ต้องเจอกับอะไรหลายๆ อย่างตั้งแต่อาชีพการงานของคนเป็นพ่อล้มเหลว หนักหนาสาหัสรุนแรงจนครอบครัวที่เคยอบอุ่นไปไหนมาไหนด้วยกัน 5 คนแต่ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายต่างก็ใช้ชีวิตของใครของมัน
แต่ในขณะเดียวกันภายในเวลาสองปีที่ว่ามานี้เขาก็มีกิจกรรมอื่นๆ ที่เข้ามาฮีลจิตใจ ได้มีสังคมในโลกของเกมออนไลน์ชนิดหนึ่ง ได้เจอคนดีๆ เป็นพี่เป็นน้องที่คบหาพูดคุยและปรึกษากันมากกว่าแค่เพื่อนเล่นเกมด้วยกัน
มีน้องผู้ชายเด็กใต้ที่น่ารัก มีปัญหาเรื่องตาด้วยกันเขาก็ให้เงินยืมไปหาหมอรักษาตา มีน้องผู้หญิงมาปรึกษาปัญหาความรัก ด้วยความที่เขาผ่านอะไรมามาก มีมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างจึงมีข้อคิดดีๆ สอนน้องๆ ในเกมและทุกคนก็ให้ความเคารพ
และมันก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าตัวเแงเป็นโรคแพนิคจุดเริ่มต้นที่ได้สนิทกัน เริ่มจากน้องที่เล่นเกมด้วยกัน เป็นเกมที่ต้องเล่นเป็นทีม สมาชิกในทีมทำหน้าที่ต่างๆ และช่วยกันเอาชนะคู่ต่อสู้
จากเพื่อนในเกมสู่เพื่อนในไลน์และเฟสบุ๊ค
ทุกครั้งที่รีแรงก์หรือเวลาปกติที่อยากเล่นเกมก็จะมีการโทรหากัน นัดแนะกันเสมอๆ ช่วยกันปั่นเวล ช่วยกันไต่อันดับ และแน่นอนว่าการพูดคุยกันทำให้สนิทกันเรื่อยๆ
ตามภาษาผู้ชายที่เล่นเก่งและมีหลายคนให้ความสนใจ ก็มักจะมีคำหยอด คำแซว คำกำกวม เช่น ป้อมแตกแล้ว!
เข้าใจบริบทมั้ยคะว่าผู้หญิงผู้ชายพูดคำว่า “แตก” แต่ไม่ได้หมายถึงป้อมในเกมที่กำลังเล่น
ความสนิทและการพูดคุยที่ดูธรรมดาแต่เกินพอดีไปหน่อยจนภรรยาของเขาเกิดความไม่พอใจ เกิดการพูดคุยหลายครั้งระหว่างผัวเมียมาแล้วหลายครั้ง หนักเข้าจนกลายเป็นการทะเลาะกันและใช่! เวลาหนึ่งปีผ่านไปเธอคนนั้นก็ยังติดต่อและพูดคุยกับสามีคนอื่นจนภรรยาไม่สบายใจกับพฤติกรรมแบบนี้ของสามีและน้องผู้หญิง
ฝั่งสามีเคยพูดว่าก็เป็นแค่พี่น้อง พูดคุยปรึกษาหารือชีวิตประจำวัน ไม่เคยเกินเลยหรือพูดจาจีบกันเพราะต่างฝ่ายต่างมีคนของตัวเอง(น้องเขาก็มีแฟนหรือคนคุยที่ยังไม่ได้เป็นสามีหรืออาจจะมีอันนี้ก็ไม่ทราบ)
ความสนิทสนมของทั้งคู่ถึงขั้นที่ว่าคุยกันวันละหลายครั้ง คุยไลน์จนดึกดื่น(ตีสอง,ตีสามหรือจนกว่าภรรยาของเขาจะกลับจากทำงานถึงค่อยว่างสาย หรือบางครั้งสามีก็ออกไปคุยนอกห้องนอน) ฝั่งชายถ่ายรูปตัวเองส่งให้น้องผู้หญิงดูว่าตัวเองออกไปทำธุระที่ไหน รู้ชีวิตของกันและกันตลอดว่าอีกคนไปทำอะไร กินข้าวกับอะไร และอาจจะมีนอกเหนือกว่านั้นอีกที่ภรรยาของเขาไม่รู้ ไม่เห็น
จากนั้นก็รามมาที่แอพใหม่นั่นคือ Weplay เป็นคอมมูฯใหม่ๆ ที่ทำให้ทั้งสองยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้น เล่นเกม สร้างสังกัด ส่งของขวัญ ส่งเหรียญ และเรื่องเงินๆ ทองๆ
