ทำงานปกติและปฏิบัติธรรมอยู่บ้าน บรรลุโสดาบันได้ไหม?

ผมว่าพวกนี้อ่านตำรามากไปโดยไม่ดูความจริง
ไม่อยู่กับร่องกับรอย คนพูดว่าไม่ต้องบวชปฏิบัติธรรมอยู่บ้านก็บรรลุโสดาบันได้ นี่พูดเกินจริง จินตนาการเอา เพ้อเจ้อ เพ้อฝันเอา
เพราะร้อยทั้งร้อยตัวคนพูดยังไม่บรรลุธรรมอะไรเลยด้วยซ้ำมั้ง
ยิ่งนอนกอดเมีย กอดลูก แล้วมาพูดอย่างงี้นี่หมดความน่าเชื่อถือเลย กลายเป็นคำพูดไร้ค่า หมดราคา ให้ราคาไม่ได้เลยสักแดงเดียว

เพราะอะไรล่ะ ก็ดูชีวิตประจำวันสิตื่นมาก็ต้องไปทำงาน เลิกงานมาก็มีเวลาปฏิบัติธรรมน้อยมาก
ไม่ต้องพูดนะว่าปฏิบัติธรรมได้ทุกเวลา พวกฆราวาสมันทำไม่ได้จริงหรอก หยุดหลอกตัวเอง หลอกคนอื่นได้แล้ว
ถ้าทำได้จริงป่านนี้พวกนี้ก็บรรลุธรรมกันไปหมดแล้วสิ แต่นี่ไม่เลย ยังคงหวังลมๆ แล้งๆ ยกคนในตำราสมัยพุทธกาลมาอ้างเพื่อปลอบใจ
ปลอบประโลมตัวเองอยู่ร่ำไป

แต่ถ้าเป็นฆราวาสไม่ทำงาน หรือมีเวลาปฏิบัติธรรมเยอะ
ปฏิบัติธรรมทั้งวันก็ว่าไปอย่าง อย่างงี้มีสิทธิ์บรรลุธรรม เหมือนพวกชาววัด โอกาสไม่ต่างกันเท่าไหร่
ถ้าอยู่บ้านบรรลุธรรมได้ง่ายๆ เค้าคงไม่ขวนขวายไปอยู่วัดกันหรอกจริงมั้ยครับ

หรือเอาง่ายๆ ขอตัวอย่างสักชื่อฆราวาสทำงานปกติ แต่บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน มีไหม? ไม่นับพวกไม่ทำงานนะ หรือพวกว่างจัดนะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
คุณ จขกท. ไปตั้งคำถามที่ยากๆข้ามขั้น ทำไมกัน ?

...คล้ายๆ คนป่าจากอะเมซอน ออกจากป่ามา เริ่มเรียนพูดภาษามนุษย์ในเมือง แล้ว ตั้งคำถามว่า " ผมจะเรียนจบปริญญาตรีได้ไหม ? " ... คำตอบต่อมันคือ " แกไปเรียน ก ไก่ ข ไข่ บวก ลบ คูณ หาร จนจบ ป. ๖ ให้ได้ก่อน "
...ทำนองเดียวกัน  คุณ จขกท. ถามตนเองก่อนว่า จำฝึกยังไง ให้ได้จิตรวมลงเป็นสมาธิได้ก่อน ?
...เมื่อใดคุณสามารถฝึกสมาธิ จนเข้าออกได้ชำนาญ จึงค่อยมาถามว่า แล้วจะพิจารณายังไงต่อ ...ถ้าคุณสามารถฝึกพิจารณาเป็นหลังจากได้สมาธิดีๆแล้ว ..ต่อจากนั้นจึงค่อยถามว่า จะทำยังไงต่อให้ได้บรรลุโสดาบัน
...ก็เหมือนคนป่าคนนั้น หลังจากมันเรียนจบ ป.๖ มันก็ต้องถามต่อว่า จะเรียนยังไงให้จบชั้นมัธยม ..ถ้ามันเรียนจบ มันจึงค่อยถามต่อว่า จะเรียนต่อปริญญาตรีได้ยังไง ?...
คุณไปฝึกให้ได้ฌาน ชำนาญ ก่อนอื่น แล้วค่อยมาถามว่า มีวิธียังไงต่อเพื่อบรรลุถึงโสสดาบัน..อย่าข้ามขั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่