TAKLEE GENESIS (ตาคลี เจเนซิส)
เรื่องย่อ ตาคลี เจเนซิส Taklee Genesis
หนึ่ง ในเอากำไลไปเก็บแหวนวิเศษที่ดอนหาย
สอง ให้เอาไปเปิดเครื่อง ตาคลี เจเนซิส ที่ค่ายรามสูร
สาม ให้ใส่พิกัดที่เขาให้มา แล้วลูกจะพ่อกลับมาหาพวกเราได้
ในช่วงสงครามเวียดนาม กองทัพอเมริกันได้สร้างสถานีสื่อสารขนาดใหญ่ ณ ค่ายรามสูร ว่ากันว่ามันเป็นสถานที่ทดลองการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง ในชื่อโปรเจ็คต์ Taklee Genesis
สเตลล่า คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงพลิกผัน เธอได้รับโทรศัพท์จาก อิษฐ์ เพื่อนสมัยเด็กของเธอ ขอร้องให้สเตลล่ากลับไปดูแล ดวงพร แม่ที่กำลังป่วยหนัก ณ หมู่บ้านดอนหาย สถานที่ที่เธอจากมาตั้งแต่ยังเด็กพร้อมความทรงจำอันเลวร้าย เมื่อเธอเป็นประจักษ์พยานการหายตัวไปอย่างลึกลับของพ่อภายในป่าต้องห้าม แต่ไม่มีใครเชื่อเธอเลย 30 ปีต่อมา สเตลล่ากลับบ้านมาพร้อม วาเลน ลูกสาวที่พยายามพิสูจน์ตัวเองกับแม่ของเธอ ที่ดอนหาย สเตลล่ายังได้เจอกับ จำนูญ หัวหน้าชุมชน และ ก้อง ลูกชายของเขา ซึ่งทั้งคู่ยังมีรูปร่างหน้าตา ไม่ต่างจากเมื่อ 30 ปีก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ
ในคืนหนึ่ง สเตลล่าได้รับการติดต่อกลับมาจากพ่อของเธออีกครั้ง ผ่านวิทยุสื่อสารเครื่องเก่า ซึ่งแม้เวลาผ่านมา 30 ปีแล้ว แต่ในที่ที่พ่อของเธออยู่นั้น เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ 30 นาที สเตลล่าตั้งใจจะช่วยพ่อกลับมายังโลกปัจจุบันให้ได้ โดยภารกิจคือเธอต้องกลับไปเปิดเครื่อง Taklee Genesis อีกครั้ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นการผจญภัยสู่อดีตถึงอนาคต ที่กินระยะเวลานับพันปี
บอกเลยว่า คาดหวังกับเรื่องนี้พอสมควร เห็นตัวอย่างก็น่าดูใช้ได้ และเป็นฟอร์มยักษ์ ที่ทุ่มทุนเยอะ สำหรับหนังไทย และฉายIMAX รองจากธี่หยด คาดหวังว่าจะได้เห็นCGสวยๆ แบบที่หนังไทยเรื่องอื่นๆไม่มี และทำไม่ได้
ความรู้สึกหนังดูจบ
ต้องยกให้TAKLEE GENESISเป็นอีกขั้นของหนังไทย ในด้านของงานสร้าง และCG ตอนดูตัวอย่าง คือค่อนข้างคาดหวังมาก อยากเห็นหนังไทย ที่ตัวอย่างกับในหนัง CGไม่หลอกดาว แค่ในตัวอย่าง แล้วเรื่องนี้ ก็ทำได้ในส่วนนี้
