อาภรณ์ นครปฐม นักศึกษาจบใหม่ 2 ปีแล้ว เธอยังไม่ได้ทำงาน หาใช่ด้วยว่า ไม่มีใครรับเธอเข้าทำงาน แต่หากเธอเลือกงานที่ต้องการ รายได้ดี และคุ้มค่ากับการทำงาน เพราะเธอมองว่า ทำงานรายได้น้อยค่อยๆไต่เต้า คงไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลา เธอจจึง อยู่บ้านเฉยๆ เพราะพ่อแม่พอมีอันจะเลี้ยงเธอแบบสบายๆ โดยพ่อเธอทำงาน อายุ 55 แล้ว ส่วนแม่เธอ 54 เป็นแม่บ้านไม่ได้มีรายได้อะไรเลย เลี้ยง อาภรณ์ กับ น้องชาย ที่กำลังจะเรียนจบอย่างเดียว ซึ่ง อาภรณ์ มักจะมองว่า แม่เธอเป็นคนโบราณ ล้าสมัย ไม่มีตังค์ต้องขอพ่อตลอด เธอไม่อยากเป็นแบบแม่เลย
อาภรณ์มีเพื่อนชื่อ ดาว มยุรา ซึ่งเรียนจบปีเดียวกัน แต่ ดาว แต่งงานเลย และ ตั้งท้องก่อนเรียนจบด้วย พอเรียนจบ แต่งงาน 6 เดือน ลูกก็คลอดแล้ว สรุป ว่า ดาว มีลูกอายุ 1 ขวบครึ่ง และ ดาว ก็เหมือนแม่อาภรณ์ คือ สามีเลี้ยงอย่างเดียว ปล่อยให้ดาว ดูแลลูก ซึ่งทำให้อาภรณ์ รู้สึก ไปทางดูถูก ดาว หน่อยๆแต่ไม่ได้เอ่ยปากอะไร นอกจากนานๆ โทรคุยกัน เพราะตอนเรียน ดาวมักจะมาบ้าน อาภรณ์ บ่อยๆ และ ชอบคุยกับแม่อาภรณ์มากด้วย
วันนึง อาภรณ์ นั่งดูข่าว ขณะที่แม่ถามอาภรณ์ว่า ทานอะไรไหม อาภรณ์ก็ตอบแบบตั้งแต่ตอนเด็กๆว่า ยังเลย แม่ทำอะไรให้ทานหน่อยเด่ะ ไม่นาน แม่ก็ทำอาหารกับข้าวอร่อยๆ มาให้อาภรณ์ นั่งทานแบบอร่อยๆ ทานเสร็จ อาภรณ์ ก็ไปเล่นคอมพีวเตอร์ หางานต่อ ส่วน แม่ ก็ล้างจาน ก่อน จะไปถามลูกชายว่า หางานได้หรือยัง ลูกชายตอบว่า ได้งานแล้วแม่ แต่กำลังชั่งใจว่า ไปทำดีไหม แบบรายได้น้อยแม่
แม่ถามว่า ที่ทำงงานเป็นอย่างไร มั่นคงไหม และ ตำแหน่งงานเป็นอย่างไร ลูกชายทำได้ไหม และ ไกลไหม แม่ถามอย่างคนมีประสบการณ์
ลูกชายตอบ งานดี ที่ทำงานดี และ ไม่ไกลแม่ แต่รายได้อยากได้เยอะๆ
แม่ยี้มแล้วบอกว่า ก็ลองไปทำก่อนดีไหม ถ้าไม่ดีค่อยหาใหม่ สมัยนี้จบใหม่หางานยากนะลูก ( แม่แนะนำอย่างหวังดี )
สรุป ลูกชายเชื่อแม่ ผ่านไป 6 เดือน เขาชอบงานของเขามาก และ พ้นโปร เขาได้ขึ้นค่าจ้างหน่อยนึง และ พอสี้นปี ขึ้นอีกครั้ง
