JJNY : ส่งออกมิ.ย.ติดลบ 0.3%│ปราจีนฯอ่วม ฝนถล่มหนัก│4 ส.ส.สหรัฐฯ ร้องปล่อยตัวผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม│รถไฟตกรางในรัสเซีย

ส่งออกมิ.ย.ติดลบ 0.3% หดตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน กรุงไทย คาดครึ่งปีหลังฟื้นตัวจำกัด เหตุมีหลายปัจจัยรุมเร้า
https://www.matichon.co.th/economy/news_4708088
  
ส่งออกมิ.ย.ติดลบ 0.3% หดตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน กรุงไทย คาดครึ่งปีหลังฟื้นตัวจำกัด เหตุมีหลายปัจจัยรุมเร้า

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม Krungthai COMPASS ได้ออกบทวิเคราะห์เรื่องการส่งออกเดือนมิถุนายน โดยระบุว่า มูลค่าส่งออกเดือน มิ.ย. หดตัว 0.3% YoY กลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 3 เดือน ปัจจัยหลักจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรซึ่งกลับมาหดตัว ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวได้จำกัด สำหรับการนำเข้าเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.3%YoY โดยดุลการค้าเดือน มิ.ย. เกินดุลที่ 218.0 ล้านดอลลาร์ฯ

Krungthai COMPASS ประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักที่มีสัญญาณชะลอตัวจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ทั้งนี้เครื่องชี้ด้านการผลิตของประเทศหลักมีสัญญาณลบ โดยเฉพาะตัวเลข Flash PMI Manufacturing ทั้ง สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป ต่างหดตัวในเดือน ก.ค. ส่วนเศรษฐกิจจีนยังมีความเปราะบาง สะท้อนจากดัชนียอดค้าปลีกที่ชะลอตัวลง และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีนที่ปรับลดลงต่อเนื่อง
 
มูลค่าส่งออกมิ.ย. หดตัว 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

มูลค่าส่งออกเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 24,796.6 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวเล็กน้อย 0.3%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 3 เดือน จากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการส่งออกที่เร่งตัวเมื่อเดือน พ.ค. หลังจากที่ผลิตผลด้านการเกษตรเผชิญปัญหาภัยแล้ง จึงออกสู่ตลาดล่าช้าและเหลื่อมเดือนจากปีก่อน ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวได้จำกัด สำหรับการส่งออกทองคำขยายตัวแรงถึง 184.1%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้เมื่อหักทองคำแล้วมูลค่าส่งออกเดือนนี้จะติดลบ 1.7% ทั้งนี้การส่งออกช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
ด้านการส่งออกรายสินค้าสำคัญบางส่วนขยายตัว
 
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 0.3% ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อเปรียบเทียบจากเดือนก่อนที่ 4.2%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+22.0%) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+20.1%) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+13.5%) และ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (+7.2%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (-24.2%) แผงวงจรไฟฟ้า (-21.4%) ผลิตภัณฑ์ยาง (-7.9%) เม็ดพลาสติก (-6.3%) และเคมีภัณฑ์ (-5.5%) เป็นต้น
 
การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 3.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนที่ขยายตัวสูง 19.3%YoY ตามการกลับมาหดตัวของสินค้าเกษตรที่ 2.2%YoY และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรซึ่งติดลบ 4.8%YoY ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+147.7%) ข้าว (+96.6%) ยางพารา (+28.8%) อาหารสัตว์เลี้ยง (+13.1%) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (+6.0) และไก่แปรรูป (+4.0%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ น้ำตาลทราย (-51.9%) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง (-37.8%) ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง (-13.4%) และเครื่องดื่ม (-9.5%) เป็นต้น

ด้านการส่งออกรายตลาดสำคัญบางส่วนขยายตัว
 
สหรัฐฯ : ขยายตัว 5.4%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สำหรับสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น (ส่งออกครึ่งปีแรก ขยายตัว 11.2%)
 
จีน : กลับมาหดตัวที่ 12.3%YoY โดยมีสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง และเม็ดพลาสติก เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ยังขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น (ส่งออกครึ่งปีแรก ขยายตัว 1.2%)

