ระวังนะครับผมโดนมาแล้วครับตอนแรกมันโทรมาว่าเป็นพนักงาน AIS จากสำนักงานใหญ่เพชรบูรณ์ว่าผมไปเปิดซิม AIS และเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยแล้วทำเรื่องผิดกฎหมายเรื่องเว็บพนันออนไลน์และเว็บลามกอนาจารว่ามีผู้ร้องเรียนเสียหายกว่า 5000 คนว่าทางกฎหมายจะเอาคดีกับผมเรื่อง พรบ.คอมพิวเตอร์ จึงบอกให้ผมไปแจ้งความกับทางสถานีตำรวจเพชรบูรณ์ว่าถ้าผมบริสุทธ์จึงจะได้ยกเลิกคดีของผมกับทาง AIS ผมบอกว่าผมอยู่คนละจังหวัดกันเลยและผมไม่มีเวลาไปผมจึงจะไปแจ้งความกับตำรวจทางจังหวัดของผมเองแต่กับพนักงาน AIS บอกผมว่าไม่ต้องไปเพราะถึงแจ้งไปก็เป็นแค่บันทึกไม่สามารถดำเนินคดีได้เพราะอยู่คนละจังหวัดเขาจึงเสนอว่าแจ้งออนไลน์ได้เข้าได้บอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวเค้ากับผมเค้าจึงโอนสายไปทางสถานีตำรวจเพชรบูรณ์และบอกว่าห้ามว่างสายเด็ดขาดแล้วผมได้พูดกับตำรวจเพชรบูรณ์ ผมบอกจะแจ้งความเรื่อง พรบ.คอมพิวเตอร์ แล้วเข้าก็ถามผมชื่ออะไรกับข้อมูลจะแจ้ง พอแจ้งเสร็จผมไม่รู้ว่าเข้าเขียนจริงหรือเปล่าแล้วเข้าเอาชื่อผมไปหาว่ามีประวัติอะไรเหรอเปล่าตอนเอาชื่อไปเข้าต่อทางวอสื่อสารกับอีกคนด้วยหลังจากนั้นแหละเรื่องใหญ่เลยว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรการฟอกเงินเพชรบูรณ์ว่าเป็นคดีพิเศษก็ถามผมเรื่องต่างๆว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่ามีทรัพย์สินอะไรครอบครองหรือไม่ ตอนสอบถามเข้าได้บอกว่าจะทำการบันทึกเสียงไปด้วยเพื่อทำคดีแล้วเข้าก็ขอไลน์ผมเข้าจึงเบอร์ไลน์ของเค้ามาให้ผมเพื่อให้ผมยืนยันตัวตนของผมแล้วเข้าส่งข้อมูลทางคดีมาให้ผมดูว่าผมได้ร่วมมือกับคนนี้ไหมกับพวกพ้องและเอกสารเรื่องระหว่างธนาคารกรุงไทยเพชรบูรณ์กับผมรูปคดีพวกนี้เป็นความลับห้ามบอกใครเป็นเวลา 7 วัน ส่วนเรื่องทรัพย์สินผมบอกไม่มีบัญชีธนาคารแต่ผมมีเงินสดกับ จจย.เข้าถามผมอยากจะตรวจสอบเงินสดที่ผมมีเป็นเงินที่ได้รับจากหัวหน้าองค์กรการฟอกเงินว่าทางเข้ามีรูปบัญชีธนาคารกรุงไทยในชื่อผมอยู่ด้วย เข้าบอกว่าหัวหน้าองค์กรการฟอกเงินที่เข้าได้จับเอาไว้นั้นได้ชี้ตัวมาที่ผมว่าผมร้อนเงินจึงได้เอาบัญชีธนาคารไปขายให้เข้าด้วยเงิน 10% จาก 100ล้านแล้วเข้าได้ให้ตัวเลือกผม2ทางคือ1.โอนทางเซเว่น2.ส่งเงินไปที่สถานีตำรวจเพชรบูรณ์ในการนำเงินไปให้เข้าและเจ้าหน้าที่ ปปง.จะตรวจสอบว่าเป็นเงินสกปรกหรือไม่ผมได้โอนทางเซเว่นไป20000กว่าบาทเค้าบอกใช่เวลาตรวจสอบ1-2ชั่วโมงแล้วผมจะได้เงินคืนเค้าได้ถามหัวหน้าของเค้าว่าผมจะได้เงินคืนตอนเที่ยงของอีกวันหนึ่งแล้วเรื่องรถจะตรวจสอบยังไงเค้าบอกว่าให้ผมเอารถไปที่สถานีตำรวจเพชรบูรณ์หรือเอาเงินราคาเท่ากับตอนซื้อรถให้เค้าจะได้ให้ปปง.ตรวจสอบ ตอนนั้นผมเครียดมากไม่รู้จะเลือกวิธีไหนเค้าบอกว่าถ้าไม่ให้ทำการตรวจสอบรถจะมีหมายมาที่บ้านใน 7 วันจะอายัดเงินจำนวน20000กว่าบาทกับรถและตัวผมไปฝากขังที่เรือนจำในข้อหานำข้อมูลที่เป็นความลับไปเปิดเผยผมจึงได้ไปที่สถานีตำรวจของตัวจังหวัดบ้านผม ตำรวจทางจังหวัดบ้านผมบอกว่าโดนมิฉาชีพหรอกแล้ว

นี่คือเอกสารที่อ้างเป็นตำรวจเพชรบูรณ์ส่งมาทางไลน์ ส่วนชื่อกับสถานที่ผมเป็นคนลบเองเพราะมันตรงมาก