มีคนเข้าใจเราผิดคิดว่าเราเป็นมือที่สาม
เรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวและพูดน้อย เวลาทำงานก็ช่วยบ้างบางโอกาสไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมงานเท่าไหร่ ทำให้เกิดช่องว่างให้เพื่อนร่วมงานมองเราไม่ดี ไม่มีน้ำใจ หรือเห็นแก่ตัว แต่ทั้งที่ไปช่วยกลับพูดแซะจนเราไม่อยากจะช่วยชอบพูดเรื่องนินทาคนนั้นคนนี้ให้ฟังจนเราว่าคงไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนสนิทกันได้แค่เออ-ออไปตามเขา
จนมีวันหนึ่งซึ่งมีครูช.และครูญ.เกิดคบซ้อนในโรงเรียน เรียกได้ว่าครูช.คบชู้กับครู ญ. (ครูช.มีเมียแล้ว) แล้วเมียแกก็จับได้เลยจะมาถามฝ่ายครูญ.ว่าจะเอายังไง ถ้าไม่เลิกเรื่องดังแน่จะเอาเรื่องผิดวินัยและจรรยาบรรณครู ญ. แต่นั่นมันทำให้เพื่อนร่วมงานคิดว่าเราคือคนในข่าวลือนั้น
และก็เกิดเรื่องทำให้เพื่อนร่วมงานคิดว่าเราคงเอี่ยวเป็นมือที่สามแถมแซะต่างๆนาๆว่า น้องคงเป็นเหมือนในข่าวฉาวนี้เนาะ เคยได้ยินว่าข่าวฉาวครูนี้ดังในจ.ลำพูน น้องเป็นคล้ายๆ ในข่าวนี้มั้ย? ซึ่งเราก็งงๆว่าไปเกี่ยวได้ไง ไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นวันๆต้องสอนเด็กแทบไม่มีเวลาได้พักเลยจะเอาเวลาไหนไปทำเรื่องที่ว่ากัน แถมยังถามแบบเซ้าซี้เอาจริงเอาจังว่ายอมรับเถอะพูดความจริงมาเราก็ตอบว่าเราไม่ได้ไปคบซ้อนอะไรทั้งนั้น คงไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะคะ
แล้วเพื่อนเขาก็คงคิดว่าปากแข็งเดี๋ยวจะสืบให้รู้เอง นั่นแหละ สืบไปสืบมาจนรู้ว่าใคร แต่กว่าจะรู้ความจริงก็โมทะนาพูดใส่ความเราเสียๆ หายๆ ว่าอย่าทำเลยน้องผิดศีลข้อ3นะ แถมยังผิดจรรยาบรรณด้วยเลิกถอะพี่ว่า นั่นจะให้ยอมรับจริงๆให้ได้เลยใช่มั้ย ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นเมียน้อยใครนี่จะให้ยอมรับเพื่ออะไร?
อยากถามว่าเพื่อนๆ มีวิธีการรับมืออย่างไรบ้างกับคนใส่ความเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดเลย และทางผู้บริหารก็เรียกเราไปพบเพื่อถามความจริงคืองงมาก เราไม่เกี่ยวข้องอะไรเราจะไปเพื่อ....ขอความเห็นว่าเราจะทำอย่างไรดีตอนนี้จิตตกแล้ว
ถูกเข้าใจผิดและโดนกล่าวหาว่าเป็นมือที่ 3 ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย มีวิธีการรับมือยังไงบ้างกับคนที่ขี้นินทาใส่ร้ายคนอื่น?
เรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวและพูดน้อย เวลาทำงานก็ช่วยบ้างบางโอกาสไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมงานเท่าไหร่ ทำให้เกิดช่องว่างให้เพื่อนร่วมงานมองเราไม่ดี ไม่มีน้ำใจ หรือเห็นแก่ตัว แต่ทั้งที่ไปช่วยกลับพูดแซะจนเราไม่อยากจะช่วยชอบพูดเรื่องนินทาคนนั้นคนนี้ให้ฟังจนเราว่าคงไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนสนิทกันได้แค่เออ-ออไปตามเขา
จนมีวันหนึ่งซึ่งมีครูช.และครูญ.เกิดคบซ้อนในโรงเรียน เรียกได้ว่าครูช.คบชู้กับครู ญ. (ครูช.มีเมียแล้ว) แล้วเมียแกก็จับได้เลยจะมาถามฝ่ายครูญ.ว่าจะเอายังไง ถ้าไม่เลิกเรื่องดังแน่จะเอาเรื่องผิดวินัยและจรรยาบรรณครู ญ. แต่นั่นมันทำให้เพื่อนร่วมงานคิดว่าเราคือคนในข่าวลือนั้น
และก็เกิดเรื่องทำให้เพื่อนร่วมงานคิดว่าเราคงเอี่ยวเป็นมือที่สามแถมแซะต่างๆนาๆว่า น้องคงเป็นเหมือนในข่าวฉาวนี้เนาะ เคยได้ยินว่าข่าวฉาวครูนี้ดังในจ.ลำพูน น้องเป็นคล้ายๆ ในข่าวนี้มั้ย? ซึ่งเราก็งงๆว่าไปเกี่ยวได้ไง ไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นวันๆต้องสอนเด็กแทบไม่มีเวลาได้พักเลยจะเอาเวลาไหนไปทำเรื่องที่ว่ากัน แถมยังถามแบบเซ้าซี้เอาจริงเอาจังว่ายอมรับเถอะพูดความจริงมาเราก็ตอบว่าเราไม่ได้ไปคบซ้อนอะไรทั้งนั้น คงไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะคะ
แล้วเพื่อนเขาก็คงคิดว่าปากแข็งเดี๋ยวจะสืบให้รู้เอง นั่นแหละ สืบไปสืบมาจนรู้ว่าใคร แต่กว่าจะรู้ความจริงก็โมทะนาพูดใส่ความเราเสียๆ หายๆ ว่าอย่าทำเลยน้องผิดศีลข้อ3นะ แถมยังผิดจรรยาบรรณด้วยเลิกถอะพี่ว่า นั่นจะให้ยอมรับจริงๆให้ได้เลยใช่มั้ย ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นเมียน้อยใครนี่จะให้ยอมรับเพื่ออะไร?
อยากถามว่าเพื่อนๆ มีวิธีการรับมืออย่างไรบ้างกับคนใส่ความเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดเลย และทางผู้บริหารก็เรียกเราไปพบเพื่อถามความจริงคืองงมาก เราไม่เกี่ยวข้องอะไรเราจะไปเพื่อ....ขอความเห็นว่าเราจะทำอย่างไรดีตอนนี้จิตตกแล้ว