เราจะแต่งงานกันในไม่กี่เดือน แต่เบื้องต้น ฝ่ายชายมาคุยกับแม่ของเราก่อน มาบอกว่าจะแต่งกับเรา ซึ่งฝั่งแม่ฝ่ายชายให้เขามาคุยก่อน เนื่องจากบ้านเรากำลังซ่อมแซมบ้าน ยังไม่สะดวกรับแขก ทั้งนี้ทั้งนั้น ฝั่งบ้านฝ่ายชายจะเข้ามาคุยกันอีกทีตอนที่บ้านเราพร้อม
ซึ่งทุกอย่างโอเค เป็นไปตามที่คุยกัน แต่ก็เป็นการคุยกันในรายละเอียดว่า จะแต่งเมื่อไหร่ อะไรยังไง ฝั่งแม่เราก็ไม่ได้เรียกสินสอดอะไร ทางเราญาติเยอะและทำงานกับผู้ใหญ่ เลยคิดว่าจะขอจัดงาน
ทางบ้านฝ่ายชายบอกจะรับผิดชอบเรื่องค่าอาหาร ส่วนเรื่องต่างๆทางเราจะดำเนินการเอง ซึ่งก็โอเคทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่ได้ระบุจำนวนแขกที่ชัดเจน
ผ่านไปสักพัก เราก้บอกจำนวนแขกไปว่าไม่เกิน 250 ซึ่งคำนวนค่าใช้จ่ายดูแล้ว ก็ยังไม่เกินงบที่เค้าตั้งไว้
แต่ก้รู้มาว่า ฝั่งบ้านฝ่ายชายมองว่างานเริ่มใหญ่แล้ว ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่ได้มีปัญหาอะไร
ทางเราก็วางแผนเสต็ปการใช้เงินของเรา ซึ่งมันมีเรื่องกู้มาต่อเติมบ้านเข้ามาเกี่ยว แต่ตอนนี้เรายังกู้ไม่ได้ ต้องรอบรรจุเป็นพนักงานมหาลัยก่อน เราก็เลยต้องรอเวลาไปอีก (เรากู้มาต่อเติมบ้านที่เราอยู่ ซึ่งมันเป็นที่ดินของน้า แต่บ้านเราก็อยู่รวมกันที่นี่อยู่แล้ว)
ทางบ้านฝ่ายชายก็รู้สถานการณ์บ้านเรา และก็บอกกับฝ่ายชายให้ลองมาคุยกับเรา ว่าอยากจะขอเข้ามาคุยกับที่บ้าน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะขอเข้ามาเลย และบอกมาว่า จะขอไม่อยากให้จดทะเบียนสมรส จนกว่าเรื่องกู้จะเสร็จ เพราะไม่อยากให้มีชื่อของฝ่ายชาย
ว่าที่สามีก็มาบอกเราแบบนี้ ซึ่งทางเค้าก็คิดหนักเหมือนกัน ไม่สบายใจ เลยมาคุยกับเรา
หลังจากที่คุยกัน เราก็รู้สึกแย่ไปเลย คือเราไม่ได้ติดเรื่องจดหรือไม่จด แต่เรามองว่าแต่งงานกันแล้วทำไมถึงจะเกี่ยวข้องกันไม่ได้ เราควรบอกกับแม่เรายังไงดี เราไม่อยากให้แม่คิดลบ ว่าทางบ้านฝ่ายชายกังวลในเรื่องนี้
มีใครคิดยังไงกันบ้างคะ
แม่ว่าที่สามี ไม่อยากให้จดทะเบียนสมรส
ซึ่งทุกอย่างโอเค เป็นไปตามที่คุยกัน แต่ก็เป็นการคุยกันในรายละเอียดว่า จะแต่งเมื่อไหร่ อะไรยังไง ฝั่งแม่เราก็ไม่ได้เรียกสินสอดอะไร ทางเราญาติเยอะและทำงานกับผู้ใหญ่ เลยคิดว่าจะขอจัดงาน
ทางบ้านฝ่ายชายบอกจะรับผิดชอบเรื่องค่าอาหาร ส่วนเรื่องต่างๆทางเราจะดำเนินการเอง ซึ่งก็โอเคทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่ได้ระบุจำนวนแขกที่ชัดเจน
ผ่านไปสักพัก เราก้บอกจำนวนแขกไปว่าไม่เกิน 250 ซึ่งคำนวนค่าใช้จ่ายดูแล้ว ก็ยังไม่เกินงบที่เค้าตั้งไว้
แต่ก้รู้มาว่า ฝั่งบ้านฝ่ายชายมองว่างานเริ่มใหญ่แล้ว ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่ได้มีปัญหาอะไร
ทางเราก็วางแผนเสต็ปการใช้เงินของเรา ซึ่งมันมีเรื่องกู้มาต่อเติมบ้านเข้ามาเกี่ยว แต่ตอนนี้เรายังกู้ไม่ได้ ต้องรอบรรจุเป็นพนักงานมหาลัยก่อน เราก็เลยต้องรอเวลาไปอีก (เรากู้มาต่อเติมบ้านที่เราอยู่ ซึ่งมันเป็นที่ดินของน้า แต่บ้านเราก็อยู่รวมกันที่นี่อยู่แล้ว)
ทางบ้านฝ่ายชายก็รู้สถานการณ์บ้านเรา และก็บอกกับฝ่ายชายให้ลองมาคุยกับเรา ว่าอยากจะขอเข้ามาคุยกับที่บ้าน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะขอเข้ามาเลย และบอกมาว่า จะขอไม่อยากให้จดทะเบียนสมรส จนกว่าเรื่องกู้จะเสร็จ เพราะไม่อยากให้มีชื่อของฝ่ายชาย
ว่าที่สามีก็มาบอกเราแบบนี้ ซึ่งทางเค้าก็คิดหนักเหมือนกัน ไม่สบายใจ เลยมาคุยกับเรา
หลังจากที่คุยกัน เราก็รู้สึกแย่ไปเลย คือเราไม่ได้ติดเรื่องจดหรือไม่จด แต่เรามองว่าแต่งงานกันแล้วทำไมถึงจะเกี่ยวข้องกันไม่ได้ เราควรบอกกับแม่เรายังไงดี เราไม่อยากให้แม่คิดลบ ว่าทางบ้านฝ่ายชายกังวลในเรื่องนี้
มีใครคิดยังไงกันบ้างคะ