CGคือทำออกมาดีมาก แทบทั้งเรื่อง เนียน สวย แต่ก็มีหลายๆฉาก ที่ลอยๆก็เยอะ อันนี้จะไปพูดในข้อด้อย แต่โดยรวมคือ ถ้าเทียบกับมาตรฐานหนังไทย คือเรื่องนี้CGมาไกลมาก ถึงแม้จะมีฉากมุมกว้างไม่เนียนบ้าง และหลายๆฉาก เยอะด้วย แต่ฉากเนียนๆสวยๆ ก็มีเยอะมากๆ พอหักล้างกันได้ อาจจะด้วยเรื่องทุนสร้าง ฉากสวยๆเยอะ มีชอบหลายฉากเลย และพวกตัวสัตว์ประหลาด ไดโนเสาร์ คือเก็บรายละเอียดดีมาก ตอนที่ฉากใกล้ๆ คือเนียนมาก ปกติหนังไทยเรื่องอื่นๆ ตัวอย่างทำออกมาดี แต่ในหนังคนละอย่าง ล่าสุดก็ยูเรนัส แต่เรื่องนี้ ไม่ผิดหวังเลย ชื่นชมในส่วนนี้ เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ ยิ่งฉากใช้เทคโนโลยีนะ เหมือนของฝรั่งเลย เนียนมาก
เป็นการผสมผสานระหว่าง ไซไฟ ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ ได้ดี มีปรัชญา แฝงแง่คิด ควบคู่กับวิทยาศาสตร์ได้กำลังดี ซึ่งสำหรับวงการหนังไทย หนังแนวนี้ ถือว่าใหม่ และเขียนบทออกมาได้ค่อนข้างโอเค น่าจะทำการบ้านมาดีนะดับนึง และแม้จะมีติดๆขัดๆ และช่องโหว่บ้าง แต่ถือว่าสอบผ่าน
เพราะหนังแนวนี้ บทค่อนข้างยาก เพราะต้องใช้จิตนาการ และความรู้ ความจริง เข้าด้วยกัน
ฉากแอคชั่นสนุก อันนี้คือชอบสุดในหนัง ตื่นเต้น ลุ้น และอินมาก ทำถึง ชอบทุกฉาก ยังมีฉากตื่นเต้น ตกใจ ให้ความหลอน แบบหนังผีด้วย
ยิ่งดูบนจอยักษ์IMAX คืออรรถรสมาก ทั้งภาพ
และเสียง
ดนตรีประกอบฉากต่างๆ ยิ่งฉากตื่นเต้นๆ คือทำออกมาเหมือนดูหนังฝรั่งเลย เข้ากับหนัง ช่วยเพิ่มความอิน และอรรถรสได้ดีมากๆ ส่วนนี้คือส่วนที่ชอบมากเช่นกันในหนัง
งานภาพคือสวยแทบทุกฉาก ยิ่งใหญ่เต็มตา ตามมาตรฐานหนังที่ฉายIMAX
นักแสดงทุกคนเล่นดีแทบทุกคน แต่ก็จะมีบางคนที่แข็งๆบ้าง และรู้สึกว่าแคสมาไม่ค่อยเหมาะ
บท และพล็อต คือแปลกใหม่ สำหรับวงการหนังไทย ชื่นชมความกล้า ที่จะออกนอกกรอบ และทำออกมาได้โอเค ทำการบ้านมาดี เพราะแนวนี้ ค่อนข้างเขียนยาก เพราะมันต้องใช้ทั้งความรู้ที่เป็นความจริง ผสานเข้ากับอะไรหลายๆอย่าง ทำได้ขนาดนี้ คือดีแล้ว แต่ถ้าเทียบกับหนังฝรั่ง หนังแนวนี้มีเยอะแล้ว ไม่ได้แปลกใหม่ สดใหม่อะไร ออกแนวสูตรสำเร็จด้วยซ้ำ
เนื้อเรื่องกับการเล่าเรื่อง อาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่ ดูแล้วก็รู้สึกอะไรเนี่ยบ้าง เนือยๆบางช่วง แต่ดี ที่มีฉากแอคชั่นสนุกๆ ตื่นเต้น แทรกไว้ตลอดเวลา แล้วหนังก็ทำฉากแอคชั่นดี และสนุกมาก
การออกแบบตัวละครต่างๆ ที่ใช้CG คือออกแบบดี และสวย เนียนมาก
