สวัสดีค่า วันนี้จะมาแชร์มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ใช้วนไปวนมาอยู่ตอนนี้ เผื่อเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหามอยส์เจอร์ไรเซอร์อยู่ จะได้ตามไปตำกันนะคะ
>> สภาพผิวยุ้ย ธรรมดา-แห้ง
>> ไม่มีสิว ผิวไม่แพ้ง่าย
>> รูทีนสกินแคร์ มีเรตินอลทุกคืน มอยส์เจอร์ไรเซอร์จึงสำคัญมากๆ ค่ะ
1. มอยส์ ที่ยกให้เป็น 1 เดียวในใจ
Laroche-Posay Cicaplast B5 ตัวนี้เป็นสูตรบาล์ม เนื้อเหมือนจะเข้มข้น แต่วอล์มก่อนใช้ ก็ทาง่าย ละลายไปบนผิว เติมความชุ่มชื่นให้ผิวดีมาก ส่วนตัวชอบใช้เป็นตัวปิดหลังใช้เรตินอล หลอดนี้ใช้บ่อย เกือบทุกคืน จนหลอดแบนแล้ว เตรียมถอยหลอดต่อไป
2. มอยส์ที่ชอบใช้ตอนเช้า
ขอยกให้ Moleculogy Soft Cream ขวดนี้ คือ เหมาะมากกับทาตอนเช้า เพราะเนื้อนุ่ม เบา ซึมง่าย ทาไม่ต้องเยอะ ก็ทั่วหน้า ให้ความชุ่มชื่นได้ดี ใครแต่งหน้าแล้วเป็นคราบ แต่งหน้าไม่ค่อยติด แนะนำบำรุงตัวนี้ก่อน (อันนี้เป็นสูตรใหม่นะคะ เนื้อดีกว่าเดิม สารสกัดอัพเกรดใหม่)
3. มอยส์ผู้มีพระคุณ
Avene Cicalfate+ ตัวนี้ถือเป็นมอยส์อีกตัวที่เนื้อเข้มข้นมาก (แต่วอล์มๆ ก่อนทา ก็ไม่ใช้ปัญหาอะไร) เมื่อก่อนใช้ตัวนี้เป็นหลักเลย แต่พอมาเจอ Laroche B5 ก็แอบนอกใจไปใช้ตัวนั้นบ่อยกว่า แต่หลอดนี้ถือเป็นมอยส์ที่ทำให้สภาพผิวเมื่อก่อนที่เป็นผิวแห้ง กลับมาเป็นผิวธรรมดาได้ เลยยกให้เป็นมอยส์ผู้มีพระคุณ ที่ช่วยกู้สมดุลผิวกลับมา
4. มอยส์กู้ผิว พังมาเมื่อไหร่ต้องเจอกัน
Zeroid Pimprove Soothing ขวดนี้ชอบหยิบมาใช้เวลาผิวมีปัญหา ระคายเคือง ผดผื่น หรือมีอะไรที่ผิดปกติกับผิว หรือวันไหนที่รู้สึกอยากทามอยส์ที่เนื้อไม่หนักมากแต่บำรุงดี ปลอบประโลมผิวดี ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ เลย
5. มอยส์ผิวเนียนนุ่มลื่นชุ่มชื่น สบายผิว
Drunk Elephant Protini Polypeptide Cream เป็นมอยส์ที่ใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อแบบคิดวนมาก เพราะราคาค่อนข้างสูง แต่พอได้ใช้ ก็ไม่เสียดายเงินเลยยยย แพคเกจดี เนื้อดี ชอบฟีลลิ่งเวลาทามาก มันนุ่ม มันละลายลงไปบนผิว ให้ความชุ่มชื่นแบบไม่เหนอะหนะ ผิวไม่เงาวาว (ถ้าเทียบกับ Laroche B5 ที่ชอบมาก ตัวนี้ให้ฟินนิชที่สบายผิวกว่าแบบใช้ได้ทั้งเช้าและกลางคืนเลย) ถ้าใครงบถึง อยากให้ลอง เป็นมอยส์คลีนๆ ปลอดสารระคายเคืองที่บำรุงดีมาก แม้จะราคาสูงไปนิด แต่คุ้มค่าจริงๆ
6. มอยส์ในวันเหือดแห้ง
