ผมแต่งงานกับแฟนมาได้ 3 ปี
ก่อนหน้านั้นก็คบกันตั้งแต่มัธยม 6 (แฟนเด็กกว่า 1 ปี)
ปัจจุบันผมอายุ 30 ปี บรรจุรับราชการทั้งคู่ทั้งตัวผมและภรรยา
ผมกับภรรยาตกลงกันว่าหากบรรจุรับราชการทั้งคู่แล้ว
จะเริ่มสร้างครอบครัว มีลูกสัก 1 คน ทำงานใกล้บ้าน
แต่ฝันเหล่านี้ของผมกับภรรยา ตั้งมาทลายลง
.
.
เพียงเพราะกับคำว่า "ญาติ"
.
.
ตัวผม พ่อกับแม่เสียแล้ว
แต่พ่อกับแม่ของแฟนยังอยู่ครับ
.
พ่อ มีพี่น้อง (รวมพ่อ) 2 คน เป็นน้องสาวของพ่อไปแต่งงานอยู่อีกบ้าน มีลูก 1 คน
แม่ มีพี่น้อง (รวมแม่) 2 คน เป็นพี่สาวของแม่ไปแต่งงานอยู่อีกบ้าน มีลูก 2 คน (ไม่เจียมตัว)
.
ใช่ครับปัญหาเกิดจากฝั่งพี่สาวแม่แฟน ที่มีลูก 2 คน ลูกคนโตแต่งงานไปเมื่อ 6 ปีก่อน
.
เรื่องที่ 1 ยืมเงินเปิดร้านแบบคนสมองน้อย
.
ตอนนั้นผมทำงานเป็นเพียงแค่ครูอัตราจ้าง แฟนเป็นพนักงานราชการของกระทรวงสาธารณสุข
ผัวของลูกพี่ลูกน้องของแฟนผม (ฝั่งแม่เมีย) ได้มายืมเงินจากพวกผมไป เพื่อเปิดร้านอาหาร
ทุกอย่างไปด้วยดีครับ ด้วยอัตราเงินเดือนที่ค่อนข้างน้อยของครูอัตราจ้าง การได้ไปอาศัยร้านที่ลูกพี่ลูกน้องแฟนเปิด
เพื่อขายหม่าล่าตอนเย็น ช่วยทำให้ผมพอตั้งตัวได้ ......... แต่ทำไปได้เพียง 4 เดือน ต้องปิดร้านไป
เพราะ ลูกพี่ลูกน้องแฟนผมท้อง (นางเป็นเฮดเซฟ) เลยต้องปิดร้านไป
ผมพึ่งมารู้ตอนหลังเองว่าเงินที่ยืมเปิดร้าน พึ่งมาคืนเมื่อปีสองปีนี่เอง
.
เรื่องที่ 2 มีพ่อมีแม่เมื่อพร้อม ภาค 1
.
หากจากเหตุการท้องโดยไม่คาดฝันจนปิดร้าน เพื่อหาเงินเพิ่ม (ไม่พอใช้ ถูกยืมแต่ไม่คืน ร้านเจ๊งก่อน)
ผมได้ลาออกจากการเป็นครูอัตราจ้างและสมัครทำงานโรงเรียนเอกชน และแฟนผมก็ได้บรรจุรับราชการ
เหตุการณ์ต่อจากเรื่องท้อง ล่าสุดแท้ง เพราะไม่เจียมบอดี้ เป็นแม่คนยังเที่ยวไม่เลิกทั้งที่ไม่มีงาน ไม่ดูแลสุขภาพ
สรุปที่ปิดร้านเพราะท้อง เจ๊งยับดับเบิ้ล ร้านก็ปิด ลูกก็แท้ง
.
เรื่องที่ 3 หลานสุดที่รักเกิดมา
.
