คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1.ไส้กรองเดียว แบบ UF สะดวกใช้งานง่าย กินพื้นที่น้อย
...แต่ราคาไส้กรองค่อนข้างสูง มักไม่ต่ำกว่า4-5ร้อย อายุใช้งานสั้นเพราะทำงานหนักเดี่ยวๆ
2.แบบ3-4ไส้กรอง กินพื้นที่เยอะ
---แต่ราคาไส้กรองแต่ละกระบอกถูกกว่ามากๆ และทำงานไม่ไหนัก เพราะต่ละกระบอกทำหน้าที่กรองต่างๆกันตามขั้นตอน
ในแง่ความสะอาดของน้ำ ไม่ต่างกัน กรองได้เต็มที่ที่0.01ไมครอน
(ต่างกับพวกROที่กรองไปถึงแบคทีเรีย ระดับ0.0001ไมครอน)
พิจาณาตามความสะดวกของพื้นที่จัดวางได้เลย
ถ้าเลือกแบบที่1 มีตัวเลือกที่ราคาดีกว่า เช่น Mazuma ราคาเครื่อง+ไส่กรองประมาณ1พัน ค่าไส้กรอง500
เครื่องราคาถูกแพงไม่ต่างกันเรื่องความสะอาดครับ(ต่าวงกันที่แบรนด์ การตลาด ดีไซน์)
***ก่อนซื้อ ต้องศึกษาราคาไส้กรองด้วยครับว่าถูกหรือแพง หาซื้อง่ายหรือยาก ราคาถูกมากเกินก็อาจได้คุณภาพการกรองที่ไม่ดีเช่นกัน
...แต่ราคาไส้กรองค่อนข้างสูง มักไม่ต่ำกว่า4-5ร้อย อายุใช้งานสั้นเพราะทำงานหนักเดี่ยวๆ
2.แบบ3-4ไส้กรอง กินพื้นที่เยอะ
---แต่ราคาไส้กรองแต่ละกระบอกถูกกว่ามากๆ และทำงานไม่ไหนัก เพราะต่ละกระบอกทำหน้าที่กรองต่างๆกันตามขั้นตอน
ในแง่ความสะอาดของน้ำ ไม่ต่างกัน กรองได้เต็มที่ที่0.01ไมครอน
(ต่างกับพวกROที่กรองไปถึงแบคทีเรีย ระดับ0.0001ไมครอน)
พิจาณาตามความสะดวกของพื้นที่จัดวางได้เลย
ถ้าเลือกแบบที่1 มีตัวเลือกที่ราคาดีกว่า เช่น Mazuma ราคาเครื่อง+ไส่กรองประมาณ1พัน ค่าไส้กรอง500
เครื่องราคาถูกแพงไม่ต่างกันเรื่องความสะอาดครับ(ต่าวงกันที่แบรนด์ การตลาด ดีไซน์)
***ก่อนซื้อ ต้องศึกษาราคาไส้กรองด้วยครับว่าถูกหรือแพง หาซื้อง่ายหรือยาก ราคาถูกมากเกินก็อาจได้คุณภาพการกรองที่ไม่ดีเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
ช่วยแนะนำเพิ่มเติมเครื่องกรองน้ำ 2 รุ่นนี้หน่อยค่ะ
(ปกติกรอกน้ำจากออฟฟิศทีละ 6ลิตร อาทิตย์นึงถือกลับ 2 ครั้ง )
เครื่องกรองน้ำ Pure เครื่องกรองน้ำดื่ม 2 ขั้นตอน ระบบ UF รุ่น MONO
เครื่องกรองน้ำ PURE รุ่น 574