[CR] ดูหนัง Borderlands แล้วมารีวิวเรื่องนี้ท่ามกลางกระแสลบ

ต้องขอเกริ่นนำก่อนนะว่านี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของผม อาจจะตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ขอลองรีวิวหน่อยนะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

สำหรับข่าวคราวหนังเรื่องนี้เท่าที่หาข้อมูลใน Wiki มา
Borderlands เป็นหนังที่มาจากเกม Borderlands ซึ่งภาคแรกก็ได้รับผลการตอบรับดีมาก และเมื่อภาคที่ 2 ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2012 ก็คว้ารางวัล Game Of The Year ได้ในหลายสาขา นั้นก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ในเวลาต่อมา Borderlands ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะนำไปสร้างภาพยนตร์เมื่อปี 2015  กว่าจะเขียนบทเสร็จก็ใช้เวลา 4 ปี แต่ก็ต้องมาซวยตรงที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์โรคระบาด COVID อีก หนำซ้ำมีการปรับบทไปมา เปลี่ยนผู้เขียนบทบ้าง ถ่ายทำในช่วงโควิดบ้าง จนกว่าจะเสร็จสิ้นทุกอย่างและปล่อยออกมาตอนเดือนสิงหาคม ปี 2024

ผมเองก็เป็นแฟนเกมของเกมนี้ เล่นมาตั้งแต่ Borderlands 2, Borderlands: The Pre-Sequel, Borderlands 3 และก็ภาคย่อยอย่าง  Tiny Tina's Wonderlands ก็พอจะบอกบ้างอะไรเป็นอย่างไร เหตุการณ์ไหนเป็นอย่างไร เมื่อเห็นภาคของหนังที่จะฉายออกมา เห็น Trailer แล้วก็บอกว่า ทำไม Lilith ดูแก่จัง และยังรวมไปถึง DR. Tannis ที่ดูแก่จะเป็นคุณป้าแล้ว มันดูไม่ใช่ มันทำร้ายแฟนเกมอย่างผม แต่เมื่อมาดูรายชื่อนักแสดง เขาบอกนะว่า  Cate Blanchett เป็นเจ้าแม่ออสการ์ Kevin Heart เป็นดาราตลกจากจูแมนจี้ และ Jack Black นักแสดงที่ผมชื่นชอบมาพากษ์ Claptrap  ทำให้ผมตัดสินใจต้องไปดูให้ได้

หลังจากที่ไปดูมาเสร็จแล้ว  งั้นสิ่งที่ให้คะแนนบวกคือ 
   1. Action เยอะมาก  อ่อ....ผมลืม ผมดูในรอบ 4DK ผมรู้สึกว่ามันก็คุ้มนะเพราะหนังเรื่องนี้มัน Action เยอะจริง เก้าอี้ก็สั่นแทบจะตกเก้าอี้ เมื่อมีฉากยิงปืน Flash ในโรงหนังก็ส่องวิบวับ ฉากที่ลิลิธสู้กับเคร็กเพื่อจะชิงหนูทีน่า และฉากขับรถทหารฝ่าดงมอนเตอร์นั้น เก้าอี้สั่น โยกไปโยกมา นึกว่าอยู่ในสวนสนุกเสียอีกซึ่งนั้นก็ให้คะแนนในส่วนนี้   
   2.  คอสตูมที่มันใช่ เหมือนเก็บรายละเอียดมาใส่เต็มที่ ดูผมสีแดงของ lilith สิปาดยังกะหลุดออกมาจากเกม คอสตูมของพวกกีกี้ (ในเกมไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แต่ผมขอเรียกกีกี้ล่ะกัน เพราะมันบ้าคลั่งเหมือนกับพวกกีกี้ในขบวนการมนุษย์ห้าสี)  ที่จัดมาใช่เลย  ทีน่าร์ก็แปะปาสเตอร์ ใส่หูกระต่าย และมีพร๊อพกระต่ายอีก มันใช่  ผมของเทนนิสจัดทรงได้ดี แต่เสียดายที่เป็นผมขาว ลิลิธก็มีปีก มันก็ใช่  เอ๊ะ Vault Key ก็ใช่อีก  ยานพาหนะขับขี่ (ที่ไม่ใช่รถทหาร) ก็ใช่อีก ตอนเดินทางด้วยรถกระป๋องนั้น มันก็ใช่  สถานที่ Fyrestone , Sanctuary   ก็ใช่ คือผมรู้สึกได้ว่านี่เคารพในตัวเกมมากนะ