หลังจากนั้น 1 ปี ลูกพี่ลูกน้องคนเดิมตั้งท้อง และคลอดลูกสาวออกมา (หายนะจะเกิดตั้งแต่บัดนี้)
พร้อมๆเช่นเดียวกันลูกพี่ลูกน้องของแฟนทางฝั่งพ่อแฟน ก็ได้ลูกชายอายุ 2 ขวบปีวัยกำลังนน่ารัก
ตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบันลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งพ่อไม่เคยจะมาทำให้เราปวดหัวกับหลาน หรือมาเเป็นภาระ
ผิดกับลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งแม่แฟนผมเป็นภาระแทบจะทุกอย่างที่จะสามารถเป็นภาระให้ได้
.
ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นภาระเจ้าปัญหา จากนี้จะขอเรียกว่า อีวอ ส่วนผัวมันขอเรียกว่า ไอ่ปอ
ไอ่ปอ กับ อีวอ เหมือนกันแทบจะทุกด้าน
1. เอาตัวไม่รอดกันทั้งครอบครัว
2. พ่อขี้เหล้า
3. แม่ทำงานรับจ้าง
4. มีน้องอีกคนที่ยังเรียนไม่จบมหาลัย
5. พ่อแม่ยังต้องส่องน้องคนเล็ก แต่ก็ไม่มีปัญญาส่ง
6. แม่มีพี่น้องเหมือนกัน
7. ครอบครัวทางฝั่งพี่น้องต้องมาดูแลส่งเสียลูกคนเล็ก
8. ทางฝั่งน้อง ไอ่ปอ คนส่งเสียคือ เพื่อน มอดอ (ใช่ครับรู้จักกัน) แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของไอ่ปอ
9. ทางฝั่งน้อง อีวอ คนส่งเสียคือ แฟนผม
ถึงว่า ฝนตกขี้หมูไหล คนไฉไลไหลมารวมตัวกัน
.
เรื่องที่ 4 มีพ่อมีแม่เมื่อพร้อม ภาค 2
.
ตั้งแต่คลอดลูก ทางคนที่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด คือ ผมกับแฟน
เลี้ยงลูกได้แค่ 6 เดือน ต้องออกสรรหางานทำ เงินไม่พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
ยัง

จะมีลูกมาเป็นภาระ แล้วสุดท้ายคนที่ต้องรับเลี้ยงหลานแบบเต็มตัว คือ แม่แฟนผม
ปัจจุบัน ไอ่ปอ ทำงานบริษัทเอกชน จันทร์ - เสาร์ (7.00-17.00)
พ่อกับแม่ไอ่ปอ ทำงานที่เดียวกันกับมัน ส่วนอีวอ ทำงานร้านของของโลโก้เขียว พ่อกับแม่นางรับจ้างทั่วไป
พอจะมีเงินไว้กินไว้ใช้ไปวันๆ (

กระโหลกไม่เจียมตัวอยากมีลูก)
.
ใหม่ๆอะไรก็ดี เด็กน่ารักครับ ทั้งผมทั้งแฟนก็ช่วยดูแล แล้วปัญหามันก็เกิด
ตั้งแต่หลาน 6 เดือนยันปัจจุบัน พ่อแม่หลาน (ไอ่ปอกับอีวอ) ไม่ได้สนใจลูกเลยสักนิด
เช้า เอาลูกมากฝากที่บ้าน เย็น มารับกลับ ฉลาดมากให้คนอื่นดูแลลูกแต่เองสบาย
ตอนเย็นที่ว่ามารับลูก คือเวลา 19.00 บ้าง 20.00 บ้าง หนักสุด 22.30 พ่อแม่ดีๆมีจิตสำนึกที่ไหนเค้าทำกัน
แรกๆแม่เมียผมก็ให้ไปส่งกลับบ้าน หลังๆมาผมเริ่มลำคาน แบบนี้ไม่ใช่นิสัย แต่คงเป็นสันดานของไอ่ปอกับอีวอ
เอาเปรียบทุกทาง เห็นแก่ความสบายของตัวเอง แล้วแม่เมียผมก็ถือหางอีวอมาก

ไม่ได้สนใจความรู้สึกของเมียผม (ลูกแท้ๆ) สักนิด
เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยมา พอหลานบอกจะมาอยู่บ้าน้มียผมก็รีบพามา ดุจประหนึ่งอยากผลักไสภาระของตัวเองให้พ้น
.
