สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
คุณกำลังเดินตามรอยผมเลย จากประสบการณ์ตรงแนะนำจากใจเลยว่า เรียนให้จบเถอะครับ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง
ผมเรียน ม.รัฐ ใจกลาง กทม ช่วงปี 1-2 ก็สบาย ๆ พอเข้าปี 3 ผมเริ่มรับงานฟรีแลนด์ ทำทุกอย่างเกี่ยวกับเว็บ ตอนนั้นลูกค้าเยอะมาก
มีตั้งแต่เขียนเว็บขึ้นเว็บทั้งหมด ไปจนทั้งสร้างเว็บจากเทมเพลตง่าย ๆ รายได้ตอนเป็นฟรีแลนด์ ต่ำ ๆ คือ 3 หมื่นต่อเดือน เคยได้สูงสุดเกือบ 7 หมื่น
แต่มันแลกมากับ 1. สุขภาพ และ 2. การเรียน พอทำแบบนี้ผมเริ่มไม่เห็นความสำคัญของการเรียนเพราะยังเรียนไม่จบก็หาเงินได้เองแล้ว
แค่ขึ้นเว็บ wordpress ธรรมดา ๆ ผมก็ได้ 2,000-3,000 แล้ว แทบไม่ต้องเขียนโค้ดเองเลย ตอนนั้นมีลูกค้าทั้งขาจร ทั้งจ้างประจำ ทั้งชวนไปทำงาน
จนผมไม่ได้สนใจการเรียนเท่าไหร่ จนเกรดตกมา จาก 3.5++ ลงมาเหบือไม่ถึง 2.7 ด้วยซ้ำ
จุดเปลี่ยนในชีวิตของผมคือ การทำแบบนี้มันได้เงินเยอะก็จริง แต่มองไปในอนาคตอีก 20 ปี 30 ปี ข้างหน้า ผมยังจะทำอะไรแบบนี้ไหวไหม?
ตอนนั้นคือผมป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล และด้วยความที่เคยมีรายได้หลายหมื่นต่อเดือน แต่ไม่ค่อยเก็บเท่าไหร่เพราะเรียนอยู่ แต่พอล้มป่วยกระทันหัน แค่ไม่ได้จับคอมอาทิตย์เดียวปัญหาก็เกิดแล้ว ทั้งโดนลูกค้าตาม ทั้งเสียเครดิต ทั้งเครียด
โชคดีที่ตอนนั้นอยู่ปี 4 และต้องฝึกงานพอดี ผมเลยมีจังหวะในการวางมือและไปโฟกัสกับการฝึกงานแทน และแน่นอนว่าผมได้สัญญาตั้งแต่ยังฝึกงานไม่จบด้วยซ้ำ รายได้ลดลงมาจากเดือนละ 3-5 หมื่น เป้นเดือนละ 2 หมื่นต้น ๆ จากการฝึกงาน แต่งานสบายกว่ากันเยอะ
ที่สำคัญมันทำให้เราเห็นอนาคตเรามากขึ้น ตำแหน่งนี้เงินเดือนเท่าไหร่ ต้องโตอีกที่ปีถึงจะได้เงินเดือนเท่าฟรีแลนด์ ผมมาทำการบ้านเรื่อง CareerPath มากขึ้น
และอีกคนสำคัญที่ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองก็คือ หัวหน้าของบริษัทที่ฝึกงานนี่แหละ เขาบอกผมว่า "พี่รับเราเข้าทำงานเลยนะ ยังไม่ต้องเรียนจบก็ได้เพราะตอนนั้นก็ทำงานแบบ WFH อยู่แล้ว แต่หัวหน้าย้ำมาคำนึงว่า พี่ไม่ติดนะถ้าเราจะหมดไฟและเรียนไม่จบ แต่ทางที่ดียังไงก็ต้องมีปริญญาไว้สักใบ เพราะอนาคตเราจะโตขึ้น ตำแหน่งใหญ่ขึ้น ต่อให้เก่งแค่ไหนอนาคตแก่ตัวไปก็สู้เด็กใหม่ ๆ ไม่ได้หรอก เด็กมันเรียนรู้เร็วกว่าเรา และเทคโนโลยีมันก็ไปเร็ว เราจะมาเป็น Dev อยู่ตลอดไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ก้ต้องขึ้นเป็น lead แล้วถึงตอนนั้น มันก็ต้องมีปริญญาไว้สักใบ เพื่อให้เราพอจะเท่าเทียมกับลูกทีมที่เราคุม"
