งานแต่ง เป็นอะไรที่ค่อนข้างปวดหัวเหมือนกันนะคะ ไปเจอเพื่อนคนนึงมาปรึกษา ไอ้เราเอง ยังไม่เคยแต่งก็ให้คำปรึกษาไม่ถูก เรื่องเป็นงี้ค่ะ
จริงๆ ฝ่ายญ.มีค่าสินสอดอยู่ในใจ แต่เหมือนรับรู้ว่าทางฝ่ายชายไหวที่เท่าไหร่ ก็เลยเรียกไปตามที่ไหว สมมติว่า 2แสน แล้ว เงินตั้งต้นมีแล้วที่ 1 แสน โดยเอาเงินนี้มาเป็นคชจ.ในการจัดงาน โดยคุมงบอยู่ที่ไม่เกิน 1 แสน (โดยคิดไว้ในใจกันว่า ถ้าได้ซองคืนกลับมาก็จะเอาคืนกลับไปในส่วนนี้ แล้วให้เจ้าสาวไปทั้งหมด) แล้ว ฝ่ายช. หามาอีก 1 แสน เพื่อให้ได้ตามจำนวนสินสอดที่คุยกันไว้
ทว่า วันนึง ฝ่ายญ.มารู้ว่า 1 แสน ที่เอามาเติมนั้น เป็นการไปหยิบยืมญาติมา ซึ่งคาดหวังว่า ถ้าเงินซองได้มาเท่าไหร่ จะขอแบ่งในส่วนของฝ่ายช.เพื่อไปคืนให้ญาติ ที่ยืมเงินเขามา เท่ากับว่า สินสอด2แสน ที่คุยตกลงกันไว้ ฝ่ายญ. จะได้ไม่เต็มตามนั้น
พอมาถึงตรงนี้ เพื่อนก็มาคุย มาปรึกษาในกลุ่มกันว่า ได้หรอ แบบนี้ได้ด้วยหรอ ก็เลยอยากถามเพื่อนๆว่า โดยปกติแล้ว เขาทำกันแบบไหน แบ่งสรรปันส่วนกันยังไงคะ เพราะเคสนี้ได้ยินมาว่า พ่อแม่ฝ่ายช.ไม่ได้มีส่วนช่วยลงขันอะไรเลย ขอบคุณค่ะ
มีใครเคยเอาค่าสินสอดมาเป็นค่าจัดงานแต่งมั้ย
จริงๆ ฝ่ายญ.มีค่าสินสอดอยู่ในใจ แต่เหมือนรับรู้ว่าทางฝ่ายชายไหวที่เท่าไหร่ ก็เลยเรียกไปตามที่ไหว สมมติว่า 2แสน แล้ว เงินตั้งต้นมีแล้วที่ 1 แสน โดยเอาเงินนี้มาเป็นคชจ.ในการจัดงาน โดยคุมงบอยู่ที่ไม่เกิน 1 แสน (โดยคิดไว้ในใจกันว่า ถ้าได้ซองคืนกลับมาก็จะเอาคืนกลับไปในส่วนนี้ แล้วให้เจ้าสาวไปทั้งหมด) แล้ว ฝ่ายช. หามาอีก 1 แสน เพื่อให้ได้ตามจำนวนสินสอดที่คุยกันไว้
ทว่า วันนึง ฝ่ายญ.มารู้ว่า 1 แสน ที่เอามาเติมนั้น เป็นการไปหยิบยืมญาติมา ซึ่งคาดหวังว่า ถ้าเงินซองได้มาเท่าไหร่ จะขอแบ่งในส่วนของฝ่ายช.เพื่อไปคืนให้ญาติ ที่ยืมเงินเขามา เท่ากับว่า สินสอด2แสน ที่คุยตกลงกันไว้ ฝ่ายญ. จะได้ไม่เต็มตามนั้น
พอมาถึงตรงนี้ เพื่อนก็มาคุย มาปรึกษาในกลุ่มกันว่า ได้หรอ แบบนี้ได้ด้วยหรอ ก็เลยอยากถามเพื่อนๆว่า โดยปกติแล้ว เขาทำกันแบบไหน แบ่งสรรปันส่วนกันยังไงคะ เพราะเคสนี้ได้ยินมาว่า พ่อแม่ฝ่ายช.ไม่ได้มีส่วนช่วยลงขันอะไรเลย ขอบคุณค่ะ