แต่ก็เข้าใจที่หนัง และผู้กำกับสื่อนะ มันมีนัยยะ และอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น แฝงไว้ในหนัง
แต่ปรัชญากับวิทยาศาสตร์ อาจจะย่อยยากนิดหน่อย สำหรับคนที่ชอบดูหนังบันเทิงอย่างเดียว และไม่ซับซ้อน เพราะหนังต้องฟัง และทำความเข้าใจไปด้วย ถ้าพลาด อาจจะหลุดเนื้อหาสำคัญไปได้เลย เพราะหนังไซไฟ แน่นอน ข้อมูลจะเยอะกว่าหนังทั่วไป และดูแล้วต้องจดจ่อมากๆ หนังใช้เวลาในส่วนนี้ เยอะพอสมควร เพื่อจะอธิบายข้อมูล สิ่งต่างๆ และทำให้หนังกินเวลานาน จนทำให้ไม่กระชับ และเนือยบ้าง
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
การใส่ดนตรีประกอบที่เหมือนละครบู๊หลังข่าวช่องมากสี อันนี้คือโคตรไม่ชอบเลย แล้วสะดุดมาก ขัดใจ ขัดอารมณ์กับหนังสุดๆ หน้าหนังอินเตอร์แล้ว ดนตรีประกอบฉากอื่นๆ ยิ่งฉากแอคชั่น ทำได้โคตรจะดี อินเตอร์ อย่างกับหนังฝรั่ง ทั้งที่เป็นหนังไทย แต่มาตกม้าตาย เพราะเรื่องแบบนี้ แล้วไม่คิดว่าจะใส่อะไรแบบนี้มา คือมันตลกมาก แล้วจะมีบางฉาก ใส่ดนตรีน่ารักๆกุ๊กกิ๊กมาด้วย อันนี้คือหัวจะปวดมาก หลายๆฉาก ดนตรีที่ใส่มา คือไม่ได้เลย ถ้าจะไปไกล ต้องไปให้สุด อย่ามายึดติดกับอะไรแบบนี้
หนังมีความพยายาม ที่จะนำหลายๆอย่างมาใส่จนเกินไป ทำให้ตัวละคร และเส้นเรื่อง มันดูเยอะ และยุ่งเหยิงเกินไป แทนจะได้โฟกัส และอินกับตัวละครนั้นๆ แต่ด้วยความเยอะของเหตุการณ์ และตัวละคร ทำให้เราไม่มีเวลาลงลึก และอินไปกับตัวละครหลักมากนัก ยำรวมจัด ถึงแม้ว่าเราจะรักประชาธิปไตย การเมือง แต่เราว่าพาร์ทนี้ ไม่ค่อยเข้ากับหนัง
เท่าไหร่ ประเด็นมันดูโดดๆไป แต่เราไม่ติดอะไรมาก แต่ถ้าพวกเห็นต่าง อยู่คนละฝั่ง ที่ไปดูหนัง อาจจะไม่ชอบหนัง เพราะพาร์ทนี้ไปเลย
หนังคือดูแล้วรู้เลย ว่าได้แรงบันดาลใจ มาจากInterstellar ทั้งดนตรี ฉากหลายๆฉาก คือใช่เลย ยิ่งท้ายๆนะ คือดนตรีกับฉากนอนเตียงที่โรงพยาบาล แทบจะก๊อปแล้วอะ
พล๊อต บท สำหรับหนังไทย ถือว่าแปลกใหม่ แต่สำหรับหนังฝรั่งแนวนี้ คือมีให้เห็นบ่อยๆ และไม่ได้สดใหม่อะไร ออกแนวสูตรสำเร็จด้วยซ้ำ
บทอิฐ บางครั้งดูตลก และโอเวอร์เกินไป ชอบในพาร์ทที่หนักแน่นมากกว่า
การแสดงของน้องคนที่เล่นเป็นหล้าตอนเด็กๆ ยังไม่ค่อยโอเค สีหน้า ยังพอได้ แต่ท่าทาง ต่างๆ การเดิน การวิ่ง มือไม้ คิดว่ามันดูขัดๆ น้องยังจัดระเบียบตัวเองไม่ดีพอ ดูเก้ๆกังๆ ขัดๆเยอะ แต่ก็เด็กอ่าเนอะ แต่ว่าเด็กคนอื่นเล่นได้ดีมากๆ
การแคสถือว่าหลายๆคนยังไม่ผ่าน และเล่นแข็ง ไม่ธรรมชาติ ไม่สมบทบาท จากที่ดู มีหลายๆคนเหมาะเยอะกว่า
CGหลายๆฉาก ค่อนข้างลอยมากๆ และไม่ค่อยเนียน โดยเฉพาะฉากที่ถ่ายมุมกว้างด้านนอก บางฉากคือโดดมาเลย แต่ดีที่ฉากใกล้ๆ ค่อนข้างเก็บรายละเอียดดีมากๆ แต่ก็เข้าใจ ด้วยเรื่องงบประมาณ มันอาจจะดูเยอะ สำหรับหนังไทย แต่ถ้าเทียบกับหนังไซไฟ ทุนสร้างเท่านี้ ถือว่าน้อยมากๆ แต่ดีที่อยู่ภายใต้Warner Bros. ซึ่งมาตรฐานงานสร้าง ก็ถือว่าขัดเกลาออกมาได้ดี ตามเนื้อผ้า และงบ แต่ก็ทำได้เกินค่ามาตรฐานหนังไทยไปเยอะมากๆ
ภาพมุมสูง ไม่ค่อยชัด และเบลอ แทบทุกฉาก
อัตราส่วนภาพ เดี๋ยวย่อ เดี๋ยวขยาย คือทำไมไม่ทำสัดส่วนเดียวกันไปเลย
หนังค่อนข้างยาวมากๆ และหลายๆฉาก กินเวลานาน จนแอบง่วง และมีความเนือยๆบ้าง น่าจะกระชับกว่านี้
และแน่นอน หนังมะเดี่ยว เป็นอย่างที่คิดไว้ และในหนังก็เป็นแบบนั้น จากที่ดูผลงานหลายๆเรื่อง สไตล์ของหนังจะมีความไม่เคลียร์ แล้วก็มีความให้คิดเยอะ และบ้างครั้งอาจจะดูงงๆ ซึ่งผลงานที่ผ่านมา แทบทุกเรื่อง ก็จะมีอะไรให้คนดูไปคิดเอาเอง และทิ้งไว้ให้งงๆแบบนี้ แต่ยอมรับว่า หนังทุกเรื่องที่เขาทำ มีความใส่ใจ ไม่ใช่ทำตามกระแส บทไม่มี แบบ พ.อ.น.
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ 7/10 คะแนน
ชื่นชมในความใส่ใจ และความพยายาม ที่จะพาหนังไทย ก้าวข้ามไปอีกขั้น แล้วก็ทำออกมาได้น่าชื่นชม ในภาพรวม คือพูดออกมาได้อย่างไม่เคอะเขินเลย ว่านี่แหละมาตรฐานใหม่ของหนังไทย
ในด้านของงานสร้าง คือทำออกมาดีมาก
ปล. ใครที่มีบัตร IMAXไม่บวกเพิ่มนะ ราคาดีเลย
แนะนำให้จัดIMAX เพราะราคา เท่าโรงปกติเลย
แต่งงกับกระแส และรายได้ ค่อนข้างเงียบกว่าที่คิด
คนดูค่อนข้างน้อยมาก ทีแรกคิดว่าจะเป็นหนังร้อยล้าน ต่อจากวิมานหนาม แต่ตอนนี้ ก็เอาใจช่วย ให้คืนทุนก่อน เปิดตัวคือน้อยกว่าการ์ตูนลูกเจี๊ยบ ที่ฉายไปแล้วอีก
เป็นหนังที่ดูจบแล้ว ควรมาคิดต่อหรือตกผนึกนะ แต่เรื่องนี้ ส่วนตัวคิดว่าจบแล้วจบเลย มันไม่ได้อยากหาข้อมูลอะไรเหมือนหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ
เพราะไม่ค่อยมีอะไรน่าประทับใจ
ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไร มาแชร์กันได้นะ
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie?mibextid=LQQJ4d
#takleegenesis #ตาคลีเจเนซิส
