แม่ย่าลูกสะใภ้

ขอสอบถามทุกคนที่ผ่านมาเห็นหน่อยคะ ว่าแก้ปัญหา "แม่ย่าลูกสะใภ้" ยังไง
ก่อนอื่นต้องขอเล่าเลยว่า รู้สึกว่าเราเข้ากันไม่ได้ ไม่ใช่แม่ย่าไม่ดี แกเป็นคนดีนะคะ นิสัยก็ร่าเริง หัวเราะเก่ง พูดคุยเก่ง เข้ากับทุกคนได้ดี เวลาว่างๆก็ชอบชวนกันออกไปเที่ยว แถมอีกอย่างแกเป็นคนเสียงดัง ใครๆก็รักก็ชอบแกเพราะแกเอ็นเตอร์เทนเก่ง ใครอยู่ด้วยก็หัวเราะ ยิ้มได้
แต่ก่อนเราก็พอเข้ากันได้นะคะ มีอะไรก็คุยกันได้ แต่ปัญหาเริ่มขึ้นก็ตอนเราคลอดลูกออกมา หรือเรียกว่า "หลานย่า" ทุกสิ่งทุกอย่างจากแต่ก่อน ความรู้สึก การใช้ชีวิต ก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม จะบอกว่าพอเรามีลูกก็หวงลูกมากกก อันนี้ก็จริง แต่ประเด็นคือหวงกับแม่ย่าคนเดียว ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร แรกๆที่หลานคลอดออกมา เมื่อได้ยินเสียงหลานร้องไห้ หรือทำอะไรก็ตาม แกก็จะยืนมือมาช่วย แต่ความรู้สึกเราเหมือนไม่อยากให้แกช่วย เราอยากให้แฟนของเราช่วยมากกว่า เหมือนกับแบบว่าเวลามีปัญหาอะไรแม่ย่าก็จะอยู่ตรงนั้นตลอด จนบางทีก็มากเกินไป เหมือนแกอยากจะทำทุกอย่างให้หลาน แทนคนเป็นแม่ อยากเป็นคนเอาหลานอาบน้ำ เอาหลานนอน เอาหลานเดินเล่น ทำกับข้าวให้กิน ถ้าเอานมจากเต้าให้กินก็คงให้ไปแล้วล่ะ ซึ่งถามว่ามันดีไหม มันก็ดีนะที่มีคนช่วย แต่คำถามคือ คนเป็นแม่ทำอะไร ? 
ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่า เราเข้ามาอยู่บ้านแฟนซึ่งอยู่ด้วยกันกับแม่ย่าพ่อปู่ แฟนเป็นลูกคนเดียว อยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน มี แฟน เรา ลูกเรา พ่อปู่ แม่ย่า
ครอบครัวทำธุรกิจส่วนตัว เรายังใหม่กับธุรกิจบ้านแฟนยังไม่ค่อยเข้าใจงานเท่าไรเลยทำอะไรไม่ค่อยเป็น ทุกคนยังทำงานอยู่ พอเรามีลูก เขาเลยให้หยุดพักมาเลี้ยงลูกแบบ 100% ถามว่าดีไหม ก็ดีนะที่ได้เลี้ยงลูกเอง เราก็คิดไว้ในใจแล้วล่ะว่า งานของฉันคือการเลี้ยงลูก แต่พอเอาเข้าจริงๆ แม่ย่าอยากจะเข้ามาทำหน้าที่เลี้ยงหลานนี้อยู่ตลอด จนเราก็อดคิดไม่ได้ว่า "แล้วกุจะต้องทำอะไร อยู่ดีๆก็มีคนมาแย่งหน้าที่เฉย" สำหรับเราคิดแบบนี้จริงๆ ไปปรึกษาใครทุกคนก็บอกว่าเราคิดมาก เพราะฮอร์โมนหลังคลอดบ้าง บลาๆ จนอดคิดมากไม่ได้ จนวันหนึ่งไปได้ยินบังเอิญว่าเขาไปฟังเขาคุยกันกับคนอื่นว่า "มีบุคคล 3 4 คนเล่าให้พ่อปู่แม่ย่าฟัง "ต้องเลี้ยงหลานนะ เขาจะได้ติด ดูกุสิ กุเป็นคนเลี้ยงหลาน เห็นไหมตอนนี้กุไปไหนมาได้หลานมันก็อยากไปกับกุ บลาๆ" อะไรทำนองนี้ เราก็เลยอ๋ออออออ! คิดในใจว่าที่เขาเข้ามาแซกแซงทุกอย่างจัดการนู้นนี้นั้นทุกเรื่อง เป็นเพราะอย่างให้หลานติดตัวเองนี้เอง