เรื่อง 5 แล้วชีวิตจะเป็นยังไงต่อไป
.
ปี 64 ผมกับแฟนแต่งงาน นึกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ผิดคาด ชีวิตกับดิ่งลงเรื่อยๆ แทนที่จะมีสำนึกว่าพวกผมแต่งงานแล้วต้องสร้างครอบครัว
แม่เมียก็ยังสัญหาไปดึงลูกไอ่ปอกับอีวอ มาเลี้ยงที่บ้าน ดุจว่าต้องการให้ปมกับเมียอิจฉาแล้วรีบมีลูก ฝั่งของคู่ผัวเมียนรก ไอ่ปอกับอีวอ
สบโอกาสจึงรีบคว้า มีโอกาสเมื่อไหร่ก็เอาหลานมาส่ง แม้แต่เป็นวันที่ตัวเองหยุดงาน ควรจะใช้เวลาอยู่กับลูก แต่ก็ดันเอาลูกขึ้นมาฝากให้แม่เมียผมเลี้ยง
แบบนี้ มาให้ผมคิดว่ามันเป็นสันดาน ก็คงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว คนดีดีพ่อแม่ปกติที่ไหนจะเอาลูกของตัวเองไปฝากเอาไว้แม้ว่าจะเป็นญาติ ก็ควรจะรู้ลิมิตและความเกรงใจต่อญาติพี่น้อง ไอ่ปอ ตัวพ่อผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยความเป็นพ่ออย่างแท้จริง เริ่มงานที่ 7 โมงเช้า เลิกงาน 17.00 ซึ่งเวลาเลิกงานเร็วกว่าผม
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมขับรถกลับถึงบ้านช้ากว่าผมหรือว่ามันกลับบ้านก่อนผมแล้วแต่มันไม่มารับลูกมัน พ่อที่สุดแสนประเสริฐหาได้เปรียบไม่ได้ ทางอีวอ ผู้เพียบพร้อมด้วยความจำเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยความจำเป็นแม่ที่ดีสุดแสนดีอย่างแท้จริง แม้ในเวลาที่ตัวเองไม่ได้ทำงาน เช่น เข้ากะบ่าย ซึ่งช่วงเช้าก็สามารถ ที่จะอยู่ดูแลลูกได้แต่กลับเลือกที่จะเอามาฝากไว้บ้านผม ช่างเป็นพ่อกับแม่ที่ประเสริฐอย่างแท้จริงหาได้เปรียบไม่ได้
.
ตั้งแต่แต่งงานจนถึงปัจจุบันผมกับแฟน ไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน ยังดีหน่อยที่พวกผมไม่ต้องอยู่บ้านบ่อย เพราะพักที่แฟลตพยาบาลของแฟนเป็นส่วนใหญ่ แต่มีบ้างที่จะกลับบ้าน แต่ทุกครั้งที่พวกผมกลับบ้านกลับต้องเจอหน้าของหลานสุดที่รักรอหน้าสะหลอนอยู่ที่บ้านแล้วทุกๆครั้งที่กลับ มันจึงเป็นเหตุที่ผมกับแฟนคิดได้ว่าคงเปลี่ยน my set ของพ่อกับแม่ไม่ได้แล้ว ชีวิตถูกลุกล้ำความเป็นส่วนตัว แม้แต่ห้องนอน อันเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าไปได้ แต่อีวอ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องที่แสนดีของเมียผม ในบางครั้งการเปิดประตูเข้ามาโดยไม่สนใจหรือแหย่แซวว่านี่คือห้องนอนของผมกับเมีย ช่างเป็นมารยาทที่แสนจะดีและดีหาได้เปรียบไม่ได้ ทั้งการที่แม่เมียของผมเอาหลานเข้าไปเลี้ยงในห้องนอนของพวกผม หรือบางทีก็พูดว่าพวกแกกลับมาบ้านแล้วใช้ไฟเปิดแอร์จนเปลืองไฟ ทั้งทั้งที่ตัวเองกับพาหลานเข้าไปนอนในห้องแอร์อย่างสบายใจหลายหลายครั้งกลับไม่โวยวาย จนปัจจุบันผมบรรจุรับราชการต้องห่างจากแฟนมาอยู่ที่ไกล แต่ก็กลับบ้านทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อกลับไปหาภรรยา แต่ทุกครั้งที่กลับไปก็เจอหลานอยู่บ้านทุกครั้งเหมือนเดิม เป็นแบบนี้อยู่ซ้ำๆ จนปัจจุบันหลานอยู่ชั้นอนุบาล 1 แล้ว เหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายก็ประทุ เหมือนกับว่าผมคงอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว วันศุกร์ผมกลับไปหาแฟนที่แฟลต แล้วแฟนบอกอยากกลับบ้าน จึงพากันกลับไปนอนบ้าน เหมือนเดิมทุกครั้ง หลานสุดที่รักก็อยู่บ้านพวกผมเช่นเคย อยู่ชนิดที่ว่าถ้าไม่โทรเรียกพ่อแม่มันมารับก็ไม่กลับ วันหยุดดำเนินไปถึงวันจันทร์ ซึ่งหยุดชดเชย ซึ่งวันจันทร์ทั้งวันพ่อกับแม่หลาน ไอ้คุณปอกับอีหญิงวอ ไม่ได้ไปทำงานอยู่เลี้ยงลูกที่บ้าน (เป็นไปได้?) ไม่เอาหลานมาส่งทั้งวัน แต่ตอนเย็น ขับรถพาหลานขึ้นมา แล้วพูดขึ้นว่า อ่ะ ข้าวยังไม่ได้กินนะ น้ำยังไม่ได้อาบนะ การบ้านที่จะส่งวันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ทำ ดูด้วยนะ คำถามเดียวในใจผมตอนนั้นคือ แล้ว ? คือกูต้องรับรู้ไหม ลูกก็ไม่ใช่ลูกกู
.
เรื่อง 6 สุดท้ายคงต้องแยกจาก
.
จากเรื่องราวทั้งหมด มันจคงทำให้ผมกับภรรยาได้ข้อสรุป หลังจากนี้อีกไม่นาน พวกผมจะวางแพลนมีลูก จากนั้นเมื่อลูกพวกผม คงจะย้ายออกจากบ้าน ที่เป็นวิมานที่แสนสุขนี้ ไปอยู่ที่อื่นกัน 3 คน พ่อแม่ลูก เพราะ ด้วยความใกล้ชิดกันเกินไปหรือเปล่า จึงทำให้ญาติพี่น้องไม่เกรงใจกันขนาดนี้ ผมคงเปลี่ยนใครไม่ได้ เพราะถ้าหากไปพูดคุยด้วยถึงปัญหาเหล่านี้ทั้งหมด คงกระทบถึงความสัมพันธ์ครอบครัวของภรรยาผมกับพ่อแม่ จึงเป็นทางเลือกที่ขมขื่นและที่ที่สุดแล้ว ที่พวกผมจะย้ายออกจากบ้าน
.
สุดท้ายอยากเตือนทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน การที่เราใกล้ชิดกันที่สุด ที่ต้องมีมากที่สุด คือ ความเกรงใจ
และก่อนจะมีลูก คุณควรจะพร้อม พร้อมที่ว่าคือ พร้อมที่จะดูแล เพราะลูกนั้นเกิดจากคุณ ลูกจึงเป็นภาระของคุณ
ไม่ว่านนอื่นจะรับหรือช่วยเลี้ยงยังไง หากแต่คิดสักนิดว่ามันจะเป็นภาระคนอื่น มันก็ไม่ควรที่จะทำ
.
ลูก คือ ภาระของคนเป็นพ่อเป็นแม่ กรุณาเป็นพ่อเป็นแม่เมื่อพร้อมของลูก
เพราะ ลูกคือสิ่งล้ำค่า ไม่ใช่หมู หมา กา ไก่ ที่จะโยนไปโยนมาให้ใครคนอื่น ขนาดหมามันยังรักลูก นี่เราเป็นคน ควรมีจิตสำนึกบ้าง
.
