ไม่รู้จะเล่ายังไงให้ทุกคนได้เข้าใจดีค่ะ แต่เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงข้อมูลบางอย่างเพื่อปิดบังตัวตนแต่ขอเล่าแบบนี้แล้วกันนะคะ พื้นฐานเราเป็นคน ที่มีน้ำใจมาก ไม่ได้อวยตัวเองแต่คือเรื่องจริงค่ะ ชอบช่วยเหลือคนอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และไม่ชอบเอาเปรียบใคร
เรื่องมีอยู่ว่า แฟนเราเป็นหุ้นส่วนบริษัทนึง ในการเริ่มการทำงานแต่ละครั้งเงินลงทุนในการทำงานประมาณเป็น7หลัก
แฟนมักจะใช้บัตรกดเงินมาลงทุนในการทำงานแต่ละครั้งด้วย ขอไม่บอกนะคะงานอะไร แต่เราเคยเสนออยากช่วยเหลือแฟนให้ยืมเงินตั้งแต่1-3 แสน บาท
 เสมอมา แต่ว่าแฟนเอาไว้สำหรับSpare เท่านั้น และเราพูดเสมอว่าไม่ต้องให้ดอกแค่อยากช่วยจะทยอยคืนก็ได้ แต่แฟนจะให้ค่าขนมตลอดประมาณ3-4 หมื่นบาท ต่อครั้งและคืนเต็ม บางครั้งแฟนจะพูดบอกหุ้นส่วนว่ายืมเรา เพราะสนิทกับหุ้นส่วน บางครั้งก็พูดไปเพื่ออยากให้เครดิตเรา จริงๆเรื่องเงินเราไม่อยากเอามาเล่าแต่จำเป็นอยู่เพราะอะไรๆที่ตามมา มันจะเป็นดังนี้ค่ะ
แฟนมาทำงานตจว. ในการทำงานที่เล่ามาแต่ละครั้งใช้เวลาหลายวัน  หุ้นส่วนเคยชวน/เคยบอก/เคยพูด อยู่หลายต่อหลายครั้ง ว่าอยากให้เราช่วยทำงาน
มีค่าขนมให้ ประมาณว่ามาอยู่เฉยๆไม่ได้ทำไรอยู่ว่างๆ แต่เห็นเราว่างๆ เราทำงานในมือถือตลอด แต่แฟนปฎิเสธแทนทุกครั้ง และที่เรามาทำงานกับแฟนด้วย ค่าห้องที่อยู่ด้วยกัน เราก็จ่ายต่างหาก ที่มาอยู่กับแฟน เพราะแฟนเป็นห่วงไม่อยากให้อยู่บ้านคนเดียวเราเจ็บป่วยบ่อยเค้าเป็นห่วงแค่ปวดท้องประจำเดือนก็นอนเป็นผักเลยเราสนับสนุนงานของแฟน ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ฟรีให้สิ่งหลายอย่าง ถึงมันจะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม ทำจนกลายเป็นหน้าที่ ถ้าได้ไปอยู่ใกล้ หรือช่วยซัพพอตเต็มที่เคยมีครั้งนึง ช่วยทำอะไรเล็กๆน้อยๆ อยู่นานหลายชม. หุ้นส่วนแฟนเค้าบอกเราว่าจะเลี้ยงข้าว ตอนเราไปทำให้ เสร็จ เค้าเดินไปซื้อข้าวกัน เราก็เริ่มหิว และไม่มีเงินติดตัวมาเพราะ ลงมาจาก รร.มาช่วย ตอนที่เค้าซื้อของกินกัน ของราคาไม่แพงไม่ถึง100 เราไม่กล้าหยิบ และเค้าดูไม่สนใจว่าเราจะกิน มั้ยจะกินอะไร และตอนนั้นเราเพิ่งรู้ตัวพอดีไม่ได้เอาเงินมา และดูท่าทางเค้าไม่ได้อยากจะเลี้ยงเราจริงๆ