Real Barrier Extreme Cream มอยส์ตัวตึงที่ควรมีติดบ้านไว้ เพราะถึงตอนนี้ผิวยุ้ยจะกลับมาเป็นผิวธรรมดาแล้ว แต่บางวัน บางช่วง อยู่ๆ ผิวก็แห้งขึ้นมาเฉยๆ ก็จะหยิบกระปุกนี้มาใช้ เติมความฉ่ำชุ่มชื่นได้ดีมากๆ หรือช่วงไหนที่ไม่สบาย ไม่อยากเป็นสาวน้อยร้อยเลเยอร์ ก็กระปุกนี้กระปุกเดียวจบเลย ได้ทั้งความชุ่มชื่น เสริมปราการผิว (ใครที่ไม่ชอบทาอะไรหลายขั้นตอน แต่อยากบำรุงดีๆ กระปุกนี้ดีมากนะคะ นี่ซื้อให้แม่ใช้ด้วยกระปุกนึง แม่ก็ชอบมากค่ะ)
7. มอยส์บูสผิว ก่อนวันสำคัญ
Her Hyness Night Spa ตัวนี้จำได้เลยว่า ช่วงที่ใช้แรกๆ รู้สึกเฉยๆ มาก แอบบ่นด้วยซ้ำว่าไม่สมราคา ตอนนั้นใช้ต่อเนื่องทุกคืนอยู่ซัก 2 อาทิตย์ แล้วก็หยุดใช้ไป ก็เริ่มรู้สึกว่า เอ๊ ผิวมันดูโทรมๆ ทั้งที่ไม่ได้นอนดึก สกินแคร์ก็ใช้เหมือนเดิม มีแต่กระปุกนี้ที่หยุดใช้ไป ก็เลยเอากลับมาลองใช้ต่อ ปรากฎรอบนี้เห็นชัดเลยว่า ตอนเช้าตื่นมาผิวมันฉ่ำ มันมีความไบรท ไม่โทรม ก็เลยจะเอากระปุกนี้ไว้ใช้เป็นตัวช่วยคืนก่อนวันที่ต้องใช้หน้า ตื่นเช้ามามั่นใจเลย
8. มอยส์ปิดผิว
เป็น Moleculogy อีกตัวที่แนะนำ ตัวนี้เนื้อจะค่อนข้างเข้มข้นมากเมื่อเทียบกับซอฟครีมของเค้า (ผิวมัน ผิวผสม แนะนำใช้เฉพาะตอนกลางคืน) ใครที่ใช้สกินแคร์ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น วิตซีเข้มข้น เรตินอล หรือ พวกผลัดเซลล์ผิวทั้งหลาย แนะนำใช้ตัวนี้ปิดจบ จะช่วยคงความชุ่มชื่นในผิว ลดการระคายเคืองต่างๆ ได้ดี หรือ ใครที่รู้สึกว่าอยู่ห้องแอร์แล้วผิวแห้งง่ายจัง ลองใช้ตัวนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ จบปึ้งแบบง่ายๆ เลย
ฝากทิ้งท้ายไว้ ... สภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีครีมตัวไหนที่ดีกับผิวของทุกคนทั้งโลก ดีเค้า อาจจะไม่ดีเรา เพราะฉะนั้น ต้องลองเองนะคะ
และสำหรับคนผิวมัน ที่คิดว่า มอยส์เจอไรเซอร์ไม่จำเป็น เพราะลำพังน้ำมันส่วนเกินบนหน้าชั้นก็มากพอแล้ว ต้องคิดใหม่น้า เพราะ ผิวมัน คือ ผิวที่ต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ยิ่งเราไม่เติมความชุ่มชื่น ผิวก็ยิ่งผลิตน้ำมันออกมา ถ้าอยากให้สมดุลผิวกลับมาดี ความมันลดลง ลองทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำนะคะ เลือกสูตรที่สบายผิวหน่อย รับรองเลยว่า ผิวจะมันลดลง
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ น้า (ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะคะ)
ปล.ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นซื้อเอง ใช้เอง และรีวิวในฐานะผู้ใช้ค่ะ
