วิมานหนาม อีกนิดเดียวแล้วนะ อีกนิดเดียวแล้วจริง ๆ

เมื่อวานไปดูวิมานหนามมา

ยังรู้สึกหน่วงในใจ

พร้อมกับความรู้สึกที่ว่า 
“ไม่มีอะไรเป็นของเรา 
แม้สิ่งที่เราคิดว่าจริงที่สุด แต่สุดท้ายก็ปลอม”

โพสนี้มีสปอยด์เต็มขั้น ใครยังไม่ได้ดูข้ามไปเลยนะคะ
วิมานหนามบอกเล่าเรื่องราวความรักของ ช-ช คู่นึงที่ช่วยกันทำสวนทุเรียนมาเป็นระยะเวลา 5 ปี บนที่ดินติดจำนองของเสกสรร 
เสกสรรเป็นฝ่ายลงแรง ส่วนทองคำเป็นฝ่ายลงเงิน 

จนเมื่อความรักสุกงอม ผลทุเรียนใกล้จะงอกเงยออกมาเป็นเงินในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน 
ทองคำตัดสินใจนำเงินที่มีทั้งหมดไถ่ถอนที่ดินติดจำนองเพื่อเป็นหลักฐานของความรักที่ทั้งสองจะลงหลักปักฐานกันไปชั่วชีวิต 

แต่ในข้ามคืนเสกสรรเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ที่ดิน สวน บ้าน 
แม้กระทั่งแหวนแต่งงานที่เป็นหลักฐานของความรัก 
ต้องตกไปเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้สืบสันดานตามลำดับของกฎหมายนั่นคือแม่ของเสกสรร 
แม่แสง แม่ของเสกสรร โหม๋(หญิงสาวที่แม่แสงเก็บมาเลี้ยง) จิ่งนะ(น้องชายของโหม๋) ก้าวเข้ามาในบ้าน เหตุการณ์ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ทองคำจึงพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งของของคนที่ตัวเองรัก และคิดว่าเขาคือคนที่รักตัวเองมากที่สุด

ตลอดเวลาที่ดูหนัง ให้ความรู้สึกที่กำลังจะสุข 
แต่ยังสุขไม่สุด ก็ถูกหนังกระชากกลับลงมาให้ตัวเองหล่นตุ้บ !! 

ในใจอุทานว่า เ_ี่ยยย ออกมาดัง ๆ หลายฉาก เช่น ฉากที่เสกสรรตกต้นไม้ ฉากที่โหม๋พาแม่ไปโรงพยาบาล ฉากที่ทองคำกับจิ่งนะคุยกันตอนใส่ปุ๋ยต้นทุเรียน ฉากที่โหม๋คุยกับแม่ในหลาย ๆ ครั้ง ฉากที่จิ่งนะกับทองคำไปทำบุญด้วยกัน รวมถึงฉากพีคในตอนท้าย

อีกนิดเดียวเองนะ อีกนิดเดียวแล้วจริง ๆ แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นดังหวัง TT 

หนังเล่นกับสัญชาติของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เล่นกับความต้องการ เล่นกับเหตุผลของแต่ละคนโดยไม่สนเหตุผลของคนอื่น 
หรือจะเรียกอีกอย่างว่ามันคือความเห็นแก่ตัวก็เป็นได้ 

ตอนที่ดูก็แต่คิดในใจ... 
หากเราเป็นตัวละครนั้น ๆ เราจะทำแบบเดียวกันกับสิ่งที่ตัวละครทำมั้ย ? 
เราไม่อาจตัดสินตัวละครได้ หากเราไม่ได้ไปอยู่ในจุดที่เขาอยู่ ไม่ได้เจอในสิ่งที่เขาเจอ ไม่ได้มีประสบการณ์เดียวกับเขา

ตัวละครที่สงสารที่สุดในเรื่อง สำหรับเรา ไม่ใช่โหม๋ ไม่ใช่ทองคำ ไม่ใช่แม่แสง ไม่ใช่เสกสรร 
แต่เป็นจิ่งนะ มนุษย์ที่เป็นความอบอุ่นที่สุดของเรื่องนี้ มนุษย์ที่คอยเติมเต็มทุกหัวใจ คนที่เป็นเหมือนหัวใจของโหม๋และหัวใจของทองคำ 
หากจิ่งนะเป็นคนจริง ๆ ก็อยากจะภาวนาให้เขาได้พบเจอกับความสุขให้เขามีความสุขเหมือนความบริสุทธิ์ของเขา

ส่วนโหม๋ ที่โหม๋พูดว่าไม่เคยสงสารใคร เพราะโหม๋ไม่เคยเจอใครที่น่าสงสารเท่าตัวเอง 
อยากจะบอกโหม๋ว่าจริง ๆ โหม๋มีทางเลือก 
โหม๋อาจจะถูกเสกสรรรั้งไว้ด้วยการกระทำเมื่อ 10 ปี ก่อน 
ชีวิตโหม๋คล้ายกับคำที่ว่า “เธอไม่ยอมปล่อย หรือว่าฉันไม่ยอมไป” สิ่งที่รั้งตัวโหม๋ไว้ ก็คือตัวโหม๋เองต่างหาก 

ฉากแรกของโหม๋ที่วิ่งในสวนทุเรียน กับฉากสุดท้ายที่เดินในสวนทุเรียน กระชากอารมณ์อยู่พอสมควรนะ

สำหรับทองคำ ขอแสดงความเสียใจกับทุกการสูญเสีย 
ถ้าเราเป็นทองคำ เราก็คงดีใจนะ อย่างน้อยในชีวิต เราได้พบเจอคนที่รักเราอย่างจริงใจถึง 2 คน 
ถึงแม้จะคนแรก เราอาจจะกังขาในการกระทำของเขา แต่สุดท้ายก็ทำให้เรารู้ว่า เขาไม่ได้รักแค่ตัวเรา แต่เขารักที่เราเป็นเราจริง ๆ 
สำหรับอีกคน ทองคำได้พบคนรัก และความรักที่บริสุทธิ์ รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแล้ว
จิ่งนะ: ขอพรว่าอะไร ?
ทองคำ:ขอให้กูได้สวนกลับคืนมา และขอให้อยู่ด้วยกันกับกูตลอดไป แล้วล่ะ ขอพรว่าอะไร ?
จิ่งนะ:กูไม่รู้จะขอเรื่องอะไร ก็เลยขอให้สิ่งที่ขอเป็นจริง

จะมีสักกี่คน ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เรามีความสุข 
จะมีสักกี่คน ที่หวังให้เรามีความสุขโดยไม่คาดหวังอะไร 
จะมีสักกี่คน ที่รักเราอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เลย

ถ้าถามเรา เราจะทำแบบทองคำที่ทำกับเสกสรรมั้ย ?
คำตอบก็คือ เราคงทำแบบทองคำ เพราะสำหรับเราแล้ว “ถ้าเต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเสียดายเลย”

แต่สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากทองคำ 
คือ “ความรักไม่ได้ใช้แค่หัวใจ แต่ต้องใช้สมองด้วย”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่