TAKLEE GENESIS (ตาคลี เจเนซิส) (7/10) l ไซไฟ ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ หนังไทยที่ก้าวไกลไปอีกขั้น แต่... (สปอยล์)
เรื่องย่อ ตาคลี เจเนซิส Taklee Genesis
หนึ่ง ในเอากำไลไปเก็บแหวนวิเศษที่ดอนหาย
สอง ให้เอาไปเปิดเครื่อง ตาคลี เจเนซิส ที่ค่ายรามสูร
สาม ให้ใส่พิกัดที่เขาให้มา แล้วลูกจะพ่อกลับมาหาพวกเราได้
ในช่วงสงครามเวียดนาม กองทัพอเมริกันได้สร้างสถานีสื่อสารขนาดใหญ่ ณ ค่ายรามสูร ว่ากันว่ามันเป็นสถานที่ทดลองการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง ในชื่อโปรเจ็คต์ Taklee Genesis
สเตลล่า คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงพลิกผัน เธอได้รับโทรศัพท์จาก อิษฐ์ เพื่อนสมัยเด็กของเธอ ขอร้องให้สเตลล่ากลับไปดูแล ดวงพร แม่ที่กำลังป่วยหนัก ณ หมู่บ้านดอนหาย สถานที่ที่เธอจากมาตั้งแต่ยังเด็กพร้อมความทรงจำอันเลวร้าย เมื่อเธอเป็นประจักษ์พยานการหายตัวไปอย่างลึกลับของพ่อภายในป่าต้องห้าม แต่ไม่มีใครเชื่อเธอเลย 30 ปีต่อมา สเตลล่ากลับบ้านมาพร้อม วาเลน ลูกสาวที่พยายามพิสูจน์ตัวเองกับแม่ของเธอ ที่ดอนหาย สเตลล่ายังได้เจอกับ จำนูญ หัวหน้าชุมชน และ ก้อง ลูกชายของเขา ซึ่งทั้งคู่ยังมีรูปร่างหน้าตา ไม่ต่างจากเมื่อ 30 ปีก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ
ในคืนหนึ่ง สเตลล่าได้รับการติดต่อกลับมาจากพ่อของเธออีกครั้ง ผ่านวิทยุสื่อสารเครื่องเก่า ซึ่งแม้เวลาผ่านมา 30 ปีแล้ว แต่ในที่ที่พ่อของเธออยู่นั้น เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ 30 นาที สเตลล่าตั้งใจจะช่วยพ่อกลับมายังโลกปัจจุบันให้ได้ โดยภารกิจคือเธอต้องกลับไปเปิดเครื่อง Taklee Genesis อีกครั้ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นการผจญภัยสู่อดีตถึงอนาคต ที่กินระยะเวลานับพันปี
บอกเลยว่า คาดหวังกับเรื่องนี้พอสมควร เห็นตัวอย่างก็น่าดูใช้ได้ และเป็นฟอร์มยักษ์ ที่ทุ่มทุนเยอะ สำหรับหนังไทย และฉายIMAX รองจากธี่หยด คาดหวังว่าจะได้เห็นCGสวยๆ แบบที่หนังไทยเรื่องอื่นๆไม่มี และทำไม่ได้
ความรู้สึกหนังดูจบ
ต้องยกให้TAKLEE GENESISเป็นอีกขั้นของหนังไทย ในด้านของงานสร้าง และCG ตอนดูตัวอย่าง คือค่อนข้างคาดหวังมาก อยากเห็นหนังไทย ที่ตัวอย่างกับในหนัง CGไม่หลอกดาว แค่ในตัวอย่าง แล้วเรื่องนี้ ก็ทำได้ในส่วนนี้
