เราสองคนขับมอไซต์ทั้งคู่ ทางที่เราขับขอบอกก่อนว่าเป็นถนนที่มีสองเลนและเป็นทางตรง ซึ่งเรามาเลนซ้าย ทางเลนซ้ายข้างทางจะเป็นกำแพง ส่วนเลนขวาจะเป็นคอนโด สำนักงาน ซอยเข้าบ้านคน เราขับมาทางเลนซ้าย ซึ่งขับมาด้วยความเร็ว 40-50 เพราะเป็นช่วงฝนตกแล้วถนนลื่นและมันอยู่ในเขตสำนักงาน รถที่ตัดหน้าเราเขาออกมาจากสำนักงานเขากำลังจะเลี้ยวออกมาไปฝั่งเลนซ้าย ซึ่งด้วยระยะก็ใกล้แล้วเพราะเราอยู่ในเขตสำนักงาน เราเลยเบรกแล้วหักหลบคู่กรณีไปทางซ้ายเพราะไม่งั้นจะชนท้าย ถนนมันลื่นมากเราเลยร่วงจากรถ แต่ตัวรถไถลไปไกลอยู่พอสมควร หลังเกิดเหตุเราใส่เฝือกที่คอ ไหล่กับหลังได้รับแรงกระแทกจากการร่วงจากรถ และที่หัวเข่ามีรอยถลอกใหญ่ ตอนนั้นคือหน้ามืดเหมือนทุกอย่างเบลอ แต่คู่กรณีไม่เป็นอะไร รถทางฝ่ายเขาน่าจะโดนรถเราตอนไถลกระเเทกเล็กน้อยตรงที่วางขา ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ หลังจากไปโรงบาลก็ได้มาคุยกันเล็กน้อย แต่เขาบอกว่าทำไมเราไม่แซงขวา คือขอถามหน่อยว่าการที่เขาตัดหน้าเราขนาดนั้นเเล้ว คือเขาจะให้เราเเซงขวายังไง คือเขาตัดหน้าเราเเล้วเบียดมาชิดซ้าย คือเรามาของเราอยู่ดีๆ คุณกลับบอกว่าทำไมเราไม่เเซง เพราะถ้าจะให้เราเเซงชิดไปฝั่งขวา คือคุณยังเลี้ยวไม่พ้นเลนเลย หนำซ้ำถ้าให้เเซงขวาเราอาจเสียหลักไปเลนสวนเลยก็ได้หากมีรถยนต์มา เราโดนชนใครจะรับผิดชอบ หลังจากนัดไกล่เกลี่ยเขากลับบอกว่าเขาเห็นเราตั้งแต่ขับมาถึงคอนโดเเล้ว เราขับซิ่งมาก เลยทำให้ชนจนตัวเองกระเด็น เพราะถ้ามาความเร็ว 40-50 คงไม่กระด็นจากรถหรอก ทางเขาให้เหตุผลว่ามันชนกันในเลนเลยผิดร่วม ซึ่งเรารู้สึกไม่ยุติธรรม เพราะถ้าพูดในมุมเขาบอกว่าเห็นเราตั้งแต่คอนโดแล้ว งั้นถามกลับว่าถ้าเขาเห็นแล้วเขาจะเลี้ยวออกมาทำไม เพราะมันมีรถ แค่การที่เห็นว่ามีรถอ่ะ ต่อให้เราจะขับมาด้วยความเร็วยังไงก็ไม่ควร้ลี้ยวออกมาตั้งเเต่เเรกเเล้ว รถเราซื้อสดเฉียดแสนนะคะแต่เขาบอกจะรับผิดชอบ 2-3 พัน  และไม่ยอมให้ทางศูนย์มาประเมิณค่าเสียหายด้วย เราควรทำไงดีคะ เพราะตอนนี้เหมือนเขาบ่ายเบี่ยงว่าผิดทั้งสอง