ไอ่ ปกค กูขออโหสิกรรมให้
อี วอจ กูขออโหสิกรรมให้
เกิดชาติหน้าฉันใดอย่าได้พบเจออย่าได้พบพานอย่าได้เกี่ยวข้องกับกูอีกเลย
มีพ่อแม่เมื่อพร้อม
ก่อนหน้านั้นก็คบกันตั้งแต่มัธยม 6 (แฟนเด็กกว่า 1 ปี)
ปัจจุบันผมอายุ 30 ปี บรรจุรับราชการทั้งคู่ทั้งตัวผมและภรรยา
ผมกับภรรยาตกลงกันว่าหากบรรจุรับราชการทั้งคู่แล้ว
จะเริ่มสร้างครอบครัว มีลูกสัก 1 คน ทำงานใกล้บ้าน
แต่ฝันเหล่านี้ของผมกับภรรยา ตั้งมาทลายลง
.
.
เพียงเพราะกับคำว่า "ญาติ"
.
.
ตัวผม พ่อกับแม่เสียแล้ว
แต่พ่อกับแม่ของแฟนยังอยู่ครับ
.
พ่อ มีพี่น้อง (รวมพ่อ) 2 คน เป็นน้องสาวของพ่อไปแต่งงานอยู่อีกบ้าน มีลูก 1 คน
แม่ มีพี่น้อง (รวมแม่) 2 คน เป็นพี่สาวของแม่ไปแต่งงานอยู่อีกบ้าน มีลูก 2 คน (ไม่เจียมตัว)
.
ใช่ครับปัญหาเกิดจากฝั่งพี่สาวแม่แฟน ที่มีลูก 2 คน ลูกคนโตแต่งงานไปเมื่อ 6 ปีก่อน
.
เรื่องที่ 1 ยืมเงินเปิดร้านแบบคนสมองน้อย
.
ตอนนั้นผมทำงานเป็นเพียงแค่ครูอัตราจ้าง แฟนเป็นพนักงานราชการของกระทรวงสาธารณสุข
ผัวของลูกพี่ลูกน้องของแฟนผม (ฝั่งแม่เมีย) ได้มายืมเงินจากพวกผมไป เพื่อเปิดร้านอาหาร
ทุกอย่างไปด้วยดีครับ ด้วยอัตราเงินเดือนที่ค่อนข้างน้อยของครูอัตราจ้าง การได้ไปอาศัยร้านที่ลูกพี่ลูกน้องแฟนเปิด
เพื่อขายหม่าล่าตอนเย็น ช่วยทำให้ผมพอตั้งตัวได้ ......... แต่ทำไปได้เพียง 4 เดือน ต้องปิดร้านไป
เพราะ ลูกพี่ลูกน้องแฟนผมท้อง (นางเป็นเฮดเซฟ) เลยต้องปิดร้านไป
ผมพึ่งมารู้ตอนหลังเองว่าเงินที่ยืมเปิดร้าน พึ่งมาคืนเมื่อปีสองปีนี่เอง
.
เรื่องที่ 2 มีพ่อมีแม่เมื่อพร้อม ภาค 1
.
หากจากเหตุการท้องโดยไม่คาดฝันจนปิดร้าน เพื่อหาเงินเพิ่ม (ไม่พอใช้ ถูกยืมแต่ไม่คืน ร้านเจ๊งก่อน)
ผมได้ลาออกจากการเป็นครูอัตราจ้างและสมัครทำงานโรงเรียนเอกชน และแฟนผมก็ได้บรรจุรับราชการ
เหตุการณ์ต่อจากเรื่องท้อง ล่าสุดแท้ง เพราะไม่เจียมบอดี้ เป็นแม่คนยังเที่ยวไม่เลิกทั้งที่ไม่มีงาน ไม่ดูแลสุขภาพ
สรุปที่ปิดร้านเพราะท้อง เจ๊งยับดับเบิ้ล ร้านก็ปิด ลูกก็แท้ง
.
เรื่องที่ 3 หลานสุดที่รักเกิดมา
.
