ต้องบอกก่อนว่าผม ไม่ใช่นักเขียน หรือนักแต่งนิยาย และการศึกษาผมก้ไม่ได้สูง ถ้าพิมพ์ตกหล่น หรือผิดคำไหนต้องขอโทษด้วยครับ
ในห้องที่มืดอับ กลิ่นสาปความชื่นอบอวนไปทั่วห้อง มีชายคนหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและมึนงงกับสิ่งรอบข้าง เขาหันไปรอบห้อง ด้วยความสงสัยว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง และมีศพเกลื่อนกลาดในห้องนั้น ชายคนนั้นมองไปที่มือของตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือด เขาตาโต อาปากค้างน้ำลายไหล แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว เขาแค่สงสัยว่านี้มันเลือดของใคร ของเขาเองหรือของ ศพที่นอนเรียงรายกันเต็มห้อง เขาอามือเช็คเสื้อผ้าตัวเอง เพื่อที่จะลบเลือดที่มือของเขาออก แต่ไม่ได้ผล... เพราะว่าทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือด สายตาที่ลุกโต ปากที่อ่าค้างน้ำลายไหล กลับกลายเป็นหุบลงและยิ้มแลบลิ้นยื่นออกมา
เลียคลาบเลือดที่มุมปาก จากนั้นเขาได้ลุกขึ้นเดินข้ามกองศพด้วยความเย็นชา สายตาแน่วแน่ มุ้งมั่น ตรงไปที่ห้องน้ำและส่องกระจกที่มีแต่คลาบเลือด มองดูหน้าของตัวเองมองลึกเข้าไป............................... ................... ........... .... . . ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา
รุต เด็กชายที่แสนจะธรรมดา ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ใช้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายและจำเจ เขาไม่มีความฝัน เขาไม่มีแรงผลักดันหรือปรารถนา
เขาไม่เชื่อในพระเจ้า หรือคำสอนบนโลกใบนี้ เขาเป็นคนที่นิ่งเฉยต่อสิ่งรอบตัว ในวังวนความคิดเหมือนเขาเป็น มนุษย์เพียงคนเดียวในโลกใบนี้ แต่น่าแปลกใจตรงที่ เขาไม่เคยที่ทุกข์กับการอยู่แบบนี้ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาได้มีเพื่อนที่ทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นคนคุยก่อน และเดินหนีการคุยด้วยซ้ำ แต่เพื่อนคนนี้ก็ก็ตื้อที่อยากจะเป็นเพื่อนกับรุตให้ได้ ให้ที่สุดเขาก็เปิดใจรับเพื่อนคนแรกในชีวิตเขา --- "เฮ้ยไอ้รุต ตื่นยังวะ? เดียวทำงานสายนะโว้ยเพื่อน"
"เออๆ ตื่นแล้วโว้ยเองนี้น่ารำคาญโครตๆเลยวะไอ้เอก" เอกนั้นเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ยิ้มแย่ม ติดตลกกวนๆ เหมือนดังว่า รุตนั้น เป็นดั่งภาพที่ ขาวซี๊ด ส่วนเอกนั้น เป็นเหมือนสีสันที่เข้ามาเติมเต็ม แน่นอนมีความทุกข์และมันก็ต้องมีความสุข คำถามก็คือ.. "แล้วมันตอนไหนละ"
ณ.วันที่ทั้งสองคน หยุดงานทำงานบ้าน ซักผ้าเตรียยมชุดทำงานวันพรุ่งนี้ เอกกับรุต นัดจะไปกินอาหารกันตามประสาเพื่อน ต่างคนต่างเดินทางไปร้านอาหาร ซึ่งรุตนั้นถึงร้านก่อน และสั่งอาหารนั้งรอ และโทรหาเพื่อนเอกว่าถึงไหนแล้ว - "อะไรวะเนี่ยโทรไปตั้ง 2 สายแล้วยังไม่รับ" และรุตก็นั่งรออยู่อย่างนั้น อีกนานจนอาหารที่สั่งเริ่มเย็น ลูกค้าในร้านเริ่มจางหาย จนการรอคอยมันได้จบลง รุตได้จ่ายเงินและเดินจากไป กลับไปที่พัก เปิดtv และเดินไปอาบน้ำ เสียงของที่ TV ที่นักข่าวกำลังรายงานข่าว "จุดเกิดเหตุ พบศพผู้ชายวัยกลางคนนอนจมกองเลือด" เป็นพลเมืองดี ที่เข้าไปช่วยคุณยายท่านหนึ่งที่โดนวิ่งราวทรัพย์ ได้วิ่งตามคนร้ายที่พยายามหลบหนี แต่ในจังหวะที่วิ่งไล่จับกันั้น ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมืดสั้นจ้วงแทง ต่อสู้กันทำให้นาย ***** ****** หรือชื่อเล่น เอก ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา และใต้ราวนมซ้าย นอนจมกองเลือดและได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายได้ถูกจับกุม