เรื่องผีตอนทำหนัง

เรื่องราวของเราเกิดขึ้นเมื่อปี 2566 เนื่องจากอาจารย์ให้เราทำหนังช่วงเรียนซัมเมอร์ตอนปี 1
พวกเราทำหนัง #Thriller  ก็คือแนวระทึกขวัญ นั่นแหละ...
ทีแรกที่ดูไว้ไม่ได้ตั้งใจจะใช้โลเคชั่นที่นี่ แต่เพราะว่าโลที่เลือกไว้มีเหตุการณ์ที่ต้องปรับเปลี่ยนไป เนื่องด้วยปัญหาของการพูดคุยคำพูดของเจ้าของโลเคชั่นนั้น เพื่อนๆในกลุ่มจึงหารือพูดคุยกันจึงเลือกโลเคชั่นนี้ (โลเคชั่นที่โดนผีหลอก)

ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเป็นคนที่เขียนเล่าเรื่องไม่เก่งอาจจะเขียนวกไปวนมาบ้าง ต้องขออภัยกับผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเราด้วย จะพยายามเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจและก็ชับมากกว่านี้ และจะฝึกฝนศึกษาจากบุคคลที่มีประสบการณ์ในภายหลังจากนี้ (เนื้อหาที่สำคัญสามารถข้ามไปอ่านที่บรรทัดที่ 5 ได้เลย)

ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงไม่เลือกโลเคชั่นที่ไปดูและที่เลือกไว้แล้ว ที่ไม่เลือกก็เพราะว่าเจ้าของหอพักที่เราไปดูนั้นพูดกับพวกเราไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก่อนหน้าที่เราไปดูทีมหาโลเคชั่นก็ได้พูดคุยและทำข้อตกลงในแชททางหอพักไปแล้ว ทางเจ้าของหอพักเองก็รับทราบดี พวกเราเองก็เป็นแค่กลุ่มนักศึกษาที่มาถ่ายหนังเพื่อส่งงานอาจารย์เท่านั้นไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ไม่ได้จะมาทำให้หอพักของเขามีภาพพจน์หรือชื่อเสียงที่ทำให้เสียหายอะไร ในส่วนนี้เราก็ได้อธิบายให้เจ้าของหอพักได้รับทราบแล้ว ว่าเราทำหนังระทึกขวัญนะ เจ้าของหอพักเขาอาจจะไม่โอเคในเรื่องนี้ด้วย เพราะว่าพวกเราอาจจะใช้ลิฟต์ด้วยแหละมันอาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆเช่น ผู้พักอาศัยคนอื่นๆด้วย แต่เจ้าของหอพักก็สามารถใช้คำพูดหรือว่าการปฏิเสธอะไรที่ดีกว่านี้ก็ได้ เรื่องคำพูดอาจจะนานแล้วเราก็จำรายละเอียดไม่ค่อยได้ นั่นแหละปัญหา ขอไม่บอกชื่อหอพัก นะ TT

และที่เลือกหอพักนี้ (หอพักที่โดนผีหลอก) เพราะว่าเจ้าของหอพักพูดดีเข้าใจกลุ่มนักศึกษา เนื่องจากก็เคยมีรุ่นพี่มาถ่ายทำที่เหมือนกันแต่นานมากๆแล้ว ก่อนหน้าที่ไม่ได้เลือกสถานที่นี้เพราะรูปแบบการจัดห้องของหอพักและติดปัญหาเรื่องเฟอร์นิเจอร์อะไรต่างๆ ด้วยหลายอย่าง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้กำกับด้วยที่เลือก