หลังจากนั้น 1 ปี ลูกพี่ลูกน้องคนเดิมตั้งท้อง และคลอดลูกสาวออกมา (หายนะจะเกิดตั้งแต่บัดนี้)
พร้อมๆเช่นเดียวกันลูกพี่ลูกน้องของแฟนทางฝั่งพ่อแฟน ก็ได้ลูกชายอายุ 2 ขวบปีวัยกำลังนน่ารัก
ตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบันลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งพ่อไม่เคยจะมาทำให้เราปวดหัวกับหลาน หรือมาเเป็นภาระ
ผิดกับลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งแม่แฟนผมเป็นภาระแทบจะทุกอย่างที่จะสามารถเป็นภาระให้ได้
.
ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นภาระเจ้าปัญหา จากนี้จะขอเรียกว่า อีวอ ส่วนผัวมันขอเรียกว่า ไอ่ปอ
ไอ่ปอ กับ อีวอ เหมือนกันแทบจะทุกด้าน
1. เอาตัวไม่รอดกันทั้งครอบครัว
2. พ่อขี้เหล้า
3. แม่ทำงานรับจ้าง
4. มีน้องอีกคนที่ยังเรียนไม่จบมหาลัย
5. พ่อแม่ยังต้องส่องน้องคนเล็ก แต่ก็ไม่มีปัญญาส่ง
6. แม่มีพี่น้องเหมือนกัน
7. ครอบครัวทางฝั่งพี่น้องต้องมาดูแลส่งเสียลูกคนเล็ก
8. ทางฝั่งน้อง ไอ่ปอ คนส่งเสียคือ เพื่อน มอดอ (ใช่ครับรู้จักกัน) แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของไอ่ปอ
9. ทางฝั่งน้อง อีวอ คนส่งเสียคือ แฟนผม
ถึงว่า ฝนตกขี้หมูไหล คนไฉไลไหลมารวมตัวกัน
.
เรื่องที่ 4 มีพ่อมีแม่เมื่อพร้อม ภาค 2
.
ตั้งแต่คลอดลูก ทางคนที่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด คือ ผมกับแฟน
เลี้ยงลูกได้แค่ 6 เดือน ต้องออกสรรหางานทำ เงินไม่พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
ยัง
ปัจจุบัน ไอ่ปอ ทำงานบริษัทเอกชน จันทร์ - เสาร์ (7.00-17.00)
พ่อกับแม่ไอ่ปอ ทำงานที่เดียวกันกับมัน ส่วนอีวอ ทำงานร้านของของโลโก้เขียว พ่อกับแม่นางรับจ้างทั่วไป
พอจะมีเงินไว้กินไว้ใช้ไปวันๆ (
.
ใหม่ๆอะไรก็ดี เด็กน่ารักครับ ทั้งผมทั้งแฟนก็ช่วยดูแล แล้วปัญหามันก็เกิด
ตั้งแต่หลาน 6 เดือนยันปัจจุบัน พ่อแม่หลาน (ไอ่ปอกับอีวอ) ไม่ได้สนใจลูกเลยสักนิด
เช้า เอาลูกมากฝากที่บ้าน เย็น มารับกลับ ฉลาดมากให้คนอื่นดูแลลูกแต่เองสบาย
ตอนเย็นที่ว่ามารับลูก คือเวลา 19.00 บ้าง 20.00 บ้าง หนักสุด 22.30 พ่อแม่ดีๆมีจิตสำนึกที่ไหนเค้าทำกัน
แรกๆแม่เมียผมก็ให้ไปส่งกลับบ้าน หลังๆมาผมเริ่มลำคาน แบบนี้ไม่ใช่นิสัย แต่คงเป็นสันดานของไอ่ปอกับอีวอ
เอาเปรียบทุกทาง เห็นแก่ความสบายของตัวเอง แล้วแม่เมียผมก็ถือหางอีวอมาก
เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยมา พอหลานบอกจะมาอยู่บ้าน้มียผมก็รีบพามา ดุจประหนึ่งอยากผลักไสภาระของตัวเองให้พ้น
.
เรื่อง 5 แล้วชีวิตจะเป็นยังไงต่อไป
.
