ที่มา: OTA Story : วันนี้ผมอยากบอกว่า
1) ตำแหน่งเซ็มบัตสึในเพลง Mirai to wa?
- ตอนประกาศเซ็มบัตสึ เพลง Mirai to wa? น้องบอกว่า น้องเห็นคอมเมนต์ที่ถามว่า ทำไมถึงไม่ได้เป็นแถวหน้า? ทำไมถึงไม่ได้เป็นเซ็นเตอร์? เพราะก่อนหน้าจะมีการประกาศหลายคนคาดเดาเอาไว้ ว่าน้องน่าจะได้เป็นเซ็นเตอร์
น้องตอบคำถามนี้ว่า จริง ๆ แล้ว หนูเต็มที่มาก ๆ กับการสอบซิงเกิล Mirai to wa? หนูไม่ได้คิดว่าตัวเองไม่เต็มที่กับการสอบเลย บางคนคิดว่าหนูหลุดตำแหน่ง เพราะหนูมัวแต่ไปซ้อม BORDERLESS แล้วทำได้ไม่ดีหรือเปล่า? แต่หนูตั้งใจมากจริง ๆ กับการสอบ
ยอมรับว่าผิดหวัง อยากให้รอดูใน Documentary จริง ๆ ตอนแรกที่เขาบอกว่าจะประกาศแถวหน้า เขาไม่ได้บอกจำนวนว่าจะมีกี่คน เขาประกาศ แค่ชื่อ "พี่ภราว" กับ "พี่อาหลี" แล้วก็ประกาศเซ็นเตอร์เลย ตอนนั้นยังคิดไม่ทัน ยังรู้สึกอะไรไม่ทัน ได้แต่คิดว่า แล้วเราอยู่โพซิชั่นไหน?
ตอนที่ประกาศตำแหน่งเซ็นเตอร์ พี่เฌอจะพูดเว้นจังหวะก่อนนิดนึง หนูรู้สึกว่า พี่เขาไม่ได้จะพูดหนูออกมาแน่ ๆ พอได้ยินชื่อ "เกลญ่า" ก็รู้สึกว่าเพลงเหมาะกับน้อง ถึงจะผิดหวังนิดหน่อยในตอนแรก แต่ก็คิดว่ายังไงเราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุดในเพลงเดบิวต์อยู่แล้ว ดีใจที่ตำแหน่งของหนู เป็นคนซัพพอร์ตน้องอยู่ข้างหลัง หนูได้หมายเลข 5 เป็นตำแหน่งที่ทุกคนเห็นหนูชัดอยู่
จริง ๆ ทุกตำแหน่งสำคัญหมด แต่ที่ตัดสินใจพูด เพราะกลัวทุกว่าทุกคนจะคิดว่า มัวแต่เต็มที่กับซิงเกิลหลักที่ติดเซ็มบัตสึคนเดียวของรุ่น แต่ไม่เต็มที่กับซิงเกิลเดบิวต์ของตัวเอง ถ้าทุกคนได้ดู Documentary แล้ว ทุกคนจะเข้าใจมากขึ้น
2) การเลือกโพซิชั่น ก่อนจะถึงวันเดบิวต์
- ย้อนกลับไปคืนก่อนวันเดบิวต์ น้องยอมรับว่า ตื่นเต้นมาก นอนไม่ค่อยหลับ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ตื่นเต้น ไม่มีอะไรให้กังวล คิดว่าการที่ รุ่น 5 ได้ออกงานหลายงาน ได้ไปงานต่าง ๆ ก่อนเดบิวต์ ได้ขึ้นเวทีหลายรอบ น่าจะทำให้ทุกอย่างออกมาดี ไม่น่าจะตื่นเต้นแล้ว แต่กลายเป็นว่า พอใกล้ถึงวันจริง ๆ กลับตื่นเต้นมาก นอนหลับช้ากว่าเดิม ตื่นเช้ากว่าเดิม ได้แต่คิดกับตัวเองว่า มันจะถึงแล้วเหรอ? จะถึงวันที่เราเดบิวต์แล้วใช่มั้ย?
ที่หลายคนชมเรื่อง เพลง Pioneer น้องบอกว่า ตอนเลือกโพซิชั่น เขาจะไม่ได้ประกาศแบบรวมเพลงทีเดียว แต่เป็นการประกาศตำแหน่งแบบ ค่อย ๆ มาทีละเพลง ลำดับการซ้อม คือ
