ตามที่รัฐบาลแถลงข่าวกันไปนั้น (โดย มติคณะรัฐมนตรี ข่าวกรมสรรพากร และ กลต.)
บลจ. และแหล่งข่าวทั้งหลายก็ได้ทำ inforgraphics เชิญชวนให้ซื้อกองทุน ESG ระลอกใหม่ครบเดือนแล้ว
ผมรับทราบในข้อมูลตามที่เขาแจ้งและได้จัดไปเต็มจำนวน
แม้ว่าจะยังไม่เห็นกฎกระทรวงที่ควรจะออกตามมาในเวลาอันใกล้
(เพราะเห็นว่าการนับวันชนวันซื้อก่อนก็ได้ออกก่อน)
ปัญหาคือ ปีภาษีที่แล้วผมก็ได้ซื้อ ESG ไว้ด้วย มีปนกันระหว่าง บลจ. และตัวแทนการขายของ บลจ. ที่ต่างกัน
และบังเอิญได้สับเปลี่ยนกันไปด้วยแผนการว่าจะไม่ลงทุนในตลาดทุนมากนัก (หรือนานนัก)
หวังว่าพอได้ผลตอบแทนประมาณหนึ่งก็จะเข้ากองที่เป็นตราสารหนี้หรือพันธบัตรแทน
ที่ได้สับไปมาในตอนแรกไม่ได้คิดเรื่อง 8 ปีเหลือ 5 ปีเอาไว้เลย
ตอนนี้พอมาคิดอีกทีพบว่าหลักการในตอนขายคือ FIFO
(First in first out)
หากเงินลงทุนของ 2566 และ 2567 อยู่ในกองเดียวกันและใช้หลัก FIFO
เมื่อถึงปีที่ครบขายของ 2567 ได้ การส่งคำสั่งขายจะไปจับคู่กับคำสั่งซื้อในปี 2566 ทำให้ยังขายไปได้
มีหน่วยงานกำกับดูแลหรือ บลจ. ไหนเคยคิดไว้แล้วไหมครับว่าจะจัดการอย่างไร
ในฐานะผู้ลงทุนผมมีทางออกประมาณหนึ่งคือจะใช้การสับออกไปมา
(แบบปัญหา Hanoi Tower ในทางคอมพิวเตอร์)
เพื่อทำให้สามารถเขายส่วนที่ซื้อจาก 2567 ได้ไปก่อน
แต่ผมคิดว่าการที่ผู้ลงทุนต้องออกแรง ออกแบบเองเพื่อดำเนินการตรงนี้
อาจจะเป็นภาระ ต้นทุน และความเสี่ยงจนเกินไป
จึงตั้งกระทู้เตือนหรือสอบถามไว้ตรงนี้เป็นหลักฐาน
(แก้ไขด้วยการจัดย่อหน้าเล็กน้อย)
ESG ลดเวลาถือครอง 5 ปีอาจปฏิบัติไม่ได้จริงเพราะหลักการ FIFO ?
บลจ. และแหล่งข่าวทั้งหลายก็ได้ทำ inforgraphics เชิญชวนให้ซื้อกองทุน ESG ระลอกใหม่ครบเดือนแล้ว
ผมรับทราบในข้อมูลตามที่เขาแจ้งและได้จัดไปเต็มจำนวน
แม้ว่าจะยังไม่เห็นกฎกระทรวงที่ควรจะออกตามมาในเวลาอันใกล้
(เพราะเห็นว่าการนับวันชนวันซื้อก่อนก็ได้ออกก่อน)
ปัญหาคือ ปีภาษีที่แล้วผมก็ได้ซื้อ ESG ไว้ด้วย มีปนกันระหว่าง บลจ. และตัวแทนการขายของ บลจ. ที่ต่างกัน
และบังเอิญได้สับเปลี่ยนกันไปด้วยแผนการว่าจะไม่ลงทุนในตลาดทุนมากนัก (หรือนานนัก)
หวังว่าพอได้ผลตอบแทนประมาณหนึ่งก็จะเข้ากองที่เป็นตราสารหนี้หรือพันธบัตรแทน
ที่ได้สับไปมาในตอนแรกไม่ได้คิดเรื่อง 8 ปีเหลือ 5 ปีเอาไว้เลย
ตอนนี้พอมาคิดอีกทีพบว่าหลักการในตอนขายคือ FIFO
(First in first out)
หากเงินลงทุนของ 2566 และ 2567 อยู่ในกองเดียวกันและใช้หลัก FIFO
เมื่อถึงปีที่ครบขายของ 2567 ได้ การส่งคำสั่งขายจะไปจับคู่กับคำสั่งซื้อในปี 2566 ทำให้ยังขายไปได้
มีหน่วยงานกำกับดูแลหรือ บลจ. ไหนเคยคิดไว้แล้วไหมครับว่าจะจัดการอย่างไร
ในฐานะผู้ลงทุนผมมีทางออกประมาณหนึ่งคือจะใช้การสับออกไปมา
(แบบปัญหา Hanoi Tower ในทางคอมพิวเตอร์)
เพื่อทำให้สามารถเขายส่วนที่ซื้อจาก 2567 ได้ไปก่อน
แต่ผมคิดว่าการที่ผู้ลงทุนต้องออกแรง ออกแบบเองเพื่อดำเนินการตรงนี้
อาจจะเป็นภาระ ต้นทุน และความเสี่ยงจนเกินไป
จึงตั้งกระทู้เตือนหรือสอบถามไว้ตรงนี้เป็นหลักฐาน
(แก้ไขด้วยการจัดย่อหน้าเล็กน้อย)