ปี 64 ผมกับแฟนแต่งงาน นึกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ผิดคาด ชีวิตกับดิ่งลงเรื่อยๆ แทนที่จะมีสำนึกว่าพวกผมแต่งงานแล้วต้องสร้างครอบครัว
แม่เมียก็ยังสัญหาไปดึงลูกไอ่ปอกับอีวอ มาเลี้ยงที่บ้าน ดุจว่าต้องการให้ปมกับเมียอิจฉาแล้วรีบมีลูก ฝั่งของคู่ผัวเมียนรก ไอ่ปอกับอีวอ
สบโอกาสจึงรีบคว้า มีโอกาสเมื่อไหร่ก็เอาหลานมาส่ง แม้แต่เป็นวันที่ตัวเองหยุดงาน ควรจะใช้เวลาอยู่กับลูก แต่ก็ดันเอาลูกขึ้นมาฝากให้แม่เมียผมเลี้ยง
แบบนี้ มาให้ผมคิดว่ามันเป็นสันดาน ก็คงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว คนดีดีพ่อแม่ปกติที่ไหนจะเอาลูกของตัวเองไปฝากเอาไว้แม้ว่าจะเป็นญาติ ก็ควรจะรู้ลิมิตและความเกรงใจต่อญาติพี่น้อง ไอ่ปอ ตัวพ่อผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยความเป็นพ่ออย่างแท้จริง เริ่มงานที่ 7 โมงเช้า เลิกงาน 17.00 ซึ่งเวลาเลิกงานเร็วกว่าผม
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมขับรถกลับถึงบ้านช้ากว่าผมหรือว่ามันกลับบ้านก่อนผมแล้วแต่มันไม่มารับลูกมัน พ่อที่สุดแสนประเสริฐหาได้เปรียบไม่ได้ ทางอีวอ ผู้เพียบพร้อมด้วยความจำเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยความจำเป็นแม่ที่ดีสุดแสนดีอย่างแท้จริง แม้ในเวลาที่ตัวเองไม่ได้ทำงาน เช่น เข้ากะบ่าย ซึ่งช่วงเช้าก็สามารถ ที่จะอยู่ดูแลลูกได้แต่กลับเลือกที่จะเอามาฝากไว้บ้านผม ช่างเป็นพ่อกับแม่ที่ประเสริฐอย่างแท้จริงหาได้เปรียบไม่ได้
.
ตั้งแต่แต่งงานจนถึงปัจจุบันผมกับแฟน ไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน ยังดีหน่อยที่พวกผมไม่ต้องอยู่บ้านบ่อย เพราะพักที่แฟลตพยาบาลของแฟนเป็นส่วนใหญ่ แต่มีบ้างที่จะกลับบ้าน แต่ทุกครั้งที่พวกผมกลับบ้านกลับต้องเจอหน้าของหลานสุดที่รักรอหน้าสะหลอนอยู่ที่บ้านแล้วทุกๆครั้งที่กลับ มันจึงเป็นเหตุที่ผมกับแฟนคิดได้ว่าคงเปลี่ยน my set ของพ่อกับแม่ไม่ได้แล้ว ชีวิตถูกลุกล้ำความเป็นส่วนตัว แม้แต่ห้องนอน อันเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าไปได้ แต่อีวอ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องที่แสนดีของเมียผม ในบางครั้งการเปิดประตูเข้ามาโดยไม่สนใจหรือแหย่แซวว่านี่คือห้องนอนของผมกับเมีย ช่างเป็นมารยาทที่แสนจะดีและดีหาได้เปรียบไม่ได้ ทั้งการที่แม่เมียของผมเอาหลานเข้าไปเลี้ยงในห้องนอนของพวกผม หรือบางทีก็พูดว่าพวกแกกลับมาบ้านแล้วใช้ไฟเปิดแอร์จนเปลืองไฟ ทั้งทั้งที่ตัวเองกับพาหลานเข้าไปนอนในห้องแอร์อย่างสบายใจหลายหลายครั้งกลับไม่โวยวาย