จากวันนั้นก็เลยเปลี่ยนมุมมอง แต่ยังคงทำงานไปด้วยกับบริษัทนี่แหละ ทั้งเรียน+ทำงานฟูลไทม์นะ โชคดีที่ช่วงนั้นโควิดทุกอย่างมันเลย WFH ได้ไม่ติดอะไร ผมก็เรียนจนจบ
ตอนนี้ผ่านมา 2-3 ปีแล้ว ผมย้ายบริษัทมา 2 ที่ และตอนนี้งานก็สบายชีวิตดี เงินเดือนก็ได้เยอะพอ ๆ กับตอนเป็นฟรีแลนด์เลย แต่ต่างกันที่
- งานไม่เครียด
- อยากลาหยุดก็หยุดได้ มีวันลาพักร้อนปีละ 15 วัน
- ลาป่วยได้ ไม่ต้องกลัวลูกค้าโทรตาม
- มีสวัสดิการ มีโบนัส ลากิจ ลาต่าง ๆ มีกิจกรรมของบิรษัท งานเลี้ยงปีใหม่ ไปเที่ยวบลา ๆๆ
- ที่สำคัญมีคอนเน็คชั่นและ CareerPath ที่ชัดเจน และยังโตได้อีก
- ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ มากขึ้น
ขอยกตัวอย่างบริษัทที่เขาจำกัดวุฒินะครับ ถ้าน้องเรียนไม่จบหมดสิทธิ์เข้าทำงานแน่นอน เช่น SCG, PPT, ธนาคารต่าง ๆ บลา ๆ หมดสิทธิ์เป็นพนักงานประจำแน่นอน
แต่แน่นอนว่ามันก็มีบริษัทที่โอเพ่นอยู่เยอะ ส่วนใหญ่จะเป็น Stsrt Up ที่ยังไม่มั่นคงและสวัสดิการไม่ได้ดีอะไร ไม่ก็พวกงาน OS
ดังนั้นถ้ามีโอกาส เรียนให้จบเถอะครับ จะเกรดอะไรก็ได้ ยิ่งถ้าคุณบอกว่าสิ่งที่เรียนมันง่ายยิ่งสบายเลย ทำแบบผมก็ได้
คือไม่เข้าเรียน ลองคุยกับอาจารย์ดู เพราะปีสุดท้ายผมไม่เข้าเรียน แทบไม่ส่งการบ้านในคาบเลยด้วยซ้ำ แล้วเข้าไปสอบอย่างเดียว เกรดเลยน้อยมาก ๆ แต่จบมาได้ อีกอย่างตอนทำโปรเจคจบก็สนุกดีด้วยนะ ยิ่งชอบเขียนโค้ดยิ่งท้าทายเลย อารมณ์เหมือนอาจารย์เป็นลูกค้า(ลูกค้าที่เขี้ยวมาก😅)
ยิ่งโตยิ่งงานสบายนะ เงินเดือนก็สูงขึ้นด้วย ถ้าเก่ง ๆ ระดับ Lead หลาย ๆ บริษัทก็เกือบหลักแสนแล้ว ยิ่งถ้าขึ้นไปไกลกว่า lead ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแสนอัพทั้งนั้น แต่ถ้าคุณพอใจกับเงินเดือน 20k++ ก็แล้วไปครับ
ผมเรียน ม.รัฐ ใจกลาง กทม ช่วงปี 1-2 ก็สบาย ๆ พอเข้าปี 3 ผมเริ่มรับงานฟรีแลนด์ ทำทุกอย่างเกี่ยวกับเว็บ ตอนนั้นลูกค้าเยอะมาก
มีตั้งแต่เขียนเว็บขึ้นเว็บทั้งหมด ไปจนทั้งสร้างเว็บจากเทมเพลตง่าย ๆ รายได้ตอนเป็นฟรีแลนด์ ต่ำ ๆ คือ 3 หมื่นต่อเดือน เคยได้สูงสุดเกือบ 7 หมื่น
แต่มันแลกมากับ 1. สุขภาพ และ 2. การเรียน พอทำแบบนี้ผมเริ่มไม่เห็นความสำคัญของการเรียนเพราะยังเรียนไม่จบก็หาเงินได้เองแล้ว
