มีแม่ชอบให้อยู่ในกรอบตลอดเวลา

สวัสดีค่ ะเราอายุ 19 เรียนมหาวิทยาลัยปี2 ตามหัวข้อเลยค่ะ แม่เราชอบให้อยู่ในกรอบตลอดเวลาทำตามคำสั่งเค้าตลอด ถ้าอะไรไม่ได้ตามใจเค้า เค้าก็จะอารมณ์ร้ายใส่เรา  ด่าทอเรา(แบบหยาบคาย) ตีเราจนเค้าพอใจ(ตบปาก,ใช้ไม้เรียวบ้าง) เค้าคิดว่าการตีคือการสั่งสอนที่ดีที่สุด ไม่เคยฟังเราให้อธิบาย พอเราจะอธิบายให้เค้าฟังก็หาว่าเราเถียงเค้า เค้าบอกว่า เค้าอาบน้ำร้อนมาก่อนเค้ารู้ดี  ใช่ค่ะ  เราโดนแบบนี้มาตั้งแต่4ขวบ เท่าที่จำได้   ช่วงชีวิตในวัยเด็ก เราไม่เคยมีเพื่อนแถวบ้าน ไม่เคยออกไปวิ่งเล่นเหมือนเด็กคนอื่นเค้า เพราะว่า เวลาปิดเทอมเค้าจะส่งเราให้ไปเรียนพิเศษตลอด ไม่เคยให้เรามีเวลาว่างเลย เราเข้าใจเค้าค่ะ ว่าอยากให้มีความรู้เยอะๆ แต่บางครั้งเราก็เหนื่อย ตามภาษาเด็ก เราก็อยากพักบ้าง อยากไปเที่ยวบ้าง ต้องบอกก่อนว่าบ้านเราเป็นแบบหาเช้ากินค่ำ พ่อทำงานเอกชน แม่ก็ทำอาชีพค้าขาย  เราก็ช่วยเค้าไปขายของบ้างตามเวลาที่เราว่าง ลืมบอกไปแม่เรามีเราตอนอายุ 28 ปี  ค่ะ พอเราขึ้นม.ปลาย ช่วงนั้นแม่เราทำขนมส่งตามร้านค้า แม่เราเลยให้เราเอามอเตอร์ไซค์ไปเรียนพร้อมไปส่งขนมให้ร้านค้า เป็นแบบนี้จนจบม.6 แต่พอเลิกเรียน(โรงเรียนเราเลิกประมาณ15:40น.)  เค้าก็จะตั้งกฎเองว่า ถ้า16:00น.ยังไม่ถึงบ้านมีเรื่องแน่  ใช่ค่ะ เราจะชอบกลับเลทประมาณ16:20-16:30น. รร.ห่างจากบ้านเราประมาณ13กิโล เราเองก็มีสาเหตุที่ต้องกลับเลท คือ ทำงานกลุ่ม ทำงานที่ค้างบ้าง ตามส่งงานครูบ้าง(เราเรียนห้องวิทย์-คณิตพิเศษ งานเลยเยอะกว่าห้องปกติ)  ค่ะ เค้าก็มักจะเข้าใจว่า เราไปหาผู้ชายบ้าง ไปเที่ยวบ้าง ไปเถลไถลบ้าง จนกลับบ้านช้า ซึ่งเราได้อธิบายไปแล้วว่าเราติดงานกลุ่มงานต้องทำเลยเลิกช้า เค้าก็ไม่เชื่อเรา จะตีเราอย่างเดียว(พ่อยกให้แม่เราเป็นคนสั่งสอนเรา นานๆพ่อจะเป็นคนสั่งสอนเรา) ก็นั้นแหละค่ะ เวลาเรากลับบ้านช้าเกิน16:00 น. แน่นอนว่า เราเปิดประตูบ้านไป เราโดนถามก่อนเลยว่า ทำไมวันนี้กลับบ้านช้า ไปไหนมา เราไม่เคยเจอคำว่า วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมเรียนเป็นไง กินอะไรมาหรือยังเดี๋ยวทำให้กินค่ะ เราไม่เคยเจอแบบนี้  เรากำลังจะอธิบายเค้าก็ด่าเราค่ะไม่ฟังเราพูด คำด่าเค้าก็ประมาณแบบว่า กูส่งให้ไปเรียนไม่ได้ไปหาผู้ชายไม่ได้ให้ไปแรดที่ไหน หรือว่าอยากเลิกเรียนแล้วไปหาทำงาน กูจะได้ให้ไปลาออก ซึ่งเราก็เงียบค่ะเพื่อที่จะไม่พูดเพราะว่าถ้าเรายิ่งพูดเขายิ่งจะด่าเราใหญ่ไม่พออาจจะตบปากเราด้วยข้อหาที่เถียงเขา  เป็นแบบนี้มา3ปี ตลอดเวลาที่เรียนม.