เพราะดูต่างคนต่างหยิบ ต่างคนต่างจ่าย เราเลยขอตัวพูดว่าหนูลืมเอาเงินมาค่ะ เค้าก็ดูปล่อยๆ ไป ไม่ได้สนใจอะไรเรา และน้ำตามันคลอนิดหน่อย
ผ่าน4ปี ที่แฟนทำงานนี้มาเราก็ยังคงช่วยดันงานทางแพลทฟรอม ขอไม่บอกนะคะว่าทำอะไรบ้าง เพื่อช่วยงานของแฟน คอยเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทำให้ฟรีๆ ถือว่าช่วยแฟน
แต่ก็ไม่เคยมีใครเอ่ยปาก พูดว่า ขอบคุณสักคน มีแต่แฟนที่บอก คนอื่นมีแค่บอกว่า ทำแบบนี้สิ เราก็ไม่ได้ถือสาอะไร แต่ยอมรับมันก็รู้สึกเจ็บแต่แค่5%
เจ็บตรงที่บางครั้ง บางคน มองข้าม แต่ผิดที่เราเองด้วยแหละ ที่อยากถ่อมตัวเอง อยากทำตัวเล็กๆ เพราะเราก็มีงานส่วนตัวทำ เงียบๆคนเดียว และค่อนข้างใช้สมาธิและความใจเย็น และงานที่เราทำก็ไม่เคยบอกใคร ใครถามก็ตอบอีกแบบซึ่งงานนั้นเราก็ทำจริงเหมือนกัน
ประเด็นมันอยู่ตรงนี้สำคัญ ที่เราหนักใจ คือ ภายหลังจบงาน ถึงแม้เราจะทำตัวเล็กๆแค่ไหน แต่ใครๆก็รู้ว่าเราคือ แฟนที่ตัวติดแฟนตลอด แฟนไปทำงาน ที่ไหน ตจว.เราไปด้วย ตลอด ยกเว้นในพื้นที่ทำงานของแฟน เราไม่ค่อยเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือก้าวก่าย 
นอกจาก เข้าไปช่วยทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่เล่าไป
เหตุการณ์ที่พีค ที่สุด คือ เคยลงสนามจริงจัง ช่วยแฟนเราตั้งใจไปช่วยแฟนทำงานฟรีๆหลายวัน เพื่อช่วยทีมงานอีกคนทำงานทั้งวันสายจนค่ำ เต็มที่กับงานมาก เราภูมิใจมา และงานก็ออกมาดี อยากเพิ่มสกิลในเรื่องนั้นด้วยแต่ตอนจบ เหมือนการสื่อสารของแฟนและทีมงานผิดพลาดในตั้งแต่ต้นทำให้แฟนที่ส่งงานให้เราช่วย มัน บกพร่องในจุดนึง  ซึ่งมันเสียหายนิดหน่อยต่อระบบแล้วทีมงานที่ดูแล จุดนี้เหมือนกันกับเรา หัวฟัดหัวเหวี่ยง ใส่เราหนักมาก ใช้อารมณ์ และขึ้นเสียงใส่เรา ลับหลังแฟน เราขอโทษเค้าแล้ว ก็ยัง ดุว่า เรา ในใจรู้สึกว่าเสียใจมากๆ และต้องพูดถึงขนาดนี้เลยหรอ
แต่พอแฟนเราเดินมา อธิบาย เค้าพูดเสียงซอฟลงและทีมงาน คนนี้ ที่ดุเรา เจอตัวจริง งานถัดไป เราเป็นฝ่าย ยกมือไหว้เค้า เค้าไม่มองแม้แต่หน้าเลย ต่อหน้าแฟน 
   การชวนไปทานข้าวของทีมงานในแต่ละครั้งตามมารยาทเท่านั้นและจะไม่ค่อยไปและต้องทำงานอยู่ห้องไม่ได้คุยกับใครด้วย ไม่ได้สนิทกับใครเลย คุยแค่ผิวเผิน และเราไม่อยากไร้ตัวตนไปมากกว่านี้ ทั้งๆ ที่เราก็เลือกอยู่ของเราเงียบๆ แบบนี้อยู่แล้ว 