แน่นอนว่าภรรยาที่ไม่ชอบให้สามีตัวเองคุยกับหญิงอื่นเกิดการทะเลาะหนักขึ้น เพราะเธอแอบๅด้ยินสามีคุยกับร้องคนเดิมคนนี้ทุกครั้ง แม้จะไม่ได้หยอดคำจีบหรืคำหวานๆ มันเป็นคำธรรมดาทั่วไปที่อยู่ในชีวิตประจำวันเช่น มื้อเช้ากินอะไร วันนี้รถติดไม เมื่อคืนนอนเลยหรือเปล่าหรือไปทำอย่างอื่นก่อนนอน มีการโทรมาปลุกอีกฝ่ายในตอนเช้าด้วย และแน่นอนว่าเคยนัดเจอกัน
ฝั่งชายบอกกับภรรยาว่าน้องเขามีปัญหาส่วนตัวเลยโทรมาคุยด้วยบ่อยๆ ประกอบกับเขาเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดศีลผิดจารีต ตัวเขาเองก็ไม่มีใครเห็นหัว ลูกและเมียไม่สนใจเขาที่ล้มเหลวในอาชีพการงานอยู่แล้วด้วยทำไมเขาถึงต้องเลิกคุยกับน้องคนนี้
-คนล้มเหลวที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเอง เคยเปลี่ยน เคยทำแล้วแต่มันไม่เวิร์ก อาชีพปกติมันทำเงินให้เขาไม่ได้อย่างงานที่เขาทำ แต่เงินทุกบาทและคนทุกคนที่เขายืมเงินไปนั้นเป็นคนที่ทำอาชีพปกติทั้งนั้นเลย
-ลูกคนโต เย็นชาห่างเหินและไม่เห็นหัวพ่อมานานเพราะเขาไม่ห็นการเปลี่ยนแปลงของพ่อและพ่อก็ยังทำร้ายคนอื่นอยู่เรื่อยๆ
-ลูกคนกลาง ถูกยืมเงินและถูก×××เงินจำนวนหนึ่งซึ่งไม่เคยได้คืน จนตอนนี้เขาขยาดพ่อตัวเองไปเลย
-ลูกคนเล็ก ต้องทำงานดูแลตัวเองตั้งแต่ม.6 เรื่องเงินแน่นอนว่าถูกหยิบยืมและไม่เคยได้คืนไม่รู้กี่ครั้ง ทุกคนในบ้านยังถูกต่อว่าว่าห็นแก่ตัว ไม่เคยทำอะไรเพื่อครอบครัวมีแต่ทำเพือตัวเอง
ทั้ง 3 คนทำงานหาเงินดูแลตัวเองไม่เดือดร้อนพ่อแม่ มีช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้านบ้าง
-ภรรยา ตกงานเพราะผลกระทบจากงานของสามี ในอายุหลักสี่มันหางานได้ยากมาก ทำได้แค่รับจ้างไปวันๆ หาเงินใช้จ่ายในบ้านเป็นหลัก
ความรู้สึกในใจก็คือมีแค่คำถาม ยิ่งอยากรู้ว่าเขายังคุยกันอยู่หรือเปล่าคำตอบก็คือยังคุยกันอยู่ทุกครั้ง เมื่อเห็น เมื่อเจอ เมื่อได้ยินเสียงน้องคนเดิมคนนั้นก็เอามาเป็นประเด็นทะเลาะกัน จนตอนนี้ เขาเลือกที่จะไป
เขาให้เหตุผลว่าในเมื่อตอนนี้เขาไม่มีคุณค่าและความหมายในสายตาของคนในครอบครัวแล้วเขาก็จะไปให้พ้นๆ เขาเจ็บปวดและอึดอัดต่อบรรยากาศที่ทุกคนทำกับเขาเหมือนเขาเป็นขยะ ลูกๆ ไม่ให้ความเคารพ ส่วนภรรยาก็จ้องจับผิดและหึงหวงแบบงี่เง่าไร้เหตุผล
สามีที่ล้มเหลวในงานสมควรแล้วเหรอที่ต้องถูกทุกคนละเลย เพราะงานของเขาที่ให้ทั้งเงินมาใช้จ่ายและมีเวลาได้อบรบสั่งสอนจนลูกๆ ได้เรียนโรงเรียนดีๆ และมีโอกาสที่ดีในชีวิต งานของเขาที่ทุกคนมองว่ามันผิดมันเลี้ยงดูลูกให้เติบโตมาได้เลยนะแต่วันนี้มันล้มเหลวและลากคนอื่นดิ่งไปด้วย มันทำลายตัวเองและคนอื่นด้วยก็จริงแต่มันถูกต้องแล้วเหรอ