อาภรณ์ จบมา 2 ปีครึ่ง ยังรองานรายได้ดีๆ แต่น้องชาย เอาตังค์ให้แม่ไปแล้ว 4 เดือน เพราะสองเดือนแรกยังไม่ได้ให้อะไร อาภรณืไม่รู้สึกอะไรเลย ยังคงรอแม่มาถามว่า ทานอะไรหรือยัง ฝนตกระวังเป็นหวัด นอนห่มผ้าด้วย อย่ากลับดึก ขับรถระวังนะ แต่อาภรณ์ก็ไม่ได้รู้สึก มีอะไรแปลก เป็นเรื่องธรรมดาของแม่
จนวันนึง อาภรณ์ ถูกเรียกสัมภาษณ์งาน รายได้มากกว่าน้องชายแต่เธอก็ยังไม่ค่อยพอใจ เธอบอกว่า ขอเวลานึกก่อนว่าจะทำไหม ทำให้ที่ทำงานนั้นอึ้งและ บอกว่า ผมให้คุณ 1 วัน นะ พรุ่งนี้ไม่ตกลง ผมจะรับคนอื่นแล้ว และ อาภรณ์ ก็ยี้มแบบ เชอะ ใส่คนสัมภาษณ์
แต่ พอน้องชายกลับถึงบ้าน ซื้อของมาให้แม่กับพ่อ พ่อชม แม่ชม อาภรณ์ชักจะมีอาการ แปลกๆ เธอจึงโทรไปคุยกับ ดาว เพื่อนเก่า ที่ลูกอายุ 2 ขวบแล้ว
อาภรณ์ : ดาว เราไปทำงานนี้ดีไหม แต่เรายังว่า เราน่าจะได้งานดีกว่านี้นะ รายได้มากกว่านี้
ดาว : ก็ถ้า เธอไม่ชอบแล้วฉันบอกให้ไปทำ เธอจะไปไหมล่ะ
อาภรณ์ : เธอต้องบอกเหตุผลว่าทำไมฉันถึงควรไปทำ ให้มีน้ำหนักหน่อย เพราะเธอก็ไม่ทำอะไรเลยมาสองปีครึ่งเท่ากับฉันแหล่ะ
ดาว ฟังคำนี้ ถึงกับ เลือกสูบฉีดใบหน้า ก่อนจะควบคุมใจเย็นๆ และ ตอบอาภรณ์ ดังนี้
ดาว : คือก็ใช่จ้ะ ฉันอยู่บ้านเลี้ยงลูก ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เลยไม่ได้ไปทำงาน เพราะ ฉันต้องคอยตื่นกลางดึก ตอนลูกร้อง เขาจะทานนมไหม เขาตัวร้อนไหม เขาไม่สบายรึเปล่า เขาทานได้ไหม ฉันต้องทำอาหาร เปลี่ยนผ้าอ้อม เช็ดอึฉี่ ขี้เยี่ยวลูกตลอดทุกวัน และ ฉันต้องเล่นกับเขา พาเขาไปหาหมอ ฉันต้องยังดูแลบ้าน ทำความสะอาด ล้างห้องน้ำ ทำกับข้าว พาลูกไปข้างนอก เจออากาศดีๆ ฉันเลี้ยงลูกจน พูดได้ เดีนได้
แม้เขาจะแค่สองขวบ ฉันก็ยังรู้ว่าเขาชอบทานอะไร ไม่ชอบอะไร กังวลตลอดเวลา ไม่มีชีวีตของตัวเองเลย แต่ฉันเต็มใจทำนะ แม้จะไม่มีรายได้อะไรเลย เป็นงานเต็มเวลา คือ จะว่าไป อาชีพฉันก็คือ เป็นแม่ไง แม่ที่ไม่มีอะไรตอบแทนเลย นอกจากความสุขที่เห็นลูกโตวัน โตคืน แต่ฉันกับสามีก็ช่วยกัน ดูแลนะ แม้จะไม่มีเงีนเดือน แต่ฉันได้ควารมสุขจ้ะ
แล้ว อาภรณ์ สองปีครึ่งมานี้ เธอ ทำอะไรให้แม่เธอบ้าง ?
