ทำยังไงดีคะ เรามืดแปดด้านไปหมด เงินเดือน15,000 ทำงานได้แค่4เดือน เพิ่งผ่านโปร แม่ทักมาหาเราว่าแม่ไม่ไหว ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าบัตรเครดิต ค่าเทอมน้อง อยากให้เราดูแลแทน แม่บอกว่าแต่ละเดือน เงินเดือนแม่เหลือไว้กินกับพ่ออยู่แค่ไม่กี่ร้อย บอกค้างจ่ายอย่างอื่นอีกหลายเรื่องเลย แม่บอกว่าถ้าไม่ทำ บ้านก็จะล้มละลาย ทุกอย่างจะถูกยึดหมด ซึ่งในตอนซื้ออะไรไม่เคยถามเราเลย คิดจะทำอะไรเราไม่รู้เรื่องเลย 2ปีก่อนที่เราเรียนไม่จบ แม่บอกแม่เหนื่อย อยากลาออกจากงานที่ทำ แม่เราขายประกัน ซึ่งอายุแม่ยังไม่ถึง50 ด้วยซ้ำ คิดอยากเกษียณ เราก็ได้แต่สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม่เป็นโรคซึมเศร้าร่วมด้วยรึป่าว เราอยู่ในกลุ่มพี่ๆตัวแทนประกัน ก็มีขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทำไมแม่ถึงคิดจะออกทั้งที่หนี้สินมากขนาดนั้น หรืออยู่ในช่วงวัยทอง ตอนนี้เรากำลังเหมือนถูกทวงบุญคุณ แม่บอกว่าตอนมีเงินก็ได้ใช้ด้วยกันทุกอย่าง แต่เราไม่ใช่คนร่วมคิดเลือกซื้อนี่ แล้วก่อนหน้านี้ตอนเรายังวัยรุ่น เราแค่สั่งของมาลงที่บ้าน พัสดุแค่1ชิ้น เราก็โดนบ่นว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย สอนเราให้วางแผนการเงิน แบ่งเงินเก็บ เงินใช้ เงินฉุกเฉิน แต่มาตอนนี้ ตัวเองใช้เงินเกินตัว อยากจะเลิกขายประกันและมาขายของ ซื้ออุปกรณ์มากมายมาทำลองทำอาหารเต็มบ้าน แต่ไปไม่รอดซักอย่าง ที่เราพิมพ์อยู่เรารู้ตัวว่าค่อนข้างเป็นการระบายอารมณ์มากกว่าคำถามว่าควรทำอย่างไรดี แต่พอมาคิดสุดท้ายนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับแม่ ทำไมกลายเป็นคนอยากทำอะไรก็ทำ คิดอะไรก็ทำเลย ไม่วางแผนเหมือนแต่ก่อน มันคือช่วงวัยทองรึป่าว แล้วเราควรทำอย่างไร ควรพูด ควรจัดการแบบไหน แม่มาระบายกับเรา ถ้าอยากได้เงินประกันแม่ แม่น่าจะตาย แม่บอกให้รู้ไว้ จะได้ทำใจ และเรื่องต่างๆ น้องไม่เคยรับรู้ แม่บอกว่าน้องกำลังเรียนอยู่ กำลังสอบ ซึ่ง น้องควรต้องรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้นรึป่าว ในตอนที่เราเรียน แม่ยังบอกให้เราดรอปเรียน ไม่ก็ลาออกเลย เหมือนแม่กำลังกดดันเราให้เราต้องช่วยที่บ้าน ทั้งที่เพิ่งเริ่มทำงาน 
สุดท้ายนี้ เราค่อนข้างคิดว่า อนาคตของเรามืดมากๆ โอกาสสร้างตัวไม่มีเลย หรือเราต้องพอกับชีวิตเหมือนกัน