1. River
2. Iiwake Maybe
3. Pioneer
4. GIVE ME FIVE!
ตอนที่ซ้อมมาแล้ว 2 เพลง ก็คิดว่าเราจะได้เพลงไหน ที่มีโพซิชั่นเป็นเซ็นเตอร์ ตอนแรกคิดว่า น่าจะได้ Iiwake Maybe แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เลข 1 ของ "Pioneer" แทน ไม่คิดว่าจะเป็นเรา
อยากขอบคุณพี่ฮูพ และพี่เฌอ ที่เป็นคนเลือกโพซิชั่นให้ ขอบคุณที่ให้โอกาส จริง ๆ อีกหนึ่งเพลงที่อยากเล่า คือ River เพราะเพลงนี้ "พี่นีน" ได้เป็นเซ็นเตอร์ เป็นเพลงที่มีความเสี่ยงจะถูกตัดออกมากที่สุด เพราะเป็นเพลงที่ดีเทลเยอะ แต่ทุกคนคุยกันว่า เราต้องเต้นให้ได้ ทั้งเพื่อ Performance ของพวกเรา และเพื่อพี่นีนที่ได้เป็นเซ็นเตอร์ และพี่ภราว ที่ได้ตำแหน่งแถวหน้าในเพลง
3) Mirai to wa? กับ วันที่กลายเป็น รุ่น 5 อย่างเต็มตัว
- พูดถึงความรู้สึกวันงานเดบิวต์ ตอนที่เต้น เพลง Pioneer รู้สึกอินมาก เพราะเนื้อเพลงถึงใจดี ดูสู้ดี ร้องแล้วปลุกใจมาก ฮึกเหิมมาก บนเวทีวันนั้น เลยเต้นแบบเต็มที่ทุกเพลง เพราะน้องเป็นคนที่จะเต้นแรงกว่าในห้องซ้อมอยู่แล้ว พอไปอยู่บนเวทีก็เต้นแรงกว่าเดิม คุณครูบอกพวกเราเสมอว่า วันจริงจะเหนื่อยกว่าเดิม แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะตอนเต้น เพลง Mirai to wa? น้องบอกว่า หนูเหนื่อยเร็วกว่าที่คิดมาก แถมเป็นเพลงเริ่มที่ยังเต้นไม่จบด้วย ในหัวคิดได้แต่คิดว่า เราจะไหวใช่มั้ย เราต้องไปถึงเพลงสุดท้ายให้ได้นะ จริง ๆ ตอนเพลง River มีจังหวะที่รู้สึกว่าตัวเองแผ่วไปเหมือนกัน แต่ก็ฮึบกลับขึ้นมา พอเห็นทุกคำชม ก็รู้สึกหายเหนื่อยเลย นั่งอ่านไปจนถึงตีสองเลย เพราะอยากซึมซับความรู้สึกในวันเดบิวต์เอาไว้
พูดถึง MV ในงาน ยอมรับเลยว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ดู พร้อมกับทุกคน เพราะปกติจะมีการถ่ายคลิป Reaction ที่ให้เมมเบอร์ได้ดูก่อน แต่วันนั้นได้ดูพร้อมทุกคนเลย ชอบซีนพลิกนาฬิกาทรายมาก ตอนรับบรีฟมา ว่าเขาให้เอาชุดที่ใส่วันออดิชั่นมาถ่าย ก็ไปเตรียมมาเลย แอบเสียดายที่ชุดนั้น ทุกคนไม่ค่อยได้เห็นเยอะเท่าไหร่ จริง ๆ ระหว่างถ่ายก็รู้อยู่แล้วว่า ในซีนสตอรี่อาจจะไม่ได้มีเราเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าพูดถึงภาพรวมรู้สึกว่า MV ออกมาโอเค อาจจะมีน้อยใจบ้างที่เราออกน้อยนิดหน่อย แต่คงเพราะตัวเองมีภูมิคุ้มกันเรื่องนี้แล้ว เลยไม่ได้เสียใจมาก แค่แอบเสียดายที่เราไม่มีซีนเท่ ๆ แบบนั้นบ้าง
ซีนสุดท้ายในกองที่ถ่ายกัน คือ ถ่าย Beauty Shot เรียงทีละคน ทุกคนจะฟีลแบบบิ้วเพื่อน บูสต์กันตลอด แต่พอถึงคิว สาวน้อย น้องบอกว่า เพื่อนเงียบกันหมด พอถ่ายเสร็จเลยไปถามพี่ภราวว่า ทำไมเขาเงียบกันล่ะ พี่ภราวบอกว่า ทุกคนตั้งใจดูอยู่ว่า ทุกคนบอกว่า สาวน้อยดูเป็นไอดอลมากจริง ๆ
4) งาน Praew Charity กับคลิปไวรัลบนเวที
