ในที่นี้ขอพูดถึงในเรื่องของ การศึกษา ในปัจจุบันนี้ นักเรียนทั้ง วัยประถม วัยมัธยม ต้น/ปลาย หรือแม้แต่ นักศึกษา ขอแบ่งออกเป็น 3 จำพวก ได้แก่ :-
1. จำพวกที่ยังไม่รู้เป้าหมายตัวเอง ตอนใกล้จะจบแล้ว คือ เป็นนักศึกษาใกล้จะเรียนจบหลักสูตร แต่พอเรียนมา ก็ทำงานไปตาม สิ่งที่เรียนมา อาจจะไม่ได้ชอบ ทำๆไปเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองไปวันๆ ซึ่งสาเหตุที่เลือกมาเรียนก็อาจจะเป็นไปได้หลาย เหตุผล สรุปง่ายๆคือ เป็นสาย ปล่อยจอย อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็ให้เกิดๆไป เป็นผู้ที่รอโอกาส ให้มาถึง หรืออาจจะหา โอกาส สิ่งที่ชอบอยู่แต่ยังไม่เจอ
2. จำพวกที่เป้าหมาย ครุมเครือ ไม่ชัดเจน เช่น ต้องการจะ เรียน"เพื่ออยากจะ เป็นหมอ" บอกแค่นี้;-; รู้แค่ว่าอยากเป็นหมอ ก็เรียนๆไป โดยไม่รู้ว่า จะทำยังถึงจะได้เป็น เรียนไปเฉยๆ สรุปง่ายๆคือ ตั้งเป้าไว้ แต่ไม่ได้ลงมือทำให้ได้เห็นอะไรมากนัก
3.จำพวก ที่รู้เป้าหมายของตัวเองแบบ ชัดๆ แจกจำแนก เป้าหมายออกมาเป็น แบ่งเป็นชั้นๆ มีแผนเพื่อไปถึงเป้าหมาย รู้เลยว่า 1ต้องทำอะไร 2 ต้องทำอะไร เป็นคนรอบคอบในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเป็นเบาะแส ให้สามารถไปถึงเป้าได้
ทั้ง3 จำพวกนี้ ล้วนพัฒนามาจาก 1-2-3 ไปเป็นลำดับ ทุกคนต้องผ่านจุดที่ไม่รู้มาก่อน ว่าตัวเองต้องการอะไร ทั้งบางคนที่ ปล่อยจอย ในวันหนึ่งเมื่อเจออะไรสักอย่างที่ใช่ ก็รู้สึกมีฝันขึ้นมา
"เอ๊.. น่าสนใจดีนี้น๊า..><"
จนเป็นเป็นเหตุให้เข้าสู่จำพวกที่2 ที่มีสิ่งที่ชอบแล้ว แต่ก็แค่ชอบไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้น ยังใช้ชีวิตไปวันๆ รอโอกาส
"อันนี้น่าสน ถ้าได้เป็นดูคงดี ไม่ใช่น้อยเลยแหละ ^-^ "
และแล้วในวันหนึ่ง เขาก็ได้ตระหนักถึงว่า โอกาส ถ้าไม่มีแค่ก็ต้องสร้างมันขึ้นมาเอง จะไว้กว่า จนนำไปสู่การเป็น..
จำพวกที่3 อยากที่ทำสิ่งที่ชอบนั้นจริงๆจังๆ เลยเริ่มมีไฟ 🔥 ในการศึกษา หาข้อมูลต่างๆนาๆ เพื่อที่จะไปถึงเป้าหมาย เริ่มมีความคิดแล้วว่า เป้าหมายนั้น เป็นประโยชน์ต่อตนเองในด้านใดบ้าง
-ทำให้มีความสุขไหม??
-ทำให้ มั่งคั่งไหม??
-ทำให้ชีวิตดีขึ้นไหม??
-ตรงตามความชอบ บุคลิกตนเองจริงไหมๆ หรือแค่ชอบเพราะ กระแสสังคม,คนแนะนำ,??
-ได้หลอกตัวเองไหมว่าชอบสิ่งๆนั้น???