อยู่ในอาการมึนงง พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาวกวน คล้ายคนเมา รุตยืนตัวแข็ง เขาไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ ความรู้สึกเสียใจ สูญเสีย น้ำตาของเขาไหลอาบแก้ม ร้องงอแงเหมือนเด็กแรกเกิด ควบคุมตัวเองไม่ได้ หายใจผิดจังหวะ ล้มกองไปกับพื้นนอนกอดขาตัวเอง และเขาได้เรียนรู้ ว่านี้คือความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่เหมือนตอนยังเป็นเด็ก ตอนที่แม่ของเขาได้เสียชีวิตจากโรคร้าย เขาไม่ร้องไห้ได้แต่มองพ่อของเขากลั้นน้ำตาและยิ้มและบอกแม่ของเขาไปว่า "ไปให้สบายนะ" และในที่สุดพ่อของรุตก็จากไปอีกคนในเวลาต่อมา รุตก็ไม่ร้องไห้ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม พ่อไม่ร้องไห้ตอนแม่ของเขาเสียไป เพราะว่า... ภาระการเงิน ความเป็นอยู่ที่บ้านและการงาน ความลำบากที่ต้องรับผิดชอบมันกำลังตามมา รุตได้ถูก ผัวเมียคู้หนึ่ง ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ใช่ผัวเมียจริงๆ ผู้ชายเป็นชาวต่างชาติ ผู้หญิงเป็นในประเทศแต่งงานกันเพราะฝ่ายชายจะได้เข้ามาอยู่และทำการค้าขาย ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และธุระกิจที่ผิดกฎหมาย รุตเป็นได้แค่ตุ๊กตาที่รองรับ อารมณ์เวลา ผัวเมียคู่นี้ โมโห ตบตีทำร้ายเขา จนเขาทนไม่ได้และหนีออกมา ก่อนจะออกมาเขาได้ขโมยเงินมาจำนวนหนึ่งเท่าที่เด็กชายจะเอามาได้ และออกไปใช้ชีวิต จนเติมใหญ่
เมื่อรุตกลับไปทำงานเหมือนชีวิตเดิมๆของเขา ในใจคิดแต่เพื่อน ภาพจำต่างๆที่เขานึกคิด ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีรางวัล ไม่มีคำชื่นชม ได้ยินคนแถวนั้นพูดเพียงว่า เอกไม่มาทำงาน หัวหน้างานเลยเดินไปถามรุต พอได้คำตอบก็แค่บอกว่างั้นเอาอีกแผนกย้ายมาแทน และเดินจากไป
ไปตีป้อมละ ^^ เดียวมาเขียนต่อ
What if...? สมมุติว่า.. ฆาตกรเป็นตำรวจ #พิมพ์ตอนเหงา
ในห้องที่มืดอับ กลิ่นสาปความชื่นอบอวนไปทั่วห้อง มีชายคนหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและมึนงงกับสิ่งรอบข้าง เขาหันไปรอบห้อง ด้วยความสงสัยว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง และมีศพเกลื่อนกลาดในห้องนั้น ชายคนนั้นมองไปที่มือของตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือด เขาตาโต อาปากค้างน้ำลายไหล แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว เขาแค่สงสัยว่านี้มันเลือดของใคร ของเขาเองหรือของ ศพที่นอนเรียงรายกันเต็มห้อง เขาอามือเช็คเสื้อผ้าตัวเอง เพื่อที่จะลบเลือดที่มือของเขาออก แต่ไม่ได้ผล... เพราะว่าทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือด สายตาที่ลุกโต ปากที่อ่าค้างน้ำลายไหล กลับกลายเป็นหุบลงและยิ้มแลบลิ้นยื่นออกมา
เลียคลาบเลือดที่มุมปาก จากนั้นเขาได้ลุกขึ้นเดินข้ามกองศพด้วยความเย็นชา สายตาแน่วแน่ มุ้งมั่น ตรงไปที่ห้องน้ำและส่องกระจกที่มีแต่คลาบเลือด มองดูหน้าของตัวเองมองลึกเข้าไป............................... ................... ........... .... . . ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา
รุต เด็กชายที่แสนจะธรรมดา ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ใช้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายและจำเจ เขาไม่มีความฝัน เขาไม่มีแรงผลักดันหรือปรารถนา