- พูดถึงงานแพรว น้องบอกว่า เห็นที่พี่ ๆ ชมหนู ตอนพูดเข้าเพลงระหว่างเพลง 365 วันกับเครื่องบินกระดาษ และ เพลง คุ้กกี้เสี่ยงทาย น้องเล่าเหตุการณ์บนเวทีวันนั้นว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ พอจบเพลง 365 ตามคิวที่ซ้อมจะต้องเป็นเพลงคุ้กกี้ เปิดต่อขึ้นมาเลย แต่น้องคิดว่า พี่ทีมงานเขาน่าจะรอพวกหนูส่งเข้าเพลง ตอนที่ค้างท่าจบ 365 ไว้ ก็คิดว่าเราโพสท่าไว้นานแล้ว เลยพูดออกไป เพื่อส่งเข้าเพลง เผื่อพี่ ๆ ทีมงานเขารอให้พูดอยู่ จะได้รู้ว่าถึงคิดต้องเปิดเพลงต่อแล้ว ดีใจที่ทำให้โชว์ไปต่อได้ ดีใจที่ทุกคนชมหนู จริง ๆ ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ด้วยที่ช่วยกัน ขอบคุณพี่อาหลี พี่แนล ที่ช่วยพูดต่อจากหนู
จริง ๆ วันนั้น น้องเลิกเรียนตอน 4 โมงกว่า ๆ กว่ารถตุ๊กตุ๊กที่เรียกไปจะมา เวลาก็ไป 17.10 แล้ว แต่เขานัด 17.30 ตอนนั้นกลัวไม่ทัน เพราะรถติดมาก นั่งอยู่บนรถ ก็เครียดมาก กลัวไปไม่ทัน เลยตัดสินใจลงเดินไปสยามพารากอนเลย แล้วก็ถึงก่อนรถตุ๊กตุ๊กที่นั่งมาจริง ๆ รู้สึกว่าตัดสินใจถูกแล้ว ที่ตัดสินใจเดินไป
วันนั้น ได้เจอพี่โมบายที่งานแพรว พี่เขาน่ารักเหมือนเดิมเลย ชอบลุคพี่โมบายวันนั้นมาก พี่โมบายถ่ายคอนเทนต์ Mirai to wa? ไว้กับ น้องเกลญ่า กับ พี่อาหลี ด้วย ทุกคนรอดูเลย ก่อนกลับไปแอบดูพี่โมบายโชว์อยู่ข้าง ๆ เวที แต่ดูได้แปปเดียว ก็ต้องกลับแล้ว การได้นั่งรถกอล์ฟในห้าง รู้สึกดีมาก เกลญ่า บอกว่า นี่คือความฝันหนูแล้ว พอได้นั่งข้างหลังแล้ว รู้สึกว่าเป็นตำแหน่งการนั่งที่ดี เพราะต่อให้รถไปไกลแล้ว ก็ยังโบกมือ ยังมองไปเจอทุกคนอยู่
5) Road Show ที่รอคอย กับยอดรวม 16 เพลง ที่ Challenge ตัวเองมาตลอดหนึ่งสัปดาห์
- พูดถึงงาน Road Show ครั้งแรก นี่คือการออกงานที่รู้สึกว่าชาเลนจ์ตัวเองมาก เพราะการซ้อมเพลง Road Show กับงานแพรว ซ้อมพร้อม ๆ กัน แต่ถ้าเอาเวลาที่ได้ซ้อมกับทุกคนที่ไปงาน ได้ซ้อมรวมกันจริงแค่ 2 วัน ยอมรับเลยว่าในห้องซ้อมตัวเองเหม่อมาก จนคุณครูต้องเตือนให้โฟกัสกับการซ้อม ก่อนขึ้นยูนิต "ทุ่งแสงดาว" ยังรู้สึกว่าตัวเองเต้นผิดเยอะ เพราะเพลงยากมาก ยังไม่แม่นเท่าไหร่ เลยขอซ้อมบล็อกกิ้งอีกรอบ ทุกคนที่ไป Road Show วันนั้นก็ใจดี ช่วยมาซ้อมให้ ทั้งพี่เฟม พี่โยเกิร์ต พี่เอิร์ธ พี่แพนเค้ก พี่ปาล์มมี่ ทุกคนช่วยน้องไว้เยอะมาก บล็อกกิ้งตอนเช้า พี่เฟมมาบล็อกกิ้งเป็นเพื่อน พี่ปาล์มมี่ก็มาคอยดูตลอด
รู้สึกเลยว่า Road Show ทำให้เราเก่งขึ้น ได้เต้นเพลงของ BNK48 เยอะขึ้น เป็น Event สำหรับบูสต์ Energy จริง ๆ ยอมรับเลว่า ระหว่างซ้อมมีช่วงที่ท้อ แต่พอท้อแล้ว ก็กลัวว่าถ้ารู้สึกว่าท้อ จะทำให้ตัวเองไม่ได้ ยกตัวอย่าง ตอนซ้อมเพลง Road Show ไปด้วย ซ้อมงานแพรวไปด้วย "พี่นีน" มาให้กำลังใจ มาถามว่าเหนื่อยมั้ย หนูบอกไปว่า ไม่เหนื่อย แต่จริง ๆ ก็เหนื่อย หนูแค่ไม่อยากตอบว่าเหนื่อย กลังตัวเองจะเหนื่อยจริง ๆ ไม่กล้าพูดว่าเหนื่อย หรือท้อ เพราะตอนนั้นคิดแต่ว่า เราไม่มีเวลาแล้ว