อาภรณ์ คุยโทรศัพท์กับดาว แต่สายตา ก็กำลังมองแม่ เดีนไปห้องน้องชาย เอาผ้าห่มไปให้ แม่ซักวันนี้ ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆด้วยนะ น้องชายอาภรณ์ กอดแม่ ขณะที ่อาภรณ์ ฟังดาวพูด พร้อมภาพประกอบตรงหน้า อาภรณ์ จึงเงียบ ก่อน ตอบดาวว่า โอเค แล้ววางหูไป ขณะที่ดาว ถอนหายใจก่อนวางสาย กลับไปดูแลลูกต่อ
วันรุ่งขึ้น ตอนก่อนเที่ยง อาภรณ์ โทรไป ตอบตกลงทำงาน โดยเจ้าของที่ทำงานถามว่า ทำไมคุณถึงตกลงทำกับผม เพราะเมื่อวานดูเหมือนคุณจะไม่อยากทำกับเรา ผมต้องการคำตอบตอนนี้ เดี๋ยวนี้
อาภรณ์เลยตอบว่า : งานที่นั่น ดี และ ผลตอบแทนน่าพอใจ และทีสำคัญ เธอเห็นชัดเจนแล้วว่า ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหน ก็คงไม่เท่า งาน เป็นแม่คน ที่แม่เธอทำอยู่มาตลอดหรอกค่ะ เธอจึงอยากขอโอกาสทำงานที่นั่น
เจ้าของที่ทำงาน ฟังแล้ว จากที่เขาตอนแรกไม่อยากจะรับแล้วเพราะอาภรณ์ เหมือนจะเล่นตัวมากไป แต่คำตอบของอาภรณ์ ทำให้เขา หยุดพูดในเรื่องที่เขาอยากจะต่อว่า อาภรณ์ไว้ แล้ว พูดว่า โอเค งั้น พรุ่งนี้คุณมาเซ็นต์สัญญา นะ ผมจะรอ
วางสายเสร็จ เจ้าชองที่ทำงาน ก็ขับรถกลับบ้าน ไปเจอแม่ของเขาที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอดชีวีตเช่นกัน .... พอเขาถึงบ้านนั่งลงที่โซฟา
แม่ก็ออกมาถามว่า ... ทานอะไรหรือยังลูก ?
รักแม่มาก แค่ไหน ให้ทำท่า
กางมือออก บอกออกมา ว่ามากไหม
เด็กน้อยกาง สองข้างแอ่น สุดแขนไป
ว่ารักแม่ มากกว่าใคร ในโลกา
--------------------------------
รักแม่ อย่าลืมดูแลท่าน
คำพูด ดูแลใครไม่ได้
การดูแล คือการลงมือทำ
นะครับ
งานที่ทำด้วยใจอย่างเดียว
อาภรณ์มีเพื่อนชื่อ ดาว มยุรา ซึ่งเรียนจบปีเดียวกัน แต่ ดาว แต่งงานเลย และ ตั้งท้องก่อนเรียนจบด้วย พอเรียนจบ แต่งงาน 6 เดือน ลูกก็คลอดแล้ว สรุป ว่า ดาว มีลูกอายุ 1 ขวบครึ่ง และ ดาว ก็เหมือนแม่อาภรณ์ คือ สามีเลี้ยงอย่างเดียว ปล่อยให้ดาว ดูแลลูก ซึ่งทำให้อาภรณ์ รู้สึก ไปทางดูถูก ดาว หน่อยๆแต่ไม่ได้เอ่ยปากอะไร นอกจากนานๆ โทรคุยกัน เพราะตอนเรียน ดาวมักจะมาบ้าน อาภรณ์ บ่อยๆ และ ชอบคุยกับแม่อาภรณ์มากด้วย