แต่สิ่งที่ติดลบ
  1. อย่างแรกเลยก็คือการแคสตัวนักแสดงที่ดูแก่เกินไป คือมันทำร้ายจิตใจมากเลย ดังที่ผมเกริ่นไว้ก่อนแล้ว 
  2. อย่างที่สองการแนะนำชื่อตัวละคร ในเกมมันเป็นฉากเท่ห์และมีฉายาของเขาด้วย แต่ตัวหนังกลับไม่มี มันหมดความเท่ห์ของตัวละครไปเลย
  3. อย่างที่สามคือรายละเอียดบางอย่างขาดหายไป และการใส่รายละเอียดที่เกินเกม อย่างเช่น ในเกมน้อง Tina เขาจะมีความสัมพันธ์กับ Rolands มากกว่า Kreig อีก แต่ในหนัง Kreig ดูแลแทบจะเป็นพี่น้องกันเลย และประวัติอย่างน้อง Tina นี่ทำเอาผม ห๊ะ!!  คือเธอเป็นลูกของ Atlas เมื่อไหร่ และเธอมาหลอกผู้ชมว่า เนี่ยพ่อเธอใช้หินวิเศษ สร้างร่างโคลนมาอย่างนี้ อย่างนั้น แล้วเธอก็บอกว่า ฉันคือ The Key ของ Vault  ซึ่งผมก็ห๊ะ ในเกมมันมีอย่างนี้ด้วยเหรอเนี่ย คือทำไมเธอมั่นอกมั่นใจเป็นพิเศษเหลือเกิน ว่าฉันใช่ ในเกมเธอเป็นแค่ NPC ที่เป็นเด็ก 13 ปีที่ชอบเล่นกระต่ายระเบิดเท่านั้นนะ ซึ่งตอนที่เธอเปิด The Vault ผมก็แปลกใจ เธอจริงๆ ใช่ไหม แน่ใช่ไหม ถ้าเธอเปิดได้เนี่ย จะด่าค่ายหนังแหลกแน่ๆ แต่ก็รอดไป
  4.  อย่างที่สี่คือ ฉาก lilith ยิงปืนไฟ คือฉากแบบนี้มันอะไรกันฟร่ะเนี่ย แถมฉากที่ Claptrap ปล่อยของเสียออกมาเป็นกระสุน แล้วนักแสดงหัวเราะ ทำไมเขาหัวเราะ แต่ผมงง   ( หลังจากค้นหาคำตอบมา ก็เจอว่า ผู้กำกับมีสนัขเฟรนบลูด๊อก แล้วเขาไปถ่ายน้องหมาของเขาที่กำลังถ่ายอุจาระ แล้วมันทำหน้าเขิน เขาบอกว่านั่นแหละคือ Claptrap) ผมก็อ่อ...มุกฝรั่ง 
  5.  อย่างที่ห้าคือ มุกตลกของหนังเรื่องนี้มันฝืด จะเห็นได้ชัดในทีเซอร์ฉี่มอนสเตอร์เข้าปาก, หรือ Claptrap ไม่ได้ตั้งโปรแกรมปีนลงบันได ซึ่งมันไม่ตลกเลย  แต่มันมีฉากเดียวที่ทำให้ตลกได้คือ หุ่น Claptrap มันพูดจายี่ยวนใส่พวกกีกี้นั้นแหละ       
    6.  สุดท้าย ก็คือ จริงๆ แล้ว Tina กับ Claptrap ในเกมมันบ้าคลั่งกว่านี้อีกนะ แต่ในบทหนังมันอ่อนด้อยมากกกกก.. Claptrap ในเกมมันชอบทำอะไรที่ทำให้ผมอยากจะด่ามันมาก อยากกระทืบมันมาก แต่ในบทหนัง มันไม่ใช่ 

