พ่อป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตกครับ เป็นผู้ป่วยติดเตียง ร่างกายฝั่งซ้ายขยับไม่ได้
ผมตัดสินใจกลับต่างจังหวัด กลับมาช่วยแม่ และช่วยทำกายภาพให้พ่อทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง ตลอด 7 เดือน
รวมถึงพาไปหาหมอทุกครั้ง พาไปกายภาพที่โรงพยาบาล พาไปฝังเข็ม
จากเดือนแรกที่ต้องใส่ท่ออาหาร มีสายฉี่ ตอนนี้อาการดีขึ้น ไม่ต้องมีท่ออาหารหรือสายฉี่แล้ว
จนพอจะเดินได้บ้างแบบมีไม้เท้า (แต่ต้องมีคนประคอง)
ผมเห็นว่าอาการเริ่มดีขึ้นในเดือนที่ 8 ผมเลยขอหยุดกายภาพไปแล้วครับ เพราะต้องหาเวลากลับมาเริ่มหางาน
แต่ผลลัพท์ที่ได้คือหลังจากผมหยุดช่วยกายภาพให้เค้า เค้าก็ไม่ทำอะไรเลย นอนทั้งวัน แบบทั้งวันจริงๆ
เมือ่เดือนก่อนนายอำเภอกับ ผอ รพ ประจำอำเภอ ก็มาเยี่ยม แล้วก็สร้างราวจับให้ฝึกเดินให้ ก็ฝึกได้ 2 วัน ตอนนี้ไม่ทำแล้ว
หมอก็บอกแล้วว่า ต้องขยับตัวนะ ทำอะไรเองเยอะๆ จะได้ดีขึ้นไว ๆ แต่กลายเป็นว่าพ่อเอาแต่นอน นอนดูข่าว นอน นอน
ขยับตัวน้อยมาก
ผมบอกให้ฝึกเดินบ้าง ก็บอกว่าฝึกแล้ว (แต่จริง ๆ คือฝึกเดินจากจุดหนึงไปจุดหนึง แค่ 5 นาที) แล้วก็นอนต่อ
ตอนนี้ความรู้สึก ทั้งห่วง และเริ่มหงุดหงิดครับ
1.ห่วงคือ ถ้าเค้านอนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อที่ไม่ได้ฝึก มันจะยึด และติด
แล้วการกายภาพที่เคยทำกันมา มันจะสูญเปล่า อาการจะมันอาจจะกลับไปแย่ลงได้
2.หงุดหงิดคือ ยิ่งพ่อไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองเท่าไหร่ แม่ที่ดูแลตลอด (และแม่ขาไม่ดีด้วย) ก็จะต้องเหนื่อยมากขึ้นเท่านั้น
คำถามคือ ผมจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีครับ หรือควรผมควรปล่อยเลยตามเลยดีไหม ผมว่าแม่ก็เหนื่อย ผมก็เหนื่อย
เพราะพวกเราก็ทำเต็มที่แล้ว แต่พ่อไม่ช่วยพวกเราด้วยการพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นเลย ทั้งที่ทำได้
แต่เค้าก็เป็นพ่อ (ถึงผมจะไม่ได้ผูกพันธ์กับเค้ามาก) หรือก็ควรช่วยกายภาพกันต่อ แบบนี้หรือเปล่าครับ ตอนนี้สับสนมาก
ยิ่งตอนเห็นเค้านอนนิ่ง ๆ หรือนอนเฉยๆ โดยเฉพาะตอนเห็นเค้านอนกินขนมอยู่บนเตียง (ทั้งที่ลุกขึ้นมานั่งกินได้) ผมนี่จะยิ่งหงุดหงิด
ขอคำปรึกษาด้วยครับผม
ผมจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีครับ เรื่องพ่อ
ผมตัดสินใจกลับต่างจังหวัด กลับมาช่วยแม่ และช่วยทำกายภาพให้พ่อทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง ตลอด 7 เดือน
รวมถึงพาไปหาหมอทุกครั้ง พาไปกายภาพที่โรงพยาบาล พาไปฝังเข็ม
จากเดือนแรกที่ต้องใส่ท่ออาหาร มีสายฉี่ ตอนนี้อาการดีขึ้น ไม่ต้องมีท่ออาหารหรือสายฉี่แล้ว
จนพอจะเดินได้บ้างแบบมีไม้เท้า (แต่ต้องมีคนประคอง)
ผมเห็นว่าอาการเริ่มดีขึ้นในเดือนที่ 8 ผมเลยขอหยุดกายภาพไปแล้วครับ เพราะต้องหาเวลากลับมาเริ่มหางาน
แต่ผลลัพท์ที่ได้คือหลังจากผมหยุดช่วยกายภาพให้เค้า เค้าก็ไม่ทำอะไรเลย นอนทั้งวัน แบบทั้งวันจริงๆ
เมือ่เดือนก่อนนายอำเภอกับ ผอ รพ ประจำอำเภอ ก็มาเยี่ยม แล้วก็สร้างราวจับให้ฝึกเดินให้ ก็ฝึกได้ 2 วัน ตอนนี้ไม่ทำแล้ว
หมอก็บอกแล้วว่า ต้องขยับตัวนะ ทำอะไรเองเยอะๆ จะได้ดีขึ้นไว ๆ แต่กลายเป็นว่าพ่อเอาแต่นอน นอนดูข่าว นอน นอน
ขยับตัวน้อยมาก
ผมบอกให้ฝึกเดินบ้าง ก็บอกว่าฝึกแล้ว (แต่จริง ๆ คือฝึกเดินจากจุดหนึงไปจุดหนึง แค่ 5 นาที) แล้วก็นอนต่อ
ตอนนี้ความรู้สึก ทั้งห่วง และเริ่มหงุดหงิดครับ
1.ห่วงคือ ถ้าเค้านอนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อที่ไม่ได้ฝึก มันจะยึด และติด
แล้วการกายภาพที่เคยทำกันมา มันจะสูญเปล่า อาการจะมันอาจจะกลับไปแย่ลงได้
2.หงุดหงิดคือ ยิ่งพ่อไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองเท่าไหร่ แม่ที่ดูแลตลอด (และแม่ขาไม่ดีด้วย) ก็จะต้องเหนื่อยมากขึ้นเท่านั้น
คำถามคือ ผมจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีครับ หรือควรผมควรปล่อยเลยตามเลยดีไหม ผมว่าแม่ก็เหนื่อย ผมก็เหนื่อย
เพราะพวกเราก็ทำเต็มที่แล้ว แต่พ่อไม่ช่วยพวกเราด้วยการพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นเลย ทั้งที่ทำได้
แต่เค้าก็เป็นพ่อ (ถึงผมจะไม่ได้ผูกพันธ์กับเค้ามาก) หรือก็ควรช่วยกายภาพกันต่อ แบบนี้หรือเปล่าครับ ตอนนี้สับสนมาก
ยิ่งตอนเห็นเค้านอนนิ่ง ๆ หรือนอนเฉยๆ โดยเฉพาะตอนเห็นเค้านอนกินขนมอยู่บนเตียง (ทั้งที่ลุกขึ้นมานั่งกินได้) ผมนี่จะยิ่งหงุดหงิด
ขอคำปรึกษาด้วยครับผม