[CR] แวะอ่านก่อน เข้าวงการเรตินอยด์ (รีวิวจากการใช้จริง)

กระทู้รีวิว
ช่วงที่ผ่านมากระแสเรตินอยด์มาแรง ทางนี้ก็ทาสการตลาดประมาณนึง หาข้อมูลแล้วก็ซื้อมาหลายตัว วันนี้เลยอยากมาแชร์เป็นข้อมูล ให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะเข้าวงการเรตินอยด์ จะได้ประหยัดตังค์ไม่ต้องลองหลายตัวค่ะ 

จขกท อายุ 42 นะคะ ผิวธรรมดา-แห้ง ผิวแข็งแรงไม่ได้บอบบางแพ้ง่ายใดๆ ค่อนข้างสู้คนค่ะ 555 ปัญหาผิวตอนนี้ ก็คือ กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนเริ่มกว้าง ริ้วรอยเวลายิ้ม หัวเราะ เหมือนการุมตื้บค่ะ (ไม่เคยเข้าคลินิก หรือ หัตถการหมอกระเป๋าใดๆ กลัวเข้าแล้วหยุดไม่ได้ ค่าเทอมลูกแพง) 

รูปนี้คือปัจจุบัน (ทากันแดด ปัดแก้ม ทาปาก ลงไฮไลท์จมูกกับตรงขอบปาก) หนวดธรรมชาติค่ะ ^^




ก่อนจะเล่าถึงแต่ละตัว มือใหม่ที่ยังไม่รู้เรื่องการทำงานของเรตินอยด์ที่เราทา แวะอ่านตรงนี้ก่อนนะคะ เวลาเลือก จะได้เลือกได้เหมาะ 

ยุ้ยเรียงสารแต่ละตัวของกลุ่มเรตินอยด์ ตามความเข้ม จากน้อยไปหามาก

⭐ Retinly Ester > Retinol > Retinal > Retinoic Acid (กรดวิตามินเอ) ⭐

การดู % ความเข้มข้นต้องดูที่สารตัวนั้นๆ ด้วย เช่น 0.1% Retinol ก็จะเบากว่า 0.1% RetinAl

เวลาเราทาครีมกลุ่มเรตินอยด์ลงผิว พอไปเจอเอนไซม์ในผิว เค้าก็จะแปลงร่างไปทีละสเตปจนกลายเป็น Retinoic Acid (กรดวิตามินเอ) ยิ่งแปลงหลายร่าง ก็จะยิ่งเห็นผลช้า เช่น Retinly Ester กว่าจะเป็น Retinoic Acid ก็ต้องแปลงมา 3 ร่าง (คือ ต้องเป็น Retinol ก่อน แล้วก็เป็น Retinal ถึงจะเป็น Retinoic Acid ที่เราต้องการ เพราะฉะนั้น การเห็นผลในเรื่อง Anti-Aging จึงแทบไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็น Retinal ก็คือ ฟรึ่บเดียว ได้เลย การเห็นผลก็เลยไวนั่นเองค่ะ


สำหรับมือใหม่ ผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือ ไม่แน่ใจว่าผิวจะโอเคกับเรตินอลมั้ย เริ่มที่ 2 ตัวนี้ได้ค่ะ

JKxLAB หรือ GRAVICH
ส่วนตัวรู้สึกว่า 2 ขวดนี้ เป็นสูตรที่เหมาะกับการใช้แค่เริ่มต้น แค่ให้ผิวรู้จักกับเรตินอยด์ก่อน การหวังผลเรื่องของ Anti-Aging อาจจะช้าไปหน่อย เพราะฟอร์มเรตินอยด์ที่ใส่มา ค่อนข้างเบา ถ้าคนที่อายุน้อยๆ ปัญหายังไม่เยอะ GRAVICH เป็นอีกตัวเลือกที่ดีค่ะ



* ตรง ⭐ใต้ภาพ ยุ้ยเรียงความเข้มของสารไว้ให้ จะได้นึกออกว่า เรตินอยด์ที่แต่ละแบรนด์ใส่มาอ่อน/เข้มแค่ไหน




INGU Retinol Repair Shot
อันนี้นับเป็นขวดแรกที่ยุ้ยใช้จริงจังค่ะ เพราะตอนแรกไม่ได้หาข้อมูลเรื่องเรตินอยด์ ก็ซื้อ 2 ขวดบนมาลองเลย แต่พอเห็นว่า ผิวตัวเองไปได้กับเรตินอยด์แน่ๆ (ไม่แห้ง ไม่ดันสิว ไม่แสบ ไม่ลอก) ก็เลยซื้อขวดนี้มาใช้ต่อเลย (ขอข้ามเรื่องข้อมูลส่วนผสมต่างๆ ไปนะคะ คิดว่าทุกคนหาเพิ่มกันได้ มาเน้นเรื่องฟิลลิ่งหลังใช้ละกันเนอะ)

ขวดนี้ถือเป็นใบเบิกทางของการใช้เรตินอยด์เลยค่ะ เพราะหลังใช้ทุกวันก่อนนอน ประมาณเกือบ 3 วีค ผิวเนียนขึ้นมากกกกกกก แบบรู้สึกได้เลยจริงๆ ตอนล้างหน้าจะรู้สึกถึงความต่างจากผิวที่เคยเป็นมาเลย แต่เรื่องเส้นริ้วร่องรอยต่างๆ ยังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง ก็เลยใช้ถึงแค่หมดขวด แล้วความโลภก็มาต่อค่ะ