ญี่ปุ่น : หดตัวที่ 12.3%YoY ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ไก่แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น (ส่งออกครึ่งปีแรก หดตัว 7.5%)

EU27 : กลับมาขยายตัว 7.9%YoY สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น (ส่งออกครึ่งปีแรก ขยายตัว 4.4%)
 
ASEAN-5 : หดตัว 2.0%YoY ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น (ส่งออกครึ่งปีแรก หดตัว 2.7%)
มูลค่าการนำเข้าเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 24,578.5 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.3%YoY เทียบจากเดือนก่อนที่หดตัว 1.6%YoY จากการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (+6.3%YoY) สินค้าอุปโภคบริโภค (+1.3YoY) ขณะที่สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง (-22.2%YoY) และสินค้าทุน (-2.0%YoY) ยังหดตัวต่อเนื่อง รวมทั้งสินค้าเชื้อเพลิง (-3.8%YoY) ที่กลับมาติดลบ ดุลการค้าเดือน มิ.ย. เกินดุลต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกันที่ 218.0 ล้านดอลลาร์ฯ ส่วนดุลการค้าช่วงครึ่งปีแรกขาดดุล 5,242.7 ล้านดอลลาร์ฯ

Krungthai COMPASS ประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักที่มีสัญญาณชะลอตัวจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปี 2567 ให้ฟื้นตัวได้จำกัด โดยเครื่องชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านการผลิต Flash PMI Manufacturing เดือน ก.ค. ของประเทศหลักต่างหดตัวจากยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับลดลง โดยสหรัฐฯ กลับมาหดตัวครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ส่วนญี่ปุ่นกลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน ขณะที่ยุโรปหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 25 นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังมีความเปราะบาง สอดคล้องกับดัชนียอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคล่าสุดของจีนที่ชะลอตัวลงในเดือน มิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีนซึ่งปรับลดลงต่อเนื่อง บ่งชี้แรงกดดันด้านอุปสงค์ต่อสินค้าต่างประเทศของจีน ซึ่งรวมไปถึงสินค้าส่งออกจากไทย โดยการส่งออกไทยไปจีนเดือนล่าสุดกลับมาหดตัวที่ -12.3%YoY ทั้งนี้ เครื่องชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศหลักที่ต่างชะลอตัว สะท้อนว่าอุปสงค์ที่มีต่อสินค้านำเข้าของประเทศเศรษฐกิจหลักยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการส่งออกสินค้าของไทยให้เติบโตได้ต่ำ อีกทั้ง ในระยะข้างหน้ายังมีความเสี่ยงเพิ่มเติมจากปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ สะท้อนจากค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต ที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด (25 ก.ค.) ปรับขึ้นสู่ระดับ 5,806 ดอลลาร์ต่อตู้ หรือขยายตัว 9.2% จากเดือนก่อน
 

 
ปราจีนฯอ่วม ฝนถล่มหนัก น้ำป่าเขาใหญ่ ทะลักท่วมบ้านกว่า 200 หลัง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_777777861071
 
ฝนถล่ม ปราจีนบุรี น้ำป่าเขาใหญ่ ทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน ขนของ-สัตว์เลี้ยงหนีตายจ้าละหวั่น น้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร
วันที่ 30 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดฝนตกลงมาต่อเนื่องในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลหลากมาจากน้ำตกแก่งหินเพิง ลงพื้นที่ อ.นาดี
 
เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว ในเขตพื้นที่บ้านสะพาน ม.5 ต.สะพานหิน ชาวบ้านต้องขนสิ่งของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น รวมทั้งสัตว์เลี้ยง เช่น หมู ไว้ยังที่ปลอดภัย

ฝนถล่ม ปราจีนบุรี น้ำป่าเขาใหญ่ ทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน ขนของ-สัตว์เลี้ยงหนีตายจ้าละหวั่น น้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร
เจ้าหน้าที่ทหารจากปราจีนบุรี ปภ.อาสาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (กบินทร์บุรี) ต้องนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในร่วม 200 หลังคาเรือนถูกตัดขาดออกมาไว้ด้านนอก
 