แค่ขึ้นเว็บ wordpress ธรรมดา ๆ ผมก็ได้ 2,000-3,000 แล้ว แทบไม่ต้องเขียนโค้ดเองเลย ตอนนั้นมีลูกค้าทั้งขาจร ทั้งจ้างประจำ ทั้งชวนไปทำงาน
จนผมไม่ได้สนใจการเรียนเท่าไหร่ จนเกรดตกมา จาก 3.5++ ลงมาเหบือไม่ถึง 2.7 ด้วยซ้ำ
จุดเปลี่ยนในชีวิตของผมคือ การทำแบบนี้มันได้เงินเยอะก็จริง แต่มองไปในอนาคตอีก 20 ปี 30 ปี ข้างหน้า ผมยังจะทำอะไรแบบนี้ไหวไหม?
ตอนนั้นคือผมป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล และด้วยความที่เคยมีรายได้หลายหมื่นต่อเดือน แต่ไม่ค่อยเก็บเท่าไหร่เพราะเรียนอยู่ แต่พอล้มป่วยกระทันหัน แค่ไม่ได้จับคอมอาทิตย์เดียวปัญหาก็เกิดแล้ว ทั้งโดนลูกค้าตาม ทั้งเสียเครดิต ทั้งเครียด
โชคดีที่ตอนนั้นอยู่ปี 4 และต้องฝึกงานพอดี ผมเลยมีจังหวะในการวางมือและไปโฟกัสกับการฝึกงานแทน และแน่นอนว่าผมได้สัญญาตั้งแต่ยังฝึกงานไม่จบด้วยซ้ำ รายได้ลดลงมาจากเดือนละ 3-5 หมื่น เป้นเดือนละ 2 หมื่นต้น ๆ จากการฝึกงาน แต่งานสบายกว่ากันเยอะ
ที่สำคัญมันทำให้เราเห็นอนาคตเรามากขึ้น ตำแหน่งนี้เงินเดือนเท่าไหร่ ต้องโตอีกที่ปีถึงจะได้เงินเดือนเท่าฟรีแลนด์ ผมมาทำการบ้านเรื่อง CareerPath มากขึ้น
และอีกคนสำคัญที่ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองก็คือ หัวหน้าของบริษัทที่ฝึกงานนี่แหละ เขาบอกผมว่า "พี่รับเราเข้าทำงานเลยนะ ยังไม่ต้องเรียนจบก็ได้เพราะตอนนั้นก็ทำงานแบบ WFH อยู่แล้ว แต่หัวหน้าย้ำมาคำนึงว่า พี่ไม่ติดนะถ้าเราจะหมดไฟและเรียนไม่จบ แต่ทางที่ดียังไงก็ต้องมีปริญญาไว้สักใบ เพราะอนาคตเราจะโตขึ้น ตำแหน่งใหญ่ขึ้น ต่อให้เก่งแค่ไหนอนาคตแก่ตัวไปก็สู้เด็กใหม่ ๆ ไม่ได้หรอก เด็กมันเรียนรู้เร็วกว่าเรา และเทคโนโลยีมันก็ไปเร็ว เราจะมาเป็น Dev อยู่ตลอดไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ก้ต้องขึ้นเป็น lead แล้วถึงตอนนั้น มันก็ต้องมีปริญญาไว้สักใบ เพื่อให้เราพอจะเท่าเทียมกับลูกทีมที่เราคุม"
จากวันนั้นก็เลยเปลี่ยนมุมมอง แต่ยังคงทำงานไปด้วยกับบริษัทนี่แหละ ทั้งเรียน+ทำงานฟูลไทม์นะ โชคดีที่ช่วงนั้นโควิดทุกอย่างมันเลย WFH ได้ไม่ติดอะไร ผมก็เรียนจนจบ
ตอนนี้ผ่านมา 2-3 ปีแล้ว ผมย้ายบริษัทมา 2 ที่ และตอนนี้งานก็สบายชีวิตดี เงินเดือนก็ได้เยอะพอ ๆ กับตอนเป็นฟรีแลนด์เลย แต่ต่างกันที่
- งานไม่เครียด
- อยากลาหยุดก็หยุดได้ มีวันลาพักร้อนปีละ 15 วัน
- ลาป่วยได้ ไม่ต้องกลัวลูกค้าโทรตาม