พูดถึง เพลง Temodemo no Namida จริง ๆ พี่เฌอเป็นคนเลือกเซ็ตลิสต์มา แล้วก็ให้น้องเต้นตำแหน่ง "พี่มิวสิค" ตอนนั้น พี่เฟม บอกว่า พี่อยู่มา 4 ปี ยังไม่เคยโชว์เพลงนี้เลย พอรู้แบบนั้น ก็เริ่มมาดูแบบจริงจัง เพราะเพลงยาก เน้นการร้อง เอาจริง ๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เต้นกับพี่เฟม เพราะถ้าย้อนกลับไปตอนเจอกันครั้งแรก ก่อนเข้า BNK่ ได้คุยกันเพราะเพื่อนของแต่ละคนอยู่ในคณะเดียวกันกับที่แต่ละคนเรียน เลยมีโอกาสได้คุยกัน แต่ไม่คิดว่าจะได้มาเต้นด้วยกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้มาเป็น BNK48
ตลอดช่วงเวลาที่ซ้อมด้วยกัน รู้สึกนับถือพี่เฟมมาก พี่เฟมตั้งใจมาก ๆ ตอนซ้อมก็มาซ้อมเอง ซ้อมอยู่อีกห้องนึง เสร็จแล้วก็ซ้อมด้วยกันต่ออีกห้องนึง อีกอย่างที่รู้สึกว่า โลกกลมมาก ๆ คือ หนูเพิ่งรู้ว่า เพื่อนสนิทหนูที่เจอกันตั้งแต่อนุบาล เป็นเพื่อนคนแรกของหนูเลย จริง ๆ แล้วเป็นญาติพี่เฟม เพราะจำได้ว่าตอนดูประกาศผลเลือกตั้งครั้งล่าสุด เห็นนามสกุลพี่เฟมแล้วรู้สึกคุ้น ๆ คิดว่าเหมือนนามสกุลเพื่อนตัวเอง เลยเอาไปถามเพื่อนตอนที่ได้คุยกัน สรุปว่าเพื่อนคนแรกในชีวิตของหนู เป็นญาติกับพี่เฟมจริง ๆ
ส่วนเรื่องการทำงานที่ต่อเนื่องมาแบบไม่หยุดพัก น้องค้นพบว่า เดือนที่ผ่านมา ตัวเองใช้ชีวิตคุ้มมาก งานทุกอย่างเข้ามาแบบติด ๆ กันตั้งแต่วันที่ 10 ของเดือนสิงหาคม จนถึงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน จริง ๆ School Tour ที่ผ่านมาก็ต้องไป แต่น้องขอให้ วาว่า ช่วยไปแทน เพราะคิวตัวเองไม่ได้ วาว่า เองก็ชอบ School Tour อยู่แล้ว สาวน้อย บอกว่า น้องช่วยหนูซ้อมเต้นเพลง Kiss Me! เยอะมาก น้องเก่งมาก
พูดถึงการนับเพลงที่เต้นไปทั้งหมด ถ้านับแบบรวมเพลงซ้ำจะเต้นไปทั้งหมด 21 เพลง แต่ถ้าไม่นับเพลงซ้ำ จะเต้นไปทั้งหมด 16 เพลง รู้สึกไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันที่จำทั้งหมดได้ ในเวลาแค่นี้ โดยเพลง "First Rabbit" ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เต้นเพลงนี้ เพราะนี่คือเพลงที่อยู่ในเพลย์ลิสต์ของตัวเองตั้งแต่ก่อนมาเป็น BNK48 มีวันนึงเต้นเพลงนี้อยู่แล้วร้องไห้ออกมาเลย เพราะความหมายของเพลงซึ้งมาก
วันงาน Road Show มีแฟนคลับถามน้องว่า "ชอบเต้นใช่มั้ย?" พอมาคิดดูดี ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองชอบการเต้นนะ ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะมาสายโวคอล แต่ตอนนี้ได้เต้นเยอะมากขึ้น รู้สึกว่าเริ่มมีไลน์เต้นของตัวเองมากขึ้น ตอนเต้นใหม่ ๆ ครูนนท์บอกว่า น้องเป็นคนที่ใช้แค่แขนกับขาเต้น ไม่ได้ใช้บอดี้ของตัวเองในการเต้น พอได้เต้นมากขึ้น ก็รู้สึกว่าเริ่มหาตัวเองเจอแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่มาหากัน มาให้กำลังใจกัน รู้สึกว่า Road Show ครั้งหน้า จะต้องเก่งขึ้นกว่านี้ให้ได้ จะต้องเป๊ะกว่านี้ให้ได้ อยากให้มีงานเข้ามาเยอะ ๆ ทุกคนรอเจอกับ "สาวน้อย" ที่เก่งกว่านี้ได้เลย!
ปล.น้องจบไลฟ์ด้วย จำนวน "เสือน้อย" มากถึง 9 ตัว ถือว่าเป็นของขวัญวันเดบิวต์ และเป็นของขวัญตอบแทนสำหรับการทำงานหนักตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาของน้องจริง ๆ
Recap ชีวิตหลังเดบิวต์ของ "สาวน้อย" กับ 5 เรื่อง ที่อยากเล่าให้ทุกคนรู้
1) ตำแหน่งเซ็มบัตสึในเพลง Mirai to wa?