เมื่อคำถามเหล่านี้หมดไปจากหัว ก็เริ่มที่จะ หาวิธีให้ไปถึงไปเป้าแล้ว เช่น:- เป้าหมายคือการที่จะได้เรียนอยู่ ในมหาวิทยาลัยดีๆ เพื่อที่จะสร้างคุณค่าด้านความรู้ ให้ตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น ก็เริ่มหาแล้วว่า มหาวิทยาลัยไหนที่ เหมาะกับตัวเอง ทั้งงบ และอีกหลายๆปัจจัย การสอบเป็นยังไง สิ่งที่ต้องเตรียมคืออะไร แล้วสิ่งไหนที่เริ่มลงมือทำได้เลย ตอนนี้บ้าง.. เมื่อเริ่มทำก็ได้เห็น ผลลัพธ์ต่างๆนาๆ ทั้งด้านดี ด้านลบ คอยปรับปรุงแก้ไข เผลอหลุดแผนที่ตัวเองวางไว้บ้าง แต่ก็ลุกขึ้นมาเริ่มใหม่เสมอๆ เจอปัญหาก็ แก้ไปเป็นจุดๆ ในการที่มีเป้าหมาย และแบบแผนที่ชัดเจน ทำให้ คนทำ รู้สึกว่ามันต้องเป็นไปได้แน่ๆ ถ้าลงมือทำตามนี้ เริ่มสนุกกับ การทำสำเร็จไปตามแผนไป เป็นขั้นๆ ไม่รีบ ค่อยๆทำไปทีละขั้น ไม่กดดันตัวเองมากเกินไปจนเหนื่อย
เชื่อว่า ในปัจจุบันนี้ นักเรียน ม.ต้น/ม.ปลาย และรวมถึง นักศึกษาก็ด้วย อาจจะยังไม่รู้ถึงสิ่งตัวเองชอบ และคอยหาอยู่แต่ก็ยังไม่รู้ว่า มันจะเวิร์คไหม ยังมีความลังเล ไม่มั่นใจ ถึงประโยชน์ของ สิ่งนั้นๆ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องใครมาบอกก็คงจะรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ขอ แนะนำให้ไป หาเว็บที่สำหรับทดสอบ สิ่งชอบ อาชีพที่ชอบ ใน Google ก็ได้ แต่ก็ไม่ต้องเชื่อ100%
บางคนก็มีสิ่งที่คิดว่าตัวเองชอบสิ่งนั้นแล้วจริงๆ ขอย้ำว่า "คิดว่า" อาจจะชอบนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าความชอบที่ว่านั้นมัน เป็นกระแสสังคมที่ เข้ามากระทบหู จนดูดซับไปหรือเปล่า เพราะนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ชอบจริงๆ แต่ว่าบางคน ก็ถูกกรอกหูจนเกิดชอบ ขึ้นมาจริงๆ ก็มีเหมือนกัน แต่ใดๆคือ ความชอบต้องมาจาก สิ่งที่คุณอุ่นใจแล้วว่า ทำอย่างนี้ ต้องเป็นสุขแน่ๆ เช่น:- ในกรณีผม จะชอบสิ่งๆนั้นได้ ผมต้องอุ่นใจว่า สิ่งชอบนั้น มันเกิดประโยชน์ต่อผมในด้านใด จะเป็นผลดียังไง; แต่อย่างไรก็ตาม ความอุ่นใจเนี่ยแหละ ที่จะทำให้ คุณรู้สึกชอบมันขึ้นมา เพราะมันให้สุขแก่คุณ ฉะนั้น ก่อนจะเกิดความชอบ สิ่งที่จะเกิดก่อนคือ ความอุ่นใจ ความชอบจึงตามมา และในเมื่อรู้ว่า แล้วว่าสิ่งนั้นคือ สิ่งที่ตัวเอง อุ่นใจจริงๆ ชอบจริงๆ แล้วค่อย เริ่มลงมือทำ อย่าได้รอให้มันเกิดเอง เพราะมันจะช้า ชีวิตคนเราสั้นมากๆนะ