เขาไม่เชื่อในพระเจ้า หรือคำสอนบนโลกใบนี้ เขาเป็นคนที่นิ่งเฉยต่อสิ่งรอบตัว ในวังวนความคิดเหมือนเขาเป็น มนุษย์เพียงคนเดียวในโลกใบนี้ แต่น่าแปลกใจตรงที่ เขาไม่เคยที่ทุกข์กับการอยู่แบบนี้ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาได้มีเพื่อนที่ทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นคนคุยก่อน และเดินหนีการคุยด้วยซ้ำ แต่เพื่อนคนนี้ก็ก็ตื้อที่อยากจะเป็นเพื่อนกับรุตให้ได้ ให้ที่สุดเขาก็เปิดใจรับเพื่อนคนแรกในชีวิตเขา --- "เฮ้ยไอ้รุต ตื่นยังวะ? เดียวทำงานสายนะโว้ยเพื่อน"
"เออๆ ตื่นแล้วโว้ยเองนี้น่ารำคาญโครตๆเลยวะไอ้เอก" เอกนั้นเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ยิ้มแย่ม ติดตลกกวนๆ เหมือนดังว่า รุตนั้น เป็นดั่งภาพที่ ขาวซี๊ด ส่วนเอกนั้น เป็นเหมือนสีสันที่เข้ามาเติมเต็ม แน่นอนมีความทุกข์และมันก็ต้องมีความสุข คำถามก็คือ.. "แล้วมันตอนไหนละ"
ณ.วันที่ทั้งสองคน หยุดงานทำงานบ้าน ซักผ้าเตรียยมชุดทำงานวันพรุ่งนี้ เอกกับรุต นัดจะไปกินอาหารกันตามประสาเพื่อน ต่างคนต่างเดินทางไปร้านอาหาร ซึ่งรุตนั้นถึงร้านก่อน และสั่งอาหารนั้งรอ และโทรหาเพื่อนเอกว่าถึงไหนแล้ว - "อะไรวะเนี่ยโทรไปตั้ง 2 สายแล้วยังไม่รับ" และรุตก็นั่งรออยู่อย่างนั้น อีกนานจนอาหารที่สั่งเริ่มเย็น ลูกค้าในร้านเริ่มจางหาย จนการรอคอยมันได้จบลง รุตได้จ่ายเงินและเดินจากไป กลับไปที่พัก เปิดtv และเดินไปอาบน้ำ เสียงของที่ TV ที่นักข่าวกำลังรายงานข่าว "จุดเกิดเหตุ พบศพผู้ชายวัยกลางคนนอนจมกองเลือด" เป็นพลเมืองดี ที่เข้าไปช่วยคุณยายท่านหนึ่งที่โดนวิ่งราวทรัพย์ ได้วิ่งตามคนร้ายที่พยายามหลบหนี แต่ในจังหวะที่วิ่งไล่จับกันั้น ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมืดสั้นจ้วงแทง ต่อสู้กันทำให้นาย ***** ****** หรือชื่อเล่น เอก ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา และใต้ราวนมซ้าย นอนจมกองเลือดและได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายได้ถูกจับกุม อยู่ในอาการมึนงง พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาวกวน คล้ายคนเมา รุตยืนตัวแข็ง เขาไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ ความรู้สึกเสียใจ สูญเสีย น้ำตาของเขาไหลอาบแก้ม ร้องงอแงเหมือนเด็กแรกเกิด ควบคุมตัวเองไม่ได้ หายใจผิดจังหวะ ล้มกองไปกับพื้นนอนกอดขาตัวเอง และเขาได้เรียนรู้ ว่านี้คือความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่เหมือนตอนยังเป็นเด็ก ตอนที่แม่ของเขาได้เสียชีวิตจากโรคร้าย เขาไม่ร้องไห้ได้แต่มองพ่อของเขากลั้นน้ำตาและยิ้มและบอกแม่ของเขาไปว่า "ไปให้สบายนะ" และในที่สุดพ่อของรุตก็จากไปอีกคนในเวลาต่อมา รุตก็ไม่ร้องไห้ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม พ่อไม่ร้องไห้ตอนแม่ของเขาเสียไป เพราะว่า... ภาระการเงิน ความเป็นอยู่ที่บ้านและการงาน ความลำบากที่ต้องรับผิดชอบมันกำลังตามมา รุตได้ถูก ผัวเมียคู้หนึ่ง ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ใช่ผัวเมียจริงๆ ผู้ชายเป็นชาวต่างชาติ ผู้หญิงเป็นในประเทศแต่งงานกันเพราะฝ่ายชายจะได้เข้ามาอยู่และทำการค้าขาย ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และธุระกิจที่ผิดกฎหมาย รุตเป็นได้แค่ตุ๊กตาที่รองรับ อารมณ์เวลา ผัวเมียคู่นี้ โมโห ตบตีทำร้ายเขา จนเขาทนไม่ได้และหนีออกมา ก่อนจะออกมาเขาได้ขโมยเงินมาจำนวนหนึ่งเท่าที่เด็กชายจะเอามาได้ และออกไปใช้ชีวิต จนเติมใหญ่
เมื่อรุตกลับไปทำงานเหมือนชีวิตเดิมๆของเขา ในใจคิดแต่เพื่อน ภาพจำต่างๆที่เขานึกคิด ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีรางวัล ไม่มีคำชื่นชม ได้ยินคนแถวนั้นพูดเพียงว่า เอกไม่มาทำงาน หัวหน้างานเลยเดินไปถามรุต พอได้คำตอบก็แค่บอกว่างั้นเอาอีกแผนกย้ายมาแทน และเดินจากไป
ไปตีป้อมละ ^^ เดียวมาเขียนต่อ