ก่อนเปิดตัว iPhone 16 มาส่องการพัฒนาการ iPhone จากอดีตจนถึงปัจจุบันกันว่ามาไกลแค่ไหนแล้ว!!

กระทู้สนทนา
เริ่มใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการเปิดตัว iPhone 16 ในวันที่10 กันยายน 2024 เวลา 00.00 น.
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเฝ้ารอ..ไม่รู้เป็นเหมือนเรามั้ย ที่จะรอดูว่าจะมีอะไรว้าวๆ ใหม่ๆ หรืออะไรที่แตกต่างไปจากของเดิมซึ่งย้อนหลังไปเพียง 1 ปี
และที่ตามมาคือราคากับคุณสมบัติว้าวๆ นี้ คุ้มค่ามากน้อยเพียงใด ไหนจะการแข่งขันเรื่องส่วน สิทธิพิเศษ หรือให้สิทธิ์อื่นๆ

อย่างปีก่อนๆ ทางทรูก็จัดซื้อ iPhoneจาก true แบบ 1แถม1 ก็เคยมีมาแล้ว และยังรวมไปถึงวันรับมอบเครื่องที่แต่ละค่ายก็ทำได้อย่างน่าตื่นเต้น ทั้งส่งเครื่องถึงหน้าบ้าน มีการเอาเจ้าโรบอตหุ่นยนต์มาส่งมอบจากทางบ้าน AIS หรือขับรถ drive thru รับเครื่องแบบไม่ต้องลงรถ ของแต่ละค่ายมือถือ และร้านค้าแบรนด์ดังที่พร้อมจำหน่ายด้วย
วันนี้เรามาส่องนวัตกรรม iPhone จากอดีตจนถึงปัจจุบันกันดีกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง พอได้มีเวลาไปคุยกับเจ้า Chat GPT มา (ปล.เพิ่งเรียมเรียนรู้และหัดใช้มัน)

iPhone เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญในวงการเทคโนโลยีมือถือ ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเปิดตัว iPhone รุ่นแรก เปิดตัวในปี 2007 โดยการพัฒนาของ Steve Jobs ซึ่งที่ให้หลายๆค่ายมือถือเอง ก็มีการปรับตัวและแข่งขันกันอย่างหนักหน่วงที่จะพัฒนาตัวเครื่อง ระบบซอฟแวร์ กล้องและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาย้อยรอยดูอตีดของแต่ละรุ่นกันเลยดีกว่า
สำหรับ iPhone รุ่นแรกในปี 2007
- เครื่องกะทัดรัดจับถนัดมือมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสแบบ capacitive และไม่มีคีย์บอร์ดจริ
- รองรับระบบปฏิบัติการ iOS 1
- ด้วยความจุของเครื่องขนาด 4GB หรือ 8GB

iPhone 3G และ 3GS ในปี 2008-2009
- เริ่มมีการรองรับการใช้งาน 3G และปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ
- เพิ่มความคมชัดของกล้องเป็นขนาด 3MP
iPhone 4 และ 4S ในปี 2010-2011
- ดีไซน์ใหม่ตัวเครื่อง ขอบตัวเครื่องเหลี่ยม มุมโค้ง กับกระจกหน้าและหลัง
- หน้าจอแบบ Retina
- เพิ่มกล้องหน้า FaceTime
- รองรับ iOS 5 และ Siri ที่เป็นซอฟต์แวร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ (ในรุ่น 4S)
iPhone 5, 5S, และ 5C ในปี 2012-2013
- เพิ่มขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 4 นิ้ว
- การออกแบบที่บางและเบา
- iPhone 5S เพิ่มฟีเจอร์ Touch ID สแกนลายนิ้วมือเข้าเครื่องง่ายๆ
- iPhone 5C มีตัวเลือกสีสันสดใสคัลเลอร์ฟูล 

iPhone 6, 6 Plus, 6S, และ 6S Plus ในปี 2014-2015
- ปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น จาก 4 นิ้ว เพิ่มเป็น 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว
- เพิ่มฟีเจอร์ 3D Touch ที่เป็นฟีเจอร์พิเศษ สามารถตรวจจับแรงกดบนหน้าจอได้
- กล้องหลังเพิ่มเป็น 12MP

iPhone 7 และ 7 Plus ในปี 2016
- ไม่มีพอร์ตหูฟัง ต้องซื้อแยกเพิ่มเติม
- เพิ่มการป้องกันน้ำและกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529
- กล้องคู่ก็เริ่มมีเข้ามา ในรุ่น 7 Plus ในขณะที่คู่แข่งบางรายเรียกได้ว่ากล้องโหดมาก
- สีดำ สีเข้ม เริ่มกลับมา
iPhone X, 8, และ 8 Plus ในปี 2017
- ดีไซน์ใหม่ด้วยหน้าจอ OLED แบบเต็มจอใน iPhone X
- การสแกนใบหน้าแบบ Face ID แทนที่ Touch ID
- ระบบกล้องหลังคู่ใน iPhone X และ 8 Plus
iPhone XS, XS Max, และ XR ในปี 2018
- Face ID
- มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- XR มีตัวเลือกสีสันสดใสและราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้นด้วย

iPhone 11, 11 Pro, และ 11 Pro Max ใน 2019
- คู่แข่งเริ่มพัฒนากล้องไปไกลขึ้นเรื่อย มีหรือที่ iPhoe จะยอม ก็เลยจัดกล้องหลังสามตัวในรุ่น Pro และ Night mode พร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
มีกล้องงอกเพิ่มมาแบบต่างค่ายแล้ว

iPhone 12, 12 Mini, 12 Pro, และ 12 Pro Max ในปี 2020
- การออกแบบที่มีมุมเหลี่ยม และหน้าจอ Super Retina XDR
- การรองรับ 5G

iPhone 13, 13 Mini, 13 Pro, และ 13 Pro Max ในปี 2021
- กล้องที่ดีขึ้นและแบตเตอรี่ก็ปรับให้อึดขึ้น
- ProMotion display (120Hz refresh rate) เพื่อการเลื่อนหน้าจอที่เร็วและราบรื่นขึ้น ในรุ่น Pro 
iPhone 14, 14 Plus, 14 Pro, และ 14 Pro Max ในปี 2022
- Dynamic Island ในรุ่น Pro
- ระบบกล้องที่พัฒนาเพิ่มเติม
- ฟีเจอร์ Emergency SOS ผ่าน Satellite

 iPhone 15 และ 15 Pro ในปี 2023
- อย่างที่ทุกคนรอคอยเปลี่ยนมาใช้ USB-C แล้ว
- ดีไซน์และการปรับปรุงเทคโนโลยีกล้องที่ทันสมัย
- การปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยชิปใหม่

สำหรับการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ รุ่นของ iPhone มักจะมีการปรับปรุงทั้งในด้านการออกแบบ ,เทคโนโลยีและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ..ปีนี้เรารอดูกันว่าจะเป็นไปในทางไหนบ้าง

ปล.พอสเปกเครื่อง ราคา พร้อม เดี๋ยวรอดูสิทธิพิเศษแต่ละค่ายต่อเลยว่าจะเป็นอย่างไร ที่ชอบเลยคือการ Trand In ซื้อเครื่องแบบได้ส่วนลด
ทั้งส่วนลด Top up ที่จะตามมาด้วย..แล้วมาคอยติดตามไปพร้อมๆกันนะ ถ้ามีเวลา จะพยายามกลับมาสรุปอัปเดตให้อีก

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Chat GPT, iPhone DroidSans ,adslthailand ,Google ,ฐานเศรษฐกิจ,TNN
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่