CGคือทำออกมาดีมาก แทบทั้งเรื่อง เนียน สวย แต่ก็มีหลายๆฉาก ที่ลอยๆก็เยอะ อันนี้จะไปพูดในข้อด้อย แต่โดยรวมคือ ถ้าเทียบกับมาตรฐานหนังไทย คือเรื่องนี้CGมาไกลมาก ถึงแม้จะมีฉากมุมกว้างไม่เนียนบ้าง และหลายๆฉาก เยอะด้วย แต่ฉากเนียนๆสวยๆ ก็มีเยอะมากๆ พอหักล้างกันได้ อาจจะด้วยเรื่องทุนสร้าง ฉากสวยๆเยอะ มีชอบหลายฉากเลย และพวกตัวสัตว์ประหลาด ไดโนเสาร์ คือเก็บรายละเอียดดีมาก ตอนที่ฉากใกล้ๆ คือเนียนมาก ปกติหนังไทยเรื่องอื่นๆ ตัวอย่างทำออกมาดี แต่ในหนังคนละอย่าง ล่าสุดก็ยูเรนัส แต่เรื่องนี้ ไม่ผิดหวังเลย ชื่นชมในส่วนนี้ เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ ยิ่งฉากใช้เทคโนโลยีนะ เหมือนของฝรั่งเลย เนียนมาก
เป็นการผสมผสานระหว่าง ไซไฟ ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ ได้ดี มีปรัชญา แฝงแง่คิด ควบคู่กับวิทยาศาสตร์ได้กำลังดี ซึ่งสำหรับวงการหนังไทย หนังแนวนี้ ถือว่าใหม่ และเขียนบทออกมาได้ค่อนข้างโอเค น่าจะทำการบ้านมาดีนะดับนึง และแม้จะมีติดๆขัดๆ และช่องโหว่บ้าง แต่ถือว่าสอบผ่าน
เพราะหนังแนวนี้ บทค่อนข้างยาก เพราะต้องใช้จิตนาการ และความรู้ ความจริง เข้าด้วยกัน
ฉากแอคชั่นสนุก อันนี้คือชอบสุดในหนัง ตื่นเต้น ลุ้น และอินมาก ทำถึง ชอบทุกฉาก ยังมีฉากตื่นเต้น ตกใจ ให้ความหลอน แบบหนังผีด้วย
ยิ่งดูบนจอยักษ์IMAX คืออรรถรสมาก ทั้งภาพ
และเสียง
ดนตรีประกอบฉากต่างๆ ยิ่งฉากตื่นเต้นๆ คือทำออกมาเหมือนดูหนังฝรั่งเลย เข้ากับหนัง ช่วยเพิ่มความอิน และอรรถรสได้ดีมากๆ ส่วนนี้คือส่วนที่ชอบมากเช่นกันในหนัง
งานภาพคือสวยแทบทุกฉาก ยิ่งใหญ่เต็มตา ตามมาตรฐานหนังที่ฉายIMAX
นักแสดงทุกคนเล่นดีแทบทุกคน แต่ก็จะมีบางคนที่แข็งๆบ้าง และรู้สึกว่าแคสมาไม่ค่อยเหมาะ
บท และพล็อต คือแปลกใหม่ สำหรับวงการหนังไทย ชื่นชมความกล้า ที่จะออกนอกกรอบ และทำออกมาได้โอเค ทำการบ้านมาดี เพราะแนวนี้ ค่อนข้างเขียนยาก เพราะมันต้องใช้ทั้งความรู้ที่เป็นความจริง ผสานเข้ากับอะไรหลายๆอย่าง ทำได้ขนาดนี้ คือดีแล้ว แต่ถ้าเทียบกับหนังฝรั่ง หนังแนวนี้มีเยอะแล้ว ไม่ได้แปลกใหม่ สดใหม่อะไร ออกแนวสูตรสำเร็จด้วยซ้ำ
เนื้อเรื่องกับการเล่าเรื่อง อาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่ ดูแล้วก็รู้สึกอะไรเนี่ยบ้าง เนือยๆบางช่วง แต่ดี ที่มีฉากแอคชั่นสนุกๆ ตื่นเต้น แทรกไว้ตลอดเวลา แล้วหนังก็ทำฉากแอคชั่นดี และสนุกมาก
การออกแบบตัวละครต่างๆ ที่ใช้CG คือออกแบบดี และสวย เนียนมาก