วันนึง อาภรณ์ นั่งดูข่าว ขณะที่แม่ถามอาภรณ์ว่า ทานอะไรไหม อาภรณ์ก็ตอบแบบตั้งแต่ตอนเด็กๆว่า ยังเลย แม่ทำอะไรให้ทานหน่อยเด่ะ ไม่นาน แม่ก็ทำอาหารกับข้าวอร่อยๆ มาให้อาภรณ์ นั่งทานแบบอร่อยๆ ทานเสร็จ อาภรณ์ ก็ไปเล่นคอมพีวเตอร์ หางานต่อ ส่วน แม่ ก็ล้างจาน ก่อน จะไปถามลูกชายว่า หางานได้หรือยัง ลูกชายตอบว่า ได้งานแล้วแม่ แต่กำลังชั่งใจว่า ไปทำดีไหม แบบรายได้น้อยแม่
แม่ถามว่า ที่ทำงงานเป็นอย่างไร มั่นคงไหม และ ตำแหน่งงานเป็นอย่างไร ลูกชายทำได้ไหม และ ไกลไหม แม่ถามอย่างคนมีประสบการณ์
ลูกชายตอบ งานดี ที่ทำงานดี และ ไม่ไกลแม่ แต่รายได้อยากได้เยอะๆ
แม่ยี้มแล้วบอกว่า ก็ลองไปทำก่อนดีไหม ถ้าไม่ดีค่อยหาใหม่ สมัยนี้จบใหม่หางานยากนะลูก ( แม่แนะนำอย่างหวังดี )
สรุป ลูกชายเชื่อแม่ ผ่านไป 6 เดือน เขาชอบงานของเขามาก และ พ้นโปร เขาได้ขึ้นค่าจ้างหน่อยนึง และ พอสี้นปี ขึ้นอีกครั้ง
อาภรณ์ จบมา 2 ปีครึ่ง ยังรองานรายได้ดีๆ แต่น้องชาย เอาตังค์ให้แม่ไปแล้ว 4 เดือน เพราะสองเดือนแรกยังไม่ได้ให้อะไร อาภรณืไม่รู้สึกอะไรเลย ยังคงรอแม่มาถามว่า ทานอะไรหรือยัง ฝนตกระวังเป็นหวัด นอนห่มผ้าด้วย อย่ากลับดึก ขับรถระวังนะ แต่อาภรณ์ก็ไม่ได้รู้สึก มีอะไรแปลก เป็นเรื่องธรรมดาของแม่
จนวันนึง อาภรณ์ ถูกเรียกสัมภาษณ์งาน รายได้มากกว่าน้องชายแต่เธอก็ยังไม่ค่อยพอใจ เธอบอกว่า ขอเวลานึกก่อนว่าจะทำไหม ทำให้ที่ทำงานนั้นอึ้งและ บอกว่า ผมให้คุณ 1 วัน นะ พรุ่งนี้ไม่ตกลง ผมจะรับคนอื่นแล้ว และ อาภรณ์ ก็ยี้มแบบ เชอะ ใส่คนสัมภาษณ์
แต่ พอน้องชายกลับถึงบ้าน ซื้อของมาให้แม่กับพ่อ พ่อชม แม่ชม อาภรณ์ชักจะมีอาการ แปลกๆ เธอจึงโทรไปคุยกับ ดาว เพื่อนเก่า ที่ลูกอายุ 2 ขวบแล้ว
อาภรณ์ : ดาว เราไปทำงานนี้ดีไหม แต่เรายังว่า เราน่าจะได้งานดีกว่านี้นะ รายได้มากกว่านี้
ดาว : ก็ถ้า เธอไม่ชอบแล้วฉันบอกให้ไปทำ เธอจะไปไหมล่ะ
อาภรณ์ : เธอต้องบอกเหตุผลว่าทำไมฉันถึงควรไปทำ ให้มีน้ำหนักหน่อย เพราะเธอก็ไม่ทำอะไรเลยมาสองปีครึ่งเท่ากับฉันแหล่ะ
ดาว ฟังคำนี้ ถึงกับ เลือกสูบฉีดใบหน้า ก่อนจะควบคุมใจเย็นๆ และ ตอบอาภรณ์ ดังนี้