    โดยรวมแล้ว ผมเองก็แฟนเกมนี้ แต่ก็มีกระแสลบเหลือเกิน ก่อนดูเลย ผมก็พยายามท่องจิตว่า อย่าไปคาดหวังอะไรให้มันมาก อย่าไปฟังคำวิจารณ์ ต้องถอดสมองก่อนดู ไม่งั้นแล้วจะมาบอกว่าอันนั้นห่วย อันนี้ก็แย่ ไม่ได้ดั่งใจ และมาอุปทานหมู่เหมือนกันว่า หนังมันห่วย อย่าไปดูมันเลย แต่ก็ผิดคาด ผมก็มองว่าพวกเขาทำออกมาไม่ได้แย่อะไรเลยนะ ถ้าเทียบกับหนังที่มาจากเกมพวกเขาก็เคารพในตัวเกมมากกว่าอีก  แต่ผมคิดว่าคนที่ไม่เคยเล่นเกมก็อาจจะงงเยอะเลยว่าทำไมหนังมันจึงมาเป็นอย่างนี้ แล้วมันสนุกตรงไหน แค่ออกผจญภัย สุดท้ายเปิดห้องได้ แล้วจบแบบอะไรกันเนี่ยยยยยย lilith ได้พลังดั่งเทพจุติ ก็ไม่เห็นจะว้าวตรงไหนเลย  นี่มันอะไรกันว่ะ ผมเข้าใจ ผมเข้าใจครับ ผมก็เข้าใจทำไมมีมุมมองอย่างนั้น หรือบางคนเล่นมา ก็ยิงๆ กันไปเรื่อยๆ เอามันส์อะไรประมาณนั้น เพราะตัวเกมมันเน้นยิงไปเก็บของไปเรื่อยๆ  ก็เข้าใจนะ

   ดังนั้นในแถนะ...เอ้ยในฐานะที่ผมชื่นชอบเกมนี้  ในเวอร์ชั่นภาคนี้ก็เลยให้ 4 เต็ม 5 นั้นแหละ จะเรียกว่าอวยก็ว่าได้ เพราะผมก็เข้าใจว่านี่มันภาคแรก ก็ต้องมีการคุมงบ คุมนักแสดง คุมนั้นนี้ แถม CG ก็ใหญ่อีก ก็เออมาได้ถึงขนาดนี้ก็ดีนะ

   และขอทิ้งท้ายไว้ว่า ผมคิดว่าเหตุผลที่เขาต้องจบอย่างนั้น เพราะผมมองว่าผู้กำกับยังบอกว่ามันยังมีภาคต่อไปอีก  ทำไมน่ะเหรอ...หรือไม่ได้สงสัยใช่ไหมใน Vault คืออะไร และมอนสเตอร์ใน Vault คือตัวอะไร  ผมไม่อยากเฉลย ถ้าอยากรู้ต้องไปเล่นเกมนะ แต่ก็นั้นแหละ....ถ้าทีมงานสร้างหนังเขาเห็นรายได้แบบนี้ก็ทิ้งโปรเจคก์ปล่อยให้เป็นปริศนาต่อไปล่ะกัน 

ปล. ผมอดใจรอเล่น Borderlands ภาคต่อไปไม่ไหวแล้วสิ อยากกลับไปเล่นอีกรอบ
ชื่อสินค้า:   Borderlands
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่