- ตอนประกาศเซ็มบัตสึ เพลง Mirai to wa? น้องบอกว่า น้องเห็นคอมเมนต์ที่ถามว่า ทำไมถึงไม่ได้เป็นแถวหน้า? ทำไมถึงไม่ได้เป็นเซ็นเตอร์? เพราะก่อนหน้าจะมีการประกาศหลายคนคาดเดาเอาไว้ ว่าน้องน่าจะได้เป็นเซ็นเตอร์
น้องตอบคำถามนี้ว่า จริง ๆ แล้ว หนูเต็มที่มาก ๆ กับการสอบซิงเกิล Mirai to wa? หนูไม่ได้คิดว่าตัวเองไม่เต็มที่กับการสอบเลย บางคนคิดว่าหนูหลุดตำแหน่ง เพราะหนูมัวแต่ไปซ้อม BORDERLESS แล้วทำได้ไม่ดีหรือเปล่า? แต่หนูตั้งใจมากจริง ๆ กับการสอบ
ยอมรับว่าผิดหวัง อยากให้รอดูใน Documentary จริง ๆ ตอนแรกที่เขาบอกว่าจะประกาศแถวหน้า เขาไม่ได้บอกจำนวนว่าจะมีกี่คน เขาประกาศ แค่ชื่อ "พี่ภราว" กับ "พี่อาหลี" แล้วก็ประกาศเซ็นเตอร์เลย ตอนนั้นยังคิดไม่ทัน ยังรู้สึกอะไรไม่ทัน ได้แต่คิดว่า แล้วเราอยู่โพซิชั่นไหน?
ตอนที่ประกาศตำแหน่งเซ็นเตอร์ พี่เฌอจะพูดเว้นจังหวะก่อนนิดนึง หนูรู้สึกว่า พี่เขาไม่ได้จะพูดหนูออกมาแน่ ๆ พอได้ยินชื่อ "เกลญ่า" ก็รู้สึกว่าเพลงเหมาะกับน้อง ถึงจะผิดหวังนิดหน่อยในตอนแรก แต่ก็คิดว่ายังไงเราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุดในเพลงเดบิวต์อยู่แล้ว ดีใจที่ตำแหน่งของหนู เป็นคนซัพพอร์ตน้องอยู่ข้างหลัง หนูได้หมายเลข 5 เป็นตำแหน่งที่ทุกคนเห็นหนูชัดอยู่
จริง ๆ ทุกตำแหน่งสำคัญหมด แต่ที่ตัดสินใจพูด เพราะกลัวทุกว่าทุกคนจะคิดว่า มัวแต่เต็มที่กับซิงเกิลหลักที่ติดเซ็มบัตสึคนเดียวของรุ่น แต่ไม่เต็มที่กับซิงเกิลเดบิวต์ของตัวเอง ถ้าทุกคนได้ดู Documentary แล้ว ทุกคนจะเข้าใจมากขึ้น
2) การเลือกโพซิชั่น ก่อนจะถึงวันเดบิวต์
- ย้อนกลับไปคืนก่อนวันเดบิวต์ น้องยอมรับว่า ตื่นเต้นมาก นอนไม่ค่อยหลับ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ตื่นเต้น ไม่มีอะไรให้กังวล คิดว่าการที่ รุ่น 5 ได้ออกงานหลายงาน ได้ไปงานต่าง ๆ ก่อนเดบิวต์ ได้ขึ้นเวทีหลายรอบ น่าจะทำให้ทุกอย่างออกมาดี ไม่น่าจะตื่นเต้นแล้ว แต่กลายเป็นว่า พอใกล้ถึงวันจริง ๆ กลับตื่นเต้นมาก นอนหลับช้ากว่าเดิม ตื่นเช้ากว่าเดิม ได้แต่คิดกับตัวเองว่า มันจะถึงแล้วเหรอ? จะถึงวันที่เราเดบิวต์แล้วใช่มั้ย?
ที่หลายคนชมเรื่อง เพลง Pioneer น้องบอกว่า ตอนเลือกโพซิชั่น เขาจะไม่ได้ประกาศแบบรวมเพลงทีเดียว แต่เป็นการประกาศตำแหน่งแบบ ค่อย ๆ มาทีละเพลง ลำดับการซ้อม คือ