แต่ก็เข้าใจที่หนัง และผู้กำกับสื่อนะ มันมีนัยยะ และอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น แฝงไว้ในหนัง
แต่ปรัชญากับวิทยาศาสตร์ อาจจะย่อยยากนิดหน่อย สำหรับคนที่ชอบดูหนังบันเทิงอย่างเดียว และไม่ซับซ้อน เพราะหนังต้องฟัง และทำความเข้าใจไปด้วย ถ้าพลาด อาจจะหลุดเนื้อหาสำคัญไปได้เลย เพราะหนังไซไฟ แน่นอน ข้อมูลจะเยอะกว่าหนังทั่วไป และดูแล้วต้องจดจ่อมากๆ หนังใช้เวลาในส่วนนี้ เยอะพอสมควร เพื่อจะอธิบายข้อมูล สิ่งต่างๆ และทำให้หนังกินเวลานาน จนทำให้ไม่กระชับ และเนือยบ้าง
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
การใส่ดนตรีประกอบที่เหมือนละครบู๊หลังข่าวช่องมากสี อันนี้คือโคตรไม่ชอบเลย แล้วสะดุดมาก ขัดใจ ขัดอารมณ์กับหนังสุดๆ หน้าหนังอินเตอร์แล้ว ดนตรีประกอบฉากอื่นๆ ยิ่งฉากแอคชั่น ทำได้โคตรจะดี อินเตอร์ อย่างกับหนังฝรั่ง ทั้งที่เป็นหนังไทย แต่มาตกม้าตาย เพราะเรื่องแบบนี้ แล้วไม่คิดว่าจะใส่อะไรแบบนี้มา คือมันตลกมาก แล้วจะมีบางฉาก ใส่ดนตรีน่ารักๆกุ๊กกิ๊กมาด้วย อันนี้คือหัวจะปวดมาก หลายๆฉาก ดนตรีที่ใส่มา คือไม่ได้เลย ถ้าจะไปไกล ต้องไปให้สุด อย่ามายึดติดกับอะไรแบบนี้
หนังมีความพยายาม ที่จะนำหลายๆอย่างมาใส่จนเกินไป ทำให้ตัวละคร และเส้นเรื่อง มันดูเยอะ และยุ่งเหยิงเกินไป แทนจะได้โฟกัส และอินกับตัวละครนั้นๆ แต่ด้วยความเยอะของเหตุการณ์ และตัวละคร ทำให้เราไม่มีเวลาลงลึก และอินไปกับตัวละครหลักมากนัก ยำรวมจัด ถึงแม้ว่าเราจะรักประชาธิปไตย การเมือง แต่เราว่าพาร์ทนี้ ไม่ค่อยเข้ากับหนัง
เท่าไหร่ ประเด็นมันดูโดดๆไป แต่เราไม่ติดอะไรมาก แต่ถ้าพวกเห็นต่าง อยู่คนละฝั่ง ที่ไปดูหนัง อาจจะไม่ชอบหนัง เพราะพาร์ทนี้ไปเลย
หนังคือดูแล้วรู้เลย ว่าได้แรงบันดาลใจ มาจากInterstellar ทั้งดนตรี ฉากหลายๆฉาก คือใช่เลย ยิ่งท้ายๆนะ คือดนตรีกับฉากนอนเตียงที่โรงพยาบาล แทบจะก๊อปแล้วอะ
พล๊อต บท สำหรับหนังไทย ถือว่าแปลกใหม่ แต่สำหรับหนังฝรั่งแนวนี้ คือมีให้เห็นบ่อยๆ และไม่ได้สดใหม่อะไร ออกแนวสูตรสำเร็จด้วยซ้ำ
บทอิฐ บางครั้งดูตลก และโอเวอร์เกินไป ชอบในพาร์ทที่หนักแน่นมากกว่า
การแสดงของน้องคนที่เล่นเป็นหล้าตอนเด็กๆ ยังไม่ค่อยโอเค สีหน้า ยังพอได้ แต่ท่าทาง ต่างๆ การเดิน การวิ่ง มือไม้ คิดว่ามันดูขัดๆ น้องยังจัดระเบียบตัวเองไม่ดีพอ ดูเก้ๆกังๆ ขัดๆเยอะ แต่ก็เด็กอ่าเนอะ แต่ว่าเด็กคนอื่นเล่นได้ดีมากๆ