หลังจากนั้นมันก็เลยทำให้เราเมินใส่ทุกครั้งที่ขออุ้มหลาน จะพาลูกไปเล่นที่อื่นเวลามีแม่ย่าอยู่ที่นั้น หรือบางสถานการณ์ให้อยู่เดียวกันไปไหนไม่ได้ ก็ทำเป็นเฉย เวลาแกพูดอะไรก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เป็นอย่างนี้หลายเดือน จะว่าเรานิสัยไม่ดีที่ปฏิบัติต่อผู้ใหญ่แบบนี้ก็ได้นะถ้าเราผิดจริงๆ 
จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ย่าแกกินเหล้า เบลอๆ เมาๆนิดหน่อย หลานนั่งกินข้าวอยู่ เราก็นั่งป้อนข้าวลูกปกติ แล้วแกก็มาอุ้มหลานขึ้นจากเก้าอี้กินข้าว แล้วก็บอกเราว่า "ป้อนข้าวผมหน่อยสิ" ย่าพูดทำนองแทนหลาน 
เราก็เลยพูดว่า "นั่งลงเดี๋ยวแม่จะป้อน" สถานการณ์ตอนนั้นมีคนอยู่เยอะ เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน จนทำให้คนอื่นมองมาที่เรา แล้วแม่ย่าก็วางหลานลง แล้วก็เดินกลับบ้านไป เราก็อยู่ตรงนั้นแล้วก็ป้อนข้าวลูกต่อ เราก็คิดว่า"ทำไมไม่ให้หลานนั่งกินข้าวเป็นกิจลักษณะดีๆ จะอุ้มป้อนข้าวทำไม" ในสถานการณ์นั้นคิดแบบนี้จริงๆ แต่พอกลับมาบ้าน (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้คืออยู่ข้างนอกนะ) วันเดียวกัน เราก็เข้าบ้านมาพร้อมกันกับแฟนแล้วก็ลูก ถึงเวลาที่จะพาลูกอาบน้ำเย็น เข้านอนพอดี พอก้าวขาเข้าบ้าน แม่ย่าพูดเสียงที่สั่นคลอนเรียกแฟน (ลูกตัวเอง) ส่วนเราก็เอาลูกไปอาบน้ำตามปกติเพราะคิดว่าไม่มีอะไร แม่ย่าพูดเสียงดังเหมือนจะอยากให้เราได้ยิน แต่พอเราเดินออกไปก็เงียบ อ๋อออ! เราเลยรู้เลยว่าพูดเรื่องเรา แม่ย่าบอกลูกตัวเองไปตักเตือนเรื่องเราที่ว่าเราไม่ให้อุ้มหลาน พูดประมาณว่า "ตัวเองไม่เคยรังเกียจเรา(ลูกสะใภ้)เลยที่จน ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนที่รวยมากก็ตาม (เราไม่เถียงนะที่เราจน แต่ทุกครั้งที่ตัวเองไปบอกคนอื่นว่า ให้ ให้ ให้ แต่พอพูดกับลูกว่า กุให้ไป เท่านั้น เท่านี้ ความรู้สึกที่ฟังเหมือนกับทวงบุญคุณอยู่ตลอดเวลา) แล้วก็บอกว่า เราไม่ให้อุ้มหลาน เราไม่พูดด้วย คุยด้วย เมิน อะไร บลาๆ เหมือนกันเล่าไปตอนต้น + กับแกดื่มมานิดหน่อย พูดกับลูกตัวเองไปสักพักใหญ่ๆ เราเองก็เอาลูกเข้านอนตามปกติ
จนดึกๆ แฟนก็เข้ามาในห้องแล้วก็เริ่มบทสนทนา มีการว่ากล่าวตักเตือน แฟนเริ่มดุว่าที่ผ่านมาเขาเห็นมาตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเลยบอกให้เราเก็บไปคิดดีๆ เราก็เลยบอกไปว่าเรายอมรับ ทุกอย่างที่แม่ย่าพูดมันคือความจริง 
เช้าวันรุ่งขึ้น เราเรียกพ่อปู่ แม่ย่า ไหว้ขอโทษและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ รู้ว่ามันผิด เขาก็ได้มีการพูดคุยว่าจะเอายังไง เราก็ตกลงว่าจะไม่หวงที่จะอุ้มหลาน 
