คำกล่าวที่ว่า "จิตเติมแท้มีอยู่แล้วไม่ต้องสร้างไม่ต้องทำ" เป็นแนวคิดที่มีรากฐานมาจากปรัชญาพุทธศาสนาและปรัชญาตะวันออกอื่นๆ ขอขยายความดังนี้:
จิตเดิมแท้ หรือ "พุทธธรรมชาติ" ในพุทธศาสนา หมายถึงธรรมชาติแท้ของจิตที่บริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสและความเศร้าหมอง เป็นสภาวะที่มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน แต่ถูกบดบังด้วยอวิชชาและกิเลสต่างๆ
แนวคิดนี้เชื่อว่า เราไม่จำเป็นต้อง "สร้าง" หรือ "ทำ" อะไรเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าถึงจิตเดิมแท้ เพราะมันมีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ สิ่งที่เราต้องทำคือ "ตระหนักรู้" ถึงการมีอยู่ของมัน และ "ปล่อยวาง" สิ่งที่ปิดบังมันอยู่
การปฏิบัติเพื่อเข้าถึงจิตเดิมแท้จึงไม่ใช่การพยายาม "สร้าง" สภาวะใหม่ แต่เป็นการ "คืนกลับ" สู่สภาวะดั้งเดิมที่บริสุทธิ์ ผ่านการภาวนา การเจริญสติ และการปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นต่างๆ
ในทางปฏิบัติ แม้จะกล่าวว่า "ไม่ต้องทำ" แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะนั่งเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย แต่หมายถึงการไม่ยึดติดกับการ "ทำ" หรือพยายามบังคับให้เกิดผล แต่เป็นการเฝ้าสังเกตจิตใจของตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยวางความคาดหวัง และยอมรับสิ่งต่างๆ ตามที่เป็น
การเข้าใจแนวคิดนี้อย่างลึกซึ้งสามารถนำไปสู่การปฏิบัติที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคนิคหรือวิธีการที่ซับซ้อน เพียงแค่อยู่กับปัจจุบันขณะ เฝ้าสังเกตจิตใจ และปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงจิตเดิมแท้นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจต้องใช้เวลาและความเพียรในการฝึกฝน แม้จะไม่ต้อง "ทำ" อะไรมากมาย แต่การรักษาสติและความตระหนักรู้อย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน
สรุปคือ แนวคิดนี้เน้นการกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของจิตที่บริสุทธิ์ ผ่านการปล่อยวางและการตระหนักรู้ มากกว่าการพยายามสร้างหรือบังคับให้เกิดสภาวะใหม่
จิตเติมแท้ มีอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้าง ไม่ต้องทำ
จิตเดิมแท้ หรือ "พุทธธรรมชาติ" ในพุทธศาสนา หมายถึงธรรมชาติแท้ของจิตที่บริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสและความเศร้าหมอง เป็นสภาวะที่มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน แต่ถูกบดบังด้วยอวิชชาและกิเลสต่างๆ
แนวคิดนี้เชื่อว่า เราไม่จำเป็นต้อง "สร้าง" หรือ "ทำ" อะไรเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าถึงจิตเดิมแท้ เพราะมันมีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ สิ่งที่เราต้องทำคือ "ตระหนักรู้" ถึงการมีอยู่ของมัน และ "ปล่อยวาง" สิ่งที่ปิดบังมันอยู่
การปฏิบัติเพื่อเข้าถึงจิตเดิมแท้จึงไม่ใช่การพยายาม "สร้าง" สภาวะใหม่ แต่เป็นการ "คืนกลับ" สู่สภาวะดั้งเดิมที่บริสุทธิ์ ผ่านการภาวนา การเจริญสติ และการปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นต่างๆ
ในทางปฏิบัติ แม้จะกล่าวว่า "ไม่ต้องทำ" แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะนั่งเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย แต่หมายถึงการไม่ยึดติดกับการ "ทำ" หรือพยายามบังคับให้เกิดผล แต่เป็นการเฝ้าสังเกตจิตใจของตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยวางความคาดหวัง และยอมรับสิ่งต่างๆ ตามที่เป็น
การเข้าใจแนวคิดนี้อย่างลึกซึ้งสามารถนำไปสู่การปฏิบัติที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคนิคหรือวิธีการที่ซับซ้อน เพียงแค่อยู่กับปัจจุบันขณะ เฝ้าสังเกตจิตใจ และปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงจิตเดิมแท้นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจต้องใช้เวลาและความเพียรในการฝึกฝน แม้จะไม่ต้อง "ทำ" อะไรมากมาย แต่การรักษาสติและความตระหนักรู้อย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน
สรุปคือ แนวคิดนี้เน้นการกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของจิตที่บริสุทธิ์ ผ่านการปล่อยวางและการตระหนักรู้ มากกว่าการพยายามสร้างหรือบังคับให้เกิดสภาวะใหม่