จนปัจจุบันผมบรรจุรับราชการต้องห่างจากแฟนมาอยู่ที่ไกล แต่ก็กลับบ้านทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อกลับไปหาภรรยา แต่ทุกครั้งที่กลับไปก็เจอหลานอยู่บ้านทุกครั้งเหมือนเดิม เป็นแบบนี้อยู่ซ้ำๆ จนปัจจุบันหลานอยู่ชั้นอนุบาล 1 แล้ว เหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายก็ประทุ เหมือนกับว่าผมคงอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว วันศุกร์ผมกลับไปหาแฟนที่แฟลต แล้วแฟนบอกอยากกลับบ้าน จึงพากันกลับไปนอนบ้าน เหมือนเดิมทุกครั้ง หลานสุดที่รักก็อยู่บ้านพวกผมเช่นเคย อยู่ชนิดที่ว่าถ้าไม่โทรเรียกพ่อแม่มันมารับก็ไม่กลับ วันหยุดดำเนินไปถึงวันจันทร์ ซึ่งหยุดชดเชย ซึ่งวันจันทร์ทั้งวันพ่อกับแม่หลาน ไอ้คุณปอกับอีหญิงวอ ไม่ได้ไปทำงานอยู่เลี้ยงลูกที่บ้าน (เป็นไปได้?) ไม่เอาหลานมาส่งทั้งวัน แต่ตอนเย็น ขับรถพาหลานขึ้นมา แล้วพูดขึ้นว่า อ่ะ ข้าวยังไม่ได้กินนะ น้ำยังไม่ได้อาบนะ การบ้านที่จะส่งวันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ทำ ดูด้วยนะ คำถามเดียวในใจผมตอนนั้นคือ แล้ว ? คือกูต้องรับรู้ไหม ลูกก็ไม่ใช่ลูกกู
.
เรื่อง 6 สุดท้ายคงต้องแยกจาก
.
จากเรื่องราวทั้งหมด มันจคงทำให้ผมกับภรรยาได้ข้อสรุป หลังจากนี้อีกไม่นาน พวกผมจะวางแพลนมีลูก จากนั้นเมื่อลูกพวกผม คงจะย้ายออกจากบ้าน ที่เป็นวิมานที่แสนสุขนี้ ไปอยู่ที่อื่นกัน 3 คน พ่อแม่ลูก เพราะ ด้วยความใกล้ชิดกันเกินไปหรือเปล่า จึงทำให้ญาติพี่น้องไม่เกรงใจกันขนาดนี้ ผมคงเปลี่ยนใครไม่ได้ เพราะถ้าหากไปพูดคุยด้วยถึงปัญหาเหล่านี้ทั้งหมด คงกระทบถึงความสัมพันธ์ครอบครัวของภรรยาผมกับพ่อแม่ จึงเป็นทางเลือกที่ขมขื่นและที่ที่สุดแล้ว ที่พวกผมจะย้ายออกจากบ้าน
.
สุดท้ายอยากเตือนทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน การที่เราใกล้ชิดกันที่สุด ที่ต้องมีมากที่สุด คือ ความเกรงใจ
และก่อนจะมีลูก คุณควรจะพร้อม พร้อมที่ว่าคือ พร้อมที่จะดูแล เพราะลูกนั้นเกิดจากคุณ ลูกจึงเป็นภาระของคุณ
ไม่ว่านนอื่นจะรับหรือช่วยเลี้ยงยังไง หากแต่คิดสักนิดว่ามันจะเป็นภาระคนอื่น มันก็ไม่ควรที่จะทำ
.
ลูก คือ ภาระของคนเป็นพ่อเป็นแม่ กรุณาเป็นพ่อเป็นแม่เมื่อพร้อมของลูก
เพราะ ลูกคือสิ่งล้ำค่า ไม่ใช่หมู หมา กา ไก่ ที่จะโยนไปโยนมาให้ใครคนอื่น ขนาดหมามันยังรักลูก นี่เราเป็นคน ควรมีจิตสำนึกบ้าง
.
ไอ่ ปกค กูขออโหสิกรรมให้
อี วอจ กูขออโหสิกรรมให้
เกิดชาติหน้าฉันใดอย่าได้พบเจออย่าได้พบพานอย่าได้เกี่ยวข้องกับกูอีกเลย