แต่ทุกคนช่วยออกความคิดเห็นหน่อย พอเราพูดคุยกันแล้ว เราก็ยอมให้อุ้มหลานแล้ว ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เราก็ยังเข้ากันไม่ได้อยู่ดี ทุกๆครั้งที่แม่ย่าแกอยู่กับหลาน เหมือนแกพยามยามอย่างมากที่จะที่เอาใจเรา (ต้องขอโทษสำหรับใครมองว่ามันดี) แต่สำหรับเรา ถามว่าทำไปทำไม เราเริ่มพูดให้น้อยลง มีพื้นที่ปลอดภัยให้กับตัวเองคือในห้องนอน รู้สึกว่าเป็นตัวเองที่สุดคือในห้องนอน และเราก็หวงมันมาก ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่ง ก็คือง่ายๆ คนมีลูกน้อยจะเข้าใจเพราะบางทีลูกก็ตื่นกลางดึกกว่าจะได้นอน มันก็เช้าแล้วมันทำให้เราง่วง พอตอนกลางวันเราเอาลูกนอนแล้วก็นอนพร้อมกับลูกด้วย ก็ไม่อยากให้มีใครเข้ามากวน ยิ่งแม่ย่าเป็นคนเสียงดัง ดังแม้กระทั่งเสียงเดิน มันก็ทำให้เราหงุดหงิด ใครที่คลอดลูกมาใหม่ๆจะเข้าว่า เด็กทารกชอบนอนผวา! ลูกเราเองก็ตกใจทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดัง มันก็ทำให้ลูกเราไม่ได้นอน และเราก็ไม่ได้นอนด้วย ก็ยิ่งทำให้เราหงุดหงิดไปใหญ่ บางทีอยากเข้าห้องมาก็เข้ามาเลย จนทำให้เราตกใจ (คิดในใจ ดีนะที่ยังใส่เสื้อชั้นใน กางเกงในอยู่) ตอนนั้นคิดว่าจะทำยังไงดีว่ะ หรือวางม้วนกางเกงในเป็นเลขแปดวางไว้บนหัวที่นอนเลยดีไหม มันก็ไม่ใครคนใดคนหนึ่งแหละที่ต้องอาย เผื่อแกจะไม่เข้าห้องมาด้วยสุ่มสี่สุ่มห้า หรือจะนอนแก้ผ้าดี? คิดไปต่างๆนานา ก็เข้าใจนะว่าที่เราอยู่คือบ้านของเขา แต่เราขอพื้นที่ส่วนสักนิดจะได้ไหม บางทีห้องก็ขี้เกียจเก็บ ปล่อยให้มันรกสักวัน สองวันก็ได้มั้ง แต่นี้เข้าห้องมาแบบไม่ตั้งตัว ก็เลยต้องเก็บตลอดเพราะไม่รู้ว่าจะเข้าตอนไหนอีก บางทีที่เล่นกับหลาน แล้วเห็นหลานทำอะไรสักอย่างก็เรียกทุกคนมาดูทั้งที่บางครั้งคนอื่นก็ทำอย่างอื่นอยู่ เห็นแล้วก็หงุดหงิด เวลาหลานมองก็คิดเข้าตัวเองเสมอว่าหลานอยากไปหา เห็นแล้วก็หงุดหงิดทั้งๆที่บางก็ไม่ใช่ เด็กมันก็มองไปเรื่อย  ชอบไปพูดให้คนอื่นฟังประหนึ่งว่าอยู่กับหลาน 24 ชั่วโมง หลานตื่นเวลานี้ นอนเวลานี้  กินเวลานี้ ใครถามอะไรตอบได้หมดโดยที่แม่ไม่ต้องตอบ ทั้งที่แม่เป็นคนอยู่ด้วยตลอดเวลา บางทีคนถามเรา เราก็ลังเลว่าจะตอบหรือไม่ตอบดี เพราะทุกครั้งแม่ย่าตอบแทนตลอด เราเลยเลือกที่จะเงียบทุกครั้งที่มีแม่ย่าอยู่ด้วย เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวของตัวเองทุกครั้งที่ไม่มีแม่ย่าอยู่ด้วย รู้สึกสบายใจ ยิ้มได้ หัวเราะได้ แต่ความเป็นจริงเราต้องอยู่ด้วยกัน จะให้ปรับตัวก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง จะไปไหนก็ไปไม่ได้ เข้าใจว่าทุกคนมีนิสัยส่วนตัว ที่ไม่น่ารัก หรือ นิสัยที่คนอื่นไม่ชอบเราเหมือนกัน เราเองก็นิสัยที่หน้า ไม่รับแขก จึงเป็นอุปสรรคกับหารเข้าร่วมสังคม อันนี้ก็มีส่วน
ทุกคนมีความเห็นว่ายังไง หรือวิธีแก้ไขยังไง ช่วยแนะนำหน่อย ให้มันอยู่ด้วยกันได้ เพราะมันไปไหนไม่ได้ หรือว่าเราทำผิดร้ายแรงตรงไหน ว่าควรที่จะแก้ไขช่วยแนะนำให้เราหน่อย หาทางออกไม่เจอเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่