ภรรยา หึงหวงไร้สาระ? การที่สามีคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งทุกวัน คุยสัพเพเหระในชีวิตประจำวัน โทรหากัน7,8โมงเช้า มันเป็นความปกติระหว่างพี่น้องที่สนิทกันงั้นเหรอ และมันผิดเหรอที่ภรรยาจะเกิดความรู้สึกแบบนี้
ละครชีวิต
สามี,ภรรยาคู่หนึ่งใช้ชีวิตร่วมกันมา 20 กว่าปี
มีลูกด้วยกัน 3 คน
ภรรยาทำงานบริษัททั่วไปแต่ก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยเพื่อให้มีรายได้มากพอมาจุลเจือครอบครัว ในยุคแบบนี้ สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ การเลี้ยงลูก3คนในวัยไล่เรื่ยกันมันไม่ง่ายเลยจริงๆ
ช่วง 2 ปีหลังมานี้การงานของสามีแย่ แย่ลงมาถึงขั้นที่ว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า การงานแย่ การเงินติดลบ ทรัพย์สินของมีค่าในบ้านถูกขายหมดเพื่อเอามาต่อยอดในเรื่องงานของเขา และมันก็ยังไม่พอ และมันก็ไม่ช่วยให้สถานะทางการงานหรือการเงินดีขึ้น
รามไปจนถึงหยิบยืมคนรอบข้างและการเอาทรัพย์สินของผู้อื่นไปโดยมิชอบ
สถานการณ์บานปลายจนยากจะกู้คืน เขายิ่งถลำลึก ยิ่งจมดิ่งและยิ่งอยากเอาชนะในทางของตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าทางที่เขาเลือกมันถูกต้องที่สุดแล้ว มันเคยทำให้ครอบครัวสุขสบายและให้อะไรหลายๆ อย่างที่อาชีพทั่วไปทำไม่ได้ เขาอยากกลับมายืนหยัดในทางที่ตัวเองเลือกอีกครั้งแม้ต้องแลกกับการสูญเสียสมบัติ เพื่อนและมิตรภาพต่างๆ นานา
และจนวันหนึ่ง วันที่เขาไม่เหลือใครอีก เขาถูกมองข้าม ถูกหมางเมิน กลายเป็นอากาศธาตุสำหรับคนในครอบครัว เขารู้สึกโดดเดี่ยวที่ไม่มีใครเห็นหัวทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาเป็นพ่อและสามีคนหนึ่งที่ทุ่มเทให้ครอบครัวอย่างสุดหัวใจ
ลูกคนโตที่เขาผ่านอะไรมาด้วยกันจนลูกสามารถเข้าโรงเรียนดังๆ ได้เข้ามหา'ลัยในฐานะเด็กทุน ทั้งหมดนั่นคือผลจากอาชีพที่เขาทำมันทำให้เขามีเงินและเวลาในการเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง3คนได้เป็นอย่างดี
แต่ในวันนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นอีกแล้ว ลูกคนโตเห็นพ่อแม่เถียงกันไม่ไหว เขาจึงสาดคำรุนแรงคำหนึ่งที่คยเป็นลูกไม่ควรจะพูดกับพ่อ(ไม่ใช่คำหยาบ) แต่มันก็แรงจนคนเป็นพ่อนั่นก็เจ็บปวดและเสียใจมาก
ทั้ง 5 ต้องเจอกับอะไรหลายๆ อย่างตั้งแต่อาชีพการงานของคนเป็นพ่อล้มเหลว หนักหนาสาหัสรุนแรงจนครอบครัวที่เคยอบอุ่นไปไหนมาไหนด้วยกัน 5 คนแต่ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายต่างก็ใช้ชีวิตของใครของมัน
