อนงค์คือสาวสมัย มั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง เธอเป็นน้องน้อยของพี่ชายทั้ง 4 เป็นเป้าสายตา เป็นเป้าซุบซิบนินทาในหมู่ประชาคม อ้อ หากอนงค์มีสิ่งใดต้องคิดมาก ตระกูลของเจ้าหล่อนมีธุรกิจใหญ่โต มีธนาคาร มีห้างร้าน เมื่อเธอบรรลุนิติภาวะทรัพย์ฤศงคารเหล่านั้นย่อมตกเป็นของเธอ อนงค์โลดแล่นในสังคมเป็นที่ติดตาต้องใจของหมู่ภมรชาวกรุง แต่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับบรรดาแม่ ๆ

เธอก้าวล้ำสมัย น่าจะยิ่งกว่าหญิงใดในพระนคร อนงค์กับรถคันใหม่ที่พี่ชายคนโตซื้อให้ อนงค์บนหลังม้างามสง่าและปราดเปรียว อนงค์ที่นั่งลงไขว่ห้างแสนเก๋ ตั้งคำถามว่า เมื่อใดผู้หญิงจะได้ใช้ชีวิตของตัวเอง บรรดาพี่ชายไม่มีใครคัดค้านห้ามหวง ดูท่าอนงค์จะเป็นใหญ่ในหมู่พี่ชายของตัวเองด้วยซ้ำ พี่ชายได้แต่ตักเตือน ... เออ เตือนแหละมั้ง อย่างเห็นขำมากกว่าเป็นจริงเป็นจัง ว่าให้ดูผู้ชายนาน ๆ ให้ดูดี ๆ น้องสาวน่ะเอาตัวรอดได้แน่ พวกเขาน่ะรู้ดี ว่าน้องสาวคนเล็กคนนี้มีรูปเป็นทรัพย์ ฐานะยิ่งเหมือนเครื่องประดับคอยส่งเสริม ผู้ชายหวังจะเข้ามาเอาประโยชน์ปรายตามองก็รู้ ทั้งความสวยทั้งทรัพย์สมบัติเป็นที่ล่อตาล่อใจ

หากอนงค์จะเดือดร้อนหรือก็หาไม่ ความรักและหัวใจ ยังไม่เคยคิดจะมอบเอาให้แก่ใคร ผู้ชายทุกคนอยู่ในสถานะเท่ากัน เป็นเพื่อนกันทั้งหมดทั้งสิ้น เพื่อนที่แปลว่าเพื่อน ไม่มีความหมายอะไรพิเศษ พฤติกรรมของเธอดูจะล้ำยุคล้ำสมัยไปมาก แต่ก็นั่นแหละ ก็แล้วทำไมล่ะ ชีวิตของผู้หญิงขึ้นอยู่กับตัวเองได้ไม่ผิดอะไร เมื่อมีความคิดแบบนี้ อนงค์ก็ใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองคิดและยึดถือมาตลอด

หนึ่งในผู้ชายที่เข้ามาติดพัน ได้แก่ นายร้อยหนุ่มนามว่าชัด ปราดเปรียวนำสมัยไม่แพ้อนงค์ เป็นเพื่อนกิน เป็นเพื่อนเที่ยว เทียวไล้เทียวขื่ออยู่เป็นนาน ท่ามกลางความร้อนอกร้อนใจของคุณนายชื่นผู้เป็นแม่ที่มองความประพฤติของอนงค์ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงอย่างว่า พยายามจะจับพ่อหนุ่มเนื้อทองอย่างชัดด้วยการประเคนทรัพย์สินอย่างรถยนต์มาให้ เบื้องต้นคุณพระอรรถคดีวิชัยก็คิดว่าพอจะเข้าเค้า แต่กระนั้นก็ไม่ได้เห็นด้วยนักกับการที่คุณแม่จะว่าสาดเสียเทเสีย อนงค์ออกจะเกินหญิงในสายตาคุณพระ แต่การที่จำบอกว่าเธอคนนั้นเป็นอีสำเพ็งก็ออกจะเกินไปสักหน่อย