เรื่องราวมีอยู่ว่า....
ก่อนหน้าที่จะถ่ายทำจริง ทีมกล้องทีมซาวด์และผู้กำกับก็ได้เข้าไปดูสถานที่จริงกันแล้ว Block shot อะไรมากันเสร็จสับ ทุกคนต่างบอกว่าสถานที่นี้แหละบรรยากาศเข้าท่าที่สุด และแล้วมันก็มาถึงวันที่พวกเราถ่ายทำกันพวกเราก็นัด On location ตั้งแต่ 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกเย็นแล้ว บรรยากาศสถานที่คือ Mood&Tone มันเข้ามาก นี่แหละเหมาะกับการทำหนังผีสุดๆ ช่วงพบค่ำยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก แต่มันกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ช่วงประมาณ 22.00 น. เป้นต้นไป คือพวกเราได้แบ่งตำแหน่งหน้าที่กันไว้อยู่แล้วว่าทีมไหนอยู่ข้างนอกห้องทีมไหนอยู่ข้างในห้อง ข้างนอกก็คือถ่าย Scene ในลิฟต์ข้างในห้องก็คือเซ็ตอะไรไว้รอเพื่อที่จะถ่าย Scene ต่อไป ซึ่งเราผู้เล่าเรื่องนี้ก็ได้อยู่โซนข้างนอกห้องกับเพื่อนๆ คนอื่น
ก็จะมีเพื่อนเราอีกทีมคืออยู่ข้างในห้อง มันบอกว่าได้ยินเสียงคนเคาะประตูมาจากด้านนอกประมาณ 2-3 ครั้ง มันก็เดินไปเปิดประตูดูก็ไม่เจอใครที่อยู่หน้าประตูเลย มันก็เลยปิดประตูแล้วเดินกลับมานอนที่เตียงกับเพื่อนคนอื่นๆ สักพักก็ได้ยินเสียงเคาะอีก 2 ครั้ง รอบนี้มันก็เลยไม่เดินไปเปิด พอสักพักประตูมันเปิดเองแบบอัตโนมัติ เปิดเองแบบ งงๆ ทั้งๆที่เป็นประตูที่มีลูกบิดและมีกลอนล็อคประตูด้วย ตอนที่เพื่อนเล่าก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกจนได้เจอกับตัวเอง
ของเราก็คือมาสั้นๆ แต่เสียวจนขนลุก เราทำอาร์ตกับพร็อพในตำแหน่งเดียวกัน ตอนนั้นเพื่อนบอกเราว่าเดี๋ยว Cut ต่อไปต้องใช้เลือดนะ เราจึงเดินออกไปข้างนอกห้องเพื่อที่จะทำเลือดกับเพื่อนที่ทำอาร์ตด้วยกัน 2 คน เพื่อนอีกทีมได้ถ่าย Scene ข้างนอกเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้กำลังไปถ่ายข้างในห้อง
ระหว่างที่ผสมอยู่เรารู้สึกว่าเลือดปลอมมีน้อยว่าจะผสมเผื่อไว้ จึงให้เพื่อนอีกคนเข้าไปเอาน้ำเปล่าข้างในห้องมา ส่วนเราเดี๋ยวรออยู่ข้างนอกเอง หลังจากที่ผสมอะไรเสร็จเราก็อาสาที่จะทำความสะอาดหยดเลือดปลอมที่หกนิดหน่อยอยู่ข้างนอก เราอยู่นอกห้องคนเดียว ส่วนเพื่อนก็เอาเลือดที่ผสมแล้วเข้าไปในห้องส่วนเราอาสาทำความสะอาดข้างนอกเช็ดอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง ทีนี้แหละเราเปิดเข้าไปไม่ได้มันเหมือนประตูถูกล็อคไว้จากข้างใน เราก็เลยเคาะประตูให้เพื่อนข้างในเปิดให้ เพื่อนก็เปิดให้เราเข้าไป เพื่อนถามว่าประตูเปิดไม่ได้หรอ เราบอกว่าใช่ ประตูไม่ได้ล็อคอยู่หรอ เพื่อนบอกว่าประตูไม่ได้ล็อคนะ (หรือว่าประตูเสียงั้นหรอ) เพื่อนคนที่เปิดประตูให้เราเข้ามาเป็นทีมไฟที่กำลังเซ็ตขาตั้งไฟกันอยู่ จังหวะที่เราหันหลังให้เพื่อนกำลังจะปิดประตู เรารู้สึกรับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างมาแตะที่ไหล่เรา 3 รอบ จำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี ที่แรกก็ไม่เชื่อว่าใช่ "ผี" ลึเปล่า ก็เลยหันไปบอกว่าไม่เล่น ได้แตะเรียกกูลึเปล่า เพื่อนก็ทำหน้า งง เราก็เลยถามซ้ำอีกรอบ เพื่อนบอกไม่ได้แตะจริงๆ เรานี่เหวอเลย ข้างหลังเราก็มีแค่สองคนนั้น (เพื่อนทีมไฟ) จะเป็นคนอื่นก็คงไม่ใช่เพราะเพื่อนคนอื่นอยู่ห่างจากเราเลยเรียกว่าห่างกันคนละทิศเลย

หลังจากที่เลิกกองเสร็จก็มีเพื่อนผู้ชายที่จะอยู่ที่นี่ต่อ เพราะว่าจะดื่มกันส่วนเพื่อนผู้หญิงก็แยกย้ายกลับก่อน เรากับเพื่อนคนอื่นก็กลับไปนอนที่คอนโดกัน เราก็เลยเล่าเรื่องที่เราเจอเมื่อกี้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็เล่าต้องที่มันได้ยินเสียงคนเคาะประตูให้ฟังสรุปแล้วพวกเราคงเจอดี
เวลาล่วงเลยผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงสักพักเพื่อนเราอีกคนที่เป็นผู้ชายก็โทรมาถามว่าพวกเรานอนกันยัง พวกเราผู้หญิงยังไม่ได้นอน ว่าจะออกไปซื้อพวกของสดมาทำกับข้าวกัน เพื่อนเราผู้ชายก็เลยขออนุญาตไปกินด้วยที่ห้องได้ไหม เจ้าของห้องก็ไม่ตติดอะไรกก็เลยให้มานั่งดื่มกินอะไรกันที่ห้องได้พอเพื่อนมาถึงที่คอนโดก็เลยถามว่าเจออะไรกันมาใช่มั้ย "มันบอกใช่" มันเล่าว่าพวกมันก็ดื่มกันปกตินั่นแหละ จู่ๆ แอร์ก็เสียงดังขึ้นมา ทั้งๆที่ ตอนถ่ายทำหนังก็เปิดปกติไม่มีเสียงดังอะไรเกิดขึ้นเลย จู่ก็เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ นั่งดื่มนั่งคุยกันไปสักพักอยู่ๆไฟก็ตก พวกมันทนไม่ไหวก็เลยเก็บของหนีลงมา ก็เลยโทรมาหาจะมาขอกินด้วยที่คอนโด นั่นแหละ

~จบ~

คือเราอยากแนะนำกับกลุ่มนักษาที่ไปถ่ายทำสถานที่ข้างนอกว่า เวลาไปถ่ายทำสถานที่ข้างนอกหรืออะไรก็ตามแต่ ให้ทำใบขออนุญาตส่งให้ทางมหาวิทยาลัยและทำใบขออนุญาตถ่ายทำสถานที่ข้างนอก ชื่อสถานที่นั้น เขต เมือง ฯลฯ ให้เรียบร้อยก่อน เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาทางมหาวิทยาลัยก็จะได้รับทราบและสามารถแก้ไขอะไรได้ มันสำคัญมาจริงๆนะ 

#ทำหนังระทึกขวัญดันเจอผี #เล่าเรื่อง #เล่าเรื่องผี #เรื่องผี #ประสบการณ์ขนหัวลุก #หาโลเคชั่นดีๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่