[CR] มอยส์ตัวตึง..ที่หนึ่งในใจ (ที่อาจจะมีที่ 1 หลายตัวหน่อยค่ะ)
>> สภาพผิวยุ้ย ธรรมดา-แห้ง
>> ไม่มีสิว ผิวไม่แพ้ง่าย
>> รูทีนสกินแคร์ มีเรตินอลทุกคืน มอยส์เจอร์ไรเซอร์จึงสำคัญมากๆ ค่ะ
1. มอยส์ ที่ยกให้เป็น 1 เดียวในใจ
Laroche-Posay Cicaplast B5 ตัวนี้เป็นสูตรบาล์ม เนื้อเหมือนจะเข้มข้น แต่วอล์มก่อนใช้ ก็ทาง่าย ละลายไปบนผิว เติมความชุ่มชื่นให้ผิวดีมาก ส่วนตัวชอบใช้เป็นตัวปิดหลังใช้เรตินอล หลอดนี้ใช้บ่อย เกือบทุกคืน จนหลอดแบนแล้ว เตรียมถอยหลอดต่อไป
2. มอยส์ที่ชอบใช้ตอนเช้า
ขอยกให้ Moleculogy Soft Cream ขวดนี้ คือ เหมาะมากกับทาตอนเช้า เพราะเนื้อนุ่ม เบา ซึมง่าย ทาไม่ต้องเยอะ ก็ทั่วหน้า ให้ความชุ่มชื่นได้ดี ใครแต่งหน้าแล้วเป็นคราบ แต่งหน้าไม่ค่อยติด แนะนำบำรุงตัวนี้ก่อน (อันนี้เป็นสูตรใหม่นะคะ เนื้อดีกว่าเดิม สารสกัดอัพเกรดใหม่)
3. มอยส์ผู้มีพระคุณ
Avene Cicalfate+ ตัวนี้ถือเป็นมอยส์อีกตัวที่เนื้อเข้มข้นมาก (แต่วอล์มๆ ก่อนทา ก็ไม่ใช้ปัญหาอะไร) เมื่อก่อนใช้ตัวนี้เป็นหลักเลย แต่พอมาเจอ Laroche B5 ก็แอบนอกใจไปใช้ตัวนั้นบ่อยกว่า แต่หลอดนี้ถือเป็นมอยส์ที่ทำให้สภาพผิวเมื่อก่อนที่เป็นผิวแห้ง กลับมาเป็นผิวธรรมดาได้ เลยยกให้เป็นมอยส์ผู้มีพระคุณ ที่ช่วยกู้สมดุลผิวกลับมา
4. มอยส์กู้ผิว พังมาเมื่อไหร่ต้องเจอกัน
Zeroid Pimprove Soothing ขวดนี้ชอบหยิบมาใช้เวลาผิวมีปัญหา ระคายเคือง ผดผื่น หรือมีอะไรที่ผิดปกติกับผิว หรือวันไหนที่รู้สึกอยากทามอยส์ที่เนื้อไม่หนักมากแต่บำรุงดี ปลอบประโลมผิวดี ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ เลย
5. มอยส์ผิวเนียนนุ่มลื่นชุ่มชื่น สบายผิว
Drunk Elephant Protini Polypeptide Cream เป็นมอยส์ที่ใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อแบบคิดวนมาก เพราะราคาค่อนข้างสูง แต่พอได้ใช้ ก็ไม่เสียดายเงินเลยยยย แพคเกจดี เนื้อดี ชอบฟีลลิ่งเวลาทามาก มันนุ่ม มันละลายลงไปบนผิว ให้ความชุ่มชื่นแบบไม่เหนอะหนะ ผิวไม่เงาวาว (ถ้าเทียบกับ Laroche B5 ที่ชอบมาก ตัวนี้ให้ฟินนิชที่สบายผิวกว่าแบบใช้ได้ทั้งเช้าและกลางคืนเลย) ถ้าใครงบถึง อยากให้ลอง เป็นมอยส์คลีนๆ ปลอดสารระคายเคืองที่บำรุงดีมาก แม้จะราคาสูงไปนิด แต่คุ้มค่าจริงๆ
6. มอยส์ในวันเหือดแห้ง