อนงค์พบคุณพระครั้งแรกที่หัวหิน เขาไม่เหมือนกับใครที่เธอเคยเจอ ต่างกับชัดราวสีขาวและสีดำ และ ยิ่งไม่ได้มีท่าทีสนใจเธอเป็นพิเศษ สงบเคร่งขรึมจนออกจะเฉิ่มเชย แต่เธอเพิ่งรู้ว่าประมาณคุณพระต่ำไป ภายใต้ท่าทีสงบเฉย คือ ความสู้คนไม่ใช่น้อย สวนมาครั้งนึงจุกไปเป็นหลายวัน ไม่นานผ่านมาอนงค์ได้พบกับคุณพระอีกครั้ง ความโก๊ะกังที่เจ้าตัวมาผิดวัน เพิ่มความขบขันแกมสังเวชแก่สมาชิกในบ้านของอนงค์ไม่น้อย 

หากไม่รู้ว่าสมพงศ์กำลังคิดอะไร อาจจะคิดได้เมื่อรับฟังความเห็นของคุณพระเกี่ยวกับเรื่องการฟ้องคดีแม่บ้านที่หัวหินกระมัง ที่จุดประกายความคิดขึ้นในใจพาคุณพระร่วมนั่งโต๊ะอาหาร ชะรอยว่า "แขก" ที่พี่ชายของอนงค์พามาดูตัว คงรู้เห็นว่าน้องชายคุณพระก็เป็นหนึ่งในหมู่ภมรที่วนเวียนไต่ตอมดอกไม้งามอย่างอนงค์ จำเป็นจะต้องคุมกำเนิดเสียให้สิ้นซาก เขาจึงรีบร้อนฉีกหน้าตระกูลของคุณพระเสียไม่มีดี บุญบาป พี่ใหญ่ที่คุณชัดว่าไม่เคยโกรธใครซักทีจนแทบจะเป็นพระประธานในโบสถ์ กลับแก้ปัญหาได้อย่างหมดจด ดาบที่จำลองยื่นมาแทงจึงกลับไปปาดคอตัวจำลองเองให้ตายดับ

อนงค์ทั้งทึ่งทั้งขัน ผู้ชายคนนี้แปลกประหลาดแท้ เขาปฏิบัติกับอนงค์ไม่เหมือนใคร วิธีการโต้ตอบก็ไม่มีใครเหมือน น้ำใสไหลเรื่อย ไม่กี่เพลากลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ม้วนฝ่ายตรงข้ามจมหายลงไป แล้วก็กลับมาสงบราบเรียบดังเดิม น่าสนใจอยู่น้อยเสียเมื่อไหร่ เธอได้โอกาสต่อบทสนทนากับเขาเสียทีในตอนท้าย บทสนทนาที่อนงค์ไม่เคยได้แง่มุมแบบนี้จากเพื่อนชายคนใด มีชั้นเชิง ลึกซึ้งตรึกตรอง แม้กระทั่งแก้ไขความเข้าใจของตนเองโดยไม่ได้ถือตนเป็นใหญ่ เล่นเอาบทสนทนากับคนอื่น พวกที่ขายขนมหวานขนมจีบอ้อนวอนขอความรักในอดีตที่ผ่าน จืดชืดไปถนัดตา

มือแข็งแรงขีดเขียนถ้อยคำลงในกระดาษ ถ้อยคำที่แม่เขาพูดให้ได้ยินผ่านโทรศัพท์ คุณอย่าได้เอาขยะมารกใจ จะสำมะหาอะไรกับความคิดของคนที่ไม่ได้รู้จักคุณดีพอ ผู้หญิงชอบทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ขีดเขียนบนผืนทราย ปล่อยให้คลื่นทะเลลบรอยหายไป แต่ทีนี่ไม่มีทราย ว่าแล้วคุณพระจุดไฟแช็คมอดไหม้กระดาษใบน้อยกับถ้อยคำประณามหยามเหยียด หย่อนลงในอ่างแก้วใบย่อม  อนงค์ยังมิได้หมายมาดจะมอบหัวใจ และ ความรักให้ใครคนไหน แม้กระทั่งบัดนี้ หากสายตาของอนงค์ในเย็นวันนั้นกลับวาววามด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดในใจ แปลกแต่รู้สึกดี