แต่ในขณะเดียวกันภายในเวลาสองปีที่ว่ามานี้เขาก็มีกิจกรรมอื่นๆ ที่เข้ามาฮีลจิตใจ ได้มีสังคมในโลกของเกมออนไลน์ชนิดหนึ่ง ได้เจอคนดีๆ เป็นพี่เป็นน้องที่คบหาพูดคุยและปรึกษากันมากกว่าแค่เพื่อนเล่นเกมด้วยกัน
มีน้องผู้ชายเด็กใต้ที่น่ารัก มีปัญหาเรื่องตาด้วยกันเขาก็ให้เงินยืมไปหาหมอรักษาตา มีน้องผู้หญิงมาปรึกษาปัญหาความรัก ด้วยความที่เขาผ่านอะไรมามาก มีมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างจึงมีข้อคิดดีๆ สอนน้องๆ ในเกมและทุกคนก็ให้ความเคารพ
และมันก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าตัวเแงเป็นโรคแพนิคจุดเริ่มต้นที่ได้สนิทกัน เริ่มจากน้องที่เล่นเกมด้วยกัน เป็นเกมที่ต้องเล่นเป็นทีม สมาชิกในทีมทำหน้าที่ต่างๆ และช่วยกันเอาชนะคู่ต่อสู้
จากเพื่อนในเกมสู่เพื่อนในไลน์และเฟสบุ๊ค
ทุกครั้งที่รีแรงก์หรือเวลาปกติที่อยากเล่นเกมก็จะมีการโทรหากัน นัดแนะกันเสมอๆ ช่วยกันปั่นเวล ช่วยกันไต่อันดับ และแน่นอนว่าการพูดคุยกันทำให้สนิทกันเรื่อยๆ
ตามภาษาผู้ชายที่เล่นเก่งและมีหลายคนให้ความสนใจ ก็มักจะมีคำหยอด คำแซว คำกำกวม เช่น ป้อมแตกแล้ว!
เข้าใจบริบทมั้ยคะว่าผู้หญิงผู้ชายพูดคำว่า “แตก” แต่ไม่ได้หมายถึงป้อมในเกมที่กำลังเล่น
ความสนิทและการพูดคุยที่ดูธรรมดาแต่เกินพอดีไปหน่อยจนภรรยาของเขาเกิดความไม่พอใจ เกิดการพูดคุยหลายครั้งระหว่างผัวเมียมาแล้วหลายครั้ง หนักเข้าจนกลายเป็นการทะเลาะกันและใช่! เวลาหนึ่งปีผ่านไปเธอคนนั้นก็ยังติดต่อและพูดคุยกับสามีคนอื่นจนภรรยาไม่สบายใจกับพฤติกรรมแบบนี้ของสามีและน้องผู้หญิง
ฝั่งสามีเคยพูดว่าก็เป็นแค่พี่น้อง พูดคุยปรึกษาหารือชีวิตประจำวัน ไม่เคยเกินเลยหรือพูดจาจีบกันเพราะต่างฝ่ายต่างมีคนของตัวเอง(น้องเขาก็มีแฟนหรือคนคุยที่ยังไม่ได้เป็นสามีหรืออาจจะมีอันนี้ก็ไม่ทราบ)
ความสนิทสนมของทั้งคู่ถึงขั้นที่ว่าคุยกันวันละหลายครั้ง คุยไลน์จนดึกดื่น(ตีสอง,ตีสามหรือจนกว่าภรรยาของเขาจะกลับจากทำงานถึงค่อยว่างสาย หรือบางครั้งสามีก็ออกไปคุยนอกห้องนอน) ฝั่งชายถ่ายรูปตัวเองส่งให้น้องผู้หญิงดูว่าตัวเองออกไปทำธุระที่ไหน รู้ชีวิตของกันและกันตลอดว่าอีกคนไปทำอะไร กินข้าวกับอะไร และอาจจะมีนอกเหนือกว่านั้นอีกที่ภรรยาของเขาไม่รู้ ไม่เห็น
จากนั้นก็รามมาที่แอพใหม่นั่นคือ Weplay เป็นคอมมูฯใหม่ๆ ที่ทำให้ทั้งสองยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้น เล่นเกม สร้างสังกัด ส่งของขวัญ ส่งเหรียญ และเรื่องเงินๆ ทองๆ
แน่นอนว่าภรรยาที่ไม่ชอบให้สามีตัวเองคุยกับหญิงอื่นเกิดการทะเลาะหนักขึ้น เพราะเธอแอบๅด้ยินสามีคุยกับร้องคนเดิมคนนี้ทุกครั้ง แม้จะไม่ได้หยอดคำจีบหรืคำหวานๆ มันเป็นคำธรรมดาทั่วไปที่อยู่ในชีวิตประจำวันเช่น มื้อเช้ากินอะไร วันนี้รถติดไม เมื่อคืนนอนเลยหรือเปล่าหรือไปทำอย่างอื่นก่อนนอน มีการโทรมาปลุกอีกฝ่ายในตอนเช้าด้วย และแน่นอนว่าเคยนัดเจอกัน