(ถ้าเทียบกับสมัยพุทธกาล แหะๆ😅 ) ให้เริ่มทำอย่างใจเย็นๆ และสนุก happy ไปกับ ทุกๆเป้าหมายเล็กๆน้อยๆ
ส่วนใครที่หายังไม่เจอ ก็.. ขอให้หาเจอกันทุกคนน๊าาาา><
เป้าหมายที่ชัดเจน ช่วยให้ไปถึงไปเป้าหมายนั้นเร็วขึ้น จริงหรือมั่ว มาแชร์กันหน่อย.. :)
1. จำพวกที่ยังไม่รู้เป้าหมายตัวเอง ตอนใกล้จะจบแล้ว คือ เป็นนักศึกษาใกล้จะเรียนจบหลักสูตร แต่พอเรียนมา ก็ทำงานไปตาม สิ่งที่เรียนมา อาจจะไม่ได้ชอบ ทำๆไปเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองไปวันๆ ซึ่งสาเหตุที่เลือกมาเรียนก็อาจจะเป็นไปได้หลาย เหตุผล สรุปง่ายๆคือ เป็นสาย ปล่อยจอย อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็ให้เกิดๆไป เป็นผู้ที่รอโอกาส ให้มาถึง หรืออาจจะหา โอกาส สิ่งที่ชอบอยู่แต่ยังไม่เจอ
2. จำพวกที่เป้าหมาย ครุมเครือ ไม่ชัดเจน เช่น ต้องการจะ เรียน"เพื่ออยากจะ เป็นหมอ" บอกแค่นี้;-; รู้แค่ว่าอยากเป็นหมอ ก็เรียนๆไป โดยไม่รู้ว่า จะทำยังถึงจะได้เป็น เรียนไปเฉยๆ สรุปง่ายๆคือ ตั้งเป้าไว้ แต่ไม่ได้ลงมือทำให้ได้เห็นอะไรมากนัก
3.จำพวก ที่รู้เป้าหมายของตัวเองแบบ ชัดๆ แจกจำแนก เป้าหมายออกมาเป็น แบ่งเป็นชั้นๆ มีแผนเพื่อไปถึงเป้าหมาย รู้เลยว่า 1ต้องทำอะไร 2 ต้องทำอะไร เป็นคนรอบคอบในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเป็นเบาะแส ให้สามารถไปถึงเป้าได้
ทั้ง3 จำพวกนี้ ล้วนพัฒนามาจาก 1-2-3 ไปเป็นลำดับ ทุกคนต้องผ่านจุดที่ไม่รู้มาก่อน ว่าตัวเองต้องการอะไร ทั้งบางคนที่ ปล่อยจอย ในวันหนึ่งเมื่อเจออะไรสักอย่างที่ใช่ ก็รู้สึกมีฝันขึ้นมา
"เอ๊.. น่าสนใจดีนี้น๊า..><"
จนเป็นเป็นเหตุให้เข้าสู่จำพวกที่2 ที่มีสิ่งที่ชอบแล้ว แต่ก็แค่ชอบไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้น ยังใช้ชีวิตไปวันๆ รอโอกาส
"อันนี้น่าสน ถ้าได้เป็นดูคงดี ไม่ใช่น้อยเลยแหละ ^-^ "
และแล้วในวันหนึ่ง เขาก็ได้ตระหนักถึงว่า โอกาส ถ้าไม่มีแค่ก็ต้องสร้างมันขึ้นมาเอง จะไว้กว่า จนนำไปสู่การเป็น..
จำพวกที่3 อยากที่ทำสิ่งที่ชอบนั้นจริงๆจังๆ เลยเริ่มมีไฟ 🔥 ในการศึกษา หาข้อมูลต่างๆนาๆ เพื่อที่จะไปถึงเป้าหมาย เริ่มมีความคิดแล้วว่า เป้าหมายนั้น เป็นประโยชน์ต่อตนเองในด้านใดบ้าง
-ทำให้มีความสุขไหม??
-ทำให้ มั่งคั่งไหม??
-ทำให้ชีวิตดีขึ้นไหม??
-ตรงตามความชอบ บุคลิกตนเองจริงไหมๆ หรือแค่ชอบเพราะ กระแสสังคม,คนแนะนำ,??
-ได้หลอกตัวเองไหมว่าชอบสิ่งๆนั้น???