การแคสถือว่าหลายๆคนยังไม่ผ่าน และเล่นแข็ง ไม่ธรรมชาติ ไม่สมบทบาท จากที่ดู มีหลายๆคนเหมาะเยอะกว่า
CGหลายๆฉาก ค่อนข้างลอยมากๆ และไม่ค่อยเนียน โดยเฉพาะฉากที่ถ่ายมุมกว้างด้านนอก บางฉากคือโดดมาเลย แต่ดีที่ฉากใกล้ๆ ค่อนข้างเก็บรายละเอียดดีมากๆ แต่ก็เข้าใจ ด้วยเรื่องงบประมาณ มันอาจจะดูเยอะ สำหรับหนังไทย แต่ถ้าเทียบกับหนังไซไฟ ทุนสร้างเท่านี้ ถือว่าน้อยมากๆ แต่ดีที่อยู่ภายใต้Warner Bros. ซึ่งมาตรฐานงานสร้าง ก็ถือว่าขัดเกลาออกมาได้ดี ตามเนื้อผ้า และงบ แต่ก็ทำได้เกินค่ามาตรฐานหนังไทยไปเยอะมากๆ
ภาพมุมสูง ไม่ค่อยชัด และเบลอ แทบทุกฉาก
อัตราส่วนภาพ เดี๋ยวย่อ เดี๋ยวขยาย คือทำไมไม่ทำสัดส่วนเดียวกันไปเลย
หนังค่อนข้างยาวมากๆ และหลายๆฉาก กินเวลานาน จนแอบง่วง และมีความเนือยๆบ้าง น่าจะกระชับกว่านี้
และแน่นอน หนังมะเดี่ยว เป็นอย่างที่คิดไว้ และในหนังก็เป็นแบบนั้น จากที่ดูผลงานหลายๆเรื่อง สไตล์ของหนังจะมีความไม่เคลียร์ แล้วก็มีความให้คิดเยอะ และบ้างครั้งอาจจะดูงงๆ ซึ่งผลงานที่ผ่านมา แทบทุกเรื่อง ก็จะมีอะไรให้คนดูไปคิดเอาเอง และทิ้งไว้ให้งงๆแบบนี้ แต่ยอมรับว่า หนังทุกเรื่องที่เขาทำ มีความใส่ใจ ไม่ใช่ทำตามกระแส บทไม่มี แบบ พ.อ.น.
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ 7/10 คะแนน
ชื่นชมในความใส่ใจ และความพยายาม ที่จะพาหนังไทย ก้าวข้ามไปอีกขั้น แล้วก็ทำออกมาได้น่าชื่นชม ในภาพรวม คือพูดออกมาได้อย่างไม่เคอะเขินเลย ว่านี่แหละมาตรฐานใหม่ของหนังไทย
ในด้านของงานสร้าง คือทำออกมาดีมาก
ปล. ใครที่มีบัตร IMAXไม่บวกเพิ่มนะ ราคาดีเลย
แนะนำให้จัดIMAX เพราะราคา เท่าโรงปกติเลย
แต่งงกับกระแส และรายได้ ค่อนข้างเงียบกว่าที่คิด
คนดูค่อนข้างน้อยมาก ทีแรกคิดว่าจะเป็นหนังร้อยล้าน ต่อจากวิมานหนาม แต่ตอนนี้ ก็เอาใจช่วย ให้คืนทุนก่อน เปิดตัวคือน้อยกว่าการ์ตูนลูกเจี๊ยบ ที่ฉายไปแล้วอีก
เป็นหนังที่ดูจบแล้ว ควรมาคิดต่อหรือตกผนึกนะ แต่เรื่องนี้ ส่วนตัวคิดว่าจบแล้วจบเลย มันไม่ได้อยากหาข้อมูลอะไรเหมือนหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ
เพราะไม่ค่อยมีอะไรน่าประทับใจ
ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไร มาแชร์กันได้นะ
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie?mibextid=LQQJ4d
#takleegenesis #ตาคลีเจเนซิส