ดาว : คือก็ใช่จ้ะ ฉันอยู่บ้านเลี้ยงลูก ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เลยไม่ได้ไปทำงาน เพราะ ฉันต้องคอยตื่นกลางดึก ตอนลูกร้อง เขาจะทานนมไหม เขาตัวร้อนไหม เขาไม่สบายรึเปล่า เขาทานได้ไหม ฉันต้องทำอาหาร เปลี่ยนผ้าอ้อม เช็ดอึฉี่ ขี้เยี่ยวลูกตลอดทุกวัน และ ฉันต้องเล่นกับเขา พาเขาไปหาหมอ ฉันต้องยังดูแลบ้าน ทำความสะอาด ล้างห้องน้ำ ทำกับข้าว พาลูกไปข้างนอก เจออากาศดีๆ ฉันเลี้ยงลูกจน พูดได้ เดีนได้
แม้เขาจะแค่สองขวบ ฉันก็ยังรู้ว่าเขาชอบทานอะไร ไม่ชอบอะไร กังวลตลอดเวลา ไม่มีชีวีตของตัวเองเลย แต่ฉันเต็มใจทำนะ แม้จะไม่มีรายได้อะไรเลย เป็นงานเต็มเวลา คือ จะว่าไป อาชีพฉันก็คือ เป็นแม่ไง แม่ที่ไม่มีอะไรตอบแทนเลย นอกจากความสุขที่เห็นลูกโตวัน โตคืน แต่ฉันกับสามีก็ช่วยกัน ดูแลนะ แม้จะไม่มีเงีนเดือน แต่ฉันได้ควารมสุขจ้ะ
แล้ว อาภรณ์ สองปีครึ่งมานี้ เธอ ทำอะไรให้แม่เธอบ้าง ?
อาภรณ์ คุยโทรศัพท์กับดาว แต่สายตา ก็กำลังมองแม่ เดีนไปห้องน้องชาย เอาผ้าห่มไปให้ แม่ซักวันนี้ ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆด้วยนะ น้องชายอาภรณ์ กอดแม่ ขณะที ่อาภรณ์ ฟังดาวพูด พร้อมภาพประกอบตรงหน้า อาภรณ์ จึงเงียบ ก่อน ตอบดาวว่า โอเค แล้ววางหูไป ขณะที่ดาว ถอนหายใจก่อนวางสาย กลับไปดูแลลูกต่อ
วันรุ่งขึ้น ตอนก่อนเที่ยง อาภรณ์ โทรไป ตอบตกลงทำงาน โดยเจ้าของที่ทำงานถามว่า ทำไมคุณถึงตกลงทำกับผม เพราะเมื่อวานดูเหมือนคุณจะไม่อยากทำกับเรา ผมต้องการคำตอบตอนนี้ เดี๋ยวนี้
อาภรณ์เลยตอบว่า : งานที่นั่น ดี และ ผลตอบแทนน่าพอใจ และทีสำคัญ เธอเห็นชัดเจนแล้วว่า ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหน ก็คงไม่เท่า งาน เป็นแม่คน ที่แม่เธอทำอยู่มาตลอดหรอกค่ะ เธอจึงอยากขอโอกาสทำงานที่นั่น
เจ้าของที่ทำงาน ฟังแล้ว จากที่เขาตอนแรกไม่อยากจะรับแล้วเพราะอาภรณ์ เหมือนจะเล่นตัวมากไป แต่คำตอบของอาภรณ์ ทำให้เขา หยุดพูดในเรื่องที่เขาอยากจะต่อว่า อาภรณ์ไว้ แล้ว พูดว่า โอเค งั้น พรุ่งนี้คุณมาเซ็นต์สัญญา นะ ผมจะรอ
วางสายเสร็จ เจ้าชองที่ทำงาน ก็ขับรถกลับบ้าน ไปเจอแม่ของเขาที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอดชีวีตเช่นกัน .... พอเขาถึงบ้านนั่งลงที่โซฟา
แม่ก็ออกมาถามว่า ... ทานอะไรหรือยังลูก ?