เช่น เด็กเล็ก สตรี ผู้สูงอายุ และหมูออกจากฟาร์ม อย่างอยากลำบาก เพราะกระแสน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางพื้นที่ระดับสูงเกือบ 2 เมตร การช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างอยากลำบากเพราะเป็นเวลามืดค่ำ
 
บางพื้นที่กระแสไฟฟ้ายังไม่ตัดยากแก่การช่วยเหลือ เกรงว่าจะเกิดอันตรายได้ เบื้องต้นระดับน้ำยังเพิ่มขี้นอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วงค่ำฝนตกลงมานานนับชั่วโมงอีกดังกล่าว
  


4 ส.ส. สหรัฐฯ ส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีไทย เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4708081
 
‘กัณวีร์’ เผย 4 ส.ส.สภาครองเกรซ สหรัฐฯ ส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีไทย เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม ห่วงการส่งกลับผู้ลี้ภัยไปสู่อันตราย แนะทำงานร่วมกับองค์กรสิทธิมนุษยชน ย้ำสิ่งที่รัฐบาลไทยต้องรับฟัง
 
วันที่ 30 กรกฎาคม นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า มีจดหมายจาก 4 สส.สมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกา หรือ สภาคองเกรส ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย กรณีที่ตำรวจไทย จับกุมตัว ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม 1 คน ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย ได้รับความคุ้มครองจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR และอยู่ระหว่างการขอลี้ภัยไปประเทศที่ 3 ซึ่งการจับกุมเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ทำให้ผู้ลี้ภัยรายนี้ ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
 
นายกัณวีร์ กล่าวว่า กรณีนี้ว่าประเทศต้นทางร้องขอให้ส่งผู้ลี้ภัยคนนี้กลับ โดยกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยอ้างเหตุผลว่าศาลเวียดนามตัดสินว่าผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามคนนี้ เป็นตัวการในเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อปี 2566 ขณะที่เจ้าตัวลี้ภัยอยู่ในประเทศไทยและกำลังเข้ากระบวนการพิจารณาเพื่อการตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม
 
ผู้ลี้ภัยคนนี้เป็นชาวเขามองตานญาด (Montagnards) ที่ถือเป็นกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมือง ที่เราทราบกันดีว่าถึงประวัติที่ได้ถูกริดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกมาอย่างยาวนาน และได้มีผู้ลี้ภัยออกมาจากบ้านเกิดอย่างมากและหลายคนได้ลี้ภัยมาในไทย
 
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ผู้ลี้ภัยที่ถูกขอตัวกลับนี้ได้เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่สนับสนุนการคุ้มครองสิทธิและอิสรภาพในการนับถือศาสนาของชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมือง จึงถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเองได้ไปนั่งฟังคำพิพากษาที่ศาลอาญาด้วย และศาลได้เลื่อนคำพิพากษาออกไปตามคำร้องของทนายฝ่ายผู้ถูกร้อง
 
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ผมจะไม่ลงลึกครับ แต่เห็นชัดนะครับวันที่ศาลอาญาฝ่ายอัยการจะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้ได้ เพราะตามที่ได้ยิน คือเป็นเหตุฉกรรจ์มีคนล้มตายและศาลเวียดนามตัดสินแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลที่รับฟังได้และเจ้าหน้าที่เวียดนามก็มาด้วยตัวเอง มายืนต่อหน้าศาล ถึง 7 คนที่บินตรงมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แสดงถึงเจตจำนงค์ในการรับตัวกลับไปอย่างเร่งด่วน
 
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า ตนเองคงไม่สามารถก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมและคงไม่สามารถชี้นำใดๆ ต่อกระบวนการศาลยุติธรรมอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อวันนี้ สภาคองเกรซ ของสหรัฐฯ มีหนังสือตรงๆ มาที่นายกรัฐมนตรีของไทย ลงนามโดย สส.4 ท่าน และตรงหัวหนังสือจ่าหน้าลงนามว่ามาจาก 3 กรรมาธิการของสภาคองเกรส ตน จึงขอพูดในมุมการเมืองต่อการร้องขอของนักการเมืองสหรัฐฯ ต่อ นายกรัฐมนตรีของไทย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่