ปลาย ไม่มีวันไหนที่เราไม่เครียดกับเค้า จนถึงช่วงม.6 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของการเรียนระดับอุดมศึกษา  เราเลือกที่จะไปเรียนไกลบ้าน แต่ว่าสาเหตุที่เราเลือกที่จะไปเรียนไกลบ้านก็มีหลายรูปแบบนะคะ 1.เราอยากไปหาประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ 2. เราอยากพบเจอสังคมใหม่ๆ   3.เราอยากอยู่คนเดียวด้วยแหละคะ เพราะว่าเวลาที่เราได้ออกไปข้างนอกไปเรียนที่โรงเรียนเหมือนมันเป็นชีวิตอิสระของเราแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราอยู่บ้านมันเหมือนเป็นนรก เหมือนคุกที่ขังเราตลอดเวลา ไม่เคยมีความสุขเลยในเวลาที่เราอยู่บ้าน  เพราะว่าเราต้องทำตามคำสั่งของเค้าตลอดเวลา ไม่เคยมีเวลาว่าง  แต่เขาก็ไม่ให้ไปค่ะ ซึ่งเขาบอกว่าไปเรียนไกลบ้านแกค่าใช้จ่ายเยอะ มันก็ถูกของเขาค่ะตรงนี้เราก็ไม่เถียง  แต่ตรงที่เขาบอกว่าเรียนมอไหนก็เหมือนกัน ไม่ต้องอยากไปใกลบ้าน จะไปแรดที่ไหนจะไปหาผู้ชายที่ไหนอยากไปเรียนไกลบ้าน ซึ่งตรงนี้แหละค่ะ ที่เราเถียงเค้า เราบอกไปว่า เราไม่ได้อยากไปหาใครแล้วเราก็ไม่มีผู้ชายที่ไหนด้วย เราแค่อยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆบ้าง แล้วมอแถวบ้านมันไม่มีสาขาที่เราอยากเรียน เขาบอกไปว่าจะเรื่องมากอะไรนักหนาแค่เรียน ซึ่งเราบอกเขาไปว่าถ้าเราเรียนไม่ตรงสายยังไงเราก็ไปต่อไม่ไหวเพราะมันไม่ใช่สายที่เราถนัด เขาตัดท้อมาว่าถ้ามันยากนักก็ไม่ต้องเรียนไปหาทำงานแล้วก็หาผัวรวยๆจบ แล้วสุดท้ายเราก็ต้องเรียนมอแถวบ้าน แล้วก็เข้าสาขาที่มันคล้ายๆกันแล้วคิดว่าตัวเองน่าจะรอดถึงปี 4 เกรดที่ออกมาก็อาจจะไม่ดีเท่าไหร่เพราะว่ามันไม่ตรงกับสายที่เราถนัดเลย เราก็เลยขอเขาอยู่หอแต่เป็นหอในนะคะ ใช่ค่ะเค้าอนุญาต แต่เขามีข้อแม้ว่าทุกสัปดาห์ช่วงเสาร์อาทิตย์ต้องกลับบ้านมาทำงานแลกกับเงินถ้าไม่กลับมาก็ไม่ต้องเอาเงินใช้ ซึ่งตรงนี้แล้วก็กลับบ้านประจำค่ะ แต่ช่วงปี 1 อาจจะไม่ได้กลับบ้างเพราะว่ากิจกรรมมหาลัยมันเยอะ เขามักจะบอกว่าหาข้ออ้างไม่กลับบ้านทั้งๆที่เราส่งกิจกรรมตัวนั้นไปให้เขาดู ให้ยืนยันว่าเราไม่ได้โกหกเค้า  ช่วงเย็นๆเขาอาจจะโทรมาหาเราเช็คว่าเราอยู่หอหรือเปล่าแล้วก็ให้เราเช็คอินใน line แบบนี้แทบทุกวันเลยค่ะ ซึ่งบางทีถ้าเราไม่ได้ตอบแชทเขาเกิน 1 ชั่วโมงหรือว่าแค่ 30 นาทีเขาก็จะโทรตามเราเลยค่ะ ต้องบอกก่อนว่าหอในที่เราอยู่ ไม่มีห้องน้ำในตัวไม่มีที่ล้างจานในตัวมีแต่รวมค่ะห้องน้ำจะอยู่ชั้น 1 ทั้งหมดพร้อมกับที่ล้างจาน บางทีเราไปอาบน้ำบ้างแต่ว่าเราไม่เอาโทรศัพท์ไป ขึ้นมาห้องอีกทีก็คือโทรตามจิกเราเลยค่ะเพราะเขาคิดว่าเราออกไปข้างนอกไม่รับสายเขาไม่เช็คอินให้เขา  บางทีก็ขู่ว่าจะตัดหางปล่อยวัดไปหาเงินใช้เอง ใช่ค่ะซึ่งตอนปี 1 