1. River
2. Iiwake Maybe
3. Pioneer
4. GIVE ME FIVE!
ตอนที่ซ้อมมาแล้ว 2 เพลง ก็คิดว่าเราจะได้เพลงไหน ที่มีโพซิชั่นเป็นเซ็นเตอร์ ตอนแรกคิดว่า น่าจะได้ Iiwake Maybe แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เลข 1 ของ "Pioneer" แทน ไม่คิดว่าจะเป็นเรา
อยากขอบคุณพี่ฮูพ และพี่เฌอ ที่เป็นคนเลือกโพซิชั่นให้ ขอบคุณที่ให้โอกาส จริง ๆ อีกหนึ่งเพลงที่อยากเล่า คือ River เพราะเพลงนี้ "พี่นีน" ได้เป็นเซ็นเตอร์ เป็นเพลงที่มีความเสี่ยงจะถูกตัดออกมากที่สุด เพราะเป็นเพลงที่ดีเทลเยอะ แต่ทุกคนคุยกันว่า เราต้องเต้นให้ได้ ทั้งเพื่อ Performance ของพวกเรา และเพื่อพี่นีนที่ได้เป็นเซ็นเตอร์ และพี่ภราว ที่ได้ตำแหน่งแถวหน้าในเพลง
3) Mirai to wa? กับ วันที่กลายเป็น รุ่น 5 อย่างเต็มตัว
- พูดถึงความรู้สึกวันงานเดบิวต์ ตอนที่เต้น เพลง Pioneer รู้สึกอินมาก เพราะเนื้อเพลงถึงใจดี ดูสู้ดี ร้องแล้วปลุกใจมาก ฮึกเหิมมาก บนเวทีวันนั้น เลยเต้นแบบเต็มที่ทุกเพลง เพราะน้องเป็นคนที่จะเต้นแรงกว่าในห้องซ้อมอยู่แล้ว พอไปอยู่บนเวทีก็เต้นแรงกว่าเดิม คุณครูบอกพวกเราเสมอว่า วันจริงจะเหนื่อยกว่าเดิม แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะตอนเต้น เพลง Mirai to wa? น้องบอกว่า หนูเหนื่อยเร็วกว่าที่คิดมาก แถมเป็นเพลงเริ่มที่ยังเต้นไม่จบด้วย ในหัวคิดได้แต่คิดว่า เราจะไหวใช่มั้ย เราต้องไปถึงเพลงสุดท้ายให้ได้นะ จริง ๆ ตอนเพลง River มีจังหวะที่รู้สึกว่าตัวเองแผ่วไปเหมือนกัน แต่ก็ฮึบกลับขึ้นมา พอเห็นทุกคำชม ก็รู้สึกหายเหนื่อยเลย นั่งอ่านไปจนถึงตีสองเลย เพราะอยากซึมซับความรู้สึกในวันเดบิวต์เอาไว้
พูดถึง MV ในงาน ยอมรับเลยว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ดู พร้อมกับทุกคน เพราะปกติจะมีการถ่ายคลิป Reaction ที่ให้เมมเบอร์ได้ดูก่อน แต่วันนั้นได้ดูพร้อมทุกคนเลย ชอบซีนพลิกนาฬิกาทรายมาก ตอนรับบรีฟมา ว่าเขาให้เอาชุดที่ใส่วันออดิชั่นมาถ่าย ก็ไปเตรียมมาเลย แอบเสียดายที่ชุดนั้น ทุกคนไม่ค่อยได้เห็นเยอะเท่าไหร่ จริง ๆ ระหว่างถ่ายก็รู้อยู่แล้วว่า ในซีนสตอรี่อาจจะไม่ได้มีเราเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าพูดถึงภาพรวมรู้สึกว่า MV ออกมาโอเค อาจจะมีน้อยใจบ้างที่เราออกน้อยนิดหน่อย แต่คงเพราะตัวเองมีภูมิคุ้มกันเรื่องนี้แล้ว เลยไม่ได้เสียใจมาก แค่แอบเสียดายที่เราไม่มีซีนเท่ ๆ แบบนั้นบ้าง
ซีนสุดท้ายในกองที่ถ่ายกัน คือ ถ่าย Beauty Shot เรียงทีละคน ทุกคนจะฟีลแบบบิ้วเพื่อน บูสต์กันตลอด แต่พอถึงคิว สาวน้อย น้องบอกว่า เพื่อนเงียบกันหมด พอถ่ายเสร็จเลยไปถามพี่ภราวว่า ทำไมเขาเงียบกันล่ะ พี่ภราวบอกว่า ทุกคนตั้งใจดูอยู่ว่า ทุกคนบอกว่า สาวน้อยดูเป็นไอดอลมากจริง ๆ
4) งาน Praew Charity กับคลิปไวรัลบนเวที