แต่เอาเข้าจริงๆ การโดนมองข้าม ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้ทำเป็นแกล้งลืมว่าเราคือใคร เราก็ไม่อยากอยู่ในสถานะนั้น ที่ตรงนั้นมันไม่เหมือนกับ เราอยู่ในครอบครัวของตัวเอง ถึงแม้เราจะเงียบ อยู่ในโลกส่วนตัวแต่มันยังมีคนห่วงใยและเราก็รู้ดี ไม่ใช่แค่เราที่เป็นคนแบบนี้ แฟนก็เป็นคนที่ถ่อมตัวและใจดีมากๆใจดีกับทุกคนแม้ แม่บ้าน คนงาน ทำทุกอย่างด้วยตัวเองเยอะมาก แม้แต่กวาดใบไม้ ยกของหนัก ก็ทำเพราะอยากให้งานตัวเองออกมาดี
โพสต์นี้ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่รู้สึกงงกับตัวเองนิดหน่อย การที่วางตัวแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือว่ามันแปลกในสายตาของคนอื่นไหมคะ 
การที่เรามาอยู่กับแฟนแต่ช่วยงานแฟนจริงจังไม่ได้ เพราะไม่ใช่ทางที่ถนัด แต่อยากช่วยอยู่ห่างๆก็พอ
แต่ต้องไม่ใช่การจงใจใช้งานจากคนอื่น ตอนเราปวดท้องประจำเดือนมากๆเลย แต่เรารับปากแฟนไว้แล้ว ว่าจะไปเก็บภาพให้เราก็ไป 
เวลาที่มีความจำเป็นนั่งรถกับหุ้นส่วนแฟนด้วยและเราต้องทำงานคุยเรื่องงานกับลูกค้าที่เป็นความลับแต่ไม่นานไม่เกิน10นาที
ถ้าแวะปั้มหลายครั้ง และเค้าค่อนข้างเป็นคนที่บอกได้ซอฟที่สุดคือ บางครั้งดูเป็นคนเอาแต่ใจและดุ แต่แฟนก็เป็นคนขับ จนจะกลายเป็นเกรงใจเค้าที่ถ้าหาก อาจจอดรถบ่อยหน่อยเพื่อคุยงาน ซึ่งหุ้นส่วนแฟนก็ไม่รู้ว่าเราทำอะไรบอก เรามาอยู่กับแฟนที่ แฟนทำงาน เราไม่เคยเอาตัวเอง เป็นจุดเด่นและไม่เคยเรียกร้องอะไรจากแฟน ในขณะที่แฟนทำงาน ไม่เอาเรื่องส่วนตัวของตัวเอง ทำให้แฟนเป็นพาระและ ทำให้ประสิทธิภาพ การทำงานลดลง เราหมกตัวทำงานอยู่แต่ห้อง ไม่ได้ออกไปไหนเลย จำเป็นแค่ไหน ก็แค่ตอนเช้าก่อนทำงาน และเลิกงานไปส่งพัสดุให้เราแค่นั้นหรือไปซื้อยารายละเอียดอาจจะงงๆ ไปบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะคะ  สรุปที่เล่ามา เรายินดีที่คอยเป็นเบื้องหลังส่วนเล็กๆในการทำงานของแฟนแต่ถ้าหากถูกมองข้ามจากคนอื่นเราก็รับได้ ขอแค่แฟนเข้าใจเราก็พอ เพียงแค่คนอื่นไม่เอาเปรียบกันก็พอ
แต่ก็ถือว่าเป็นกระสบการณ์ที่ดีมากค่ะ ยิ่งโตขึ้น เรายิ่งต้องเจอกับอะไรมากขึ้น เป็นสิ่งที่เราให้เรียนรู้ เข้าใจและแก้ปัญหา
  มีใครที่มีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ รับมือกับเรื่องนี้ยังไงคะ