เมื่อคำถามเหล่านี้หมดไปจากหัว ก็เริ่มที่จะ หาวิธีให้ไปถึงไปเป้าแล้ว เช่น:- เป้าหมายคือการที่จะได้เรียนอยู่ ในมหาวิทยาลัยดีๆ เพื่อที่จะสร้างคุณค่าด้านความรู้ ให้ตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น ก็เริ่มหาแล้วว่า มหาวิทยาลัยไหนที่ เหมาะกับตัวเอง ทั้งงบ และอีกหลายๆปัจจัย การสอบเป็นยังไง สิ่งที่ต้องเตรียมคืออะไร แล้วสิ่งไหนที่เริ่มลงมือทำได้เลย ตอนนี้บ้าง.. เมื่อเริ่มทำก็ได้เห็น ผลลัพธ์ต่างๆนาๆ ทั้งด้านดี ด้านลบ คอยปรับปรุงแก้ไข เผลอหลุดแผนที่ตัวเองวางไว้บ้าง แต่ก็ลุกขึ้นมาเริ่มใหม่เสมอๆ เจอปัญหาก็ แก้ไปเป็นจุดๆ ในการที่มีเป้าหมาย และแบบแผนที่ชัดเจน ทำให้ คนทำ รู้สึกว่ามันต้องเป็นไปได้แน่ๆ ถ้าลงมือทำตามนี้ เริ่มสนุกกับ การทำสำเร็จไปตามแผนไป เป็นขั้นๆ ไม่รีบ ค่อยๆทำไปทีละขั้น ไม่กดดันตัวเองมากเกินไปจนเหนื่อย
เชื่อว่า ในปัจจุบันนี้ นักเรียน ม.ต้น/ม.ปลาย และรวมถึง นักศึกษาก็ด้วย อาจจะยังไม่รู้ถึงสิ่งตัวเองชอบ และคอยหาอยู่แต่ก็ยังไม่รู้ว่า มันจะเวิร์คไหม ยังมีความลังเล ไม่มั่นใจ ถึงประโยชน์ของ สิ่งนั้นๆ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องใครมาบอกก็คงจะรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ขอ แนะนำให้ไป หาเว็บที่สำหรับทดสอบ สิ่งชอบ อาชีพที่ชอบ ใน Google ก็ได้ แต่ก็ไม่ต้องเชื่อ100%
บางคนก็มีสิ่งที่คิดว่าตัวเองชอบสิ่งนั้นแล้วจริงๆ ขอย้ำว่า "คิดว่า" อาจจะชอบนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าความชอบที่ว่านั้นมัน เป็นกระแสสังคมที่ เข้ามากระทบหู จนดูดซับไปหรือเปล่า เพราะนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ชอบจริงๆ แต่ว่าบางคน ก็ถูกกรอกหูจนเกิดชอบ ขึ้นมาจริงๆ ก็มีเหมือนกัน แต่ใดๆคือ ความชอบต้องมาจาก สิ่งที่คุณอุ่นใจแล้วว่า ทำอย่างนี้ ต้องเป็นสุขแน่ๆ เช่น:- ในกรณีผม จะชอบสิ่งๆนั้นได้ ผมต้องอุ่นใจว่า สิ่งชอบนั้น มันเกิดประโยชน์ต่อผมในด้านใด จะเป็นผลดียังไง; แต่อย่างไรก็ตาม ความอุ่นใจเนี่ยแหละ ที่จะทำให้ คุณรู้สึกชอบมันขึ้นมา เพราะมันให้สุขแก่คุณ ฉะนั้น ก่อนจะเกิดความชอบ สิ่งที่จะเกิดก่อนคือ ความอุ่นใจ ความชอบจึงตามมา และในเมื่อรู้ว่า แล้วว่าสิ่งนั้นคือ สิ่งที่ตัวเอง อุ่นใจจริงๆ ชอบจริงๆ แล้วค่อย เริ่มลงมือทำ อย่าได้รอให้มันเกิดเอง เพราะมันจะช้า ชีวิตคนเราสั้นมากๆนะ
(ถ้าเทียบกับสมัยพุทธกาล แหะๆ😅 ) ให้เริ่มทำอย่างใจเย็นๆ และสนุก happy ไปกับ ทุกๆเป้าหมายเล็กๆน้อยๆ
ส่วนใครที่หายังไม่เจอ ก็.. ขอให้หาเจอกันทุกคนน๊าาาา><