ด้วยความที่เห็นว่า ผิวไม่มีผลข้างเคียงใดๆ จากการใช้เรตินอยด์เลย ก็เลยข้ามไปใช้ฟอร์ม RetinAl ของ The Skinlist ซึ่งหลังจากที่ใช้ไปได้เกือบอาทิตย์ ผิวหน้าไม่มีปัญหาอะไร แต่ผิวที่คอเหมือนจะเริ่มระคายเคือง หลังทา นอนๆ ไปแล้วแสบนิดๆ คันหน่อยๆ ก็เลยคิดว่า อาจจะแรงไปสำหรับผิวเรา ก็เลยเก็บตัวนี้ พักไว้ก่อน ค่อยเอามาสลับใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็ใช้ได้ปกติ ไม่มีอาการอะไร

คือถ้าใครผิวสตรอง แนะนำตัวนี้เลย การเห็นผลน่าจะเหมือนขึ้นทางด่วน เมื่อเทียบกับทุกตัวที่ยุ้ยลองใช้มา



หลังจากใจคอไม่ดีกับ The Skinlist ก็จังหวะพอดีกับไปอ่านเจอมาว่า สาร Anti-Aging ที่แนะนำให้มีในสกินรูทีนอีกตัว ก็คือ เมลาโทนิน ยิ่งใช้ร่วมกับกลุ่มเรตินอยด์ จะยิ่งได้ผลจึ้งมาก ก็เลยไป Search หาว่ามีตัวไหนบ้าง ก็เจอ Her Hyness Bio-Retinol ขวดม่วงอันนี้ กับ ISDIN แต่ด้วยความที่ใจยังไม่กล้ากับ ISDIN ก็เลยลองขวดนี้ก่อน

ซึ่งก็ถือว่าตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ค่ะ ใช้มาจะ 2 เดือนแล้ว ผิวเนียน (เหมือนตอนใช้ INGU) รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวเงาขึ้น (อันนี้ไม่ทันสังเกตตัวเองเหมือนกัน มารู้สึกเอ๊ะ ตอนเห็นตัวเองในคลิปและรูปที่ถ่ายว่าผิวเล่นแสง แบบที่ไม่ใช่ความมัน เพราะปกติเป็นคนผิวแห้ง) และสิ่งที่รู้สึกได้ล่าสุด ก็คือ ผิวแน่นขึ้น จริงๆ ต้องบอกว่า ตั้งแต่ท้อง คลอดลูก เลี้ยงลูกมา มา 5 ปี ไม่เคยได้สัมผัสกับความว่าผิวแน่นเลย แทบจะลืมไปแล้วว่าเป็นยังไง 

ตอนนี้ก็เลยกะว่าจะใช้น้องขวดม่วงขวดนี้ไปก่อนจนกว่าความโลภจะครอบงำอีกที 55555555 แล้วจะไปต่อที่ ISDIN



ส่วน Kiehl's ขวดนี้ แถมให้ค่ะ เผื่อใครอยากลอง ก็ถือเป็นอีกตัวที่น่าลอง แต่นี่ซื้อมาแล้ว ยังไม่รู้จะแทรกใช้ตอนไหน เพราะติด Her Hyness มาก แต่จากที่อ่านรีวิวมา ก็ถือเป็นตัวตึงอีกตัวที่ให้ผลได้ดีมากๆ ใครมีงบ หรือ เป็นทีม Kiehl's อยู่แล้ว ก็ลองตัวนี้ได้เลย คิดว่าไม่เสียเงินเปล่าแน่ๆ



***** เพิ่มเติมนะคะ *****

สำหรับมือใหม่เรตินอยด์ อย่าลืมทามอยส์เจอร์ประกบด้วย (ทาแบบแซนวิช = มอยส์เจอร์+เรตินอยด์+มอยส์เจอร์) จะได้ช่วยลดการระคายเคือง ความแห้ง ลอก ต่างๆ ได้อีกทาง

และที่สำคัญมากๆ อย่าลืมทากันแดดให้พอด้วยนะคะ เพราะ สารกลุ่มเรตินอยด์จะทำหน้าที่ TurnOver ผิวใหม่ขึ้นมา ยังไงผิวก็ไวต่อแดดแน่นอน กันแดดถือว่าสำคัญและจำเป็นมากๆ ไม่งั้นแทนที่จะได้ผิวสวย จะกลายเป็นคล้ำกว่าเดิม



ปล. ไม่ได้เข้ามาพันทิปนานมาก กระทู้ที่เคยทำไว้ ก็นานมากกกกก แล้ว วันนี้กลับมาลองรีวิวอีกครั้ง ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ถ้ามีเวลาจะมีรีวิวของที่ใช้อยู่อีก มีเยอะมากๆๆๆๆๆๆ แต่เวลามีน้อยๆๆๆๆๆ ซะเหลือเกิน ^/\^ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะค้าาา ❤️
ชื่อสินค้า:   JKxLAB , Gravich , INGU , TheSkinlist , HerHyness , Kiehls
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่