- มีสวัสดิการ มีโบนัส ลากิจ ลาต่าง ๆ มีกิจกรรมของบิรษัท งานเลี้ยงปีใหม่ ไปเที่ยวบลา ๆๆ
- ที่สำคัญมีคอนเน็คชั่นและ CareerPath ที่ชัดเจน และยังโตได้อีก
- ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ มากขึ้น
ขอยกตัวอย่างบริษัทที่เขาจำกัดวุฒินะครับ ถ้าน้องเรียนไม่จบหมดสิทธิ์เข้าทำงานแน่นอน เช่น SCG, PPT, ธนาคารต่าง ๆ บลา ๆ หมดสิทธิ์เป็นพนักงานประจำแน่นอน
แต่แน่นอนว่ามันก็มีบริษัทที่โอเพ่นอยู่เยอะ ส่วนใหญ่จะเป็น Stsrt Up ที่ยังไม่มั่นคงและสวัสดิการไม่ได้ดีอะไร ไม่ก็พวกงาน OS
ดังนั้นถ้ามีโอกาส เรียนให้จบเถอะครับ จะเกรดอะไรก็ได้ ยิ่งถ้าคุณบอกว่าสิ่งที่เรียนมันง่ายยิ่งสบายเลย ทำแบบผมก็ได้
คือไม่เข้าเรียน ลองคุยกับอาจารย์ดู เพราะปีสุดท้ายผมไม่เข้าเรียน แทบไม่ส่งการบ้านในคาบเลยด้วยซ้ำ แล้วเข้าไปสอบอย่างเดียว เกรดเลยน้อยมาก ๆ แต่จบมาได้ อีกอย่างตอนทำโปรเจคจบก็สนุกดีด้วยนะ ยิ่งชอบเขียนโค้ดยิ่งท้าทายเลย อารมณ์เหมือนอาจารย์เป็นลูกค้า(ลูกค้าที่เขี้ยวมาก😅)
ยิ่งโตยิ่งงานสบายนะ เงินเดือนก็สูงขึ้นด้วย ถ้าเก่ง ๆ ระดับ Lead หลาย ๆ บริษัทก็เกือบหลักแสนแล้ว ยิ่งถ้าขึ้นไปไกลกว่า lead ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแสนอัพทั้งนั้น แต่ถ้าคุณพอใจกับเงินเดือน 20k++ ก็แล้วไปครับ
มะหวด ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4245901 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3899723 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7905701 ถูกใจ, แม่มดมายา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 707102 ถูกใจ, เสือคุง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2363856 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3451674 ถูกใจ, riskx_ray ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ออกจากมหาวิทยาลัยไปทำงาน ในสังคมปัจจุบันเป็นไปได้มั้ย?
ผมเคยทดลองทำ Part-time กับบริษัทแล้ว รู้สึกชอบดีครับ รู้สึกว่าที่ตรงนี้คือที่ของเรา สามารถทำงานได้อย่างสบายใจ พูดคุยกับคนพอๆกัน เงินเดือน Part-time ผมคิดว่าโอเคนะครับ วันละ 4 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ 22,000 บาท ไม่รวมล่วงเวลา แต่น้อยกว่าฟรีแลนซ์ที่เคยไปแตะ 50,000 เลย แต่ก็โอเคเลยที่ได้ทำงานกับบริษัท ตอนนี้บริษัทต้องการคำตอบจากผมว่าจะมาทำ full-time ไหม รบกวนพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