เราทำงานมา 9 ปีละคะ ทำงานตั้งแต่อายุ 20 สาเหตุเพราะที่บ้านค่อนข้างยากจน ช่วงปิดเทอมของทุกปีเราจะหางานพิเศษทำเพื่อเอาตังมาจ่ายค่าเทอมเอง เราอยู่กับตายายมาตั้งแต่เด็ก แม่ก็เคยส่งเสียเราช่วงเด็กๆ แต่พอแม่มาเล่นแชร์ลูกโซ่เสียตังไปสามแสนกว่าบาท (เอาที่นาของยายไปจำนำ ซึ่งยายเป็นคนทำเรื่องให้เพราะตอนนั้นเชื่อใจลูกตัวเอง) สุดท้ายโดนโกง บวกกับแม่เราก็ไม่ได้ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่งด้วยตอนนั้น ชีวิตค่อนข้างไม่มีทางเลือกมากนักเลยตัดสินใจมาเรียประกาศนียบัตร 1 ปี เพื่อรีบทำงาน หาเงินส่งให้ยาย และแม่ที่ตอนนี้ก็ทำงานก็โทรมาขอเราบ่อยๆ และไม่เคยส่งเงินให้ยายเลย คือยายเป็นคนเข้าใจเรานะคะ แต่บางครั้งคำพูดเขาเวลาคุยกับเรามันทำให้เรารู้สึกล้มเหลวในชีวิตแบบบอกไม่ถูก ยายชอบพูดว่าคนนู้นเขามีอะไร ตัวเองนะลำบาก จะซื้ออะไรก็ไม่ค่อยมี เวลาใครมาพูดว่าให้ทำนั้นทำนี้ไหม ให้หลานช่วย ยายจะชอบพูดตลอดว่าไม่มีตัง ซื่งเราก็พยายามหาให้เท่าที่ทำได้ แม่เราไม่เคยช่วยเราส่งเสียยายนะคะ แม่ทำงานและไม่ยอมกลับดูแลยายที่ต่างจังหวัดเพราะชอบชีวิตที่ กทม มากกว่า ลุงที่อยู่กับยายตอนนี้ก็ติดเหล้า ไม่ทำงานบ้านอะไรเลยเราสงสารยาย แต่บ้างทีเราท้อกับคำพูดที่ดูหมดอะไรของยายตัวเองค่ะ นอย ท้อในชีวิต พยายามคิดว่าคนอื่นเจอหนักกว่าตัวเอง แต่บางทีมันอดไม่ได้จริงๆ แม่ไม่เคยโทรหา ทักถามเราเลยเหนือยไหม เป็นไง แต่จะโทรมาเวลาขอเล่นหรือเดือดร้อน เรามีรถยนต์ 1 คันนะคะ ซื้อตอนที่ตาใกล้เสียเพราะอยากกลับบ้านไปดูช่วงป่วย(ช่วงโควิด) ตอนนี้รถใกล้หมด ยายก็เหมือนจะพูดบีบๆให้เราทำบ้านต่อ ซึ่งก็จะเป็นเราคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด แต่เรารู้สึกไม่ไหวค่ะ อยากพักก่อน เพราะช่วงนี้ก็แย่ไปหมด แต่กลัวเขาจะไม่ทันได้อยู่กับเรา หมดหวังกับตัวเองเหมือนทำให้ยายผิดหวัง สงสารทั้งยายทั้งตัวเอง จะจัดการความรู้สึกนี้ยังไงคะ (อาจจะพิมวกไปวนมาหน่อยนะคะ อารมณ์มันดาวมากๆ)
ทำงานมา 9 ปี รู้สึกว่าตัวเองไม่สำเร็จสักที