Real Barrier Extreme Cream มอยส์ตัวตึงที่ควรมีติดบ้านไว้ เพราะถึงตอนนี้ผิวยุ้ยจะกลับมาเป็นผิวธรรมดาแล้ว แต่บางวัน บางช่วง อยู่ๆ ผิวก็แห้งขึ้นมาเฉยๆ ก็จะหยิบกระปุกนี้มาใช้ เติมความฉ่ำชุ่มชื่นได้ดีมากๆ หรือช่วงไหนที่ไม่สบาย ไม่อยากเป็นสาวน้อยร้อยเลเยอร์ ก็กระปุกนี้กระปุกเดียวจบเลย ได้ทั้งความชุ่มชื่น เสริมปราการผิว (ใครที่ไม่ชอบทาอะไรหลายขั้นตอน แต่อยากบำรุงดีๆ กระปุกนี้ดีมากนะคะ นี่ซื้อให้แม่ใช้ด้วยกระปุกนึง แม่ก็ชอบมากค่ะ)
7. มอยส์บูสผิว ก่อนวันสำคัญ
Her Hyness Night Spa ตัวนี้จำได้เลยว่า ช่วงที่ใช้แรกๆ รู้สึกเฉยๆ มาก แอบบ่นด้วยซ้ำว่าไม่สมราคา ตอนนั้นใช้ต่อเนื่องทุกคืนอยู่ซัก 2 อาทิตย์ แล้วก็หยุดใช้ไป ก็เริ่มรู้สึกว่า เอ๊ ผิวมันดูโทรมๆ ทั้งที่ไม่ได้นอนดึก สกินแคร์ก็ใช้เหมือนเดิม มีแต่กระปุกนี้ที่หยุดใช้ไป ก็เลยเอากลับมาลองใช้ต่อ ปรากฎรอบนี้เห็นชัดเลยว่า ตอนเช้าตื่นมาผิวมันฉ่ำ มันมีความไบรท ไม่โทรม ก็เลยจะเอากระปุกนี้ไว้ใช้เป็นตัวช่วยคืนก่อนวันที่ต้องใช้หน้า ตื่นเช้ามามั่นใจเลย
8. มอยส์ปิดผิว
เป็น Moleculogy อีกตัวที่แนะนำ ตัวนี้เนื้อจะค่อนข้างเข้มข้นมากเมื่อเทียบกับซอฟครีมของเค้า (ผิวมัน ผิวผสม แนะนำใช้เฉพาะตอนกลางคืน) ใครที่ใช้สกินแคร์ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น วิตซีเข้มข้น เรตินอล หรือ พวกผลัดเซลล์ผิวทั้งหลาย แนะนำใช้ตัวนี้ปิดจบ จะช่วยคงความชุ่มชื่นในผิว ลดการระคายเคืองต่างๆ ได้ดี หรือ ใครที่รู้สึกว่าอยู่ห้องแอร์แล้วผิวแห้งง่ายจัง ลองใช้ตัวนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ จบปึ้งแบบง่ายๆ เลย
ฝากทิ้งท้ายไว้ ... สภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีครีมตัวไหนที่ดีกับผิวของทุกคนทั้งโลก ดีเค้า อาจจะไม่ดีเรา เพราะฉะนั้น ต้องลองเองนะคะ
และสำหรับคนผิวมัน ที่คิดว่า มอยส์เจอไรเซอร์ไม่จำเป็น เพราะลำพังน้ำมันส่วนเกินบนหน้าชั้นก็มากพอแล้ว ต้องคิดใหม่น้า เพราะ ผิวมัน คือ ผิวที่ต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ยิ่งเราไม่เติมความชุ่มชื่น ผิวก็ยิ่งผลิตน้ำมันออกมา ถ้าอยากให้สมดุลผิวกลับมาดี ความมันลดลง ลองทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำนะคะ เลือกสูตรที่สบายผิวหน่อย รับรองเลยว่า ผิวจะมันลดลง
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ น้า (ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะคะ)
ปล.ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นซื้อเอง ใช้เอง และรีวิวในฐานะผู้ใช้ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้