- พูดถึงงานแพรว น้องบอกว่า เห็นที่พี่ ๆ ชมหนู ตอนพูดเข้าเพลงระหว่างเพลง 365 วันกับเครื่องบินกระดาษ และ เพลง คุ้กกี้เสี่ยงทาย น้องเล่าเหตุการณ์บนเวทีวันนั้นว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ พอจบเพลง 365 ตามคิวที่ซ้อมจะต้องเป็นเพลงคุ้กกี้ เปิดต่อขึ้นมาเลย แต่น้องคิดว่า พี่ทีมงานเขาน่าจะรอพวกหนูส่งเข้าเพลง ตอนที่ค้างท่าจบ 365 ไว้ ก็คิดว่าเราโพสท่าไว้นานแล้ว เลยพูดออกไป เพื่อส่งเข้าเพลง เผื่อพี่ ๆ ทีมงานเขารอให้พูดอยู่ จะได้รู้ว่าถึงคิดต้องเปิดเพลงต่อแล้ว ดีใจที่ทำให้โชว์ไปต่อได้ ดีใจที่ทุกคนชมหนู จริง ๆ ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ด้วยที่ช่วยกัน ขอบคุณพี่อาหลี พี่แนล ที่ช่วยพูดต่อจากหนู
จริง ๆ วันนั้น น้องเลิกเรียนตอน 4 โมงกว่า ๆ กว่ารถตุ๊กตุ๊กที่เรียกไปจะมา เวลาก็ไป 17.10 แล้ว แต่เขานัด 17.30 ตอนนั้นกลัวไม่ทัน เพราะรถติดมาก นั่งอยู่บนรถ ก็เครียดมาก กลัวไปไม่ทัน เลยตัดสินใจลงเดินไปสยามพารากอนเลย แล้วก็ถึงก่อนรถตุ๊กตุ๊กที่นั่งมาจริง ๆ รู้สึกว่าตัดสินใจถูกแล้ว ที่ตัดสินใจเดินไป
วันนั้น ได้เจอพี่โมบายที่งานแพรว พี่เขาน่ารักเหมือนเดิมเลย ชอบลุคพี่โมบายวันนั้นมาก พี่โมบายถ่ายคอนเทนต์ Mirai to wa? ไว้กับ น้องเกลญ่า กับ พี่อาหลี ด้วย ทุกคนรอดูเลย ก่อนกลับไปแอบดูพี่โมบายโชว์อยู่ข้าง ๆ เวที แต่ดูได้แปปเดียว ก็ต้องกลับแล้ว การได้นั่งรถกอล์ฟในห้าง รู้สึกดีมาก เกลญ่า บอกว่า นี่คือความฝันหนูแล้ว พอได้นั่งข้างหลังแล้ว รู้สึกว่าเป็นตำแหน่งการนั่งที่ดี เพราะต่อให้รถไปไกลแล้ว ก็ยังโบกมือ ยังมองไปเจอทุกคนอยู่
5) Road Show ที่รอคอย กับยอดรวม 16 เพลง ที่ Challenge ตัวเองมาตลอดหนึ่งสัปดาห์
- พูดถึงงาน Road Show ครั้งแรก นี่คือการออกงานที่รู้สึกว่าชาเลนจ์ตัวเองมาก เพราะการซ้อมเพลง Road Show กับงานแพรว ซ้อมพร้อม ๆ กัน แต่ถ้าเอาเวลาที่ได้ซ้อมกับทุกคนที่ไปงาน ได้ซ้อมรวมกันจริงแค่ 2 วัน ยอมรับเลยว่าในห้องซ้อมตัวเองเหม่อมาก จนคุณครูต้องเตือนให้โฟกัสกับการซ้อม ก่อนขึ้นยูนิต "ทุ่งแสงดาว" ยังรู้สึกว่าตัวเองเต้นผิดเยอะ เพราะเพลงยากมาก ยังไม่แม่นเท่าไหร่ เลยขอซ้อมบล็อกกิ้งอีกรอบ ทุกคนที่ไป Road Show วันนั้นก็ใจดี ช่วยมาซ้อมให้ ทั้งพี่เฟม พี่โยเกิร์ต พี่เอิร์ธ พี่แพนเค้ก พี่ปาล์มมี่ ทุกคนช่วยน้องไว้เยอะมาก บล็อกกิ้งตอนเช้า พี่เฟมมาบล็อกกิ้งเป็นเพื่อน พี่ปาล์มมี่ก็มาคอยดูตลอด
รู้สึกเลยว่า Road Show ทำให้เราเก่งขึ้น ได้เต้นเพลงของ BNK48 เยอะขึ้น เป็น Event สำหรับบูสต์ Energy จริง ๆ ยอมรับเลว่า ระหว่างซ้อมมีช่วงที่ท้อ แต่พอท้อแล้ว ก็กลัวว่าถ้ารู้สึกว่าท้อ จะทำให้ตัวเองไม่ได้ ยกตัวอย่าง ตอนซ้อมเพลง Road Show ไปด้วย ซ้อมงานแพรวไปด้วย "พี่นีน" มาให้กำลังใจ มาถามว่าเหนื่อยมั้ย หนูบอกไปว่า ไม่เหนื่อย แต่จริง ๆ ก็เหนื่อย หนูแค่ไม่อยากตอบว่าเหนื่อย กลังตัวเองจะเหนื่อยจริง ๆ ไม่กล้าพูดว่าเหนื่อย หรือท้อ เพราะตอนนั้นคิดแต่ว่า เราไม่มีเวลาแล้ว