ฝั่งชายบอกกับภรรยาว่าน้องเขามีปัญหาส่วนตัวเลยโทรมาคุยด้วยบ่อยๆ ประกอบกับเขาเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดศีลผิดจารีต ตัวเขาเองก็ไม่มีใครเห็นหัว ลูกและเมียไม่สนใจเขาที่ล้มเหลวในอาชีพการงานอยู่แล้วด้วยทำไมเขาถึงต้องเลิกคุยกับน้องคนนี้
-คนล้มเหลวที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเอง เคยเปลี่ยน เคยทำแล้วแต่มันไม่เวิร์ก อาชีพปกติมันทำเงินให้เขาไม่ได้อย่างงานที่เขาทำ แต่เงินทุกบาทและคนทุกคนที่เขายืมเงินไปนั้นเป็นคนที่ทำอาชีพปกติทั้งนั้นเลย
-ลูกคนโต เย็นชาห่างเหินและไม่เห็นหัวพ่อมานานเพราะเขาไม่ห็นการเปลี่ยนแปลงของพ่อและพ่อก็ยังทำร้ายคนอื่นอยู่เรื่อยๆ
-ลูกคนกลาง ถูกยืมเงินและถูก×××เงินจำนวนหนึ่งซึ่งไม่เคยได้คืน จนตอนนี้เขาขยาดพ่อตัวเองไปเลย
-ลูกคนเล็ก ต้องทำงานดูแลตัวเองตั้งแต่ม.6 เรื่องเงินแน่นอนว่าถูกหยิบยืมและไม่เคยได้คืนไม่รู้กี่ครั้ง ทุกคนในบ้านยังถูกต่อว่าว่าห็นแก่ตัว ไม่เคยทำอะไรเพื่อครอบครัวมีแต่ทำเพือตัวเอง
ทั้ง 3 คนทำงานหาเงินดูแลตัวเองไม่เดือดร้อนพ่อแม่ มีช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้านบ้าง
-ภรรยา ตกงานเพราะผลกระทบจากงานของสามี ในอายุหลักสี่มันหางานได้ยากมาก ทำได้แค่รับจ้างไปวันๆ หาเงินใช้จ่ายในบ้านเป็นหลัก
ความรู้สึกในใจก็คือมีแค่คำถาม ยิ่งอยากรู้ว่าเขายังคุยกันอยู่หรือเปล่าคำตอบก็คือยังคุยกันอยู่ทุกครั้ง เมื่อเห็น เมื่อเจอ เมื่อได้ยินเสียงน้องคนเดิมคนนั้นก็เอามาเป็นประเด็นทะเลาะกัน จนตอนนี้ เขาเลือกที่จะไป
เขาให้เหตุผลว่าในเมื่อตอนนี้เขาไม่มีคุณค่าและความหมายในสายตาของคนในครอบครัวแล้วเขาก็จะไปให้พ้นๆ เขาเจ็บปวดและอึดอัดต่อบรรยากาศที่ทุกคนทำกับเขาเหมือนเขาเป็นขยะ ลูกๆ ไม่ให้ความเคารพ ส่วนภรรยาก็จ้องจับผิดและหึงหวงแบบงี่เง่าไร้เหตุผล
สามีที่ล้มเหลวในงานสมควรแล้วเหรอที่ต้องถูกทุกคนละเลย เพราะงานของเขาที่ให้ทั้งเงินมาใช้จ่ายและมีเวลาได้อบรบสั่งสอนจนลูกๆ ได้เรียนโรงเรียนดีๆ และมีโอกาสที่ดีในชีวิต งานของเขาที่ทุกคนมองว่ามันผิดมันเลี้ยงดูลูกให้เติบโตมาได้เลยนะแต่วันนี้มันล้มเหลวและลากคนอื่นดิ่งไปด้วย มันทำลายตัวเองและคนอื่นด้วยก็จริงแต่มันถูกต้องแล้วเหรอ
ภรรยา หึงหวงไร้สาระ? การที่สามีคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งทุกวัน คุยสัพเพเหระในชีวิตประจำวัน โทรหากัน7,8โมงเช้า มันเป็นความปกติระหว่างพี่น้องที่สนิทกันงั้นเหรอ และมันผิดเหรอที่ภรรยาจะเกิดความรู้สึกแบบนี้