เราทำงานแต่ว่าทำงานแค่ชั่วโมงเดียวค่ะหลังเลิกเรียนเป็นครูสอนพิเศษ แต่ว่าเขาไม่รู้นะว่าเราทำงานช่วงปี1 สาเหตุที่เราทำงาน part time เพราะว่าเราไม่อยากขอเงินเขาเยอะซึ่งเราก็รู้ว่าสมัยนี้อะไรก็แพงไปหมดเราก็เลยเลือกที่จะทำพาร์ทไทม์แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เยอะอะไร แต่มันก็พอที่จะใช้จ่ายได้หลายอย่าง แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องลาออก เพราะว่าเราต้องกลับบ้าน มันเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ แล้วหอในที่เราอยู่ ต้องทำสัญญาต่อปีต่อปีค่ะ หมดปีนี้แล้วก็ขนของออกถ้าจะอยู่ปีหน้าก็ต้องทำสัญญาใหม่ ประมาณแหละค่ะ  แต่เขาก็มีข้อแม้ว่า ถ้าจะอยู่จนจบปี 4 ต้องได้เกรดดีๆ เท่านั้น ตอนปี 1 เราพยายามทำเกรดให้ดีที่สุดทำความสามารถของตัวเองค่ะ แต่มันก็ยังไม่พอสำหรับเค้า เพราะเขาคิดว่าตอนม.ปลายไปเราเรียนดีแบบไหนตอนขึ้นมหาลัยมันก็ต้องเป็นแบบนั้น เขาก็ชอบขู่เราตลอดว่า ถ้าทำเกรดได้ไม่ดีก็กลับมาอยู่บ้านไปกลับเอา นั้นแหละค่ะ ช่วงปี2 เราสมัครเป็นสโมสรค่ะ ซึ่งแน่นอนงานเยอะมาก แต่เราก็สู้ค่ะ เพื่อที่จะเอากิจกรรมไปกู้กยศ. แน่นอนค่ะว่าปัญหาก็เกิด ช่วงประกวดดาวเดือนค่ะ ช่วงนั้นงานเลิกดึกแล้วเราชาร์จแบตไว้ที่หอ เพราะว่าแบตโทรศัพท์เราใกล้จะหมดแล้ว  ประมาณ1ชั่วโมงครึ่งๆได้ งานเลิกช่วง4ทุ่ม ครึ่ง แม่เราโทรตามเรา32สาย พ่อเราโทรตาม2สาย โทรไลน์27สาย ข้อความอีก50  เหมือนระเบิดลง ผิดที่เราที่ชาร์จแบตไว้ที่หอ แต่เราก็กลัวว่าถ้าชาร์จไว้ที่หอประชุมกลัวหาย เราก็เลยเลือกที่จะชาร์จไว้ที่หอพัก นั่นน่ะค่ะเขาก็เลยบอกว่าถ้าภายใน 4 ทุ่มยังไม่ติดต่อไปหาเขาเขาจะตัดหางปล่อยวัดแถมจะให้พ่อมาขนของย้ายออกในวันถัดไปเลย ซึ่งเราก็บอกไปว่าชาร์จแบตไว้ที่หอเพิ่งเลิกงานดาวเดือนค่ะเช้ามาเขาก็บอกว่าถ้าบ้ากิจกรรมก็ดรอปไปทำงานหาเงินพร้อมขอตารางกิจกรรมดาวเดือนขอลายเซ็นคณบดีที่ยืนยัน ขอเบอร์รูมเมท ขอเบอร์อาจารย์ประจำหอพักแล้วเบอร์อาจารย์หอพักอาจารย์จะติดต่อแค่เวลาที่มีความจำเป็นเท่านั้นหอพักหนูจะไม่ให้เบอร์ใครมั่วๆ นั่นนะคะแต่เขาก็ไม่ยอมต่อเบอร์อาจารย์หอพักให้ได้ ซึ่งตอนนี้หนูก็ไม่รู้ว่าหนูต้องทำยังไงทั้งๆที่ หนูมีเอกสารยืนยัน  เขาก็บอกว่ากลับบ้านมีคดีต้องชำระคดีใหญ่ ก็งงว่าคดีอะไรอีก แม่หนูเป็นคนไม่จบไม่สิ้นสักที  แต่หนูก็เข้าใจว่าท่านเป็นห่วง เพราะว่าไม่เห็นติดต่อท่านกลับ แต่ก็ควรฟังกันด้วยเหตุผลไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์ ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ ขอบคุณนะคะที่ฟังจนจบ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่