พูดถึง เพลง Temodemo no Namida จริง ๆ พี่เฌอเป็นคนเลือกเซ็ตลิสต์มา แล้วก็ให้น้องเต้นตำแหน่ง "พี่มิวสิค" ตอนนั้น พี่เฟม บอกว่า พี่อยู่มา 4 ปี ยังไม่เคยโชว์เพลงนี้เลย พอรู้แบบนั้น ก็เริ่มมาดูแบบจริงจัง เพราะเพลงยาก เน้นการร้อง เอาจริง ๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เต้นกับพี่เฟม เพราะถ้าย้อนกลับไปตอนเจอกันครั้งแรก ก่อนเข้า BNK่ ได้คุยกันเพราะเพื่อนของแต่ละคนอยู่ในคณะเดียวกันกับที่แต่ละคนเรียน เลยมีโอกาสได้คุยกัน แต่ไม่คิดว่าจะได้มาเต้นด้วยกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้มาเป็น BNK48
ตลอดช่วงเวลาที่ซ้อมด้วยกัน รู้สึกนับถือพี่เฟมมาก พี่เฟมตั้งใจมาก ๆ ตอนซ้อมก็มาซ้อมเอง ซ้อมอยู่อีกห้องนึง เสร็จแล้วก็ซ้อมด้วยกันต่ออีกห้องนึง อีกอย่างที่รู้สึกว่า โลกกลมมาก ๆ คือ หนูเพิ่งรู้ว่า เพื่อนสนิทหนูที่เจอกันตั้งแต่อนุบาล เป็นเพื่อนคนแรกของหนูเลย จริง ๆ แล้วเป็นญาติพี่เฟม เพราะจำได้ว่าตอนดูประกาศผลเลือกตั้งครั้งล่าสุด เห็นนามสกุลพี่เฟมแล้วรู้สึกคุ้น ๆ คิดว่าเหมือนนามสกุลเพื่อนตัวเอง เลยเอาไปถามเพื่อนตอนที่ได้คุยกัน สรุปว่าเพื่อนคนแรกในชีวิตของหนู เป็นญาติกับพี่เฟมจริง ๆ
ส่วนเรื่องการทำงานที่ต่อเนื่องมาแบบไม่หยุดพัก น้องค้นพบว่า เดือนที่ผ่านมา ตัวเองใช้ชีวิตคุ้มมาก งานทุกอย่างเข้ามาแบบติด ๆ กันตั้งแต่วันที่ 10 ของเดือนสิงหาคม จนถึงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน จริง ๆ School Tour ที่ผ่านมาก็ต้องไป แต่น้องขอให้ วาว่า ช่วยไปแทน เพราะคิวตัวเองไม่ได้ วาว่า เองก็ชอบ School Tour อยู่แล้ว สาวน้อย บอกว่า น้องช่วยหนูซ้อมเต้นเพลง Kiss Me! เยอะมาก น้องเก่งมาก
พูดถึงการนับเพลงที่เต้นไปทั้งหมด ถ้านับแบบรวมเพลงซ้ำจะเต้นไปทั้งหมด 21 เพลง แต่ถ้าไม่นับเพลงซ้ำ จะเต้นไปทั้งหมด 16 เพลง รู้สึกไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันที่จำทั้งหมดได้ ในเวลาแค่นี้ โดยเพลง "First Rabbit" ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เต้นเพลงนี้ เพราะนี่คือเพลงที่อยู่ในเพลย์ลิสต์ของตัวเองตั้งแต่ก่อนมาเป็น BNK48 มีวันนึงเต้นเพลงนี้อยู่แล้วร้องไห้ออกมาเลย เพราะความหมายของเพลงซึ้งมาก
วันงาน Road Show มีแฟนคลับถามน้องว่า "ชอบเต้นใช่มั้ย?" พอมาคิดดูดี ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองชอบการเต้นนะ ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะมาสายโวคอล แต่ตอนนี้ได้เต้นเยอะมากขึ้น รู้สึกว่าเริ่มมีไลน์เต้นของตัวเองมากขึ้น ตอนเต้นใหม่ ๆ ครูนนท์บอกว่า น้องเป็นคนที่ใช้แค่แขนกับขาเต้น ไม่ได้ใช้บอดี้ของตัวเองในการเต้น พอได้เต้นมากขึ้น ก็รู้สึกว่าเริ่มหาตัวเองเจอแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่มาหากัน มาให้กำลังใจกัน รู้สึกว่า Road Show ครั้งหน้า จะต้องเก่งขึ้นกว่านี้ให้ได้ จะต้องเป๊ะกว่านี้ให้ได้ อยากให้มีงานเข้ามาเยอะ ๆ ทุกคนรอเจอกับ "สาวน้อย" ที่เก่งกว่านี้ได้เลย!
ปล.น้องจบไลฟ์ด้วย จำนวน "เสือน้อย" มากถึง 9 ตัว ถือว่าเป็นของขวัญวันเดบิวต์ และเป็นของขวัญตอบแทนสำหรับการทำงานหนักตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาของน้องจริง ๆ